webnovel

บทที่ 3 คุยกับจอมพลอัลฟ่า

"ฟังที่ฉันบอก ตอนนี้ฉันไม่สามารถส่งคนไปรับนายได้ นายยังไม่บรรลุข้อตกลงในการเป็นพลเมืองดาวหลัก ถึงฉันจะสนใจอรรยธรรมที่สาบสูญ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ฉันจะให้สิทธิพิเศษกับนายได้

สอง นายไม่ได้ดื่มยาวิวัฒนาการ ไม่มีเพศรอง มันยากจริงๆ ที่คนบนดาวหลักจะยอมให้สิ่งมีชีวิตอ่อนแอมาเบียดเบียนผลประโยชน์ มีสิ่งมีชีวิตจำนวนมากจากดาวเคราะห์ต่างๆ ที่ต้องการจับจ้องทำเลบนดาวหลัก นายไม่สามารถต่อรองอะไรได้กับทางการเลย ระบบของนายน่าจะเคยบอกว่าการปกครองของสหพันธ์อิงตามเพศรองเป็นหลัก เพราะระดับของฟีโรโมนสามารถเปรียบเทียบความแข็งแกร่งของสิ่งมีชีวิตในสหพันธ์ได้ และผู้ที่มีประโยชน์ก็เหมาะสมที่จะอยู่ดาวหลักมากกว่าสิ่งมีชีวิตอ่อนแอ ไม่มีประโยชน์อย่างนาย

สาม พูดถึงความจำเป็นที่ต้องนำนายมาดาวหลัก อันที่จริง นายไม่จำเป็นต้องมาที่นี่ แต่เพราะฉันสนใจเรื่องมนุษย์ยุคก่อน เลยตั้งใจจะตรวจสอบร่างกายของนายร่วมกับทีมนักวิจัยอย่างละเอียด ก่อนจะอนุญาตให้นายดื่มยาวิวัฒนาการทีหลัง น่าเสียดายที่ฉันพลันนึกขึ้นมาได้ ว่ามนุษย์ยุคเก่ามีวงจรชีวิตที่สั้น นั้นสินะ กว่าที่นายจะถึงเลเวลที่สามารถมาอยู่ดาวหลักได้ ตัวของนายก็คงทรุดโทรมมาก ฉันกลัวว่าจะมาไม่ทันมาเจอตอนนายมีชีวิต ดังนั้นฉันเลยคิดใหม่ว่า จะเดินทางไปหานายพร้อมกับทีมวิจัยหลังจากที่ปรึกษากับท่านอาวุโสในทีมวิจัยเสร็จสิ้น นายเข้าใจที่ฉันพูดไหม" จอมพลสาวอธิบายออกมายืดยาว เธอไล่ถึงเหตุผลไปทีล่ะข้อ แม้ว่าน้ำเสียงที่เอ่ยออกมาจะเย็นเหยียบ แต่ไม่อาจซ่อนอารมณ์ความหงุดหงิดที่แผ่ออกมาทางน้ำเสียงได้ เธอไม่รู้เลยว่าความไม่ตั้งใจเล็กๆนี้ ทำให้อดีตพนักงานบริษัทธรรมดาสั่นเทาแค่ไหน

"....." คิมหันต์พูดอะไรไม่ออก เหงื่อเย็นไหลออกมาทางหน้าผาก เขารับรู้ได้ถึงความหงุดหงิดของไอรีนที่แฝงมาด้วยฟีโรโมนของอัลฟ่า ความกดดันที่ยิ่งใหญ่ทำให้สิ่งมีชีวิตที่อ่อนแออย่างชายหนุ่ม ไม่สามารถแม้แต่ขยับตัวได้ เขาหวาดกลัวจอมพลสาวในสายมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า ในใจภาวนาให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี

