webnovel

ตอนที่ 18 พร้อมลุย

หลังจากสารวัตรพลกลับลงไปและไปประชุมที่กรุงเทพฯ ได้อาทิตย์กว่าๆ ในคืนวันหนึ่งก็ติดต่อกลับมาผ่านทางเทเลคอนเฟอร์เรนท์กับคุณหมอนิลลี่ โดยให้ไปตามณัฐมาร่วมฟังแผนการปฏิบัติงานที่ได้คุยกับทางเจ้านายและทางพม่าเรียบร้อยแล้ว

"สวัสดีครับ คุณหมอ ช่วยไปตามณัฐมาฟังแผนการด้วยนะครับ"

"ได้ค่ะ รอสักครู่คุณณัฐอยู่เพิงหน้าบ้านพอดีค่ะ"

สักพักหมอนิลลี่ก็ไปตามณัฐเข้ามาฟังแผนการทำงาน

"เป็นไงหายไปตั้งอาทิตย์ ได้อะไรมาบ้างวะ ไอ้พล" ณัฐกล่าวทักทายเพื่อน

"ก็ต้องได้สิวะ ไม่งั้นจะติดต่อมาทำไม"

"ตามนี้นะ เราจะเริ่มขึ้นไปปฏิบัติการเมื่อรู้ว่าหัวหน้าใหญ่มันจะมาที่ไร่ฝิ่นเมื่อไหร่ เพื่อจะได้จับตัวทีเดียวครบทั้งแก๊ง"

"เข้าใจ" ณัฐบอก

"ช่วงนี้ได้ข่าวอะไรเพิ่มเติมบ้างไหมเรื่องหัวหน้าใหญ่มันว่าจะมาที่บนดอยเมื่อไหร่"

"ตั้งแต่สารวัตรลงไป หมอก็หาเรื่องไปเยี่ยมที่เพิงเกือบทุกวัน โดยคุณณัฐก็ไปด้วยทุกครั้ง"

"แล้วได้ข่าวอะไรบ้างไหมวะ ไอ้ณัฐ"

"โชคดีหว่ะ ได้สิ แหมมีทั้งคนทั้งหุ่นยนต์ตามเก็บข้อมูลขนาดนี้ ข้าได้ข่าวว่านายใหญ่ของพวกมันจะขึ้นมาบนดอย วันพฤหัสที่จะถึงนี้ก็อีก 3 วันได้ สถานที่ก็คงรังของมัน แต่ติดตรงที่ไม่รู้เวลาที่แน่นอน"

"แค่นี้ก็ได้ประโยชน์มากแล้ว แต่ทำยังไงเหลือเวลาอีก 3 วันจะหาข้อมูลเพิ่มได้ว่านายใหญ่มันจะมากี่โมง"

"อืม เดี๋ยวปล่อยหุ่นยนต์ตามเฉพาะ เจ้าเอก เจ้ามิ่งและพี่นิ่มดูค่ะ เผื่อจะได้ข้อมูลเพิ่มขึ้นเรื่องเวลามากกว่านี้"

"ก็ดีเหมือนกันครับ ทางนี้เตรียมกำลังไว้พร้อมแล้วอยู่ที่กรุงเทพส่วนหนึ่งอีกส่วนหนึ่งอยู่ที่เชิงดอยมอมแมมแล้ว ตอนนี้ตัวข้าอยู่ที่เชิงดอยแล้ว โดยจะขึ้นไปวันพุธค่ำๆ เพื่อไปวางกำลังและวางแผนหน้างานเพิ่มอีกทีหนึ่ง โดยจะมีตำรวจสายสืบของทั้งพม่าและไทยจะแอบขึ้นไปลักษณะของชาวบ้านเดินเก็บของป่า และอาชินกับโบจะส่งไปนอนป่วยอยู่ที่บ้านริมน้ำเพื่อไม่เป็นที่สังเกต"

"เข้าใจแล้ว แล้วเอ็งหล่ะจะทำอะไรตรงไหน แล้วมีนายเอ็งมาด้วยไหม หรือมอบหมายให้เอ็งเป็นหัวหน้าทีม"

