บทที่ 854 ได้เวลาซ้อมใหญ่!
ขณะอยู่ด้านหลังเวที จางเย่บอกกับเหยาเจี้ยนไฉว่าอยากจะพักสายตาเรียบเรียงความคิดสักครู่ แต่ความจริงแล้วเขาแอบเปิดระบบแหวนเกมขึ้นมาอย่างเงียบเชียบ กดเข้าไปยังร้านค้า ซื้อแคปซูลความทรงจำมากลืนลงไปสองเม็ด หลับตา แล้วเริ่มเรียกคืนความทรงจำทั้งหมดเกี่ยวกับการแสดงเซี่ยงเซิงของกัวเต๋อกังออกมา
บนเวที การซ้อมใหญ่เริ่มต้นขึ้น
เสียงดนตรีประกอบดังเป็นจังหวะมาจากด้านหลังเวที ขณะเดียวกันเสียงของเหล่าพิธีกรรายการคืนส่งปีก็ดังประสานขึ้นมา
“ท่านผู้ชมทุกท่าน สวัสดีวันส่งท้ายปีเก่า!”
“ฉันคืออู๋ซา”
“ผมต้าเมิ่ง!”
“และดิฉันต่งซานซาน”
“พวกเราทุกคนจะมาร่วมส่งท้ายปีเก่าไปกับทุกท่าน!”
……
ในอินเทอร์เน็ต
นอกจากรายการคืนส่งปีของ CCTV แล้ว รายการคืนส่งปีของทีวีดาวเทียมช่องอื่นก็ได้รับความสนใจไม่แพ้กัน รายการคืนส่งปีของทีวีดาวเทียมบางช่องถึงกับถูกกล่าวขานว่า ขบวนทัพหรูหราอลังการยิ่งกว่าของ CCTV ด้วยซ้ำ
อย่างเช่นสถานีโทรทัศน์แมงโก้
“ว้าว แมงโก้ทีวีเชิญฮั่วตงฟางมาล่ะ!”
“ประมุขฮั่วผู้เกรียงไกร!”
“ได้ข่าวว่าทุ่มไปไม่น้อยเลย! งานยักษ์จริงๆ!”
“ตอนแรกได้ยินว่าทางรายการคืนส่งปีของ CCTV ก็ตั้งใจจะเชิญเขาเหมือนกันนะ แต่ไม่นึกเลยว่าประมุขฮั่วจะมาที่แมงโก้ทีวีแทน พวกนายดูกำหนดรายการสิ แม้แต่อาจารย์ต้าเหอก็ถูกอัญเชิญลงจากเขามาด้วย!”
“นับๆ ดูแล้ว มีดาราระดับ A ถึงสามคน ระดับ B อีกตั้งเจ็ดคน !”
หรืออย่างเช่นสถานีโทรทัศน์เหลียวหนิง
“ไอ้หยา เจิดจ้าจนตาฉันแทบบอดแล้ว!”
“เหลียวหนิงทีวีปีนี้ก็เอากับเขาด้วยเหรอ?”
“เชิญสตาร์คิงมาด้วย? ได้ข่าวว่าสตาร์คิงไม่มารายการคืนส่งปีนานแล้วไม่ใช่เหรอ?”
“นั่นสิ เขาไปทำงานเติบโตอยู่ที่ฮ่องกงมาตลอด คราวนี้ถือเป็นการมาเวทีคืนส่งปีที่แผ่นดินเกิดเป็นครั้งแรกของเขาเลย!”
“ฉิ*หาย พวกแฟนคลับสตาร์คิงหวีดกันใหญ่แล้ว!”
และอย่างเช่นสถานีโทรทัศน์นครหลวง
“งานคืนส่งปีของ BTV เริ่มซ้อมใหญ่กันแล้ว!”
“เชี่* ในกำหนดรายการทำไมถึงมีชื่อจางเย่กับเหยาเจี้ยนไฉอยู่ด้วยล่ะ?
“อะไรนะ? เรื่องจริงรึหลอก?”
“ฉันจะหลอกนายทำไมเล่า ลองดูเองสิ!”
“หา จริงด้วย! คู่หูสองคนนี้ไปรายการคืนส่งปี BTV แล้ว?”
“ฮ่าๆๆๆ ฉันบอกแล้วไงว่าปีนี้จางเย่ไม่มีทางยอมอยู่เฉยหรอก! รายการคืนส่งปีของ CCTV ไม่เชิญเขา แต่ก็ยังมีสถานีอื่นเชิญเขาอยู่โว้ย!”
“จางเย่เป็นคนของ CCTV ไม่ใช่เหรอ?”
“สัญญาจ้างของเขาเป็นสัญญาอิสระ ไม่มีปัญหาหรอก!”