"ครั้งต่อไปถ้านายไลฟ์ เรื่องมันต้องแดงแน่ว่านายเป็นมนุษย์ยุคก่อน ซึ่งมันจะทำให้เกิดความวุ่นวาย ฉันเลยจะให้นายไปสังกัดหน่วยค้นคว้าอารยธรรมโบราณ ซึ่งมนุษย์ยุคก่อนก็เป็นหนึ่งในนั้น นายจะต้องเข้าไปทำงานที่นั่น" ไอรีนออกคำสั่งบอกให้คิมหันต์เข้าร่วมกับทางการ

"คุณมั่นใจเหรอ ว่าผมจะเป็นประโยชน์ได้" คิมหันต์คิดในใจครู่ใหญ่ก่อนที่จะถามออกไป ชายหนุ่มไม่แน่ใจเลยว่าตนจะมีประโยชน์ขนาดนั้น การร่วมงานกับองค์กรใหญ่ไม่น่าจะง่ายดาย ยิ่งกับคนหลงยุคแบบเขาจะช่วยอะไรได้จริงเหรอ ในยุคสมัยที่มีดาวเคราะห์รวมตัวกันมากมาย เขาเป็นสิ่งมีชีวิตในดาวเคราะห์ที่ปัจจุบันประชากรไม่อาศัยในพื้นที่เดิมแล้ว ดูจากมุมนี้ก็เปรียบได้กับคนกลุ่มเล็กๆ อะไรกันหนอที่ทำให้จอมพลสาวคนนี้มาสนใจเรื่องของเขา จอมพลอัลฟ่าได้ยินคำถามของคิมหันต์ก็หัวเราะเบาๆ ริมฝีปากของเธอเหยียดยิ้ม

"แม้ว่านายจะไม่ได้มีประโยชน์มาก แต่ฉันก็ไม่อยากให้มีคนรู้เรื่องการเดินทางข้ามเวลาของนาย มันจะทำให้ข้อกฎหมายของสหพันธ์ดูน่าเชื่อถือน้อยลง ตอนนี้ฉันเลยจะยืนเรื่องขอทำการคุ้มครองนายในฐานะสิ่งมีชีวิตหายาก หากในระหว่างการดูแลของฉัน นายสามารถให้ข้อมูลที่เกิดประโยชน์ ทางการอาจจะให้สัญญาจ้างกับนาย นายก็จะมีเงินเดือนในฐานะพนักงานรัฐ ส่วนเรื่องไลฟ์ที่นายต้องทำต่อจากนี้ ฉันอยากจะให้นายทำอย่างอื่นนอกเหนือจากการร้องเพลง มีอย่างอื่นที่นายทำได้ไหม" เสียงหญิงสาวเอ่ยออกมาอย่างใจเย็น สิ่งที่เธอพูดคือข้อสำคัญที่ทำให้การคุ้มครองชายหนุ่มมีความสำคัญ หากมีการแพร่ข่าวเรื่องการเดินทางข้ามเวลา ไม่มาว่าจะเป็นเรื่องที่ตั้งใจหรือไม่ก็ตาม มันก็จะก่อเกิดการแหกกฎมากขึ้น อีกอย่างสหพันธ์ขึ้นชื่อเรื่องความถูกต้อง จอมพลสาวไม่อาจปล่อยผ่านสิ่งเล็กน้อยให้มาสร้างบาดแผลแก่สหพันธ์ได้ เธอตอบคำถามของชายหนุ่มก่อนที่จะถามถึงความสามารถอื่นที่มีนอกเหนือจากการร้องเพลง

