webnovel

คลื่นหายนะ (1)

หากนี่เป็นการทำงานในแบบบริษัท ผมก็คงต้องพูดว่าผลประกอบการในไตรมาสแรกของเรานั้นยอดเยี่ยม พวกเราได้เสบียงมามากพอที่จะเลี้ยงคนสักครึ่งร้อยไปได้สักสองปีโดยไม่ต้องหาเพิ่มอีกก็ยังไหว

ด้านอาวุธ พวกเราก็ได้มาไม่น้อย พวกเรายังได้เจอกับค่ายทหารที่กลายมาเป็นเขตปกครองตนเองหลังจากรัฐบาลของแต่ละประเทศล่มสลายไป

ทหารและพลเรือนที่รอดชีวิตจากการแพร่ระบาดรอบแรกยึดค่ายทหารนี้ไว้เป็นฐาน แทนที่พวกเขาจะทำตัวเป็นคนดี ช่วยเหลือผู้รอดชีวิตคนอื่น ๆ ที่ผ่านมาพบพวกเขาเข้า พวกเขากลับทำตัวเป็นโจรเสียเอง

กลุ่มของเราบังเอิญไปเจอกับกลุ่มลาดตระเวนของพวกเขา อีกฝ่ายตั้งใจปล้นอาวุธ เสบียงและจับกุมคนที่บังเอิญมาเจอเอาไว้เป็นทาส แต่กลุ่มนี้ไม่รู้จักเรื่องของ 'ระบบ' เลยสักนิด พวกเขาไม่รู้ตัวว่ากำลังพาตัวเองมาเจอปัญหา เพราะศัตรูที่พวกเขาดันเข้ามายุ่ง พวกเขาไม่มีทางเอาชนะได้

ผมไม่มีทางปล่อยกลุ่มลาดตระเวนกลับไป พวกเราเก็บกวาดพวกนั้นจนเรียบ จากนั้นมิชชันพิเศษก็เด้งขึ้นมาให้ทำ

[มิชชันพิเศษ: ยึดค่ายทหารแคมป์เวิร์นวูด (0/1)]

[รายละเอียด: แคมป์เวิร์นวูดควรจะเป็นค่ายอพยพเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย แต่ฐานทัพกลับถูกเจ้าหน้าที่ไร้สามัญสำนึกยึดเอาไว้เพื่อผลประโยชน์ของตนเอง กำจัดกองกำลังที่ยึดที่นี่ไว้ ขับไล่พวกเขาออกไป]

[รางวัล: 2000 คะแนน]

บอกตามตรงว่าผมไม่ได้อยากยึดที่นี่เอาไว้ ที่นี่ห่างจากซานเชวิลล์ในระยะที่ถึงใช้รถยนต์ก็ต้องใช้เวลาเดินทางสี่ถึงห้าชั่วโมง ถึงแม้ว่ามันจะมีจุดแข็งว่าเหมาะกับการตั้งรับต่อซอมบีหรือศัตรูมากกว่าก็ตาม แต่เทียบกันแล้ว ฐานทัพเดิมของเราอยู่ในหมู่บ้านที่มีป่าห้อมล้อม เป็นปราการธรรมชาติ และนอกจากนั้นที่ดินแถวฐานทัพเดิมก็อุดมสมบูรณ์และยังใกล้แหล่งน้ำอีกด้วย

เหตุผลหลัก ๆ ที่ผมจำต้องเข้ายึดที่นี่จึงเป็นเพราะคะแนนนั่นเอง

2000 คะแนนไม่ใช่ตัวเลขน้อย ๆ นอกจากนั้นเจ้าพวกคนในฐานยังคอยดักปล้นคนมานาน พวกเขาต้องมีอาวุธยุทโธปกรณ์เหลือล้นให้ผมกวาดเรียบอย่างแน่นอน

ดังนั้นอย่างน้อยที่สุดก็ต้องไล่พวกเขาไปให้พ้นฐาน และทำให้กลับมาตั้งหลักก่อปัญหาที่นี่ไม่ได้อีก ผมคิดถึงการเผาทั้งค่ายทิ้ง

"พวกนั้นส่วนใหญ่เป็นทหาร มีทั้งอาวุธ ทั้งถูกฝึกมา อย่าประมาทเชียว" เจนนาเตือนผมซ้ำเป็นรอบที่สี่

"จะรออยู่ตรงนี้ก็ได้นะ"

"ไม่! เกาะติดนายไปเรื่อย ๆ ก็อาจจะกลายเป็นแบบแคทเธอรีนใช่ไหมล่ะ"

ผมไม่สามารถฟันธงได้ว่าเธอคิดถูก ขณะเดียวกันก็ปฏิเสธไม่ได้เต็มปากว่าเป็นไปไม่ได้ อย่างน้อยที่สุดตอนนี้ก็ค่อนข้างแน่ใจว่าแอนมีบางสกิลติดตัวแล้ว

จากข้อมูลที่จอนรวบรวมมาในตอนแรก ค่ายนี้มีคนไม่ต่ำกว่าร้อยคน แต่เมื่อลองเฝ้าสังเกตจากภายนอก เรากลับพบว่าศัตรูมีไม่ถึงครึ่งของที่ควรมี