"นายที่เป็นเจ้านายของเขตภาคเหนือเป็นหัวหน้าทีม ส่วนข้าเป็นแค่คนประสานงานต่างๆ โดยนอกจากทีมที่ข้าบอกไปเมื่อกี๊ จะมีตำรวจตระเวนชายแดน ตรงที่เลยจากดอยมอมแมมไปหน่อยจะช่วยในการจับกุมด้วย เผื่อทางคนร้ายหนีไปด้านนั้น"

"รอบคอบดีค่ะ"

"และก็มีทหารที่ดูแลในเขตขอบตะเข็บของทั้งฝั่งนี้และพม่าช่วยดูแลอีกที งานนี้งานช้างเลยใช้ทั้งตำรวจ ทหารและตำรวจตระเวนชายแดน ของทั้ง 2 ฝั่งเลยทีเดียว ถ้าเป็นแค่คนไม่ใช่นกก็น่าจะจับกุมตัวได้"

"พูดถึงนก แล้วได้มีการวางแผนการจับกุมเผื่อคนร้ายมีเครื่องบินหรือเฮลิคอปเตอร์ ในการหลบหนีบ้างไหมคะ"

"โห คุณหมอนี่รอบคอบว่าทางตำรวจอีกครับ เหมือนจะไม่มีครับ"

"เอางี้นะคะ ฝากคุณพลไปแจ้งกับทางทีมงานด้วย ว่าเดี๋ยวจะสร้างหุ่นยนต์ต่อสู้ที่บินได้เพิ่มให้ 1 ตัว ให้ไปทำงานร่วมกับมูมู่ในการไล่ต้อนเผื่อคนร้ายหนีทางอากาศค่ะ โดยหุ่นยนต์จะมีอาวุธครบแบบทหารเลย"

"เวลาเหลือแค่ 2 คืน คุณหมอทำทันนะครับ"

"คืนเดียวก็เสร็จแล้วค่ะ มีแพลนการสร้างของมูมู่อยู่ แค่ลงโปรแกรมสร้างคืนเดียวก็เสร็จแล้ว ไม่ยากอะไรค่ะ"

"สุดยอดเลยครับ เดี๋ยวผมแจ้งทางเจ้านายเพิ่มให้ ก็ดีเหมือนกันใช้หุ่นยนต์ของคุณหมอก็ไม่ต้องประสานงานกับทางทหารเพิ่ม"

"หุ่นยนต์ของหมอไม่ต้องใช้พื้นที่เวลาขึ้นบินลงจอดด้วย ขนาดเท่าคนมีความไวพอเทียบกับจรวดทีเดียวค่ะ"

"จริง แม่หมอพูดจริง ข้าเคยเห็นมูมู่ตอนพาตุ๊ดตู่หนีคราวก่อนแล้ว แปลงร่างไว บินไวอย่างกับจรวดเลย ไว้ใจแม่หมอของข้าได้"

"แม่หมอของใคร ไอ้ณัฐ แม่หมอของข้าตังหาก เอาเป็นว่าข้าเชื่อมือคุณหมอ แล้วเรื่องที่ฝากหาข้อมูลอย่าลืมหล่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะติดต่อมาอีกครั้ง"

แล้วสัญญาณก็ถูกตัดหายไป วันรุ่งขึ้นหมอนิลลี่ก็เลยหาโอกาสไปที่เพิงเยี่ยมพี่ก๊อกแก๊กในช่วงสายและจะได้แวะไปเยี่ยมพี่มิ่งที่ไร่ฝิ่นด้วย พร้อมหาโอกาสแอบใส่หุ่นตัวเล็กติดตามตัวไว้ที่ตัวพี่นิ่ม พี่มิ่งและเอกด้วย เพื่อหาข้อมูลว่านายใหญ่จะมาถึงที่ไร่เวลากี่โมง

