webnovel

0515 ตัวตลกบ้า

ตอนที่ 515 ตัวตลกบ้า

ณ กองบัญชาการกองทัพพันธมิตรโลก

เพชฌฆาตตัวตลกปรากฏกายและพร้อมที่จะลุยแล้ว!

“นายคิดจะทำอะไร? แล้วพอจะมีอะไรที่พวกเราช่วยได้บ้างไหม?” ซางหยิงฮ่าวถาม

เพชฌฆาตตัวตลกยกนิ้วขึ้นมาจุ๊ๆ ที่ริมฝีปากของมัน

“ชู่ววว”

มันโบกมือไปมาแก่คนอื่นๆ ส่งสัญญาณให้ทุกคนหุบปากลง

ดังนั้น ทุกคนจึงหยุดพูดและมองไปที่มันอย่างเงียบๆ

ตัวตลกเงี่ยหู และตั้งใจฟังอยู่ครู่หนึ่ง

แต่ไม่มีใครพูดอะไรออกมา

ทุกอย่างเงียบสนิท

เพชฌฆาตตัวตลกบังเกิดความพึงพอใจ

“ได้ยินอะไรไหม” มันเปล่งเสียงกระซิบ

ทุกคนพอได้ยินก็หันมามองหน้ากันและกัน

ท่ามกลางความเงียบ มันไร้ซึ่งสรรพเสียงใดๆ

แล้วพวกเขาจะไปได้ยินอะไรได้อย่างไร?

ซางหยิงฮ่าวกางมือและผายออก แสดงท่าทีไถ่ถามกลับไปยังเพชฌฆาตตัวตลก

“มันคือเสียงของความเงียบสงบก่อนพายุจะเกิดยังล่ะ” เพชฌฆาตตัวตลกกล่าว

ท่ามกลางความเงียบงัน ตัวตลกเปล่งเสียงเฉลยราวกำลังท่องคาถาร่ายมนตราออกมา

เวลานี้ มันกำลังทำตัวราวกับเป็นผู้ส่งสารของพายุวิบัติ!

“พายุ? อ้อ เป็นคำอุปมาอุปไมยใช่ไหม แล้วจะให้พวกเราทำอย่างไรกันต่อไป?” เหลียวฮังถาม

ทุกคนมองไปยังเพชฌฆาตตัวตลก

มนุษย์ไม่สามารถเอาชนะผู้สืบสายโลหิตจากทวยเทพได้

แล้วกลยุทธ์ที่กู่ฉิงซานทิ้งไว้มันคืออะไร เมื่อไหร่แกจะบอกมาได้สักที!

เห็นแค่เพียงเพชฌฆาตตัวตลกที่สูดหายใจลึก และจู่ๆ ก็หวีดร้องลั่นขึ้นทันใด “เหล่าสหายของกระผม! โปรดจงรอดูสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นให้ดี เพราะทุกๆ อย่างที่เห็น มันบ่งบอกว่า-”

“เกมใหม่กำลังจะเริ่มเปิดฉากแล้ว!”

ปัง!

ตัวตลกพุ่งกระแทกหลังคา ทะลุขึ้นไปบนท้องฟ้าโดยตรง

ในชั่วพริบตาเดียวมันก็หายไป

“ไอ้ตัวตลกนี่ท่าจะบ้า...”เทพนักสู้ซางซ่งหยางบ่นงึมงำ

“ปล่อยเขาไปแบบนี้มันจะดีหรอ? ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขา มันยังไม่มากพอที่จะเอาชนะผู้สืบสายโลหิตจากทวยเทพได้นะ” ซางหยิงฮ่าวกล่าว

เทพธิดากงเจิ้ง “ใต้เท้ากู่ฉิงซานได้มอบสิทธิ์อำนาจในการรบทั้งหมดให้แก่มิสเตอร์เย่เฟย์หยูแล้ว”

“งั้นหรอ ฉันหวังว่ากู่ฉิงซานจะคิดถูกนะ” ซางหยิงฮ่าวถอนหายใจ

“เทพธิดากงเจิ้ง ช่วยเปิดระบบเฝ้าระวังทั่วโลกให้พวกเราหน่อย แสดงภาพให้พวกเราเห็นทีว่าเขาต้องการจะทำอะไร” ประธานาธิบดีเอ่ยขอ

