ศาลาเรือนน้ำ
เมื่อฟ่งหลันหลั่น เดินตามเยี่ยชิงเซียวพร้อมกับสาวใช้ของธิดาอ๋องไปถึงศาลาเรือนน้ำ มีลักษณะรูปทรงเหลี่ยมขนาดกลาง สะพานยาวเป็นทางเดินทอดลงไปในสระน้ำขนาดใหญ่เกือบถึงกลางสระ
โดยรอบสระน้ำมีการจัดสวนด้วยไม้ดอกนานาพันธุ์ และในสระก็เต็มไปด้วยเหลียนฮวาสีชมพู[1] โผล่พ้นขึ้นมาเหนือผิวน้ำ และบางดอกชูช่อเฉิดฉายสวยงามกว่าดอกใด
ภายในศาลาน้ำเรือนนี้ ยังมีสาวงามอีกมากมายหลายคน ซึ่งก็น่าจะได้รับเชิญจากธิดาอ๋องให้มาร่วมดื่มชาเช่นกัน
[1] 莲花 [Liánhuā เหลียนฮวา] ดอกบัว
ในขณะที่พวกนางกำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนานออกรสชาติ แต่พอเห็นหน้าฟ่งหลันหลั่นเดินตามหลังธิดาอ๋องมาหยุดยืนตรงกลางศาลา สาว ๆ ทั้งหลายก็พากันเงียบเสียงลงทันควัน ตามมาด้วยเสียงซุบซิบเบา ๆ พร้อมกับสายตาที่ไม่ค่อยจะเป็นมิตรพอ ๆ กับเจ้าของเรือนนี้
สตรีน้อยไม่รู้จะวางตัวยังไงจึงได้แต่ยืนนิ่ง และทำเป็นมองออกไปนอกศาลาเล็งไปที่เหลียนฮวาบนผิวน้ำแทน
เพลาผ่านไปไม่ถึงชั่วเวลาจิบชาหนึ่งถ้วย[1]ความผิดปกติบางอย่างก็เกิดขึ้น
เพล้ง!
ของบางอย่างได้ตกกระแทกลงพื้น และตามมาด้วยการเขวี้ยงปา ข้าวของตามมาติด ๆ เสียงนั้นดังลั่นไปทั่วศาลาเรือนนั้น และได้ยินไปจนถึงเรือนหลักซึ่งเป็นสถานที่จัดงาน
แขกเหรื่อที่มาร่วมงาน รวมทั้งเยี่ยอ๋องและหลงอี้หลิง ซึ่งกำลังสนทนากันอยู่ ต่างก็พากันตกใจจนต้องขนขบวนเดินออกมาด้านนอกเรือนหลัก และพากันมองหาที่มาของเสียง เพื่อตรวจสอบดูให้รู้ชัดแจ้งว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้น
[1] "ชั่วเวลาจิบชาหนึ่งถ้วย" คือช่วงเวลาตั้งแต่น้ำชาถูกยกเข้ามา จากนั้นค่อย ๆ จิบจดหมด ความจริงแล้วก็คือ ช่วงเวลาที่น้ำชาหนึ่งถ้วยเย็นลงจนสามารถดื่มได้ หรือก็คือประมาณ 15 นาทีสำหรับฤดูร้อน และไม่ถึง 10 นาทีสำหรับฤดูหนาว
วลี "ชั่วจิบชาหนึ่งถ้วย" จึงกินความได้ทั้ง 10 นาที และ 15 นาที แต่ส่วนมากจะใช้ความหมาย 15 นาที
ในตอนนี้ทางด้านสาวงามที่อยู่บนศาลาเรือนน้ำก็เริ่มเกิดมีปากเสียงกันโต้ตอบกันไม่หยุดหย่อน
ทันใดนั้นเอง
เพียะ! ฝ่ามือบางอ่อนนุ่มของธิดาอ๋องได้ประทับลงไปบนดวงหน้างามของฟ่งหลันหลั่นหนึ่งฉาด โดยที่อีกฝ่ายไม่ทันได้ตั้งตัว
"นี่ท่านตบข้าด้วยเหตุผลอันใด"
ฟ่งหลันหลั่นถามกลับอย่างไม่พอใจ แต่ก็พยายามควบคุมอารมณ์โกรธของตัวเองไม่ให้คล้อยตามสตรีตรงหน้า
"ข้าเป็นนาย เจ้าเป็นบ่าว หากข้าต้องการจะตบเจ้าเพื่อสั่งสอนมารยาท ข้าก็ย่อมมีสิทธิ์" คำตอบของเยี่ยชิงเซียวที่กำลังกล่าวด้วยน้ำเสียงหยิ่งทระนง และท่าทางลอยหน้าลอยตาเหมือนว่าสิ่งที่นางพึ่งกระทำนั้นมันเป็นเรื่องปกติ
สตรีน้อยชาวบ้านป่าผู้นี้ มีหรือจะยอมให้ตัวเองโดนรังแกอยู่ฝ่ายเดียวโดยไร้ซึ่งความผิดได้ นางจึงง้างมือขึ้นและตบสวนธิดาอ๋องกลับไปหนึ่งฉาดเช่นกัน
เพียะ!
