เมื่อรวบรวมข้อมูลจากหุ่นยนต์ที่ติดอยู่บนตัวของนิ่ม ก๊อกแก๊ก มิ่งและเอกแล้ว ก็สรุปเวลาของนายใหญ่ได้ว่าจะมาเมื่อไหร่ ไปที่ไหนบ้าง แม้กระทั่งจำนวนคนที่ออกดูแลแต่ละจุดที่ไปนั้นมีแค่ไหน ทำให้ง่ายต่อการวางแผนจับกุม รวมไปถึงการวางแผนสำรองหากคนร้ายหลบหนีเปลี่ยนเส้นทางต่างๆ นอกจากนั้นหุ่นยนต์เก็บหลักฐานยังสามารถสำรวจเส้นทางหลบหนีที่เป็นไปได้ทั้งหมด ไว้ให้ด้วยซึ่งข้อมูลเหล่านี้เองก็ได้ฝังไว้กับมูมู่และหุ่นยนต์นักรบที่สร้างเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งตัว
ค่ำวันพุธหมอนิลลี่ช่วยนำเสนอข้อมูลเหล่านี้ให้กับทีมตำรวจและทหารทั้งไทยและพม่าฟังผ่านทางเทเลคอนเฟอเรนท์ พร้อมกับวางแผนรายละเอียดของการจับกุมแก๊งค้ายาข้ามชาติไม่อยากให้มีความผิดพลาดเกิดขึ้น โดยมีณัฐนั่งส่งสายตาหวานละมุนให้ตลอดเวลา
เนื่องจากแต่ละทีมได้กระจายกำลังกันอยู่ในบริเวณของตนเองเรียบร้อยแล้ว เพื่อไม่ให้มีการรวมกลุ่มให้เห็นเป็นจุดเด่นนั่นเอง
เช้าวันรุ่งขึ้นทุกคนออกทำงานตามแผนการต่างๆ โดยข้อมูลที่ได้คือนายใหญ่จะมาถึงที่หมู่บ้านฝั่งพม่าช่วงสายๆ และจะข้ามเรือมากับชาวบ้านที่เดินทางไปมาเป็นประจำอยู่แล้ว เพื่อเดินทางเข้าไปในป่า ดูไร่ฝิ่น โดยใช้เส้นทางป่ารกทึบด้านหน้าหมู่บ้าน ไม่ให้ชาวบ้านในหมู่บ้านเห็น
ทีมสารวัตรรวมทั้งหุ่นยนต์นักรบของหมอนิลลี่จะรอดักสกัดจับอยู่ที่ไร่ฝิ่น หมอนิลลี่กับณัฐเองให้รอสังเกตการณ์อยู่ที่บ้านริมน้ำ
เมื่อถึงเวลาที่นายใหญ่มาถึงที่ฝั่งพม่า ทหารพม่าและทหารไทยตรงตำแหน่งนั้นได้ส่งสัญญาณมาให้ทางทีมสารวัตรรับทราบ แล้วนายใหญ่ก็เดินทางตามเส้นทางที่กำหนดไว้เข้ามาในไร่ฝิ่น ตามกำหนดการจริงๆ ทางทีมตำรวจได้ดักรอไว้อยู่แล้ว เมื่อนายใหญ่มาถึงไร่ฝิ่น ได้ไม่นานก็กระจายกำลังเพื่อเข้าจับกุม
เกิดการต่อสู้กันเกิดขึ้น มีการเผชิญหน้าของทางการตำรวจพม่ากับนายใหญ่
"มอบตัวซะดีดี ไอ้ทีฮะ รอคอยที่จะรวบตัวเอ็งมานานแล้ว วันนี้ต่อให้ติดปีกบินก็หนีไม่พ้นพวกเราหรอก" เสียงตำรวจพม่า พูดกับหัวหน้าใหญ่
