webnovel

ปฐมบท

มีเรื่องน่าประหลาดใจมากมายตั้งแต่แม่ทัพหนุ่มอย่าง 'จ้าวเทียนหลง' ก้าวย่างเข้ามาในงานปักปิ่นของคุณหนูตระกูลซ่ง ตั้งแต่เปิดเผยร่างสัตว์ของคุณหนูที่เป็นแมวขนขาว ได้พบเกอที่ถูกเหล่าคุณชายต่างตระกูลลวนลาม รับรู้ถึงใบหน้าที่แท้จริงของคุณชายสามของตระกูลซ่ง และเรื่องสำคัญที่จำเป็นต้องเอ่ยถึงคือ...

จ้าวเทียนหลงเผลอไปมีสัมพันธ์กับเกอหนุ่มนามว่า 'อี้หนิง'

ในคราแรกจ้าวเทียนหลงคิดที่จะกลับไปหลังจากเสร็จสิ้นพิธีปักปิ่น แต่กลับถูกสหายร่วมรบรั้งให้อยู่ต่อ แน่นอนว่าบุรุษย่อมต้องคู่กับสุรา ตระกูลซ่งยกใจใหญ่ ยกเหล้าชั้นดีให้แขกได้ลิ้มรส จ้าวเทียนหลงถูกทั้งคุณหนูคุณชายเข้าหา แต่นอกจากจะเมินเฉยแล้ว ก็เอาแต่มองคุณชายสามซ่งด้วยสายตาพินิจพิจารณา

ก่อนหน้านี้ตนได้ช่วยเกอคนหนึ่งจากเหล่าคุณชาย และได้รู้มาว่าเป็นคุณชายสามที่แนะนำให้คุณชายพวกนั้นเข้าหาเกอที่เป็นเด็กรับใช้คนนั้น และใช้เป็นเครื่องสนองตัณหา หลังจากนั้นจึงคิดจะส่งตัวเกอคนนั้นไปยังหอคณิกาชาย

แม้จะไม่รู้ว่ามีเรื่องบาดหมางอะไรกัน แต่พอได้เห็นใบหน้าที่เปื้อนน้ำตาหลังจากรับรู้ความจริงของเกอน้อย จ้าวเทียนหลงก็รู้สึกสงสารจับใจ เกอคนนั้นไม่ได้ร้องไห้โวยวาย เพียงแต่นั่งกอดเข่า และร้องไห้อยู่เงียบๆ ไร้เสียงสะอื้น มีเพียงร่างกายที่สั่นเทาก็เท่านั้น

เมื่อนึกถึงเรื่องที่ได้เจอ จ้าวเทียนหลงก็รู้สึกไม่สบอารมณ์มากนัก จึงได้ขอผละตัวออกไป

จ้าวเทียนหลงไม่ชอบใจตัวเองตอนนี้สักเท่าไหร่ ในหัวมีแต่ใบหน้ายามร้องไห้ของเกอน้อยคนนั้น สลัดออกไปเท่าไหร่มันก็ไม่ออกไปจากหัว มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่หยุดอยู่ตรงที่เดิมที่ได้เกอคนนั้น

สระน้ำที่ถูกทิ้งร้างอยู่ท้ายจวนตระกูลซ่ง บัดดี้กลับมีร่างกายเปลือยเปล่าของคนผู้หนึ่งแช่อยู่ในนั้น ผมสีดำขลับลอยอยู่เหนือน้ำ ร่างกายขาวผ่องเป็นประกายยามกระทบกับแสงจันทร์ เมื่ออีกฝ่ายผินหน้าหันกลับมามองก็ทำให้เห็นปานแดงรูปดอกมู่ตาน[1] กลางหน้าผาก ดวงตาคละสีทั้งสองข้าง และใบหน้าที่เป็นเอกลักษณ์ทำให้จ้าวเทียนหลงจำอีกฝ่ายได้ทันที

เป็นเกอคนนั้น เกอที่ช่วยเอาไว้...

กลิ่นหอมหวานของดอกโบตั๋นดึงดูดให้เข้าไปใกล้อีกฝ่าย จ้างเทียนหลงเห็นเกอคนนั้นรีบเร่งขึ้นมาจากน้ำ และสวมเสื้อผ้าเก่าๆ อย่างเร่งรีบ

"เจ้าชื่ออะไร?"

"ข ข้าชื่อ 'อี้หนิง' เป็นข้ารับใช้ของที่นี่ ข้าขอบคุณท่านมากที่ช่วยข้าเอาไว้ก่อนหน้านี้ ทั้งชีวิตข้าไม่อาจตอบแทนท่านได้" อี้หนิงมอบรอยยิ้มจางๆ ให้จ้าวเทียนหลง แม้จะตกใจอยู่ไม่น้อยที่อีกฝ่ายหาทางมาที่นี่ได้ แต่ตนเองไม่มีสิทธิ์ห้ามปรามไม่ให้คนอื่นมาที่สระแห่งนี้

"อืม ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว แล้ว..."