“จางเย่กับเหยาเจี้ยนไฉจับคู่กัน แสดงว่าต้องเล่นเซี่ยงเซิงกันแน่!”
“อยากดู!”
“แม่* ปีนี้ต้องดูรายการคืนส่งปีของ BTV ให้ได้!”
“BTV สุดยอดจริงๆ ไปเอาอาวุธทำลายล้างอย่างจางเย่มาออกรายการได้ รายการปีนี้ต้องคึกคักแน่นอน นี่มันศึกพยัคฆ์ปะทะมังกรชัดๆ!”
“ไม่แน่หรอก จางเย่เป็นแค่ดาราระดับ B ชั้นแนวหน้า ยังไงชื่อเสียงก็ไม่มีทางเทียบกับดาราระดับ A ได้หรอก”
“ถึงแง่ชื่อเสียงจะเทียบไม่ติด แต่ในแง่การทำรายการจางเย่น่ะสุดยอด ต่อให้สตาร์คิงกับพวกดาราระดับ A ของเธอจะมีชื่อเสียงมากแค่ไหน ให้มาออกรายการคืนส่งปีก็ทำได้อย่างมากแค่ร้องรำทำเพลง ไม่เห็นมีอะไรพิเศษ ก็แค่อาศัยความดังของพวกเขามาดึงดูดผู้ชมเท่านั้น แต่จางเย่ไม่ใช่ การแสดงในรายการที่เกี่ยวกับทักษะภาษาของจางเย่มีคนติดตามมากที่สุด ใครบ้างจะไม่อยากดูเซี่ยงเซิงตอนตรุษจีน? ดังนั้นเวทีในโอกาสพิเศษอย่างคืนส่งปีนี่ ต่อให้คู่หูจางเย่กับเหยาเจี้ยนไฉเป็นแค่ดาราระดับ C หรือ D สตาร์คิงก็ไม่ใช่คู่มือของพวกเขาหรอก ลองให้สภาพแวดล้อมและบรรยากาศเป็นตัวตัดสินสิ เวทีคืนส่งปี ยังไงก็ต้องเป็นรายการภาษาอยู่วันยังค่ำ!”
“BTV แจ๋วไปเลย!”
“ไม่ได้ฟังเซี่ยงเซิงของอาจารย์จางกับอาจารย์เหยามานานโคตร! ต้องดูให้ได้!”
“ไม่รู้ว่าทั้งสองจะพูดเซี่ยงเซิงอะไรในวันซ้อมนะ มีใครได้ไปดูซ้อมสดไหม? อัดเสียงมาให้พวกเราทีเถอะ! คุกเข่าขอล่ะ!”
“ขอร้องด้วย!”
“ขอฟังก่อนก็ยังดี”
เวลานี้เอง พลันมีบัญชีผู้ใช้เวยป๋อบัญชีหนึ่งโพสต์ว่า “ฟู่ว ฉันกำลังอยู่ในห้องส่งล่ะ เริ่มซ้อมแล้ว ตอนนี้เป็นรายการที่สาม ไม่ไกลจากคิวเซี่ยงเซิงของจางเย่กับเหยาเจี้ยนไฉเท่าไรแล้ว ถ้ามีโอกาส ฉันจะพยายามอัดมาสักช่วงนะ ความลับล่ะ ห้ามเผยแพร่”
“โว้ว!”
“ขอบคุณมากเลย!”
“ท่านวีรบุรุษ โปรดรับการคำนับจากข้า!”
“ระวังอย่าให้ถูกจับได้นะ!”
……
ขณะเดียวกัน เมื่อมีข่าวเรื่องจางเย่กับเหยาเจี้ยนไฉจะได้ออกรายการคืนส่งปีของ BTV ปีนี้ปูดออกมา ก็มีการตั้งข้อสงสัยจากวงการเซี่ยงเซิงทุกทิศทาง! ลูกศิษย์ของผู้นำวงการเซี่ยงเซิงอย่างถังต้าจางและสมาชิกในสมาคมเซี่ยงเซิงต่างออกเสียงต่อต้านทันใด หลังจากเหตุการณ์ประกวดเซี่ยงเซิงครั้งใหญ่ที่ CCTV เมื่อปีก่อนเป็นต้นมา วงการเซี่ยงเซิงพากันตำหนิประณามจางเย่ชนิดที่ไม่ตายไม่หยุดพัก
ศิษย์คนหนึ่งของถังต้าจาง “BTV นับวันยิ่งเสื่อมถอย!”
รุ่นน้องของถังต้าจาง “เชิญจางเย่มาแสดงเซี่ยงเซิงนี่ปัญญาอ่อนชัดๆ!”
