webnovel

ขอต้อนรับสู่การเดินทาง

เอาล่ะ ธีโอคุ้นเคยกับประสบการณ์ประหลาดๆ เป็นอย่างดี โดยส่วนมากแล้วมันมักจะจบลงอย่างรวดเร็ว แต่ภาพที่ ไมอา หรือ ดาว เปล่งแสงออกมาเผาไหม้ไอกิ้งก่ายักษ์ต่างดาวปรากฏขึ้นในหัวของเขาตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงและตลอดทั้งคืนมันหนักหนาเกินกว่าที่สมองไอคิวกว่าหนึ่งร้อยแปดสิบของเขาจะรับไหว ตลอดเวลาเขานั่งครุ่นคิดอยู่บนเก้าอี้พับได้ตัวเก่ง

และทุกอย่างอยู่ในสายตาของกลุ่มเพื่อนตลอดเวลา

หลายครั้งที่เคทเรียกชื่อเขา แต่ธีโอเพียงแค่พยักหน้าแล้วหันหน้าไปทางอื่น จนเธอเกือบเชื่อจริงๆ ว่าธีโอเสียสติไปแล้ว...แต่ก็แค่ 'เกือบ' เท่านั้นแหละ

สภาพอากาศวันนี้ค่อนข้างวิปริต มันยังคงดำเนินต่อไป ซึ่งไม่เป็นผลดีกับพวกหาเช้ากินค่ำแบบพวกเขา ปกติเวลานี้พวกเขาต้องออกเดินทางกันต่อแล้ว แต่พวกเขาทำได้แค่หลบอยู่ในเศษซากตึกเก่าๆ เบื้องหน้ามีวิวหรูอย่างรูปปั้นส่วนหัวของเทพีเสรีภาพจมฝังอยู่ในพื้นดินไปส่วนหนึ่ง

"เขาตื่นแล้ว" คีย์เดินเข้ามาบอกธีโอ ดูเหมือนการที่เขานั่งคิดอะไรในหัว จะมีเหตุผลอยู่ อย่างเช่น รอให้ใครคนนั้นตื่นขึ้นมาจากการสลบ ธีโอลุกขึ้นยืนแล้วเดินเข้าไปในห้องหนึ่ง ตรงกลางมีเสาเหล็กและร่างของไมอาที่ถูกมัดติดกับเสา ดูเหมือนที่นี่จะเคยเป็นคลับรูดเสามาก่อน ดูจากเฟอร์นิเจอร์ที่พอหลงเหลือร่องรอยโลกีย์ให้เห็น

"ฉันเจิมเสานั่นแล้ว" เจอร์รี่ชี้ที่เสาตัวนั้นกวนๆ เคทได้ยินก็ทุบหลังของเขาเสียงดังอั๊ก

"ตื่นได้แล้ว หนุ่มน้อย" ธีโอพูดเสียงดัง ใช้เท้าเขี่ยขาของอีกฝ่าย ไมอา ลืมตาช้าๆ เขามองไปรอบตัวเพื่อปรับสายตา ดวงตาสีฟ้ากะพริบถี่ ก่อนจะเห็นรองเท้าคอมแบ็คสีดำอยู่ตรงหน้าเขา เมื่อเงยหน้ามองไล่ขึ้นไปตั้งแต่รองเท้า ต้นขา บั้นเอว แผ่นอก ก็พบกับเจ้าของใบหน้าคมคายที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ตรงหน้าเขา

ธีโอ นั่นเอง....

"เอาล่ะพ่อขี้เซา ได้เวลาตอบคำถามแล้ว" เขาพูดออกมา ก่อนจะนั่งไขวห้าง ไมอาจะขยับตัว แต่ก็พบว่ามือของเขาถูกมัดไว้กับเสา เจ้าตัวดิ้นขลุกขลักอยู่สักพัก ก่อนจะยอมหยุดดิ้น.... "มัดผมทำไม?" เขาถามเสียงแข็ง

"เพื่อความปลอดภัย" คีย์ตอบแทน เขาหย่อนก้นนั่งบนโต๊ะ แล้วโยนถั่วขึ้นไปบนอากาศก่อนจะอ้าปากไปงับมันไว้ แต่เขาพลาด!