"พวกเอ็งดูถูกพวกข้าเกินไปแล้ว อย่าลืมนะว่าแกพวกแกไล่ล่าข้ามากี่ปีแล้ว และทุกครั้งแม้เงาข้าแกยังไม่เห็นเลย คราวนี้ถือว่าแน่มากที่เข้าใกล้ตัวข้าได้โดยที่ข้าไม่รู้"
แล้วกองกำลังพม่าก็ต่อสู้กับกองกำลังของตำรวจไทยและพม่าที่รุมล้อม ต่างฝ่ายต่างบาดเจ็บล้มตาย จนกระทั่งทางหัวหน้าแก๊งเห็นช่องทางหลบหนี ซึ่งเป็นเส้นทางเหนือความคาดเดาของทีมผู้จับกุม ทำให้ทีฮะกับมิ่งและเอก ซึ่งเป็นมือขวาและซ้ายหลุดรอดมาถึงเพิงของก๊อกแก๊ก ซึ่งทางนี้มีรวย ณัฐและหมอนิลลี่เฝ้าอยู่เท่านั้น เพราะเป็นเส้นทางนอกเหนือกับที่วางแผนดักจับไว้
ทางนี้มีสามคน ทางแก็งค้ายามีสามคนเช่นกันเกิดการต่อสู้กันตัวต่อตัว แม้จะอยู่นอกแผนการจับกุม แต่บ้านริมน้ำเองก็มีอาวุธสงครามอยู่จำนวนหนึ่ง ที่มีไว้เพื่อป้องกันตัว ก็ถูกนำออกมาต่อสู้กับทางฝ่ายค้ายา
"พวกแกยังไงก็จับข้าไม่ได้หรอก" เสียงทีฮะ ขู่คำรามออกมา
"พวกเราไม่มีทางปล่อยแกไปแน่ๆ" ณัฐเองก็ขู่กลับ
แล้วก็มะรุมมะตุ้มสู้รบกันด้วยอาวุธและมือและเท้าบ้าง
"เปรี้ยง" เสียงปืนดังขึ้น ระหว่างคู่ต่อสู้ของณัฐกับทีฮะ แล้วเลือดก็ไหลนองออกมาจากท้องของณัฐ ด้วยความที่ณัฐเองนั้น ไม่ชำนาญกับอาวุธสงครามทำให้เสียเปรียบคู่ต่อสู้ แล้วก็ล้มตัวลงกับพื้น
"เปรี้ยง" เสียงปืนอีกนัดจากกระบอกปืนของดร.นิลลี่นั่นเอง แล้วเลือดก็ไหลออกจากขาของทีฮะ รวยรีบเข้าไปจะยิงซ้ำแต่ มิ่งกับเอกก็ยิงสวนกลับมา โชคดีที่ไม่โดนรวย ทำให้ทั้งสองคนพาทีฮะ วิ่งออกไปทางแม่น้ำเพื่อจะข้ามไปทางฝั่งแม่น้ำ
ส่วนทางดร.นิลลี่รีบวิ่งไปดูอาการของณัฐ เห็นว่ายังไม่โดนจุดสำคัญ จึงได้พาเข้าไปในบ้านริมน้ำเพื่อรอผ่าตัด
แต่ด้วยการวางกำลังจับกุมในเส้นทางน้ำระหว่างไทยและพม่านั้นอยู่ในแผนด้วย จึงมีเจ้าหน้าที่ทหารไล่ตามกลุ่มคนร้ายไป ประกอบกับทางสารวัตรพลได้สั่งให้มูมู่กับหุ่นยนต์นักรบติดตามมาด้วย ทำให้ไล่ทัน