"ผมไม่รู้ว่าที่นี่เขาสนใจอะไร ผมมีแต่ความรู้ของมนุษย์ยุคแรกเท่านั้นเอง" คิมหันต์ได้ยินคำถาม เขาสีหน้าสลดทันที ตอนนี้เขาไม่มีอะไรเลยที่จะใช้หากินได้ สิ่งที่รู้ทั้งหมดในยุคนี้ก็มองว่ามันแปลก แบบนี้คนที่ธรรมดาอย่างเขาจะเอาอะไรออกมาแสดง เมื่อจอมพลสาวได้ยินว่าเขาไม่มีสิ่งที่ใช้แสดงที่นี่ได้ ก็เห็นแค่ทางเดียวที่เธอจะให้ชายหนุ่มในสายทำได้ คือการยอมให้คนตรงหน้าทำในสิ่งที่ตนเองรู้ แต่ก็เอาเถอะ อย่างน้อยเธอสามารถเอาข้อมูลจากเขาไปเทียบในหอสมุดหลวง เพื่อการวิจัยอารยธรรมโบราณต่างๆได้ น่าจะมีประโยชน์ต่อการวิจัยไม่น้อย

"ฉันจะบ้าตาย ก็ได้ ถ้านายจะร้องเพลง ฉันจะลองฟังดูก่อน หลังจากฟังมัน ฉันจะอัดวิดีโอของนายกลับไปปรึกษาทีมวิจัย ว่าเห็นควรจะรื้อเรื่องเพลงกลับมาศึกษาต่อดีหรือไม่ มันมีประโยชน์ต่อสหพันธ์ไหม"

"โอเคครับ" ในที่สุดชายหนุ่มก็ตอบตกลงกับสิ่งที่ปลายสายพูด หากมาคิดดูให้ดี ข้อเสนอนี้สำหรับคนตัวเปล่าแบบเขา มันก็มีแต่ได้กับได้นี่หน่า อีกอย่างเขามีทางเลือกซะที่ไหน ในเมื่อจอมพลสาวเอาแต่สั่งการอยู่อย่างนั้น คุยไปก็แผ่อำนาจความกดดันเข้าใส่ ทำให้เขานี่แทบขยับตัวไม่ได้เลย แล้วคนธรรมดาอย่างเขาจะเอาอะไรไปเถียงชนะ คิมหันต์คิดพลางแอบปาดเหงื่อในใจ

"งั้นฉันไปล่ะ" ไอรีนเอ่ยลาทันทีเมื่อการเจรจาได้ข้อสรุป

"ครับ" คิมหันต์ขานเสียงออกไป ภายในใจยินดีเต็มประดาที่ผู้มีอิทธิพลในสหพันธ์คนนี้จะจากไป มันทำให้เขารู้สึกหายใจได้คล่องคอขึ้น ความอิสระของเขากำลังจะเกิดขึ้นแล้ว เขาฉีกยิ้มกว้าง

"โอ้ ฉันลืมถาม นายชื่ออะไร" ขณะที่จอมพลสาวกำลังจะวางสาย เธอก็พลันนึกได้ว่ายังไม่ทราบชื่อของสิ่งมีชีวิตสายพันธ์ุเก่าแก่อย่างชายหนุ่ม

"ผมชื่อ คิมหันต์ เพลิงพิชัยครับ" ชายหนุ่มพูดชื่อตนเองออกไปโดยเร็ว ในใจวาดหวังว่าหญิงสาวจะจากไปทันทีหลังจากทราบชื่อของเขา ไม่ทำให้ชายหนุ่มผิดหวัง ปลายสายตั้งใจจะออกไปจากช่องถ่ายทอกสดของชายหนุ่มจริงๆ

"โอเค งั้นนายก็ไลฟ์ของนายไป ถ้าฉันออกไปจากช่องของนายนานเกิน 2 ชั่วโมง ไม่กลับเข้ามา ก็ไม่ต้องรอฉันแล้วนะ จะปิดไลฟ์ไปเลยก็ได้ ฉันจะทักไปคุยกับนายในเรื่องนี้อีกครั้งในวันพรุ่งนี้" ปลายสายกล่าวออกมาเสียงเย็น ก่อนที่จะวางสายไป

ตืด

[ผู้เข้าร่วมออกจากช่องถ่ายทอดสด]