"ถ้านายตอบคำถามฉันดีๆ ฉันจะให้รางวัลดีไหม" ธีโอพูดต่อ ไมอาเลิกคิ้ว ทำหน้างง ไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูดจนต้องถาม

"รางวัล...คืออะไร?"

"ไม่รู้จักรางวัลเหรอ นี่นายโตที่ไหนเนี่ย" ทริสตันหัวเราะ ไมอาหันไปมองเขาเล็กน้อย ธีโอแอบอมยิ้มกับท่าทางของอีกฝ่าย ก่อนจะดีดนิ้วเรียกให้ชายหนุ่มหันมามองเขา "รางวัลมันก็คือสิ่งที่คนชนะจะได้น่ะสิ" เขาตอบส่งๆ ยิ่งทำให้ไมอาสงสัยมากกว่าเดิม

"งั้นคุณคือรางวัลของผมเหรอ?"

พรวด! คำถามของไมอาทำให้เจอร์รี่ที่กำลังดื่มน้ำจากขวดถึงกับสำลัก รู้สึกเคืองจมูกจนต้องไอออกมา ธีโอเลิกคิ้วแปลกใจที่อีกฝ่ายถามแบบนั้นออกมา เขาแยกไม่ออกว่าผู้ชายคนนี้ไม่รู้จริงๆ หรือกำลังหลอกให้พวกเขาตายใจกันแน่ แต่ไม่ว่าจะยังไง มันก็ดูตลกมากอยู่ดี

"แค่เพราะนายช่วยชีวิตของฉัน ไม่ได้แปลว่าฉันเป็นรางวัลของนายหรอกนะ"

"แย่จังนะ" ไมอาพึมพำเบาๆ

"นายพาเรานอกเรื่องเกินไปแล้ว เอาล่ะ นายเป็นใครกันแน่" ธีโอรีบลากกลับเข้าเรื่องก่อนที่บทสนทนาจะไปไกลมากกว่านี้ "ก็บอกแล้วไงว่าผมคือดาว"

"นายคือมนุษย์ทดลองของรัฐบาลรึเปล่า?" ทริสตันถามแทรก ไมอาขมวดคิ้ว "ไม่...แล้วอะไรคือมนุษย์ทดลอง?"

"บางทีเขาอาจจะถูกไอ้เวรที่ไหนไม่รู้ล้างสมองมา" เจอร์รี่ออกความเห็น โยนถั่วเข้าปากของคีย์ ซึ่งคราวนี้เขางับมันได้อย่างแม่นยำ

"ทำแบบนั้นได้ไง ทำไมมีแสงออกมาจากตัวนาย" เคทถาม ถ้าเปรียบเทียบกับสองคำถามก่อนหน้า คำถามของเคทดูจะสมเหตุสมผลมากที่สุดในตอนนี้ หญิงสาวยอมรับว่ามันประหลาดที่ตัวของเขาเปล่งแสงออกมาได้ราวกับมีหลอดไฟอยู่ในตัว มันสว่างจ้าเกินกว่าที่เธอจะลืมตาดูมันได้นาน แต่กลับกันเท่าที่จำได้ แสงนั้นช่างสวยงามราวกับความฝัน และเพราะเธอเป็นหญิงสาวคนเดียวในกลุ่ม ที่ต้องใช้ชีวิตบนโลกที่แสนผุพัง เธอจึงมีความคิดและจินตนาการที่ใกล้เคียงกับความอ่อนหวานมากที่สุด

ในขณะที่เจอร์รี่และทริสตัน กำลังซุบซิบเกี่ยวกับเรื่องจะทดลองชาร์จไฟฟ้าเข้ากับตัวไมอา ถ้าหมอนี่เปล่งแสงออกมาจากตัวได้ แปลว่าภายในจะต้องมีมวลพลังงานบริสุทธิ์ไหลเวียนอยู่แน่นอนและถ้าเจอร์รี่คิดไม่ผิด มันจะต้องได้ผล

"ไม่รู้สิ เกิดมาก็ทำได้เอง" ไมอาตอบเสียงเบา วงกลมสีดำกลางดวงตาสีฟ้าเจิดจรัสหดลงเล็กน้อย น้ำเสียงแข็งกระด้างแต่ก็ซ่อนความอ่อนไหวอยู่ในที ทำให้ธีโออดสงสัยไม่ได้เลย "นายบอกว่ามาตามหาพ่อ เขาอยู่ไหน?" เขาเปิดประเด็นอ่อนไหว ไมอาถอนหายใจ

"ไม่รู้.."