ศิลปินวงการเซี่ยงเซิงคนหนึ่ง “เซี่ยงเซิงของจางเย่มันไม่ได้เรียกว่าปรากฏการณ์ใหม่เลย แต่มันคือความอัปยศของวงการเซี่ยงเซิง ยังมีคนกล้าเชิญเขาอยู่จริงๆ เรอะ? คืนส่งปีปีนี้ต้องดูเหล่าถังต่างหาก ฉันเคยดูรายการของเหล่าถังตอนซ้อมแล้ว มันดีมาก ทุกคนฝากความหวังไว้ได้เลย”
ประชาชนพากันระเบิดคอมเมนต์ขำขันทันใด
“ไม่ว่าจางเย่จะทำอะไรพวกนายก็ต้องขวางสินะ”
“แสดงเซี่ยงเซิงทีเดียวหกสิบคน? โทษทีว่ะ คาดหวังไม่ไหว!”
ลูกศิษย์ของถังต้าจางคนหนึ่งซึ่งเป็นสมาชิกในกลุ่มหกสิบคนที่จะขึ้นเวทีปีนี้กล่าว “เซี่ยงเซิงของอาจารย์ปีนี้คือสิ่งมหัศจรรย์ และเป็นปรากฏการณ์เหนือชั้น ในฉากจะมีนักแสดงหญิงมาร่วมขับลำเพลงกลองปักกิ่ง(1)ด้วย จะดีหรือแย่ ไว้ดูก็รู้เอง”
……
ณ สถานีโทรทัศน์นครหลวง
ใกล้ได้เวลาแล้ว
สตาฟคนหนึ่งผลักประตูเข้ามา “อาจารย์เหยา อาจารย์จาง จะถึงคิวทั้งสองท่านแล้วค่ะ”
“โอเค” เหยาเจี้ยนไฉลุกขึ้นเดินออกไปพร้อมจางเย่ ระหว่างทาง เหยาเจี้ยนไฉส่งมือถือให้จางเย่ดูคำด่าทอบนเวยป๋อ “วงการเซี่ยงเซิงนี่หาเรื่องนายไม่จบไม่สิ้นแฮะ”
จางเย่พูดไม่ออก “เซี่ยงเซิงของไอ้ถังต้าจางนั่น มีขับลำเพลงกลองปักกิ่งด้วยเรอะ?”
เหยาเจี้ยนไฉว่า “แถมเป็นผู้หญิงด้วยนะ”
“เอาเถอะ” จางเย่หัวเราะขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ “ให้พวกนั้นชนะไปเลย”
เดินไปเข้าแถวหลังเวทีเสร็จ ทั้งสองก็ซ้อมบทกันต่อ ซึ่งความจริงก็เป็นแค่การนัดแนะคร่าวๆ เพราะเวลาจางเย่แสดงเซี่ยงเซิงนั้นน้อยมากที่จะมีสคริปต์พูด บางทีนึกขึ้นมาได้ก็เล่นเลย เหยาเจี้ยนไฉเองก็เชี่ยวชาญ รับมุกได้ทุกครั้ง ทั้งสองคนร่วมมือเข้าขากันได้ดีมาโดยตลอด คงเพราะเป็นคู่หูกันมานานแล้ว
ทางด้านหน้า
ฆ้องกลองบนเวทียักษ์ดังกระหึ่มก้อง เป็นการแสดงกายกรรมอันยิ่งใหญ่
จางเย่กับเหยาเจี้ยนไฉต้องขึ้นแสดงบนเวทีอีกแห่งที่มีขนาดเล็กกว่า ถัดไปเป็นคิวพวกเขาแล้ว บนเวทีมีขาไมโครโฟนตั้งอยู่เรียบร้อย
ต่งซานซานยืนอยู่อีกด้าน เตรียมพร้อมรอประกาศรายการถัดไป
งานคืนส่งปีทุกวันนี้มีหลายแห่งที่แบ่งออกเป็นสองเวที นั่นคือเวทีหลักและเวทีรอง เพราะเป็นการถ่ายทอดสดทั้งหมด หลายๆ รายการจึงต้องเตรียมอุปกรณ์ประกอบค่อนข้างมาก ทั้งยังมีขนาดใหญ่ แค่เพียงการพูดคั่นเวลาของพิธีกรนั้นไม่เพียงพอที่จะเตรียมอุปกรณ์ทั้งหมดให้พร้อมได้ ดังนั้นจึงต้องแยกออกเป็นสองเวที
ด้านล่างเวทีมีคนนั่งอยู่จำนวนไม่น้อย แต่เมื่อเทียบกับจำนวนเก้าอี้ที่ว่างอยู่ มองไปแล้วก็ไม่มากเท่าไร ที่นั่งนั้นไม่เต็มแน่นอน แต่ความจริงในห้องส่งก็มีคนอยู่นับร้อยแล้ว มีทั้งคนจากฝ่ายสังเกตการณ์ ทั้งผู้บริหารและเหล่าพนักงาน BTV ทั้งยังมีศิลปินดาราที่แสดงเสร็จแล้วบางส่วน ต่างมาจับจองที่นั่งดูการแสดงอยู่ด้านล่างเวที
เมื่อจางเย่ก้มไปดูก็มองเห็นหูเฟย เสียวหลวี่ ต้าเฟย โหวเกอ โหวตี้ อดีตเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ และยังมองเห็นใบหน้าคนที่คุ้นเคยอีกด้วย เช่นผู้กำกับใหญ่ฉางเสี่ยวเลี่ยง หรืออย่างหญิงชราท่าทางใจดีผู้นั้น——ผู้ซึ่งเป็นหัวหน้าสถานีโทรทัศน์นครหลวง คนที่เคยลงมือช่วยจางเย่เมื่อครั้งทำโฆษณารณรงค์งดสูบบุหรี่นั่นเอง
ทันใดนั้น เสียงดนตรีก็หยุดลง
การแสดงกายกรรมบนเวทีหลักจบลงแล้ว!