"สวัสดีค่ะ เป็นยังไงกันบ้างพี่นิ่ม พี่ก๊อกแก๊ก" หมอนิลลี่ทักทาย

"สวัสดีครับ สบายดีกันไหมครับ" ณัฐทักทายด้วยอีกคน

"อ้าวคุณหมอมาหรือค่ะ"

"สวัสดีครับคุณหมอ คุณณัฐ วันนี้ลมอะไรหอบมาครับนี่ เชิญนั่ง กินน้ำกินท่ากันก่อน แม่นิ่มเตรียมของว่างน้ำท่ามารับแขกหน่อย"

"สวัสดีค่ะ คุณหมอรอแป๊ปนะคะ"

แล้วแม่นิ่มก็หายไปสักพักแล้วกลับมาพร้อมกับน้ำและขนม

"วันนี้ว่างเลยแวะมาดูแผลที่ตาให้ค่ะ และมาตรวจร่างกายทั้ง 2 คนให้อีกครั้งด้วยค่ะ"

"ได้ครับ" ก๊อกแก๊กตอบ

"ได้ค่ะ" พี่นิ่มตอบเช่นกัน

"มูมู่ตรวจร่างกาย เช็คอัพให้หน่อยจ้า"

มูมู่ก็เข้าไปตรวจร่างกายพร้อมติดตั้งหุ่นยนต์ชนิดที่สามารถติดไว้กับผิวหนังคนได้ ติดไว้ที่ทั้งพี่ก๊อกแก๊กและพี่นิ่ม พอตรวจเสร็จก็กลับมารายงานผลให้หมอนิลลี่ดู

"พี่นิ่มก็ไม่มีอะไรน่าห่วงปกติดี ส่วนแผลที่ตาของพี่ก๊อกแก๊กเป็นปกติแล้วนะคะ ตอนนี้การมองเห็นเป็นอย่างไรบ้างคะ"

"ยังมีเคืองตาเวลาโดนแสงบ้างครับ โดยรวมมองเห็นได้ดีมากเลย ผมเป็นหนี้บุญคุณคุณหมอมากเลยครับ"

"อย่างที่บอกค่ะ หลังผ่าตัดห้ามโดนแสงอยู่อีกหลายอาทิตย์เหมือนกัน ยังไงก็ต้องระวังเรื่องแสงต่อนะคะ"

"ได้ครับ"

"ถ้าอย่างงั้น พวกเราขอตัวกลับก่อนนะคะ แล้วจะมาดูตาให้เรื่อยๆ ค่ะ" ดร.นิลลี่บอก

"ผมขอตัวกลับเช่นกันครับ" ณัฐกล่าวเช่นกัน

"ลาก่อนครับ คุณหมอ"

"ขอบคุณคุณหมอมากๆ เลยค่ะ ที่ไม่เคยทิ้งกัน"

"ยินดีค่ะ มีอะไรเดินไปหาที่บ้านได้นะคะ"

แล้วทั้งหมดก็เดินทางต่อไปที่ไร่ฝิ่น เมื่อมาถึงที่กระท่อม

"พวกคุณหมอมาที่นี่ทำไม อย่านึกว่ารักษาผมหายแล้วจะเข้านอกออกในที่นี่ได้ตามอำเภอใจ" เสียงมิ่งตะโกนถาม

"ใจเย็นพ่อมิ่ง หมอมาเยี่ยมเยียนตรวจร่างกาย คราวก่อนพ่อมิ่งป่วยเป็นไข้เลือดออกเกือบตาย ตั้งแต่หายก็ยังไม่เคยไปให้หมอตรวจร่างกายเจาะเลือดเพิ่มอีกเลย" ดร.นิลลี่ตอบ

"หายแล้วก็สบายดี ทำไมต้องไปหาหมออีก" ไอ้มิ่งตอบกลับมา

"คราวก่อนไตทำงานผิดปกติ ถึงหายแล้วไตก็อาจจะยังหายไม่สนิทหมอเลยมาตรวจเรื่องไตให้"

"ก็ได้ก็ได้ รีบตรวจรีบไปนะ"