"มาตามหาพ่อ แต่ไม่รู้ว่าพ่ออยู่ไหนเนี่ยนะ!" คีย์เสียงดังขึ้นมาเล็กน้อย ทุกคนในห้องนี้ฉงนและงุนงงไปหมด แต่ไม่มีใครพูดอะไร นอกจากธีโอที่ยิงคำถามต่อ "ไม่รู้แล้วลงมาตามหาพ่อทำไม?" ไมอาเงยหน้ามองขึ้น

"รู้แค่ว่าพ่อเป็นนักวิจัย"

"นักวิจัยเหรอ? แต่นักวิจัยอึ๊บกับดวงดาวได้ยังไง ตายพอดี" เจอร์รี่ถาม ซึ่งทุกคนเห็นด้วย

"พ่อให้นี่ไว้....แล้วเขาก็จากมา" ไมอาก้มลงมองป้ายชื่อที่ห้อยคอตัวเองอยู่ "โนอา คอร์สัน นั่นคือชื่อของพ่อ"

"แล้วแม่ล่ะ"

"แม่อยู่ข้างบน..." ไมอาตอบคำถาม เขาเริ่มกลับมาดิ้นอีกครั้ง เพราะรู้สึกเมื่อยแขนที่ต้องเหยียดไปด้านหลัง มันทำให้เขาชาตั้งแต่หัวไหล่ถึงข้อมือที่เริ่มเจ็บแล้ว "งั้นถ้าแม่นายอยู่ข้างบน ทำไมนายไม่แค่อยู่กับแม่นายแล้วมีความสุขอย่างที่ควรจะเป็นล่ะ" เคทเดินมานั่งใกล้ๆ เขาแล้วเอ่ยถาม เธอแอบเห็นใจเล็กน้อย และเริ่มสนใจชีวิตของเขามากขึ้น

ถ้าเขาแต่งเรื่อง มันก็เป็นเรื่องที่สนุกมาก

"มันอันตราย พวกคิลสกายล่าตัวผมกับแม่อยู่ ทางที่ดีผมควรลงมาตามหาพ่อ แล้วขอให้ช่วย"

"ไอกิ้งก่ายักษ์นั่นน่ะเหรอ พวกคิลสกาย" คีย์ชี้ไปข้างนอกหน้าต่าง

"ใช่ แต่นั่นแค่สัตว์เลี้ยงนะ เจ้านายของพวกมัน กำลังตามมา และมันจะไม่หยุดจนกว่าจะฆ่าผมได้" ไมอาพูดเสียงเข้ม เขากดเสียงให้ดูจริงจังมากขึ้น ทั้งห้าคนที่ฟังอยู่ถึงกับหน้าถอดสี ถ้าเรื่องที่ไมอาเป็นเรื่องจริง แสดงว่าต้องมีพวกกิ้งก่ายักษ์และเจ้านายของพวกมันตามหาตัวไมอาอีกแน่นอน และมันไม่ปลอดภัย

"ทำไมมันถึงตามล่าตัวนาย" ทริสตันถาม

"มันอยากได้หัวใจของผม" ไมอาหันไปตอบ แล้วไล่มองทุกคนทีละคน จนกระทั่งหยุดที่ใบหน้าของธีโอตรงหน้าเขา ชายหนุ่มจ้องหน้าอีกฝ่าย

"ไม่มีอะไรอยู่ค้างฟ้า เว้นแต่ว่าได้ครอบครองหัวใจดวงดาว"

"...."