แล้วสิ่งไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ทางหัวหน้าแก๊งเมื่อมาถึงหมู่บ้านฝั่งพม่า ที่มีแฮลิคอปเตอร์รออยู่แล้ว รีบขึ้นเฮลิคอปเตอร์เพื่อจะหลบหนี แต่หุ่นยนต์ของหมอนิลลี่ทั้งสองตามมาทัน จึงได้บินติดตามไปด้วยความเร็วที่เหนือกว่าจึงมาล้อมหน้าและหลังของเฮลิคอปเตอร์ แล้วก็สาดอาวุธใส่กัน จนกระทั่งยิงเฮลิคอปเตอร์ตกลงกลางป่าได้สำเร็จ แล้วหุ่นยนต์ทั้งสองก็บินเพื่อดูว่าสภาพของเฮลิคอปเตอร์เป็นอย่างไร
สุดท้ายคือทีฮะกับนักบินเสียชีวิตในซากเฮลิคอปเตอร์ที่ลุกไหม้นั่นเอง ส่วนลูกน้องที่เหลือก็ถูกต้อนจับจนหมดสิ้นด้วยฝีมือการนำทีมของสารวัตรพล ปิดฉากแก๊งค้ายาข้ามชาติรายใหญ่ได้สำเร็จ
ส่วนทางณัฐที่ได้รับบาดเจ็บที่ช่องท้องนั้น หมอนิลลี่ก็ได้เข้าช่วยเหลือได้ทันเวลานำเข้าไปในบ้านริมน้ำ ตรวจร่างกายตรวจแลบเอ๊กซเรย์รอให้มูมู่กลับมาจะได้วางแผนผ่าตัด แต่พอดีณัฐนั้นเสียเลือดมากต้องการเลือดจำนวนมากและมูมู่เองก็ยังไม่กลับมา หลังจากทำการตรวจเลือดแล้วเป็นเลือดหมู่เดียวกันกับหมอนิลลี่และรวย หมอนิลลี่กับรวยจึงได้บริจาคเลือดให้ณัฐเพื่อลดภาวะช็อกไปก่อน
ระหว่างกำลังเจาะเลือดเพื่อนำมาให้ณัฐนั้น มูมู่กับหุ่นยนต์นักรบก็กลับมาพอดีตามคำสั่งที่นิลลี่สั่งไปจากคอมพิวเตอร์บัญชาการในห้องของเธอ เมื่อให้เลือดเสร็จหมอนิลลี่ก็สั่งมูมู่ว่า
"มูมู่ เซ็ทโออาร์ แอบโดมินอลเอ็กพลอเรชั่น"
แล้วมูมู่ก็เข้าไปเตรียมการผ่าตัดเปิดหน้าท้องเพื่อดูเอากระสุนปืนออกและแก้ไขภาวะเลือดไหลในทางเดินอาหารนั่นเอง
หลังจากผ่าตัดอยู่ในห้องผ่าตัดนาน 4 ชั่วโมง
"มูมู่ช่วยเย็บปิดด้วย"
การผ่าตัดเป็นไปด้วยดี หากระสุนเจอและเจอแผลที่สามารถเย็บปิดซ่อมได้ ไม่มีการเสียเลือดมากขึ้น พอเสร็จจากการผ่าตัดเป็นช่วงเย็นพอดี เดินออกมาจากห้องผ่าตัดก็พบกับตุ๊ดตู่
"พี่หมอ ศิษย์น้องเป็นอะไร"
"โดนกระสุนปืนเข้าที่ช่องท้องหน่ะ ตอนนี้ปลอดภัยแล้วพึ่งผ่าตัดเสร็จต้องรอฟื้นก่อน"
เมื่อเดินออกมาหน้าบ้านริมน้ำก็พบกับสารวัตรพล รวย ตำรวจพม่าและตำรวจไทย พร้อมคนร้ายที่จับกุมได้กำลังจะนำกลับไปที่โรงพัก
"พวกเอ็งเอาไอ้พวกเดนนรกนี่ไปขังไว้ก่อนนะ เดี๋ยวข้าตามไปขอดูอาการเพื่อนรักที่บาดเจ็บก่อน" เสียงสารวัตรสั่งลูกน้อง