"มีอะไรให้ข้าช่วยหรือไม่ขอรับ?"

"ข้าอยากรู้"

"ถามข้ามาได้เลยขอรับ"

"กลิ่นหอมของดอกโบตั๋นมาจากเจ้าใช่หรือไม่?"

อี้หนิงนิ่งค้างไปชั่วครู่ แล้วก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าว โดยปกติแล้วกลิ่นหอมประจำตัวของเกอจะไม่ส่งกลิ่นแรงมากนัก หากไม่เข้าใกล้แล้วตั้งใจสูดกลิ่นก็แทบจะไม่มีทางได้กลิ่นหอมของดอกไม้ แต่หากแม่ทัพจ้าวที่อยู่ห่างไปหลายก้าวได้กลิ่นมันก็ไม่ใช่เรื่องดี

"มัน มันไม่ควรเป็นช่วงนี้" อี้หนิงก้าวถอยหลังไปเรื่อยๆ แต่ทางจ้าวเทียนหลงเองก็เร่งเท้าขยับเข้าใกล้

"เจ้าเป็นสัด?"

"ม ไม่ ข้าไม่มีอาการ"

แม้จะกล่าวเช่นนั้น แต่กลิ่นหอมรุนแรงจากร่างกายของอีกฝ่ายกลับยิ่งดึงดูดให้เข้าใกล้ เกอร่างเล็กหอบหายใจออกมาเล็กน้อย ก่อนจะมองบุรุษตรงหน้าด้วยความแปลกใจ

กลิ่นที่รู้สึกคุ้นเคยทำให้อี้หนิงยอมหยุดนิ่ง ความรู้สึกอบอุ่นเข้าห้อมล้อมกาย แต่ก็รับรู้ได้ถึงความแข็งแกร่งของอีกฝ่าย มันเป็นเรื่องประหลาดที่ไม่มีผู้ใดเคยพบเคยเจอ เพราะอี้หนิงรับรู้ได้ว่ามันคือกลิ่นของอีกฝ่าย กลิ่นของสายฝน และไอน้ำในยามเช้า กลิ่นที่คอยปลอบประโลมในช่วงเวลาที่รู้สึกเศร้า แต่มันคือสิ่งที่บุรุษไม่ควรมี บุรุษเช่นจ้าวเทียนหลงไม่ควรที่จะมีกลิ่นประจำกาย

"เจ้า..."

สติของอี้หนิงเริ่มหายไปหลังจากอีกฝ่ายคว้าข้อมือตัวเองเอาไว้ ร่างกายอ่อนยวบอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ความร้อนรุ่มในกายเพิ่มมากขึ้นราวกับกำลังเป็นสัด กลิ่นหอมเย้ายวนถูกปล่อยออกมาเพื่อมอมเมาจ้าวเทียนหลง

ร่างสองร่างพุ่งเข้าหากันอย่างหยุดไม่อยู่ จ้าวเทียนหลงอุ้มเกอตัวน้อยเข้าไปในกระท่อมไม้ไผ่หลังเล็กใกล้สระน้ำอย่างเร่งรีบ

อากาศอบอุ่นช่วงต้นของวสันต์เทียบไม่ได้กับความร้อนแรงในกระท่อมหลังน้อย เสียงครางอื้ออึงลอยออกมาตามสายลม พื้นที่ร้างหลังจวนตระกูลซ่งได้กลายเป็นสถานที่พลอดรักของหนึ่งบุรุษ และหนึ่งเกอ หนึ่งคู่ที่สวรรค์ลิขิตให้ด้ายแดงเชื่อมต่อกันตราบจนนิรันดร์

--------------------

[1] ดอกมู่ตาน,มู่ตานฮวา= ดอกโบตั๋น

--------------------

ดำเนินเรื่องในยุคจีนโบราณ

ในเรื่องจะแบ่งออหเป็น3เพศ

1.บุรุษ

2.สตรี

3.เกอ (ผู้ชายท้องได้)

ตอนเกิดเกอจะมีร่างกายเหมือนเด็กผู้ชายทั่วไป แต่จะมีปานแดงรูปดอกไม้ที่หน้าผาก และในทุกๆ 3เดือน เกอจะมีช่วง 'ติดสัด' ร่างกายจะร้อนรุ่ม ความปราถนาในกายจะเพิ่มมากขึ้น หากแต่งงานแล้วจะให้คู่ครองช่วย แต่หากยังไม่ได้แต่งงาน เกอส่วนใหญ่จะขังตัวเองไว้ในเรือน หรือใช้แท่งหยกช่วยบรรเทาอาการ