ทางต่งซานซานรับช่วงออกหน้ากล้องต่อ พร้อมกับพิธีกรชายที่อยู่ข้างๆ
พิธีกรชาย “กายกรรมที่จบไปเมื่อสักครู่สุดยอดจริงๆ นะครับ”
ต่งซานซาน “ใช่ค่ะ ดิฉันดูแล้วใจเต้นไม่เป็นส่ำเลย หวาดเสียวแทนพวกเขาจริงๆ ”
พิธีกรชาย “ฮ่าๆ ทุกคนเป็นมืออาชีพกันทั้งนั้น ไม่มีทางก่อเรื่องอะไรแน่นอนครับ”
ต่งซานซานหัวเราะพลางกล่าว “แต่การแสดงของสองคนถัดไป ท่าทางจะก่อเรื่องอยู่บ่อยๆ นะคะ”
พิธีกรชายชะงัก “ถ้าคุณจะพูดขนาดนี้นะ อึก แต่ผมก็ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ครับ”
เหล่าผู้บริหารและพนักงานที่อยู่ด้านล่างเวทีพากันหัวเราะครืน
หัวหน้าสถานีอมยิ้มพลางถาม “ใครเป็นคนคิดบทพูดพวกนี้รึ?”
รองหัวหน้าสถานีหัวเราะพลางส่ายหน้า
ฉางเสี่ยวเลี่ยงตอบ “พวกเขาคิดกันเองครับ ผมเองก็ดูไปรอบเดียว”
เสียวหลวี่หันมากระซิบกับคนข้างๆ “น่าจะถึงตาอาจารย์จางแล้วล่ะ!”
ต้าเฟยพูดอย่างตื่นเต้น “รอมานานแล้ว!”
โหวเกอโบกมือถือไปมา หัวเราะพลางกล่าว “ดูสิ คนวงการเซี่ยงเซิงเริ่มเปิดฉากด่าอาจารย์จางอีกแล้ว”
โหวตี้เอ่ย “ไม่รู้เหมือนกันว่าปีนี้อาจารย์จางจะพูดหัวข้ออะไร”
“เพื่อรักษาความลับในการแสดง ส่วนใหญ่การซ้อมวันนี้ก็เลยไม่ให้เผยไม้ตายของแท้ออกมาน่ะ ที่กำลังจะแสดงกันนี่เป็น ‘การแสดงปลอมๆ ’ ทั้งนั้น” หูเฟยว่า
เสียวหลวี่ฉงน “หมายความว่ายังไงเหรอคะ?”
ต้าเฟยสลดลงทันใด “แล้วกัน ทำไมไม่แสดงของจริงวันนี้เลยล่ะ?”
หูเฟยหัวเราะ “อยากดูให้สนุกก็ไว้รอดูวันจริงเถอะ”
โดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น ท่ามกลางกลุ่มคน มีบุคคลผู้หนึ่งแอบสอดมือเข้าไปในกระเป๋า แล้วกดอัดเสียงอย่างลับๆ เขาไม่สนหรอกว่าจะเป็นการแสดงจริงหรือปลอม นี่คือเซี่ยงเซิงของจางเย่ ยังไงก็ต้องอัดไว้ จะพลาดไม่ได้!
*************
京韵大鼓 การขับลำเพลงกลองปักกิ่ง คือการแสดงดนตรีพื้นบ้านชนิดหนึ่งของปักกิ่ง เครื่องดนตรีประกอบด้วยกลอง เครื่องดีด หรือเครื่องสี อย่างละชิ้น โดยผู้ขับร้องลำเพลงเป็นทำนองพื้นบ้านของปักกิ่งจะเป็นผู้ตีกลอง