webnovel

รังอสูร (6)

ฉันเลิกสนใจสายตาของยายบ้าเบสบอลแล้วไปจดจ่ออยู่กับการสำรวจแทน ฉันจำแผนที่ได้คร่าว ๆ และมั่นใจว่าหากเข้ามาในเส้นทางปกติก็ไม่น่าหลงทาง แต่เพราะถูกสกิลพิลึกส่งมาแบบไม่รู้ทิศรู้ทาง มันจึงไม่ง่ายที่จะคาดเดาตำแหน่งในเวลานี้

พอกำลังคิดว่าหลงทางแล้วแน่นอน ก็พบว่าพวกเราอยู่ในห้องที่ไม่ได้มีอยู่ในแผนที่ ห้องนี้ดูผิดที่ผิดทางแตกต่างจากส่วนอื่น ๆ ของเหมือง มันสว่างไสว พื้นค่อนข้างเรียบ มีโต๊ะตัวใหญ่อยู่หลายโต๊ะ บางโต๊ะมีข้าวของที่ดูเหมือนอุปกรณ์ทดลองทางวิทยาศาสตร์วางอยู่จนเต็ม และบางโต๊ะก็มีร่างของมนุษย์อยู่ด้วย

ยิ่งสังเกตให้ดีก็ยิ่งพบว่าที่นี่พิลึกกึกกือ นี่มันห้องผ่าตัดหรือห้องทดลองอะไรสักอย่างใช่ไหมนะ

"พวกนี้กลายเป็นซอมบีไปแล้ว ไม่สิ… บางคนในนี้น่าจะเป็นซอมบีตั้งแต่ก่อนทดลองแล้วด้วยมั้ง" เมย์พึมพำกับตัวเธอเอง

โชคดีที่ซอมบีที่ยังไม่ถูกกำจัดไม่อยู่ในสภาพที่สามารถเล่นงานพวกเราได้ บางตัวถูกชำแหละจนแค่จะลุกขึ้นจากเตียงก็ทำไม่ได้แล้ว บางตัวก็ถูกอุปกรณ์นิรภัยยึดร่างเอาไว้กับเตียง

"หรือว่า… กำลังหาทางรักษาคนที่กลายเป็นซอมบีไปแล้ว คนที่เป็นเจ้าของเหมืองนี่อาจจะไม่ใช่คนไม่ดีก็ได้น้าา"

ฉันมองยามานาชิแล้วถอนหายใจ ยายสาวแกลน่าจะติดนิสัยมองโลกในแง่ดีเกินเหตุของแอนมา เธอคงลืมสนิทว่ามิชชันระบุไว้ชัดว่าเราต้องช่วย 'ผู้รอดชีวิต' หนีจากที่นี่ ตะแคงมองยังไงนี่มันก็ไม่มีทางเป็นสถานที่ของคนดี ๆ หรอก

ยิ่งพอมองไปรอบ ๆ ห้องทดลองก็ยิ่งรู้สึกอึดอัด กลิ่นคาวเลือด กลิ่นเหม็นเน่า ผสมกับกลิ่นของสารพัดสารเคมีที่ไม่รู้ว่าคืออะไรกันบ้าง มันทำให้ฉันเริ่มเวียนหัว

"สมุดบันทึก"

คนที่ได้เรื่องได้ราวที่สุดกลายเป็นคนที่ไม่น่าคาดหวังที่สุด เจ้าฆาตกรในชุดมาสคอตพูดพร้อมกับยื่นสมุดบันทึกที่เขาค้นเจอให้ฉัน

ฉันรับมาแล้วเริ่มอ่านมันแบบเร็ว ๆ เนื้อหาในนั้นมีแต่เรื่องที่ฉันไม่เข้าใจ แม้แต่ฉันที่เคยทำงานเป็นเสมียนอยู่ในบริษัทยามาก่อนยังไม่คุ้นกับชื่อตัวของยาและศัพท์แสงหลาย ๆ อย่างที่ปรากฏอยู่ในนั้น แต่จากที่ดูรูปประกอบทั้งหลาย มันก็พอเดาได้ว่านี่คือการทดลองเกี่ยวกับซอมบี

ยังเร็วไปที่จะฟันธงว่านี่คืองานวิจัยเพื่อรักษาซอมบี บางทีมันอาจตรงกันข้ามเลยก็ได้ ดีไม่ดีใครก็ตามที่เป็นเจ้าของห้องนี้นี่แหละที่อาจจะเป็นคนสร้างซอมบีเสียเอง