"เป็นอย่างไรบ้างคะ เรียบร้อยดีไหม"
"ครับ จับได้หมดทุกคนที่ได้ข้อมูลมา ต้องขอบคุณคุณหมอด้วยที่ช่วยวางแผนทางหนีทีไล่ไว้ แล้วไอ้ณัฐมันเป็นยังไงบ้างครับ"
"ปลอดภัยดีค่ะ พึ่งผ่าตัดเสร็จเลย แต่ต้องรออีกสักพักกว่าจะฟื้น"
"โหดูสภาพวันนี้แล้ว น่าจะมีเรื่องสนุกๆ แน่ๆ เลยเสียดายไปโรงเรียนเลยอดร่วมวงด้วยเลยครับ" ตุ๊ดตู่พูด
"ไม่สนุกหรอกเกือบตายกันต้องหลายคน เป็นเด็กเป็นเล็กไปเรียนหนังสือแหละดีแล้ว" เสียงรวยบอก
"แล้วนี่อีกนานไหมกว่าผมจะเข้าไปเยี่ยมเพื่อนได้"
"สารวัตรมาพรุ่งนี้เช้าดีกว่าไหม คะ ถึงวันนี้คุณณัฐฟื้นก็ยังคุยไม่ได้มาก"
"ก็ดีเหมือนกัน ผมจะได้เข้าไปเคลียร์เรื่องผู้ต้องหารายงานเจ้านายและสั่งงานลูกน้อง แล้วพรุ่งนี้ค่อยมาเยี่ยมไอ้ณัฐมัน"
"แบบนั้นดีกว่าค่ะ"
"งั้นผมลากลับก่อนครับ ไปพวกเอ็งกลับ"
"ไปก่อนนะครับคุณหมอ" เสียงรวยกล่าว
"ลาก่อนนะครับ ไว้เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมสองคนจะขอสารวัตรขึ้นมาเยี่ยมคุณณัฐด้วย" เสียงอาชินบอก
"กลับก่อนนะครับ" โบบอก
"หวัดดีครับศิษย์น้อง และพี่พี่ทุกคนพรุ่งนี้เจอกันแล้วเล่าเหตุการณ์วันนี้ให้ฟังด้วยนะครับ"
"นี่กะจะให้อยู่ถึงเย็นเลยหรือ เอาตามนั้นก็ได้"
แล้วทางสารวัตรก็เดินทางกลับไป
"วันนี้ไม่มีอะไรแล้ว ตุ๊ดตู่เองก็กลับบ้านเถอะ อยากรู้อะไรค่อยมาคุยกันพรุ่งนี้"
เมื่อทุกคนกลับไปกันหมดแล้ว ดร.นิลลี่ก็ไปอาบน้ำอาบท่า แล้วก็มานั่งเฝ้ารอให้ณัฐฟื้น โดยการนั่งกุมมือณัฐไว้ เพื่อต้องการให้พอณัฐลืมตาตื่นมาแล้วจะได้เห็นตนเองเป็นคนแรกนั่นเอง หลังผ่าตัดไปได้ชั่วโมงกว่าๆ พอหมดฤทธิ์ยาสลบณัฐก็ลืมตาขึ้นมา
"ที่รักของผม เป็นอะไรไหม" ณัฐพูดด้วยเสียงที่ยังสะลึมสะลือจากยาสลบนั่งเอง เมื่อลืมตามาเห็นนิลลี่นั่งกุมมืออยู่ก็รีบกุมมือตอบสนองและรีบส่งสายตาหยาดเยิ้มดุจน้ำผึ้งมาให้
"ปลอดภัยดีค่ะ ยังเป็นคนผ่าตัดให้คุณด้วย" พูดเสร็จก็กุมมือกันแน่นขึ้น ส่งสายตาหวานซึ้งกลับไปเช่นกัน แล้วทั้งสองก็นั่งกุมมือกันส่งสายตาหวานเชื่อมใส่กัน ราวกับว่าไม่ได้เจอกันมานาน