คิมหันต์จ้องมองข้อความที่ปรากฏบนช่องแชท ว่าตอนนี้จอมพลสาวออกไปจากการถ่ายทอดสดของเขาแล้ว ใบหน้าธรรมดายิ้มร่า ในใจเบิกบานราวกับดอกไม้ผลิบานกลางทุ่งหญ้า แขนขวาชูขึ้นชี้ฟ้า มือของเขากำหมัด ส่วนท่อนล่างก็กระโดดไปมา แสดงออกถึงความดีใจเกินปกติ แต่ก็ไม่อาจต่อว่าอะไรชายหนุ่มได้ การเผชิญหน้ากับคนที่มีแรงกดดันตลอดเวลา ทำให้คิมหันต์ที่เคยมีชีวิตแสนธรรมดาหวาดกลัวกับตัวตนที่แข็งแรงกว่าเขา

ตอนที่เขาได้รับแรงกดดันนี้ เขาไม่อาจขยับตัวได้เลย สำหรับชีวิตพนักงานบริษัทที่ไม่เคยสัมผัสพลังเหนือธรรมชาติมาก่อน การที่จู่ๆ มารับรู้แรงกดดันของคนที่มีอำนาจเหนือกว่าข่มขู่ ก็ทำให้มนุษย์ตัวจ้อยอย่างคิมหันต์หวาดกลัว คนขี้ขลาดอย่างเขา เริ่มรู้สึกว่าตอนแรกที่มาที่นี่ที่ตะโกนเรียกระบบอย่างไม่กลัวเกรง ช่างดูเป็นการกระทำที่โง่ไม่น้อย หากตอนนั้นที่เขาตะโกนออกไปแล้วไม่ได้เจอระบบ แต่พบกับสัตว์ประหลาดแทนล่ะ แล้วเขาที่มาตัวเปล่าจะเอาอะไรไปสู้

คิมหันต์ตระหนักได้ถึงความสำคัญของเพศรองทันทีที่พบกับไอรีน ความกดดันที่เจอแม้เขาจะไม่ได้ถามระบบว่า สิ่งนี้คืออะไร เขาคาดเดาเอาเองทันทีว่า สิ่งนี้น่าจะเป็นฟีโรโมนของเพศรอง ความแตกต่างนี้ทำให้เขาเห็นประโยชน์ของการดื่มยาวิวัฒนาการ การมีเพศรองมันเพิ่มโอกาสให้มนุษย์ธรรมดาอย่างเขามาก แม้ว่าหลังจากได้เพศรองมาแล้ว เขาก็คิดว่าตนไม่น่าจะฝึกจนเก่งกาจระดับท่านไอรีนได้ แต่อย่างน้อย ถ้าเขาสามารถทนแรงกดดันฟีโรโมนของสิ่งมีชีวิตต่างดาวได้ คิมหันต์ก็คาดว่าตนน่าจะหนีจากอันตรายไปได้ไกล การเอาตัวรอดของเขาน่าจะมีเปอร์เซ็นต์ที่สูงขึ้น

ยิ่งคิดเกี่ยวกับเพศรองมากขึ้นเท่าไหร่ชายหนึ่งก็ตราตรึงกับความน่ากลัวของจอมพลสาวมากขึ้นเท่านั้น เขาคิดกับตัวเองทันทีว่า หากเป็นไปได้ตนก็ไม่อยากเผชิญหน้ากับเหล่าอัลฟ่าแบบหล่อนเลย ไม่ต้องคิดสภาพตัวของเขาต่อสู้ แค่ไม่ทำให้คนพวกนั้นโกรธก็น่าจะถือว่าเขาได้เสี่ยงตายไปครึ่งหนึ่งแล้ว

คิมหันต์ทำตามคำสั่งของไอรีนเป็นอย่างดี หลังจากนั่งรอมาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่งไม่เห็นว่า จะมีใครเข้ามาในช่องถ่ายทอดสดของเขาอีก ชายหนุ่มจึงทำการสิ้นสุดการไลฟ์