"ใช่..มันต้องการจะกินหัวใจของผม"

"ขอเวลานอกๆ เราต้องคุยกัน โอเค๊!" ทริสตันทำสัญญาณมือขอเวลานอก ทุกคนหันไปมองเขาก่อนจะเดินตามออกไปยืนหน้าห้อง แล้วหารือกัน

"ฉันรู้สึกว่าเราต้องช่วยเขานะ" เคทบอกทุกคน แต่ทริสตันส่ายหน้า

"เราจะไว้ใจเขาได้ยังไง เขาอาจจะแต่งเรื่องก็ได้"

"ฉันไม่ไว้ใจเขา" คีย์บอกตรงๆ เขาหันไปมองไมอาที่นั่งชะเง้อมองพวกเขาอย่างอยากรู้อยากเห็น "แต่เขาก็ไม่ได้ดูมีพิษภัยเท่าไหร่" ชายหนุ่มพูดต่อ ทริสตันตาโต "นายกำลังใจอ่อนกับหน้าสวยๆ ของหมอนั่น"

"เปล่าสักหน่อย.."

"ฉันมีกฎข้อนึง อย่าไว้ใจผู้ชายหน้าสวย และฉันไม่เคยพลาด!" เจอร์รี่บอก เคทขมวดคิ้ว

"นายมีกฎข้อนั้นที่ไหนกัน"

"ฉันมีนะ มันอยู่ในบัญญัติสิบประการของไบเบิ้ลฉบับเจอร์รี่" เขาเถียงแล้วชี้หน้าของเคท ธีโอกอดอกฟังความเห็นของเพื่อนอย่างตั้งใจ ในหัวของเขาคิดอะไรมากมายเกินที่ใครจะคาดเดา ชายหนุ่มหันไปมองไมอาที่มองเขากลับ สองสายตาประสานกันลงตัว ความรู้สึกสงสารปนสนใจทำให้ธีโอตัดสินใจบอกทุกคน

"ฉันว่าเราควรช่วยเขานะ"

"ว่าไงนะ!"

"ไม่เอาน่าเพื่อน!"

"ถ้าพ่อเขาเป็นนักวิจัยจริงๆ ก็ต้องอยู่ที่กำแพง ยังไงเราก็ต้องไปที่นั่นอยู่แล้ว....มันจะเสียหายอะไรถ้าเราหนีบเอาเขาไปด้วย" ธีโอบอกเหตุผล แล้วหันไปมองไมอาอีกรอบหนึ่ง เคทหรี่ตา "นายเชื่อใจเขาเหรอ?"

"อะไร ฉันไม่..-"

"นายเชื่อใจเขารึเปล่าธีโอ?" เธอถามเขาย้ำ ทุกคนที่ตอนนี้จ้องหน้าเขา ทำให้ธีโอรู้สึกกระดากปากที่จะพูดว่า 'เชื่อใจ' มากกว่า 'ไม่แน่ใจ' ซึ่งใช่ เขาไม่แน่ใจเลย แต่ด้วยอะไรบางอย่างทำให้เขาตัดสินใจแบบนี้

"ถ้าเขาโกหกหรือมีคิดร้าย เราก็แค่ฆ่าเขาซะ!" ธีโอตอบเคท เธอคิดตาม

"อีกอย่าง ฉันว่าเราคงไม่ใจดำมากพอจะทิ้งให้เขาเผชิญหน้าไอเอเลี่ยนบ้านั่นคนเดียวหรอกนะ"

"ที่นายพูดมาก็มีเหตุผล"

"ถ้าเขาตุกติกเราก็ค่อยฆ่าเขาก็ได้" ธีโอโน้มน้าว ทุกคนมองหน้ากัน เคทถอนหายใจมองหน้าธีโอด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย เธอบอกเขาว่า "ก็ได้ เราพาเขาไปด้วยก็ได้" เธอบอก ธีโอยิ้มดีใจ ก่อนจะดึงตัวเธอเข้ามากอดหนึ่งที แล้วเดินไปหาไมอาที่นั่งรอฟังคำตอบอยู่

"โอเค เราตกลงกันแล้ว..."