"แล้วพ่อเอกกับลูกน้องคนอื่นอยู่ไหม พามาตรวจร่างกายให้หมดเลย เป็นโรคติดต่อมีคนหนึ่งเป็นคนอื่นก็อาจจะติดได้ อยู่กลางป่าแบบนี้ยุงก็เยอะ"

"เรื่องมากจริงแม่หมอ เดี๋ยวไปตามให้ นี่เห็นว่าคราวก่อนช่วยชีวิตข้าไว้ ข้าถึงยอมนะ ไม่งั้นมีเป่าดับตั้งแต่เดินเข้ามาแล้ว รีบตรวจรีบไปหล่ะ"

"มีใครอยู่แถวนี้บ้างวะ ไปตามไอ้เอกกับคนอื่นๆ มาตรวจร่างกายกับไอ้แม่หมอมันหน่อย จะได้รีบๆ กลับ รำคาญ"

"ครับๆ" เสียงลูกน้องคนหนึ่งรับปาก

สักพักก็มีเอก ลูกน้องอื่นๆ อีกสัก 5 คนมาให้หมอนิลลี่ตรวจร่างกาย

"มูมู่ตรวจเช็คอัพ กับตรวจเลือดเช็คอัพนะ ทุกคนเลย"

สักพักมูมู่ก็ตรวจร่างกายเจาะเลือดทุกคนพร้อมฝังหุ่นยนต์ไว้กับผิวหนังของเอกกับมิ่งเรียบร้อย ก็กลับมารายงานผลให้นิลลี่รู้

"เรียบร้อย พ่อมิ่งหายดีแล้วจริงๆ ด้วย ส่วนคนอื่นๆ ก็ปกติดีค่ะ"

"งั้นก็กลับไปได้แล้ว จำไว้นะห้ามบอกใคร รวมทั้งแกด้วยไอ้ลูกพ่อหลวงอย่าไปบอกตำรวจหล่ะ" เสียงพ่อเอกบอก

"ไปได้แล้วเดี๋ยวข้าเป่าดับตรงนี้หรอก" เสียงมิ่งออกปากไล่อีกคน

"ไม่ต้องห่วงพวกข้าไม่บอกใครแน่นอน ไปแล้ว" เสียงณัฐบอก

"ไปแล้วเช่นกันค่ะ"

แล้วทั้ง 3 คนก็ออกเดินทางกลับมาที่บ้านริมน้ำ สารวัตรติดต่อมาช่วงหัวค่ำ ทั้งหมอนิลลี่กับณัฐก็บอกว่า

"เรียบร้อยตามที่วางแผนไว้ ไปติดหุ่นยนต์ติดตามตัวไว้เรียบร้อย"

"เก่งมากเลยหว่ะ งั้นข้อมูลคงต้องรอ เจอกันวันพุธเลย แล้วหุ่นยนต์เครื่องบินของคุณหมอทางเจ้านายอนุญาตแล้ว ก็รบกวนคุณหมอประดิษฐ์ไว้รอได้เลยครับ"

"ได้เลยค่ะ"

"ลาหล่ะครับ ลาไอ้ณัฐเจอกันวันพุธค่ำครับ หวังว่าจะรู้เวลาที่นายใหญ่ของมันมา"

"ยังไงคืนวันอังคารหรือวันพุธก็น่าจะรู้ค่ะ ถ้านายใหญ่มันมาวันพฤหัสแน่ๆ พวกมันต้องเตรียมตัวต้อนรับ ต้องมีคุยอะไรกันบ้าง"

"ตามนั้นครับ เจอกัน"

"สวัสดีค่ะ เจอกันวันพุธ"

"เจอกันวันพุธ ไอ้พล"

แล้วคืนนั้นหมอนิลลี่ก็ง่วนกับการสร้างหุ่นยนต์ต่อสู้ที่สามารถบินได้จนดึก ระหว่างที่ทำการสร้างหุ่นยนต์นั้น ก็รู้สึกว่ามีคนแอบมองจากทางหน้าต่างอีกแล้ว ก็เหมือนทุกครั้งหันไปก็ไม่เจอใครอีกตามเคย ส่วนณัฐเองก็อยู่ที่เพิง เก็บข้อมูลของคนในเพิงตามเคย และพอเข้านอนนิลลี่ก็ฝันร้ายอีก