"พวกมันจับคนเอาไว้ พวกผู้ชายเอาไว้ใช้แรงงาน ส่วนผู้หญิงก็…" จิมมีพูดไม่จบเพราะเขาเห็นสายตาดุ ๆ ที่ส่งมาจากทางแคท

"พวกเดนมนุษย์" หญิงสาวพึมพำพร้อมกับปล่อยจิตสังหารออกมา

ผมอยากได้รับการยืนยันอีกนิดว่าควรลงมือรุนแรงขนาดไหน พวกเราหาจุดบอดของค่ายเจอ จากนั้นก็ให้ชาร์ลีมุดเข้าไปในช่องลม เขาใช้เวลาอยู่พักใหญ่ ๆ ก็กลับมารายงานผล

"ผมเจอคนถูกขังอยู่สิบห้าคนครับ เป็นผู้ชายสามคน ผู้หญิงสิบห้าคน"

"ผู้หญิงเยอะมาก"

"ผมไม่กล้าติดต่อโดยตรง แต่เท่าที่แอบดูแอบฟังมา นักโทษชายแต่ละคนอาการไม่ค่อยดีครับ น่าจะถูกใช้งานหนักแล้วก็ไม่ค่อยได้กินหรือพักผ่อน ดูเหมือนว่าเร็ว ๆ นี้ก็เพิ่งตายไปสองคน ส่วนนักโทษหญิงถูกดูแลดีกว่าเล็กน้อยเพราะพวกนั้นมองเป็นสมบัติครับ" ชาร์ลีอธิบายด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วน ด้วยนิสัยแบบเขา ผมรู้ว่าชาร์ลีพยายามเล่าโดยการกรองบางส่วนออกไปแล้ว แต่มันก็ยังฟังดูแย่

"พวกนี้ไม่ใช่คนแล้ว" มาถึงจุดนี้แม้แต่แอนผู้อ่อนโยนกว่าใครเพื่อนก็ห้ามอารมณ์ไว้ไม่อยู่

พวกเราตัดสินใจว่าจะไม่ออมมือ ต่อให้ต้องใช้วิธีโหดไปสักหน่อยอย่างการยืมมือซอมบีถล่มฐาน พวกเราก็จะทำ

พวกเรารอจนแสงอาทิตย์ลดความสว่างลง แบ่งคนกลุ่มหนึ่งไปล่อซอมบีมา จากนั้นก็ใช้ชาร์ลีช่วยตัดไฟในค่าย

โชคดีที่เชลยถูกขังอยู่ในสถานที่ยากแก่การเข้าถึง พวกเราจึงไม่ต้องกังวลว่าซอมบีที่ปล่อยเข้าไปจะเล่นงานผิดเป้าหมาย และสามารถบุกโจมตีซ้ำได้อย่างสบายใจ

เสียงปืนดังลั่นอยู่ในความมืด บางครั้งจะเห็นประกายไฟวาบขึ้นจากที่ไกล ๆ ซอมบีที่พวกเราล่อมาทำหน้าที่ได้ดีเกินคาด หรือไม่ เจ้าพวกทหารที่ยึดค่ายนี้ไว้ก็อ่อนปวกเปียกจนเกินไป

"แค่ตัดไฟ กับปล่อยซอมบีเข้ามา ได้ผลดีขนาดนี้เลยเหรอ"

"คาดหวังอะไรกับทหารแตกแถวพวกนี้ล่ะ"

พวกเรามีอุปกรณ์มองในที่มืด กำลังคนที่มีฝีมือดี อาวุธครบมือ ในขณะที่ฝ่ายศัตรูมีเพียงกองกำลังทหารที่ขาดระเบียบวินัยทั้งยังสับสนเมื่อถูกทั้งซอมบีบุกรุกและสูญเสียการมองเห็น มันเกือบเรียกไม่ได้ว่านี่คือการต่อสู้

"บ้าจริง พวกมันตัดไฟเรา"

"เหวอ มีซอมบีเข้ามาด้วย"

"อย่าไปกลัวมัน! ยิงทิ้งให้หมด"

กลุ่มหลักของพวกเราวิ่งผ่านห้องทุกห้องที่น่าจะมีศัตรู ความตั้งใจคือถ้าอีกฝ่ายอยากหนีก็จะปล่อยให้หนี แต่ถ้าอีกฝ่ายยังอยากสู้ก็ต้องจัดการไม่ให้เหลือ

นอกจากกลุ่มที่เน้นไปที่การกวาดล้าง แอนขอกำลังส่วนหนึ่งแบ่งไปช่วยเหลือนักโทษ แม้ชาร์ลีจะย้ำหลายหนว่าซอมบีไม่น่าจะไปถึงอาคารคุมขังนักโทษได้ง่าย ๆ แต่เธอก็อยากยืนยันให้แน่ใจว่าเชลยจะปลอดภัย

ผมเคยคิดว่าถ้าถูกต้อนจนถึงจุดหนึ่ง ศัตรูจะยอมทิ้งค่ายไป ผมคงประเมินพวกเขาต่ำเกินไป มีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่หนี พวกเขาอาจจะคิดว่าฝ่ายเราเป็นแค่พลเรือน หรือไม่ก็ถูกผู้บัญชาการบังคับจนไม่กล้าหนี กว่าที่คนเหล่านี้จะรู้สึกตัวได้ว่าควรหนีตอนที่มีโอกาส ทุกอย่างก็สายเกินไปแล้ว