"อย่าฆ่าผมเลยนะครับ" ไมอาอ้อน เขาทำหน้าเว้าวอน ธีโอนั่งยองลงข้างหลัง ก่อนจะเอื้อมมือไปแก้มัดเชือกให้เขา ริมฝีปากหยักของเขาพูดเงื่อนไขในใจ "เราจะไม่ฆ่านาย แต่ถ้านายเล่นตุกติกอะไร ฉันจะ..." เขายื่นหน้าเข้าไปข้างหลัง แล้วกระซิบที่หลังใบหูอย่างแผ่วเบา แต่คนฟังนั่งขนลุกตัวเกรียว

"ฆ่านายทิ้งซะ"

"ปกติแล้ว พวกฉันจะกางเต็นท์นอนในตอนกลางคืน เวลากลางวันถ้าไม่ขับรถ เราจะหาที่พักตามซากตึก มันปลอดภัยกว่ากางเต็นท์ข้างนอก" ธีโอเดินนำไมอาไปสำรวจห้องต่างๆ กิจวัตรประจำวันของพวกเขาตอนที่อยู่ในตึกเก่า ก็คงจะเป็นพักผ่อน หรือไม่ก็เดินสำรวจหาของที่ยังใช้ได้ ไม่นับรวมเศษขยะที่เจอร์รี่มักจะเก็บมาทำสิ่งประดิษฐ์บ้าๆ ของเขา

ไมอาจะไปกับพวกเขา ยังไงเขาต้องดูแลเด็กคนนี้เป็นพิเศษ

ตามที่เคทมอบหมายหน้าที่มา....

"ว่าแต่นายหิวรึเปล่า?" เขาหันไปถามชายหนุ่มที่เดินตามมาเงียบๆ ไมอาส่ายหน้า แล้วตอบ "เราไม่จำเป็นต้องกินหรอก" เขาตอบ แล้วมองซ้ายขวาอย่างสนใจ สายตาสำรวจภายในอย่างสนใจ แอบคิดว่าตอนที่โลกยังไม่ล่มสลาย สถานที่แห่งนี้คงจะสวยน่าดู เขามองร่องรอยสีดำสลับกับน้ำตาลบนกำแพงปูน มีไม้เลื้อยที่เลื้อยเข้ามาแพร่พันธุ์ในตึก

"กินซะ ตอนนี้นายอยู่บนโลกแล้ว..." ธีโอโยนเศษชิ้นเนื้อตากแห้งแผ่นเล็กที่ถูกตัดอย่างพอดีคำแล้วร้อยเชือกไว้อย่างเรียบร้อย ไมอารับมันไว้ทัน แต่ก็เกือบจะตก เขาขมวดคิ้วย่น เงยหน้าถามชายหนุ่มตรงหน้า

"นี่มันอะไรเหรอครับ?"

"เนื้อกระต่ายอบแห้ง" ธีโอตอบ "แต่คุณบอกว่าพวกสัตว์เลือดอุ่นกลายพันธุ์แล้ว" เขาเอ่ยถามถึงสิ่งที่ธีโอเล่าก่อนหน้านี้สักห้านาทีได้ ชายหนุ่มยิ้มเบาๆ "ก็ไม่ทั้งหมดนี่ บางตัวก็ไม่ได้กลายพันธุ์"

"รวมถึงคุณด้วยรึเปล่า?"

"ไม่ต้องห่วง ฉันเกิดไม่ทันยุคล่มสลาย แล้วก็ไม่ได้กลายพันธุ์มีหางงอกออกมาจากก้นแบบพวกหนังเอเลี่ยน" เขาพูดประชดแกมขำเล็กน้อย

"หนังงั้นเหรอ"

"นายไม่เคยดูหรือไง?" เขาหันไปถามไมอาฉงน ชายหนุ่มส่ายหน้าทันที ธีโอหน้าแห้ง

"เดอะลอร์ดออฟเดอะริง ไททานิค ก็ไม่เคยเหรอ"

"บนนั้นไม่มีของแบบนั้นหรอกนะ" ไมอาเสียงเบา ธีโอถึงบางอ้อ เขาพยักหน้าเบาๆ แล้วเดินต่อ "งั้นนายก็พลาดสิ่งบันเทิงอันดับหนึ่งในโลกไปแล้วล่ะ"

"ยังมีของแบบนั้นอยู่อีกเหรอ....ผมหมายถึง ตอนนี้น่ะ" เขาเงียบไป หดหู่ เพราะดูจากสภาพของโลกแล้ว ไมอาไม่แน่ใจนักว่าจะหลงเหลือสิ่งที่เรียกว่า ความบันเทิง อยู่รึเปล่า

"ถ้าเจอทีวีสภาพดี คงได้ดู...หวังว่านะ" ธีโอตอบเสียงอ่อย

"เฮ้...เอ่อ อันที่จริง ผมอยากขอบคุณที่คุณให้ผมไปด้วย" ไมอาพูดเสียงเบา แต่กระนั้นธีโอก็ยังได้ยินมันชัดเจน

"ไปขอบคุณเคทเถอะ ถ้าเธอไม่ให้ นายคงไม่ได้มายืนถามมากอยู่แบบนี้"

"ไว้ผมจะขอบคุณแฟนคุณทีหลัง"

กึก!