พอเห็นว่าณัฐตื่นดีแล้วก็ย้ายออกมาอยู่ที่ห้องพักฟื้นโดยหมอนิลลี่นั่งกุมมือเฝ้าอยู่อย่างนั้นทั้งคืน พอยาแก้ปวดหมดฤทธิ์ณัฐได้ทีก็เลยส่งเสียง
"โอ๊ยๆ ผมปวดท้องมากๆ เลยแม่หมอช่วยมาตรวจให้หน่อยได้ไหมครับ พร้อมทำตัวขดไปขดมา"
หมอนิลลี่ตกใจนึกว่ามีอาการข้างเคียงอะไรก็เข้าไปรีบตรวจร่างกายให้ แต่กลับถูกณัฐดึงเข้าไปกอดพร้อมจุมพิตที่ปาก แล้วส่งสายตาแห่งความรักให้ นิลลี่เห็นสายตาแล้วก็ใจอ่อนส่งสายตาแห่งความรักกลับเช่นกัน เมื่อณัฐรับรู้ก็ยิ่งแสดงความรักตอบกลับไปอย่างละมุมละไม โดยการจูบปากกันอย่างเนิ่นนานอ้อยอิ่งเชื่องช้าราวกับโลกจะหยุดอยู่แค่นั้น แล้วก็เริ่มเล้าโลมไล่ลงมาตามซอกคอ แล้วตัวหมอนิลลี่เองเริ่มขยับ
"โอย" เสียงร้องของณัฐ
ศอกของหมอนิลลี่ไปโดนที่แผลนั่นเอง แล้วหมอนิลลี่ก็ดึงสติกลับมาได้พอดีก่อนที่จะเผลอไผลไปตามอารมณ์แล้วก็หัวเราะเสียงดังพร้อมบอกว่า
"คราวนี้คงเจ็บจริง สมน้ำหน้าอยากแกล้งชั้นดีนัก"
"โอยเจ็บจริงไม่แกล้งแล้ว ขอยาแก้ปวดหน่อยนะที่รัก" มิวายยังหยอกกันพร้อมสายตาหวานละมุมอีก
"รอแป๊ปนะ เดี๋ยวไปเอายามาฉีดให้ ฉีดที่ก้นดีไหมอยากแกล้งกันดีนัก"
"อย่าเลยนะที่รัก สงสารผมเถอะ" อ้อนกันจริงจัง ด้วยว่าอยู่กันตามลำพัง
เมื่อฉีดยาเสร็จ ณัฐเองก็เริ่มง่วงหมอนิลลี่ก็นอนเฝ้าจับมือกันอยู่ข้างเตียงนั่นเอง พอรุ่งเช้า
"ผมหิว" ณัฐส่งเสียงปลุกหมอนิลลี่
"ยังกินไม่ได้ค่ะ ได้แค่จิบน้ำ เดี๋ยวไปเอามาให้รอแป๊ปนะคะ"
แล้วก็เดินไปหยิบน้ำมาให้ณัฐจิบ ณัฐถือโอกาสเลยให้ป้อน พอป้อนเสร็จได้จังหวะก็ดึงตัวหมอนิลลี่มากอดและหอมแก้มฟอดใหญ่อีกตามเคย กำลังจะเอาริมฝีปากประกบไปที่ริมฝีปากของหมอนิลลี่
"อ้าวไอ้ณัฐหายดีแล้วหรือวะ" เสียงสารวัตรพลนั่นเอง ที่เดินเข้ามาเห็นจังหวะที่กำลังหยอกล้อกันของคู่รักทั้งสอง แกล้งทักขึ้น หมอนิลลี่ได้ยินเสียงก็รีบขยับตัวหลบออกจากร่างของณัฐ ด้วยสีหน้าแดงเขินเมื่อสังเกตเห็นว่าสารวัตรกับรวยเห็นเหตุการณ์เมื่อสักครู่อย่างแน่นอน
"แกนี่มาขัดจังหวะพอดีเลย" ณัฐตอบแบบกวนๆ เพราะรู้ว่าเพื่อนรู้ทัน