"ช่วยด้วย ช่วยด้วย" เสียงตะโกนร้องของหมอนิลลี่

ครั้งนี้ดังกว่าทุกครั้ง จนทำให้ณัฐที่อยู่ที่เพิงได้ยิน ต้องวิ่งเข้ามาเพื่อจะช่วยเหลือ แต่พอมาถึงกลับเห็นว่าหมอนิลลี่ละเมอแล้วโผลมากอด เหมือนคราวที่แล้ว แต่คราวนี้ดูเหมือนว่าจะร้องไห้กอดแน่นกว่าคราวก่อนและยังไม่ตื่น จนต้องปลุกให้ตื่น

"แม่หมอ แม่หมอ"

หมอนิลลี่ลืมตาตื่นขึ้น แต่ยังไม่ทันรู้ตัวดีก็ทำสีหน้าตกใจกลัวอีก จนณัฐต้องดึงตัวไปกอดลูบหลังและปลอบว่า

"ผมเองณัฐครับ ปลอดภัยแล้ว ไม่ต้องกลัว"

แล้วอาการหวาดกลัวก็หายลง แต่ยังมีร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ที่อกของณัฐ คราวนี้ดูเหมือนจะฝันร้ายหนักกว่าคราวไหนๆ ถึงขั้นกอดณัฐสะอึกสะอื้นไม่ยอมปล่อย ณัฐเองก็งงและประหลาดใจไม่น้อย ว่าหมอนิลลี่ฝันอะไรถึงได้เป็นได้ขนาดนี้ ปกติเป็นคนเก่งไม่กลัวอะไร แต่ทำไมกลัวอะไรในฝัน หรือมีอะไรมาทำให้หมอกลัวได้ขนาดนี้

"แม่หมอ ฝันอะไร ทำไมกลัวแบบนี้ พอจะเล่าให้ฟังได้ไหม"

ณัฐอดถามไม่ได้หลังจากปลอบจนอาการกลัวลดลง

"ไม่เป็นไรค่ะ แค่ฝันเอง จำไม่ได้ด้วย" หมอนิลลี่โกหกไป เพราะไม่อยากให้รู้เบื้องหลังว่าเกิดอะไรขึ้นเธอถึงมาโผล่ที่หมู่บ้านดอยมอมแมมนี้

"จำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร คนดีของผม ขวัญเอย ขวัญมา" แล้วก็ส่งสายตาอบอุ่นอ่อนโยนมาปลอบประโลม

"ขวัญมาแล้วค่ะ" แต่คราวนี้หมอนิลลี่เองก็เปลี่ยนไป ยังคงนิ่งสงบอยู่ที่อ้อมกอดของณัฐ ซบอกที่อบอุ่นนั้นต่อไป ประหนึ่งเด็กน้อยขาดความอบอุ่น และก็ปล่อยอารมณ์ไปตามสายตาหวานซึ้งคู่นั้น หมอนิลลี่เองคราวนี้เหนื่อยที่จะฝืนใจตัวเอง เลยปล่อยสายตาที่เคยแอบซ่อนไว้ออกไปเช่นกัน สายตาหวานสองคู่มาประสานกัน บ่งบอกความในใจของคนทั้งสองเป็นอย่างดี

ณัฐรับรู้ถึงความรู้สึกจากสายตาคู่นั้นของหมอนิลลี่ได้เช่นกัน และเห็นว่ายังดึกอยู่ จึงได้บอกว่า

"ยังดึกอยู่เลย นอนต่อดีกว่านะ คนดีของผม เดี๋ยวคืนนี้ผมจะอยู่เป็นเพื่อนจนเช้าเลย"