เสียงของฝ่ามือสัมผัสกับผิวหน้าบาง ทำให้เกิดเสียงดังลั่นไปทั่วศาลาเรือนน้ำ ดวงหน้างามที่เต็มไปด้วยเครื่องประทินโฉมถึงกับหันไปด้านข้างอย่างแรง ท่ามกลางความตกตะลึงของสตรีทุกนาง
"ท่านไม่ใช่นายของข้า ดังนั้นข้าขอคืนให้ท่าน"
ฟ่งหลันหลั่นกล่าวตบท้ายด้วยน้ำเสียงมั่นใจและฉายแววตาอัน เด็ดเดี่ยวจ้องมองคนตรงหน้าอย่างไม่หลบเลี่ยง
สาวใช้คนสนิทเห็นนายสาวของตนโดนตบสวนกลับอย่างแรง นางถึงกับเบิกตาโตขึ้นและหน้าเสียด้วยความตกใจ เพราะไม่เคยมีผู้ใดในจวน เยี่ยอ๋องและในเมืองหลวงแห่งนี้ กล้าแตะต้องหรือทำร้ายสตรีสูงศักดิ์ผู้นี้แม้แต่ปลายเล็บ
"คะ คุณหนู!" ถงเสี่ยวเถาตกใจจนทำตัวไม่ถูก จึงได้แต่อุทานเรียกนายสาวของตน พร้อมกับโผเข้าไปหาเจ้าตัวและมองดวงหน้างามอย่างลนลาน ซึ่งได้เกิดเป็นรอยแดงของนิ้วมือทั้งห้านิ้วแดงปื้นเผยขึ้นมาอย่างชัดเจน
เยี่ยชิงเซียวกุมดวงหน้าขาวเนียนของตน เพราะตอนนี้นางรู้สึกชาไปทั้งหน้า และหันขวับกลับมาจ้องหน้าคู่กรณีด้วยแววตาอาฆาตเคียดแค้นหมายหัว
"นี่เจ้ากล้าตบหน้าข้าเชียวงั้นรึ!" เยี่ยชิงเซียวตะคอกเสียงดังถามอีกฝ่ายกลับไปอย่างเกรี้ยวกราด
ตอนนี้ธิดาอ๋องไม่เหลือภาพลักษณ์ของสตรีสูงศักดิ์ ผู้ที่ต้องรักษามารยาทอันดีงามต่อหน้าสาธารณชนเพื่อเป็นตัวอย่างให้น่าเคารพนับถือในฐานะเชื้อพระวงศ์ขององค์กษัตริย์
ฟ่งหลันหลั่นตอบสวนกลับทันควัน และดูไม่ได้สะทกสะท้านเกรงกลัวต่อปฏิกิริยาและอำนาจของเจ้าบ้านผู้นี้เลย แถมยังตอบกลับสั้น ๆ คำเดียวด้วยสีหน้ามั่นใจ
"อืม"
คำพูดนั้นยิ่งทำให้ธิดาอ๋องปะทุความโกรธหนักขึ้น เพราะไม่เคยมีผู้ใดแสดงกิริยาอวดดี และยโสโอหังต่อต้านเยี่ยงนี้มาก่อน นางจึงรู้สึกว่ากำลังถูกสาวใช้ของแม่ทัพหนุ่มท้าทายอำนาจของตนอย่างที่สุด
ช่วงเวลานับจากนี้ เยี่ยชิงเซียวคงมิอาจที่จะทำตัวเป็นเจ้าบ้านที่ดีได้อีกต่อไป เมื่อความโกรธเข้าครอบงำอย่างไร้สติ นางจึงหันไปออกคำสั่งกับธิดาของพวกขุนนางและเหล่าสตรีสูงศักดิ์ทั้งหมดในศาลาเรือนน้ำ รวมทั้งสาวใช้ของตนอย่างบันดาลโทสะ
"ถ้าพวกเจ้าคนใดในที่นี้ สามารถสั่งสอนมารยาทผู้ดีให้กับสาวใช้ผู้โง่เง่าขลาดเขลาและไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงนางนี้แทนข้าได้ ข้าจะมีรางวัลตอบแทนให้คนผู้นั้นอย่างงามเลยทีเดียว"
คำประกาศกร้าวนั้นของเยี่ยซิงเชียว ถึงไม่มีรางวัลใหญ่โตใดมาล่อใจ สตรีทุกนางตรงนั้นล้วนย่อมทำตามความต้องการของธิดาอ๋องผู้นี้อยู่ดี เพราะไม่มีใครกล้าขัดคำสั่งหรืออยากเป็นศัตรูกับเจ้าหล่อน
ทำให้เพลาต่อมา เหล่าสาวงามทั้งหลาย รวมทั้งบรรดาสาวใช้ของจวนอ๋องทั้งหมดบนศาลาเรือนน้ำ ต่างก็สามัคคีร่วมแรงร่วมใจกันวิ่งกรูเข้าไปรุมทำร้ายตบตีฟ่งหลันหลั่นอย่างไม่ออมมือ
เหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวาย จนแทบมองไม่ออกว่าใครเป็นใคร ทั้งตบ ตี
เพียะ!
