บทที่ 36 เจรจา
โรแลนด์ถูกไนติงเกลดึงขึ้นมาจากเตียง
เมื่อรู้ว่าพ่อของนาน่า ไพน์มาหาถึงที่นี่ก็ตกใจ ทว่าไม่นานนักก็ตระหนักได้ว่านี่เป็นโอกาสที่หาได้ยากยิ่ง...หากจะให้สาวน้อยอยู่ช่วยภารกิจในเดือนแห่งปีศาจ เขาก็จำเป็นต้องหาเหตุผลที่จะทำให้ครอบครัวไพน์ยอมใช้ชีวิตช่วงฤดูหนาวที่เมืองชายแดน
งานนี้เป็นงานหินมาก ข่าวลือและชื่อเสียงของเจ้าชายลำดับที่สี่ในหมู่ขุนนางตกต่ำจนถึงขีดสุด ยิ่งเมื่อเวลานี้สถานการณ์ระหว่างเขากับทางป้อมกำลังตึงเครียดด้วยแล้ว บรรดาขุนนางที่มีที่ดินอยู่ในเขตตะวันออกของป้อมพวกนี้จึงไม่น่าจะยอมอยู่ที่เมืองชายแดนต่อ ทว่าโรแลนด์เองก็ไม่ได้คิดจะทำงานร่วมกับคนพวกนี้อยู่แล้ว พวกเขาอาจจะเก่งเรื่องการแย่งชิงอำนาจและผลประโยชน์ แต่ไม่เหมาะที่จะต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับใคร
เขาสวมเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว ล้างหน้าล้างตาอย่างลวกๆ แล้วรีบลงมาที่โถงรับแขก
ทีก ไพน์ถูกพามารออยู่ที่นี่นานแล้วและกำลังโมโหควันออกหู เมื่อเห็นเจ้าชายมาก็ลุกขึ้นยืนทันที “ฝ่าบาท บุตรสาวของกระหม่อมอยู่ที่ไหนพ่ะย่ะค่ะ”
นี่เป็นครั้งแรกที่โรแลนด์เจอพ่อของนาน่า เขามีรูปร่างกำยำล่ำสัน ตัวไม่สูงมาก หนวดเคราที่ล้อมกรอบหน้าทำให้เขาดูดุดัน และการแต่งตัวด้วยเสื้อหนาวเก็บเอว กับกางเกงหนังรัดรูปปะกระเป๋าใหญ่นั้นก็ดูเหมือนนายพรานมากกว่าชนชั้นสูง
“นางสบายดี ไพน์...”
“เหตุใดทหารของฝ่าบาทจึงปล่อยให้นางเข้ามาที่นี่ง่ายๆ แต่กลับขวางกระหม่อมไว้ที่นอกประตู” ทีกขัดขึ้นอย่างเดือดดาล “กระหม่อมต้องการคำอธิบาย ฝ่าบาท! ทรงพาบุตรสาวของกระหม่อมออกมาหากระหม่อมด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”
นี่เขามาแนวไหนกันนี่ โรแลนด์อึ้ง ภาพในความคิดเขาคือ หลังจากอีกฝ่ายรู้ว่าลูกสาวตัวเองใฝ่ต่ำไปเป็นแม่มดแล้ว หากไม่ขอร้องเขาให้ช่วยปิดเป็นความลับอย่างพินอบพิเทา ก็น่าจะขอให้เขาจัดการปัญหานี้เสียเลย เขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าอีกฝ่ายจะกลับมีท่าทีดุเดือดและเสียมารยาทอย่างนี้
ส่วนเรื่องที่ว่าทำไมทหารถึงปล่อยนาน่าเข้ามาน่ะหรือ เหตุผลก็เพราะเขาสั่งเอาไว้ เธอมาหาอันนาทุกๆ สองสามวัน พวกทหารต่างคุ้นเคยกับเธอดี
หลังจากคิดอยู่สักครู่ โรแลนด์ก็เรียกสาวใช้ให้ไปพานาน่ามาที่นี่