"พี่เทพ ปิดไลฟ์ครับ" ชายหนุ่มพูดประโยคคำสั่งกับระบบ

[สิ้นสุดการถ่ายทอดสด] เสียงโมโนโทนดังขึ้นพร้อมข้อความที่ลอยเหนือหน้าจอสี่เหลี่ยม หน้าจอลอยกลางอากาศที่สาดสะท้อนภาพของชายหนุ่มก็มืดดับลงทันทีที่ระบบขึ้นข้อความ หน้าจอสี่เหลี่ยมกลับมาเป็นจอโล่งๆ เหมือนตอนเจอครั้งแรก คิมหันต์ทิ้งตัวนอนบนทรายทันที เสียงท้องของเขาดังโครกคราก เพราะก่อนหน้านี้เขาเจอคนใหญ่คนโตทำให้ตกใจจนลืมว่าหิวไปพักใหญ่ แต่หลังจากที่จอมพลสาวไม่กลับมานานทิ้งให้เขาทนความหิวไปเรื่อยๆ จนทำให้ตอนนี้เสียงคำรามในกระเพาะอาหารกำลังกู่ร้องอ้อนวอนขออาหารประทังชีวิต

"พี่เทพ วันนี้ผมได้แต้มอะไรบ้าง มีพอซื้ออะไรทานไหมครับ ผมหิวมาก" ชายหนุ่มเอ่ยถามระบบถึงจำนวนแต้มที่ได้จากการไลฟ์ครั้งนี้ ที่เขาเองก็ไม่มั่นใจว่าจะได้มากมาย แต่ก็คาดหวังว่าน่าจะมีสินค้าที่ตนใช้จ่ายได้

[แต้มที่ได้รับจากวันนี้ คือ 217 แต้ม โดยเก็บแต้มจากจำนวนผู้เข้าชม 1 คน คิดเป็น 1 แต้ม รวมกับแต้มจากจำนวนเวลาที่ถ่ายทอดสด 3 ชั่วโมง 36 นาที คิดเป็น 216 นาที นับเป็น 216 แต้ม ส่วนเรื่องที่น้องคิมอยากทานอะไร ก็ให้เข้าไปซื้อในร้านค้าสหพันธ์ของพี่เทพ วิธีการก็ง่ายมาก สัมผัสหน้าจอสี่เหลี่ยมพูดประโยคคำสั่ง 'ระบบ เข้าร้านค้าสหพันธ์' จากนั้นก็จะปรากฏสินค้ามากมายให้เลือกสรร] ระบบร่ายยาวถึงแต้มที่ได้มาวันนี้ พร้อมทั้งบอกวิธีการซื้อสินค้าในระบบ

"โอเค ผมเข้าใจที่พี่บอกแล้ว ครั้งนี้ได้แต้มเยอะกว่าที่คิดไว้ตอนแรกซะอีก งั้นผมไม่ควรจะโกรธจอมพลคนนั้นสินะ ที่เธอทำให้ผมนั่งหิวนานสองนาน สุดท้ายการรอครั้งนี้มันก็ทำให้ผมได้แต้มซื้อของจำนวนมาก" คิมหันต์เมื่อรับรู้ว่าจำนวนแต้มที่ได้มีไม่น้อย เขาก็ดีใจมาก จนมองข้ามความโมโหที่ถูกอัลฟ่าสาวทิ้งให้รอออกไปจากหัวใจ

ใบหน้าธรรมดายิ้มแย้ม เขาเริ่มทำสิ่งที่ระบบแนะนำ แขนขวาของเขาเหยียดตรงมาข้างหน้า ฝ่ามือสัมผัสกับหน้าจอสี่เหลี่ยมกลางอากาศ ชายหนุ่มไม่รอช้าพูดประโยคคำสั่งออกไป