"สวัสดีค่ะ สารวัตรรีบมาแต่เช้าเลยนะคะ"
"สวัสดีครับ คุณหมอสุดน่ารักของผม" สารวัตรตอบแบบหยอกๆ
"อย่ามาหวานใส่ที่รักของข้านะ" ณัฐดุกลับ
"แหมๆ ที่รักเลยหรือ"
"เอ็งเข้ามาเห็นพอดีนี่ แบบนี้ไม่เรียกที่รักเขาเรียกว่าอะไรว่ะ"
"เอ็งถามเจ้าตัวเขายังว่าเขาเป็นที่รักของเอ็งหรือเปล่าวะ"
แล้วณัฐก็หันมาส่งสายตาหวานเชื่อมใส่หมอนิลลี่ พร้อมถามว่า "ว่าไงคุณยอมเป็นที่รักของผมหรือเปล่าครับ ที่รัก"
"เอ่อ ขอตัวไปเตรียมอุปกรณ์ทำแผลกับยามาให้นะคะ"
นิลลี่ตอบแบบเขินๆ พร้อมหลบสายตาหวานเชื่อมคู่นั้นแล้วก็ขอตัวหลบออกมา พอนิลลี่เดินออกมาจากห้อง
"รวยเอ็งออกไปรอข้างนอกสักแป๊ปข้ามีเรื่องสำคัญจะคุยกับเพื่อนข้า"
"ครับ" แล้วรวยก็เดินออกไป
"ไหนเอ็งเคยบอกข้าว่าไม่ได้จีบคุณหมอ แล้วที่ข้าเห็นมาสักพักนี่คืออะไร ไหนบอกมาซิ" สารวัตรถาม
"ข้าว่าเอ็งรู้ตั้งแต่วันที่ถามข้าแล้วหล่ะ ว่าข้าคิดอะไรกับหมอ ใช่ไหม"
"ใช่ ข้ารู้มานานแล้วว่าเอ็งแอบชอบหมอข้าถึงได้แกล้งตามจีบหมอ เพื่อให้เอ็งแสดงท่าทีกับหมอเขาไง ส่วนไอ้รวยระหว่างที่อยู่ที่นี่ มันเองก็รู้ว่าแกสองคนรักกัน แต่หมอเขาซ่อนความรู้สึกไว้ ไม่คิดว่าเหตุการณ์ไร่ฝิ่นจะทำให้ความรู้สึกที่แกทั้งสองมีต่อกันมันจะออกมาเร่าร้อนได้ขนาดนี้" สารวัตรมิวายหยอกเพื่อน
"นี่แสดงว่าเอ็งเข้ามาเห็นจังหวะที่ข้ากำลังจะปล้ำหมอพอดีเลยสิ" ณัฐพูดแบบคนรู้ทัน
"ก็ใช่อ่ะสิ หมอเองเขาก็รักเองไม่น้อย ข้าขอหลีกทางให้ด้วยความจริงใจ แม้จะแอบรู้สึกเสียใจเล็กๆ เพราะหมอนี่น่ารักสเป็คข้าเลย"
"ขอบใจเอ็งหว่ะ อีกไม่นานแกก็คงพบกับคนที่เป็นเนื้อคู่ของเอ็ง"
แล้วทั้งสองคนก็กอดกันแบบเพื่อนที่รู้ใจกัน สารวัตรเองก็เสียใจไม่น้อยเพราะก็แอบรักหมอนิลลี่เช่นกัน แต่เมื่อรู้ว่าหัวใจของหมออยู่ที่ณัฐก็ไม่อยากจะเข้าไปเป็นมือที่สาม
หมอนิลลี่เดินเข้ามาพอดี
"คุณสองคนที่เป็นเพื่อนรักกันมานานเท่าไหร่แล้วค่ะ"
"ตั้งแต่เรียนประถมมาด้วยกันแหละครับ" สารวัตรตอบ
"เป็นมิตรภาพที่ยั่งยืนดีมากเลยค่ะ"