ฉันหวังว่าตัวเองจะคิดมากเกินไป

"คุณแคท" เมย์กระซิบเสียงเบา

ฉันพยักหน้าเพราะฉันก็รู้ตัวแล้วเหมือนกัน เสียงฝีเท้ากำลังใกล้เข้ามา

ช่วงเวลาเดียวกัน ด้านของแอน

ฉันพยายามจะไม่ตื่นตระหนก คาแรคเตอร์แม้จะคืนชีพได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาไม่รู้จักความกลัว ยิ่งฉันแสดงความหวาดกลัวออกมา พวกเขาก็จะยิ่งเสียขวัญ แล้วโอกาสรอดที่น้อยอยู่แล้วก็จะยิ่งริบหรี่ลง

"คุณแอนไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ" ไมราสะกิดถามด้วยความเป็นห่วง

"ไม่เป็นไรค่ะ พวกเราต้องรีบหาคนอื่นให้เจอ"

ที่ตรงนี้มีแค่ฉัน ไมรา คุณหมอสตีฟและคุณหมอโมนิกา รวมแล้วแค่สี่คนเท่านั้น รู้สึกสบายใจที่อย่างน้อยก็มีคุณหมอสตีฟและไมราที่สามารถป้องกันตัวเองได้ แต่กังวลที่สายรักษาทุกคนอยู่ตรงนี้กันหมด ถ้าเกิดมีใครเจ็บตัวขึ้นมาพวกเขาจะปลอดภัยกันดีไหมนะ

คิดได้แบบนั้นฉันก็ร้อนรนจนอยู่เฉยไม่ได้ เคยคุยกับคุณคามิลเอาไว้ว่าถ้าพลัดหลงกันสิ่งที่ควรทำมากที่สุดคือหาที่ปลอดภัยและรอจนกว่ากลุ่มช่วยเหลือจะตามมาสมทบ แต่ถ้าฝ่ายที่ควรจะมาช่วยกลายเป็นผู้ประสบภัยเสียเองล่ะ

พวกเราสี่คนออกเดินได้ไม่นานก็เจอสมัครพรรคพวกเพิ่ม ทางนั้นคือกลุ่มคุณพอล คุณบิลลีและสมาชิกใหม่คุณเอมิเลียที่เป็นหน่วยกู้ภัย

[ข้อมูลคาแรคเตอร์]

[ชื่อ: เอมิเลีย ธอร์น]

[ฉายา: หน่วยกู้ภัยเจ้าอารมณ์]

[ระดับ: SR (ซุปเปอร์แรร์)]

[ค่าสถานะ: <ปิดซ่อน>]

[รายละเอียด: หน่วยกู้ภัยสาว อารมณ์ร้อน กล้าได้กล้าเสีย แค่คิดจะมีเรื่องก็ต่อยออกไปก่อนแล้ว แม้จะมีนิสัยเหมือนระเบิดที่พร้อมระเบิดได้ทุกเมื่อ แต่เธอเป็นนักกู้ภัยที่มีฝีมือและมีความกล้าหาญไม่แพ้ใคร]

[สกิล: เรสคิว, เฟิร์สเอด, ทัฟ, คอมแบต]

"ติดต่อคุณคามิลได้ไหม" คุณเอมิเลียยิงคำถามมาทันทีที่เจอหน้า

ฉันส่ายหน้าอย่างปวดใจ จนถึงวินาทีก่อนยังหวังว่าทางกลุ่มคุณเอมิเลียจะเป็นฝ่ายบอกเองว่าได้เจอกับคุณคามิลหรือแอน แต่เธอเองก็ไม่มีข่าวคราวเช่นกัน

"พอล บิลลี นายสองคนไปกับคุณแอนนะ ฉันจะแยกไปหาคนอื่น"

"อย่าเลย ที่นี่มีอะไรอยู่บ้างก็ไม่รู้ รวมกลุ่มกันไว้ก่อนดีที่สุด"

"ที่นี่กว้างขนาดไหนรู้ใช่ไหม ถ้ามัวแต่เกาะกันไปหมด เมื่อไหร่จะหาตัวกันพบ"

ฉันเห็นด้วยกับเหตุผลของคุณพอล แต่เหตุผลคุณเอมิเลียก็ไม่ใช่เลื่อนลอย ยิ่งพวกเราเสียเวลาไปมากเท่าไหร่โอกาสที่จะรอดออกไปได้ก็ยิ่งลดลง

ฉันขอให้บิลลีหรือพอลตามคุณเอมิเลียไป ผลสรุปคือคุณบิลลียังอยู่กับทางเรา