“รับทราบแล้ว เชิญทุกท่านรับชมไปพร้อมๆ กันได้เลย” เทพธิดาตอบรับ

แล้วจอม่านแสงขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าทุกคน

ปรากฏภาพของเพชฌฆาตตัวตลกกำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงบนหน้าจอ

มันบินตรงไปยังเมืองที่ผีร้ายได้รวบรวมเอาไว้

ในแง่ของความแข็งแกร่งที่มันครอบครอง นี่คือการโยนตัวเองเข้าไปในกับดักอย่างไม่ต้องสงสัย

“เทพธิดากงเจิ้ง นั่นเย่เฟย์หยูมันคิดจะบินไปตายรึอย่างไร?” ซางหยิงฮ่าวเอ่ยถามเสียงหม่น

เทพธิดากงเจิ้ง “ฉันเองก็ไม่ทราบเหมือนกัน แต่เป็นเพราะใต้เท้ากู่ฉิงซานอนุญาตให้เขาทำทุกอย่าง ดังนั้นฉันจึงไม่มีอำนาจที่จะหยุดมัน”

“แต่ข้าว่าเขาดูวิกลจริตไปหน่อยนะ หากเขาทำบางสิ่งบางอย่างที่เป็นอันตราย เจ้าก็ยังไม่คิดจะหยุดมันงั้นหรือ?” เวโรน่าอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม

“ไม่หยุดแน่นอน”

“แล้วถ้ามันคิดจะทำลายโลกล่ะ จะหยุดมันไหม?” เหลียวฮังถาม

“ไม่ ฉันก็จะทำตามคำสั่งของใต้เท้า ในทางตรงกันข้าม ฉันนี่แหละจะเป็นผู้ช่วยมิสเตอร์เย่เฟย์หยูทำลายโลกใบนี้เอง!” เทพธิดากล่าวอย่างสงบ

หนึ่งชั่วโมงต่อมา

ทั่วทุกมุมโลก

ผีร้ายกับผู้สืบสายโลหิตจากทวยเทพทั้งหมดก็หยุดทุกการกระทำของตนลง

เพราะรอบๆ ตัวพวกเขา หน้าจอใดก็ตามที่ยังสามารถฉายภาพได้ จู่ๆ ก็ถูกเปิดขึ้น

แน่นอน พวกเขารู้อยู่แล้วว่าในโลกนี้ มีบางสิ่งที่สามารถเล่นภาพเคลื่อนไหวได้

แต่เวลานี้ นี่เป็นครั้งแรกเลยที่พวกเขาได้เห็นว่าอุปกรณ์เล่นภาพเคลื่อนไหวทั้งหมดในโลก ฉายออกมาในเวลาเดียวกัน ฉากนี้แลดูงดงามและน่าตื่นตาไม่น้อย

เพราะเหตุการณ์นี้มันเหนือล้ำเกินกว่าที่พวกเขาจะสามารถจินตนาการได้

เห็นแค่เพียงคนแปลกๆ ที่ปรากฏขึ้นบนจอม่านแสง

ไม่สิ จะกล่าวว่าคนก็ไม่ถูกต้องนัก เพราะดูจากภาพที่ปรากฏออกมาแล้ว มันเหมือนกันมอนสเตอร์เหล็กซะมากกว่า

“เพชฌฆาตตัวตลก!”

บางคนร้องอุทานด้วยความประหลาดใจ

พวกคนเหล่านี้คือมนุษย์ปกติ แต่ได้เลือกให้ตนเองกลายมาเป็นทาสของผู้สืบสายโลหิตจากทวยเทพ กลายเป็นสุนัขที่คอยรับใช้พวกเขา

นอกจากนี้ ยังมีมนุษย์บางส่วนที่พึ่งเปลี่ยนตนเป็นผีร้ายในร่างใหม่อีกด้วย

ผีร้ายเหล่านั้นได้อธิบายถึงต้นกำเนิดของเพชฌฆาตตัวตลกให้กับผีร้ายจากโลกอื่นอย่างรวดเร็ว