แม้อีกฝ่ายจะเสียมารยาทอย่างไร แต่เขาก็ยังเป็นพ่อของนาน่า อย่างไรเสียก็ให้พวกเขาสองคนเจอกันก่อนดีกว่า หากอีกฝ่ายทำท่าว่าจะทอดทิ้งหรือส่งตัวสาวน้อยให้ศาสนจักรแล้ว เขาค่อยใช้วิธีการของเขาก็ยังไม่สาย
นาน่าเดินออกมาพร้อมอันนา
พริบตาที่เห็นลูกสาวนั้น แววขุ่นเคืองในดวงตาของทีกก็หายไปทันที เขากางแขนร้องบอกนาน่าว่า “มาหาพ่อเร็ว”
ทว่าสาวน้อยเอาแต่หลบอยู่หลังอันนา เธอโผล่หน้าออกมาเพียงครึ่งเดียว “ท่านจะขายข้าให้ศาสนจักรหรือไม่”
“อะแฮ่ม...เจ้ากำลังพูดอะไรน่ะ เด็กโง่ ศาสนจักรไม่อยากได้เด็กโง่เช่นเจ้าหรอก รีบกลับบ้านกับข้าดีกว่า”
ท่าทีของเขาทำให้โรแลนด์งงน้อยๆ จากที่ไนติงเกลเล่ามา นาน่าถูกพ่อจับได้ขณะใช้พลังวิเศษ จึงรีบหนีมาหาอันนาที่ปราสาทด้วยความตื่นตระหนก ส่วนพ่อของเธอก็รีบตามเธอมาอย่างเดือดดาล
แต่ตอนนี้ดูแล้ว สายตาที่ทีกมองลูกสาวมีเพียงความรักและความห่วงใยเท่านั้น ดูไม่เหมือนความเกลียดชังอย่างที่คนทั่วไปมีต่อแม่มดเลย
หรือว่าเขาจะเข้าใจอะไรผิดไป
โรแลนด์ลังเลสักครู่จึงตัดสินใจเปิดประเด็นว่า “ไพน์ บุตรสาวของเจ้าเป็นแม่มด ข้าคิดว่าเจ้าก็คงรู้แล้ว”
“ฝ่าบาทตรัสเรื่องอะไรพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมไม่ยักเข้าใจ” ทีกกระทืบเท้า เดินเข้าไปจะคว้าแขนนาน่า แต่ถูกอันนาขวางไว้
“ท่านพ่อ ข้ากลายเป็นแม่มดแล้ว...ข้าขอโทษ” นาน่าพูดเสียงเบา
ทีกร้อนรนมาก “หยุดพูดจาเหลวไหลเดี๋ยวนี้! แม่มดอะไร เจ้าคาร์ลนั่นสอนมาอีกสินะ หากรู้แต่แรกข้าคงไม่ให้เจ้าเข้าโรงเรียนนั่นแน่ ศาสนจักรนั่นพูดแต่เรื่องบ้าบอ!”
พอฟังมาถึงตรงนี้ โรแลนด์ก็พอจะเข้าใจอะไรขึ้นมาแล้ว ที่อีกฝ่ายพยามยามปกปิดตัวตนนาน่าสารพัด ก็คงเพราะเข้าใจเขาผิดนั่นเอง
ดังนั้นก่อนที่จะเจอลูกสาว เขาถึงได้กระวนกระวายขนาดนี้
“อันนา” เขาขยิบตาให้แม่มด ฝ่ายหลังพยักหน้า ยื่นมือขวาใส่ทีกที่พยายามเดินอ้อมตัวเธอไปลากตัวนาน่า เปลวไฟพลันผุดขึ้นจากฝ่ามือแล้ววิ่งผ่านศีรษะเขาไป
ทีกเบิกตาโพลง ถอยหลังไปหลายก้าวด้วยความตกใจ นาน่าเองก็กอดแขนอันนาอย่างตื่นตระหนก “พี่อันนา อย่า!”
“ฝ่าบาท นี่คือ...!”
“อย่างที่เจ้าเห็น นางก็เป็นแม่มดเหมือนกัน เหมือนบุตรสาวของเจ้า” โรแลนด์แบมือว่า “เหตุผลที่นาน่าสามารถเข้าออกปราสาทได้อย่างอิสระไม่ใช่อย่างที่เจ้าคิด ตอนนี้พวกเราคงนั่งคุยกันดีๆ ได้แล้วกระมัง”
คราวนี้ทีกถึงได้ทำท่าราวกับสะดุ้งตื่นจากฝัน ถึงกับร้อง “หา” ออกมา “ฝ่าบาท กระหม่อม...”