ธีโอหยุดเดินแทบจะทันทีที่ไมอาพูดคำว่า 'แฟนคุณ' ออกมา ชายหนุ่มหันไปมองเข้าหน้าเข้มชวนตะลึง ก่อนจะกระชากเขาเข้าไปในห้องหนึ่ง แล้วดันตัวอีกฝ่ายให้เดินเข้าไป ท่วงท่าของเขาคล่องแคล่วและไม่ยอมให้ไมอาขัดขืน ไมอาจะอ้าปากพูดอะไรสักอย่าง แต่ธีโอก็กระชากตัวเขาขึ้นมาแล้วอุ้มอย่างง่ายดาย ร่างสูงเดินดุ่มๆ ไปที่เตียงก่อนจะโยนไมอาลงบนเตียงท่ามกลางสายตาตื่นตกใจของชายหนุ่ม

"นี่คุณ!"

ไมอาใช้ข้อศอกยันท่อนบนอย่างรวดเร็ว แต่ไม่ทันไร ธีโอก็โน้มตัวลงมาบนเตียง ยันมือกับเตียงคร่อมตัวของไมอาเอาไว้ ไม่ให้อีกฝ่ายเป็นอิสระ ชายหนุ่มจ้องมองไมอาแล้วยิ้มมุมปาก

"นายคิดว่าฉันเป็นแฟนกับเคทอย่างงั้นเหรอ หือ?" เขาถาม

ไมอานิ่งอึ้งไป "....."

"ว่าไง"

"แล้วทำไมจะไม่ล่ะ" เขาใจกล้าตอบออกไป การกระทำของอีกฝ่ายผิดผู้ผิดคนจนเขาเริ่มรู้สึกมวนท้องแปลกๆ เขาเผยอริมฝีปากเล็กน้อย แล้วจ้องธีโอตาเขม็ง ธีโอโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้มากขึ้น ขณะเดียวกันไมอาก็อยากถอยห่างเหลือเกิน แต่ยิ่งถอยมันก็ดูเหมือนเขากำลังจะนอนราบลงไปกับเตียงแล้ว

มองจากด้านข้าง เงาของทั้งสองช่างชวนให้จินตนาการถึงเรื่องสัปดนเหลือเกิน แต่อีกมุมมันเปรียบเสมือนศิลปะแห่งเงา ชวนให้คิด และจินตนาการได้มากมาย ดวงตาสีน้ำตาลเข้มจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาสีฟ้าอย่างไม่เกรงกลัว ราวกับหยั่งเชิงคู่ต่อสู้

กลับกัน เขาไม่อาจถอนสายตาออกไปมองอย่างอื่นได้เลยในเวลานี้

ธีโอไม่เคยคิดมาก่อน ว่าสีฟ้า ของดวงตาคู่นี้จะละสายตาไปได้ยากขนาดนี้

"นายนี่มันจริงๆ เลย" ธีโอระเบิดหัวเราะ ก่อนจะใช้นิ้วดีดเข้าที่หน้าผากของไมอาหนึ่งที แล้วผละออก คนตัวเล็กกว่าพลิกตัวลงจากเตียงอย่างขุ่นเคือง "คุณอยากมีเรื่องหรือไง!"