ในความเป็นจริงแล้ว ไม่มีใครรู้ถึงที่มาจริงๆของเพชฌฆาตตัวตลก แต่สิ่งหนึ่งที่มันได้ทำมานานนมแล้ว ก็คือ ‘การสร้างความหวาดกลัวให้กับมนุษยชาติ’

เมื่อได้รับฟัง เทพและผีร้ายก็ค่อยๆเข้าใจเกี่ยวกับความจริงของตัวตลกผู้นี้มากยิ่งขึ้น

“มันคือสิ่งมีชีวิตอะไรกันแน่?” ผู้สืบสายโลหิตจากทวยเทพกล่าวด้วยความสับสน

“ไม่ต้องกังวลไป ลองดูกันก่อนว่ามันคิดจะทำอะไร” ผู้สืบสายโลหิตอีกคนกล่าว

ณ เวลานี้ สายตาของเทพและผีร้ายทั้งหมด แม้กระทั่งมนุษย์บนโลก ต่างก็จับจ้องไปบนจอม่านแสง

เพชฌฆาตตัวตลกดูเหมือนว่าจะตระหนักถึงสถานการณ์ดังกล่าว

มันยกมือข้างหนึ่งขึ้น และค่อยๆหุบนิ้วลง

“สาม”

“สอง”

“หนึ่ง”

“เริ่มได้!”

คลื่นเสียงอิเล็กทรอนิกส์ของดนตรีร็อคแอนด์โรลกระหึ่มออกมาจากจอม่านแสง

พร้อมกับภาพฉากต่างๆ ที่ถูกนำเสนอขึ้นมา

ภาพเหล่านี้ ทั้งหมดคือภาพการต่อสู้ของผู้สืบสายโลหิตจากทวยเทพ หลังจากนั้นต่อมาอีกไม่กี่นาที มันก็เปลี่ยนไปเป็นภาพการต่อสู้ของผีร้าย

ทั้งผีทั้งเทพจ้องมองดูภาพการต่อสู้ นิ่งงันสักพักหนึ่ง ในหัวใจไม่อาจทำความเข้าใจได้

“นี่มันอะไรกัน?”

“ไม่รู้สิ แต่เจ้าเห็นนั่นไหม นั่นภาพข้าตอนกำลังโจมตี มันช่างดูหล่อเหลาซะจริงๆ”

“ของเจ้ามันไม่นับเป็นสิ่งใด ดูนั่น คราวนี้เป็นข้า ภาพของข้าที่ทำลายหุ่นรบห้าตัวในคราเดียว”

บรรดาผีกับเทพต่างพูดคุยกระซิบกระซาบกัน

เมื่อชุดภาพสุดท้ายของฉากต่อสู้อันงดงามจบลง เสียงเพลงบรรเลงปลุกเร้าใจก็ค่อยๆ หายไป

เพชฌฆาตตัวตลกกระแอมไอเบาๆและเริ่มพูด

“จากนี้ไปจะเริ่มต้นอย่างเป็นทางการแล้ว ขอให้ทุกคนเลือกคนที่คิดว่าเหมาะสมทั้งเจ็ดคนจากในกลุ่มของตนออกมา เพื่อลงทะเบียนเข้าร่วมการประลองราชันสงคราม! และผู้ชนะคนสุดท้ายก็จะได้โลกใบนี้ไปครอบครอง!”

บังเกิดความเงียบงันขึ้นทันใด

ผีร้ายกับเทพงงไปสักพักหนึ่ง

“ประลองราชันสงครามงั้นเหรอ?”

“มันคือสิ่งใดกัน?”

“ไม่รู้สิ ใช่ว่าเป็นพิธีกรรมใด พิธีกรรมหนึ่งของโลกนี้รึเปล่า?”