บางคนทั้งผลักและถีบให้อีกฝ่ายล้มลงไปนั่งกองอยู่บนพื้น
พลั่ก!
รุมทึ้งหัว และเหวี่ยงกระชากลากถูกกันไปมา
ตุบตับ!
แต่สถานการณ์กลับตาลปัตรผ่านไปเพียงครู่เดียว บรรดาสตรีทั้งหลายที่เข้าไปรุมทึ้งดึงหัวของฟ่งหลันหลั่น ต่างก็ถูกเหวี่ยงกระเด็นออกมาทีละ คน ๆ เหลือเพียงนางที่ยังยืนหยัดอยู่อย่างมั่นคง
สภาพของทุกคนช่างดูไม่ได้เอาเสียเลย ตามใบหน้าและลำตัวเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำและรอยขีดข่วน ผมเผ้าดูยุ่งเหยิงแลดูหมดสภาพ อาภรณ์สวยหรูราคาแสนแพงที่ผ่านการตัดเย็บอย่างประณีตขาดหลุดลุ่ยไปหมด
เหล่าบุรุษทั้งหลายและแขกเหรื่อที่กำลังยืนมองดูเหตุการณ์อยู่ทางด้านนอกศาลาเรือนน้ำ ต่างก็พากันส่งเสียงหัวเราะขบขันให้กับบรรดาสตรีเหล่านั้น ทำให้พวกนางเกิดความอับอายจนแทบอย่างจะเอาหน้ามุดแผ่นดินหนีไปจากตรงนั้นเสียให้ได้
ตอนนี้สายตาทุกคู่ของสาวงามบนศาลาต่างจับจ้องพุ่งตรงไปยังสาวใช้ของแม่ทัพหนุ่มอย่างอาฆาตมาดร้าย แต่ทว่าเจ้าตัวกับไม่รู้สึกร้อนหนาวหรือหวั่นเกรงต่อจิตพยาบาทเหล่านั้นเลยสักนิด
ถึงแม้ฝ่ายตรงข้ามจะมีกำลังคนที่มากกว่าตนอย่างมาก แต่ฟ่งหลันหลั่นก็มิได้หลบเลี่ยงสายตาหรือมีท่าทีอ่อนข้อยอมถอยร่นให้ศัตรูตรงหน้าแต่อย่างใด
ตบมาก็ตบกลับ ไม่โกงกัน
บุตรสาวของขุนนางรายหนึ่ง ได้ก้มหน้าลงมองสำรวจร่างกายของตัวเอง และเมื่อเห็นสภาพยับเยินของตน นางเงยหน้าขึ้นมาอย่างฉับพลัน และชี้มือตรงไปยังสาวใช้ของแม่ทัพหนุ่ม พร้อมทั้งก่นคำด่าและผรุสวาทหยาบคายสาดใส่อย่างเดือดดาล
"เจ้าจะสามหาวมากไปแล้วนะ! เป็นเพียงสาวใช้ชั้นต่ำ ถือดียังไงถึงกล้าลงมือตอบโต้พวกข้า ซึ่งเป็นถึงสตรีสูงศักดิ์ เจ้าต้องชดใช้ให้กับอาภรณ์สุดหรูและเครื่องประดับแสนแพงของพวกข้า"
มีหรือที่ฟ่งหลันหลั่นจะเกรงกลัว สายตาคมเฉียบของนางมองคู่ต่อสู้ด้วยแววตาเด็ดเดี่ยว บนดวงหน้างามแสยะยิ้มขึ้นอย่างชอบใจ ราวกับจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ที่เจอเหยื่ออันโอชะของมัน
"ประดาหน้าเข้ามาพร้อมกันหมดนั่นแหละ ข้าจะได้จัดการเรื่องนี้ให้จบในคราวเดียวกัน"
น้ำเสียงและแววตาท้าทายของสาวใช้แม่ทัพหนุ่ม เชื้อเชิญศัตรูอย่างอาจหาญ และยืนเท้าสะเอวตั้งท่ารับด้วยสองขาอันมั่นคง
...
เซียงไค 盛開
อ่านแล้วชอบไหม เพิ่มในคลังหนังสือเลยสิ!
มีความเห็นเกี่ยวกับนิยายเรื่องนี้ใช่รึเปล่า คอมเมนต์มาได้เลยไรต์อยากฟัง
ของขวัญจากผู้อ่านคือกำลังใจในการสร้างสรรค์ผลงาน ช่วยส่งกำลังใจให้ไรต์หน่อยนะ!