"ไร้สาระน่า...มาเถอะ" คนขี้แกล้งหัวเราะลั่น เขากวักมือเรียกไมอาให้ออกจากห้อง

วอลริงโซน

สถานที่ที่ปลอดภัยกับมนุษยชาติมากที่สุดในตอนนี้ พื้นที่เซฟโซนที่รัฐบาลทั่วโลกต่างร่วมมือ กันสร้างมันขึ้นมา พื้นที่กว่าหมื่นเอเคอร์ทอดยาว อยู่ด้านหลังกำแพงที่ตั้งสูง เสริมปราการด้วยโดมใสที่ครอบทั้งเมือง ระบบหมุนเวียนของอากาศ น้ำ ถูกออกแบบมาอย่างดีจากวิศวกรที่เก่งที่สุด ภายในเมือง ผู้คนต่างใช้ชีวิตกันอย่างสงบสุข

มันปลอดภัย และจะเป็นอย่างนั้นต่อไป ตราบใดที่รัฐบาลควบคุมสถานการณ์ได้

"เราได้รับรายงานว่ามีวัตถุประหลาดเข้าสู่ชั้นบรรยากาศเมื่อคืน" พลทหารสไตล์ กำลังรายงานให้กับผู้นำของแต่ละประเทศฟัง ผ่านหน้าจอโฮโลแกรมที่ฉายอยู่ในห้องแสนว่างเปล่า

"ผมให้คนของผมไปตรวจสอบแล้ว ไม่มีอะไรอยู่ที่นั่น"

"หมายความว่ายังไงไม่มีอะไรอยู่ที่นั่น" คริสโตเฟอร์ ผู้นำสูงสุดเอ่ยถามด้วยความสงสัย

"ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจ....แต่บางทีมันอาจจะหนีไปแล้ว"

"เอเลี่ยนอย่างนั้นเหรอ" ชายเอเชียอีกคนที่อยู่ในหน้าจอเอ่ยถามขึ้นเสียงเข้ม ถ้าให้เดาเขาคงจะเป็นผู้นำจากฝั่งเอเชีย สไตล์ยักไหล่ เขาเอนตัวพิงโต๊ะทำงานกอดอก "ยังไม่มีอะไรยืนยันเรื่องนั้นครับ แต่ผมกำลังหาตัวของมันอยู่"

"เราควรต้องกังวลถึงเรื่องนี้ไหม?"

"ไม่ต้องหรอกครับ"

"แค่พวกกลายพันธุ์ก็เป็นปัญหามากพอแล้ว เราไม่อยากให้เรื่องนี้ต้องกลายมาเป็นปัญหาอีกเรื่อง" คริสโตเฟอร์ พูดต่อ เขากุมมือตัวเองแล้วเคร่งเครียดกับสถานการณ์ตอนนี้.... "อาทิตย์ที่แล้วกำแพงที่สิบเก้า เกือบจะพัง เพราะพวกหนอนกลายพันธุ์แล้ว พวกมันเริ่มทำรังในพื้นดิน และมันจะขุดอุโมงค์มาถึงที่นี่แน่"

"ผมทราบครับ แต่นั่นเป็นปัญหาของพวกหน่วยใต้ดินไม่ใช่เหรอ?" เขาถามอย่างกวนอารมณ์ ผู้นำทำเสียงถอนหายใจกันทุกคน ก่อนที่ชายผิวดำ นามว่าโอลิเวอร์จะพูดขึ้น

"อย่าลืมว่า ถ้ากำแพงใต้ดินพังทลาย พวกนั้นจะขุดมาถึงที่นี่ ประชาชนจะเดือดร้อนกันหมด...ใช่ ผมว่ามันเป็นปัญหาของทุกคน ไม่ใช่แค่หน่วยใดหน่วยหนึ่ง" เขาพูดได้อย่างเฉียบแหลมแทงเข้าไปในใจของพลทหารหนุ่ม สไตล์ยิ้มแห้ง ก่อนจะเดินไปที่หน้าต่างที่มองเห็นวิวรอบทิศทาง แล้วมองออกไป

"โครงการสกายเทียร์ของคุณ ก็ได้แค่ลูกผสมบ้าๆ นั่น"

"อย่างน้อย ทีมวิจัยของผมก็พิสูจน์แล้วว่า อวกาศคืออนาคตของมนุษยชาติ" สไตล์หันมาเถียง เข้าจ้องเหล่าผู้คนข้างล่างนั่น ราวกับมด ที่ใช้ชีวิตตามกัน ไม่มีแรงจูงใจ ไร้ซึ่งศรัทธา เพราะอยู่ไปวันๆ