“แต่ฟังดูเหมือนมันจะเป็นอะไรเกี่ยวกับการต่อสู้นะ”

พวกเขากระซิบกระซาบกัน

แล้วเหล่ามนุษย์ที่เลือกจะทรยศต่อเผ่าพันธุ์กับพวกที่เลือกเปลี่ยนตนเป็นผีชั่วร้ายก็เริ่มอธิบายกับพวกเขาเกี่ยวกับเกมราชันสงคราม

หลังจากนั้น ทั้งผีทั้งเทพก็เข้าใจในที่สุด

ที่แท้ก็แค่เกม…

เทพสวรรค์ยังคงเงียบ

จนกระทั่งชั่วเวลาหนึ่ง เขาก็ถอนหายใจออกมา “เจ้ามนุษย์ผู้นี้ สงสัยสมองจะมีปัญหา ผู้ใดกันจะไปมีเวลาว่างมาเล่นเกมกับมัน?”

อีกด้านหนึ่ง ราชาผีเพลิงน้ำแข็งก็หันไปกล่าวกับทางเหล่าผีร้าย “มันก็แค่มนุษย์ปัญญาอ่อน ปล่อยมันไว้อย่างนั้นแหละ พวกเราไม่จำเป็นต้องให้ความสนใจกับมันหรอก”

ราชาผีเพลิงน้ำแข็งกับลูกน้องผีร้ายมากมาย กำลังจะเข้าโจมตีเมืองใหม่

แต่ในตอนนั้นเอง เสียงของเพชฌฆาตตัวตลกก็ได้ดังขึ้นอีกครั้ง

“บางที พวกคุณอาจจะคิดว่ากระผมเป็นบ้า หรือไม่บางทีพวกคุณอาจจะขี้เกียจเกิน ไปและไม่ต้องการที่จะมีส่วนร่วมในการเล่นเกมนี้”

“แต่ที่กระผมอยากจะบอกก็คือ”

“ไม่เหลียวแลกันแบบนี้มันไม่น่ารักเอาซะเลย”

เพชฌฆาตตัวตลกยกมือขึ้น และปรบมันเบาๆ

ด้วยการปรบมือของเขา ผีร้ายและเทพตลอดทั่วทุกมุมโลกพลันชะงักงัน

เพราะพวกเขาสัมผัสได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่แปลกออกไป

ผืนโลกเกิดการสั่นสะเทือน

กระแสการไหลของอากาศบนท้องฟ้าแปรเปลี่ยนไปอย่างลึกล้ำ

แสงกัมมันตรังสีปรากฏขึ้น นี่คือพลังอำนาจที่ไม่เป็นมิตรเป็นอย่างมากกับโลก

ความรู้สึกนี้...ส่งผลให้หัวใจของเทพสวรรค์หม่นทะมึนลง

“ไปดูกัน ว่ามันเกิดอะไรขึ้น” เทพสวรรค์เอ่ยปากสั่ง

“น้อมรับบัญชา!”

เทพสวรรค์นำพาหลายสิบผู้สืบสายโลหิตจากทวยเทพ ทะยานมุ่งตรงไปยังสถานที่ๆ เป็นต้นกำเนิดแรงสั่นสะเทือนของโลก

พวกเขาเดินทางมาอย่างรวดเร็ว และไม่นานก็มาถึงที่เกิดเหตุในที่สุด

เมื่อเทพมาถึง ผีร้ายก็มาถึงพอดีเช่นกัน

อีกฝั่งคือราชาผีเพลิงน้ำแข็ง

ทั้งผีทั้งเทพมองหน้ากันและกัน ก่อนจะเบนสายตาออกไปดูฉากโดยรอบ

เห็นแค่เพียงผืนทะเลทราย ที่ฟุ้งไปด้วยอากาศร้อนเดือดพล่าน กลิ่นอายของการทำลายล้างแพร่กระจายออกไปทั่วผืนฟ้า ร่ายระบำออกไปตามสายลม

“เจ้ารู้สึกถึงมันหรือไม่?” เทพสวรรค์เอ่ยถามเสียงหม่น

“รู้สิ เจ้าสิ่งนี้มันเป็นอันตรายต่อโลกเป็นอย่างยิ่ง มันปลดปล่อยคลื่นความผันผวนที่สามารถกัดกร่อน และสร้างความเสียหายต่อโลกได้เป็นเวลานาน” ราชาผีเพลิงน้ำแข็งกล่าวด้วยสีหน้าหนักอึ้ง

…………………………………..........