"ใช่ครับ ผมเลยขอหลีกทางให้ณัฐ ขอให้คุณหมอกับไอ้ณัฐรักกันนานๆ นะครับ"
"รักกันอะไรค่ะ" หมอนิลลี่เขินหน้าแดง
"เอาเป็นว่าผมรู้ความรู้สึกของคุณทั้งสองที่แสดงออกมาในระยะหลังแล้วกันครับ"
"'งั้นผมไม่กวนเวลาจู๋จี๋ ของคุณทั้งสองแล้วดีกว่า ผมขอไปดูความเรียบร้อยพื้นที่ทั้งหมดก่อน วันนี้ผมอยู่ที่นี่ทั้งวัน ขออนุญาตทานข้าวเย็นด้วยนะครับ"
พูดจบประโยคสารวัตรก็เดินออกจากห้องไป ที่แอบเก็บสายตาแห่งความเสียใจเอาไว้แล้วไปบอกรวยออกไปเก็บความเรียบร้อยของพื้นที่ที่ปฏิบัติการจับกุมผู้ร้ายเมื่อวาน
เมื่อเห็นสารวัตรคล้อยหลังไป หมอนิลลี่ก็เข้าไปทำแผลและป้อนยาให้ณัฐ มิวายถูกณัฐดึงตัวเข้าไปกอดอีกแล้วคราวนี้ทั้งหอมทั้งจูบปากอย่างเร่าร้อน โลมเลียทั้งมือทั้งปากปั่นป่วนไปทั้งตัวของหมอนิลลี่ แต่พอหมอนิลลี่ขยับตัวศอกก็ไปโดนแผลอีกเช่นเคย
"โอย" แล้วก็หยุดปฏิบัติการป้อนความรัก แล้วหันมาบอกว่า
"ไม่ต้องแปลกใจหรอกครับ สารวัตรเขารู้มานานแล้วว่าผมชอบคุณและคุณก็ชอบผม จริงไหมที่รัก" แล้วก็ส่งสายตาน้ำผึ้งมาอีกแล้ว ทำเอาใจหมอนิลลี่สั่นสะท้านอ่อนระโหยโรยแรงทีเดียว พร้อมตอบกลับด้วยสายตาเดียวกัน แต่ปากกลับบอกว่า
"ไม่จริงสักหน่อย" แล้วก็ทำท่าเขินอาย แต่สายตายังมิวายตอบสนองความรักที่มีให้กัน ด้วยการจ้องตากันเนิ่นนาน
"ปากว่าตาขยิบจริงๆ แฟนผม"
"ใครตกลงเป็นแฟนคุณ ตกลงเมื่อไหร่คะ"
"แหมๆ ก็นะ"
แล้วก็ส่งสายตาตอบสนองกันเนิ่นนาน จนปากต่อปากมาประกบกันอีกอย่างอ่อนโยน ด้วยที่ยังมีแผลอยู่ คราวนี้ณัฐเลยต้องหยุดปฏิบัติการไว้ที่การเล้าโลมซอกซอนอยู่แค่ที่ซอกคอเท่านั้น แล้วคิดในใจ "ไม่น่ามีแผลเลยวุ้ย ไม่งั้นนะ ได้มีของฝากให้เพียบเลย น่ารักซะขนาดนี้ จะอดใจไม่ไหวอยู่แล้ว"
ในใจหมอนิลลี่เองตอนนี้เองก็อ่อนระทวยพร้อมที่จะตอบสนองความรักของณัฐเช่นกัน โดยวันนี้ความรักของคนทั้งสองก็เปล่งบานเต็มที่ มีการหยอกล้อส่งความรักกันตลอดเวลา ทำเอาใจของหมอนิลลี่เองผ่อนคลายและลืมเรื่องร้ายไปได้
ของขวัญจากผู้อ่านคือกำลังใจในการสร้างสรรค์ผลงาน ช่วยส่งกำลังใจให้ไรต์หน่อยนะ!