"ไม่มีประโยชน์ เพราะคุณบอกเองไม่ใช่เหรอ ว่าดาวเอริก้าใกล้จะแตกดับแล้ว"

"ก็ใช่ว่าจะมีดาวเคราะห์น้อยแค่ดวงเดียวสักหน่อย" สไตล์พึมพำ ตอนนั้นที่ประตูสีขาวเปิดออกพร้อมกับเลขาส่วนตัวของเขา ที่เดินเข้ามาพร้อมทำหน้าเครียด ชายหนุ่มได้ที รีบตัดบทสนทนาแสนกวนใจนี้ บอกลาแล้วตัดสัญญาณทุกคน ก่อนจะเดินไปนั่งที่เก้าอี้ ถอนหายใจเสียงดัง

"ท่านคะ" เลขาเรียกเขา

"ว่าไง"

เธอทำหน้าตื่นเล็กน้อย ก่อนที่จะพูดสิ่งที่รู้มาก่อนหน้านั้นไม่กี่นาที สไตล์ได้ฟังก็ลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้ ชายหนุ่มก้าวขายาวๆ ไปยังห้องวิจัยที่อยู่ตึกถัดไปทันที มือแกร่งวางทาบไปกับเครื่องสแกนลายนิ้วมือ ก่อนที่ประตูสีเทาหนา จะเปิดออก ด้านในมีควันสีขาวแฉลบออกมาเล็กน้อย เนื่องจากห้องนี้ต้องรักษาความเย็นไว้ตลอดเวลา

"ดอกเตอร์อยู่ไหน?" เขาหันไปถามนักวิจัยคนหนึ่งที่ยืนอยู่ใกล้ๆ คนถูกถามชี้ไปที่ห้องหนึ่งที่อยู่ด้านในอีกที กระจกโปร่งใสรอบด้านทำให้เห็นคนด้านในอย่างชัดเจน ชายวัยกลางคนกำลังนั่งส่องกล้องจุลทรรศน์อย่างตั้งใจและพูดรายละเอียดที่เห็นเป็นไฟล์เสียงเก็บเอาไว้

"ดอกเตอร์โนวา" สไตล์เดินเข้ามาอย่างถือวิสาสะ ด้านคนถูกเรียกชื่อ ผงะเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มทักทาย

"ลมอะไรหอบคุณมาถึงที่นี่ได้" เขาใช้นิ้วเลื่อนหน้าจอบันทึกผลข้างๆ

"คุณคงได้ยินเรื่องดาวตกเมื่อคืนแล้ว"

"เขาลือกันไปทั่ว มันสว่างเหมือนกับดวงอาทิตย์ขนาดจิ๋ว" โนวาพูดติดตลก เมื่อคืนเขาทำงานอยู่ในนี้ทั้งคืน เลยไม่ได้เห็นกับตา จะว่าไปเขาเองก็เสียดายเหมือนกัน สไตล์ยิ้มจนเห็นฟัน "เหมือนกับไฟคริสต์มาส" เขาบอก

"คงจะสวยน่าดู"

"ทีมของผมเข้าไปตรวจสอบแล้ว...ไม่มีอะไรหลงเหลือมากนัก" เขาพูดเสียงอ่อย ก่อนจะยื่นแท็บเล็ตโฮโลแกรมให้โนวาดู ซึ่งเขาก็รับมาดู นิ้วเรียวขยับแว่นให้เข้าที่ ก่อนจะเพ่งพินิจ เขาเห็นโครงสร้างสสารบางอย่าง และรายละเอียดของมัน

"สารนี่มัน...." เขาหยุดพูด รู้สึกเหมือนถูกเข่ากดทับที่หน้าอก มือดันจอออกพร้อมกับถอดแว่นตา เขานิ่งอึ้งไปสักพัก และหลังจากสมองประมวลผลที่สิ่งที่เกิดขึ้นได้แล้ว เขาก็หันไปหาสไตล์

"เป็นสารชนิดเดียวกันกับที่พบบนดาวเอริก้าใช่ไหม?" เขาถาม ซึ่งโนวาเองก็พยักหน้าตอบ

"คุณไปได้..มันมาได้ยังไง?"

"มันติดมากับดาวตกเมื่อคืน"

ตอน 2 มาเร็วมั๊ก ><

@_amagdon