“ค่อยๆ นั่งลงพูดเถอะ” โรแลนด์ชี้ไปที่โต๊ะ “ดื่มชาก่อนสิ”
เป็นไปตามคาด เขาถอนใจ ชื่อเสียงเขานี่มันเลวร้ายจริงๆ เลวร้ายชนิดที่ว่าขนาดเด็กก็ไม่เว้น ตอนนี้โรแลนด์เข้าใจกิริยาเสียมารยาทในตอนแรกของอีกฝ่ายแล้ว พ่อที่รักลูกคนหนึ่งเห็นลูกสาวตัวเองวิ่งเข้าไปในปราสาทของผู้ปกครอง ซ้ำร้ายทหารที่เฝ้าประตูยังแสดงท่าทางเคยชินอีก นั่นจะหมายความว่าอย่างไร
หากเขาเป็นพ่อของนาน่าแล้ว ดีไม่ดีอาจจะถึงขั้นรื้อปราสาทเลยก็ได้
ส่วนเหตุผลที่เขาปฏิเสธเสียงแข็งเรื่องลูกสาวเป็นแม่มดหลังจากนั้น จุดประสงค์ก็ชัดเจนมาก...ทีกกลัวว่าเจ้าชายจะใช้ข้ออ้างที่ว่า ‘นาน่าใฝ่ต่ำมีมลทิน จำเป็นต้องถูกชำระล้างให้บริสุทธิ์’ มาบีบบังคับเขา ในขณะที่เขาเองไม่สนใจสักนิดว่าลูกสาวสุดที่รักจะเป็นแม่มดหรือไม่
ทีกลังเลอยู่ครู่ใหญ่ก่อนจะนั่งลงในที่สุด เขากรอกชาใส่ปากหมดในรวดเดียวแล้วเช็ดปาก สีหน้าดูประดักประเดิด “ขออภัยด้วยพ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท กระหม่อมเสียมารยาทเหลือเกิน ฝ่าบาททรงรู้ตั้งแต่ม่เมื่อไรว่าบุตรสาวของกระหม่อมกลายเป็น เอ่อ...แม่มดน่ะพ่ะย่ะค่ะ”
“ก่อนเข้าฤดูหนาว คนที่รู้เรื่องนี้เป็นคนแรกไม่ใช่ข้า แต่เป็นคาร์ล ฟอว์เบิร์ต อาจารย์ของนาง เขาเห็นนางเป็นเพื่อนกับอันนาจึงพานางมาฝากฝังไว้กับข้า หวังให้ข้าช่วยคุ้มครองนางด้วย” โรแลนด์อธิบายอย่างละเอียด “ตลอดหนึ่งเดือนกว่ามานี้ เวลาว่างๆ นางจะมาฝึกพลังที่ปราสาท ข้าบอกเจ้าเลยแล้วกันว่า พลังของบุตรสาวเจ้าคือพลังเยียวยา”
“เช่นนั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ...” ทีกเกาศีรษะ “กระหม่อมก็ว่าแล้วว่าทำไมอยู่ๆ แมวตัวนั้นถึงวิ่งได้”
“แมวหรือ”
“ฮะๆๆ อันที่จริงก็ไม่มีอะไรหรอกพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมกลับบ้านไปเห็นเด็กคนนี้กำลังอุ้มแมวที่ถูกรถม้าชนนั่งอยู่หน้าประตู กระหม่อมยังคิดจะแกล้งแหย่นางจากด้านหลัง แต่พอนางเห็นกระหม่อมแล้วกลับวิ่งหนีทันที แมวตัวนั้นก็เช่นกัน ทั้งๆ ที่เพิ่งขาหักเพราะถูกรถม้าชนแท้ๆ” เขามองนาน่าและอันนา “พวกเจ้าเป็นเพื่อนกันหรือ”
อันนายังไม่ทันตอบ นาน่าก็พยักหน้าอย่างรวดเร็ว
สีหน้าของทีกอ่อนโยนลงมาก
โรแลนด์เห็นดังนั้นจึงลองหยั่งเชิง “ดูเหมือนเจ้าจะไม่คิดว่าแม่มดเป็นสิ่งชั่วร้ายที่ถูกปีศาจล่อลวงเลย”
“บุตรสาวของกระหม่อมย่อมไม่ใช่สิ่งชั่วร้าย!” เขาพูดอย่างหนักแน่นเด็ดขาด “ไม่ว่านางจะกลายเป็นอะไร ข้อนี้ไม่ต้องสงสัยเลย!”
ช่างต่างจากพ่อของอันนาราวฟ้ากับดิน โรแลนด์อดถอนใจไม่ได้ ตอนนี้เขาเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมนาน่าถึงได้สดใสร่าเริงและยิ้มแย้มอยู่เสมอ ครอบครัวแบบนี้เปรียบประดุจเปลอันอบอุ่นสำหรับลูกน้อย
“ข้าเองก็ไม่คิดเช่นนั้น ไพน์” เจ้าชายพูดตรงๆ “พลังของบุตรสาวท่านมีค่าต่อผู้บาดเจ็บมาก ข้าจึงอยากให้นางอยู่ที่เมืองชายแดน ร่วมต่อสู้กับข้าจนผ่านพ้นเดือนแห่งปีศาจไปด้วยกัน”
ทีกลังเลอยู่สักครู่ “ฝ่าบาท ขออภัยที่กระหม่อมต้องปฏิเสธ เมื่อเดือนแห่งปีศาจมาถึง ที่แห่งนี้จะเต็มไปด้วยอันตราย กระหม่อมไม่สามารถทิ้งนางไว้ที่นี่ได้พ่ะย่ะค่ะ”
ที่ดินของทีก ไพน์ไม่ได้อยู่ใต้เขตการปกครองของเมืองชายแดน ดังนั้นต่อให้เขาเป็นเจ้าชาย ก็ไม่สามารถออกคำสั่งกับเขาโดยตรงได้ แต่ว่าตราบใดที่เขายังยอมนั่งเจรจาด้วย โรแลนด์ก็ยังมั่นใจว่าตัวเองสามารถเกลี้ยกล่อมเขาได้
........................................