แล้วก็ก้มลงมาจุมพิตที่เปลือกตาที่ยังมีคราบน้ำตาทั้งคู่ของหมอนิลลี่อย่างอ่อนโยนนุ่มนวล แปลกที่วันนี้หมอนิลลี่เองก็ไม่หลบหนี ไปฝืน ปล่อยไปตามอารมณ์เช่นกัน เมื่อเห็นว่าหมอนิลลี่ไม่ขัดขืน ณัฐเองก็ปลดปล่อยอารมณ์ความรักออกมาอย่างเต็มที่เช่นกัน โดยไล่จุมพิตตามส่วนต่างๆ ของใบหน้า จนมาถึงริมฝีปากบอบบางคู่งามนั้น และก็โลมเลียจุมพิตอย่างนุ่มนวลกันอย่างเนิ่นนาน จนหมอนิลลี่เองก็จูบตอบสนองอย่างนุ่มนวลเช่นกัน

ความรักที่เก็บซ่อนไว้ของทั้งสองเหมือนกำลังจะถูกเปิดเผยออกมาอย่างสิ้นเชิง โดยณัฐเองก็เริ่มที่จะโลมเลียไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกายหมอนิลลี่ กำลังก้มหน้ามาจูบและอ้อยอิ่งที่เนินอกอวบอิ่มของหมอนิลลี่ พร้อมมือทั้งสองข้างที่เริ่มจะซุกซนอยู่ที่บริเวณเดียวกัน

"พอค่ะ พอค่ะ" พลันหมอนิลลี่ก็ทำณัฐหลุดออกจากภวังค์ เพราะหมอนิลลี่เริ่มรู้ตัวและระงับอารมณ์ความรักความปรารถนาลงได้ ทำเอาไฟในตัวณัฐเองก็มอดดับลง เพราะไม่อยากจะใช้กำลังฝืนใจคนที่ตนรักนั่นเอง

"ผมขอโทษครับ ที่ทำอะไรเกินเลยกับแม่หมอไป" พร้อมส่งสายตาหวานละมุมให้ต่อราวกับอ้อนวอนให้หมอนิลลี่ยินยอมกับฉากรักหวานซึ้งนั้นดำเนินต่อไป

แต่ความฝันก็ต้องดับวูบลง เพราะว่าหมอนิลลี่ไม่ยินยอมกับฉากรักนั้นต่อ

"ไม่เป็นไรค่ะ ถ้าคุณจะอยู่เป็นเพื่อน ชั้นก็ยินดีนะคะ แต่ไม่มีอะไรเกินเลยกว่านี้ค่ะ"

หมอนิลลี่อยู่ๆ ก็เปลี่ยนสรรพนามแทนตัวเองและยังยินยอมให้ณัฐอยู่เป็นเพื่อนต่อ ซึ่งณัฐเองก็รับรู้ถึงสิ่งที่เปลี่ยนแปลงนั้น ในใจแอบรู้สึกดีใจไม่น้อย อย่างน้อยเธอก็ตอบสนองเขา ไม่ขัดขืนเหมือนทุกครั้ง แล้วหมอนิลลี่ก็หลับต่อโดยมีณัฐนอนกุมมืออยู่ข้างๆ จนสว่าง

ทั้งสองเองตอนนี้ก็ไม่ปกปิดสายตาความรู้สึกที่มีต่อกัน แสดงความหวานละมุมต่อกันตลอดเวลาที่อยู่กันสองคน จนกระทั่งเช้าวันพุธ ข้อมูลที่ทุกคนต้องการก็ถูกส่งมาจากหุ่นยนต์ที่ติดไว้กับกลุ่มคนร้ายนั่นเอง พอสารวัตรขึ้นมาตอนหัวค่ำ ทุกอย่างก็พร้อมจะดำเนินการตามแผนที่วางไว้ โดยสารวัตรกับรวยเองก็แอบสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของในสายตาของทั้งสองคนที่มองซึ่งกันและกันเช่นกัน

อ่านแล้วชอบไหม เพิ่มในคลังหนังสือเลยสิ!

DrNillycreators' thoughts
Chapitre suivant