"พี่เทพ เข้าร้านค้าสหพันธ์" สิ้นเสียงของคิมหันต์ ความว่างเปล่าบนหน้าจอสี่เหลี่ยมแปรเปลี่ยนคล้ายกับเว็บไซค์ซื้อของออนไลน์ ในนั้นเต็มไปด้วยหมวดหมู่ เขาเดาเอาว่าวิธีการใช้น่าจะไม่ต่างจากเว็บช้อปปิ้งออนไลน์เท่าไหร่ นิ้วเรียวจิ้มไปบนหมวดอาหารทันที ปรากฏภาพอาหารจำนวนมาก สายตาของเขาเลื่อนดูเมนูอาหารไปเรื่อยๆ ไม่ว่าจะดูเท่าไหร่ ก็พบแต่ความไม่คุ้นเคย

"โอ้โห้ พี่เทพ ในนี้มีแต่ของที่ผมไม่รู้จัก" ชายหนุ่มว่าพลางมือขวาก็เลื่อนดูเมนูไปด้วย เขาอดไม่ได้ที่จะบ่นกับระบบ

[แน่นอน เพราะที่นี่เป็นแหล่งสำคัญของเหล่าผู้ใช้ระบบที่ต้องการจะวางขายสินค้าของตนเอง] ระบบอธิบายว่าทำไมสินค้าที่เห็นถึงดูแตกต่างกันมาก เพราะมาจากหลายดวงดาวที่อยู่ในการดูแลของสหพันธ์ สินค้าของแต่ละคนจึงมีเอกลักษณ์

"ขนาดนั้นเลยเหรอครับ" คิมหันต์อดไม่ได้ที่จะถาม ถ้าระบบบอกแบบนั้นไม่ใช่ว่าตลาดของที่นี่มันใหญ่สุดๆไปเลยไม่ใช่เหรอ

[ถูกต้อง นอกจากจะเป็นที่ที่มีสินค้าที่หลากหลาย ที่นี่ยังเป็นที่สำคัญในการหารายได้ น้องคิมสามารถเอาสินค้าของตัวเองมาวางขายสร้างรายได้ที่นี่ได้ เป็นหนทางหาแต้มเพิ่มนอกจากการไลฟ์]

"น่าสนใจมากเลยนะครับ งั้นพอผมทานอะไรเรียบร้อย เราจะมาคุยเรื่องนี้กันต่อนะครับ" ชายหนุ่มฟังสิ่งที่ระบบอธิบาย ใจก็ชื้นขึ้นมาไม่น้อย หากอนาคตตนมีผู้ติดตามประมาณหนึ่ง การขายสินค้าน่าจะเพียงพอในการซื้ออาหารประทังชีวิตแล้ว

"เท่าที่ผมดูมา ผมว่าน่าจะทานอาหารของดาวหลักได้" คิมหันต์หยุดอยู่ที่เมนูหนึ่ง เขากดเข้าไปที่ภาพอาหารที่ดูคุ้นเคย ในภาพเป็นอาหารที่เหมือนทำจากแป้ง ลักษณะแป้งจะเป็นเส้นกลมยาววางม้วนขดเป็นวงกลม บนนั้นจะราดซอสสีขาวที่มีความหนืดเล็กน้อย ในจานเหมือนจะมีผักบางอย่างที่เขาไม่รู้จัก แต่โดยรวมไม่ว่าจะมองยังไง ก็คืออาหารของโลกของเขานี่หน่า

"พี่เทพๆ อาหารจานนี้มีวัตถุดิบหลายอย่างที่คล้ายๆกับสิ่งที่ผมรู้จัก ตามคำแนะนำใต้ภาพเขียนว่า ซาปาตี มันก็คล้ายกับสปาเก็ตตี้ที่ผมรู้จัก" ยิ่งชายหนุ่มมองภาพเท่าไหร่ ก็มั่นใจว่าสิ่งนี้น่าจะมีความเกี่ยวข้องกับชาวโลกมากขึ้น นิ้วเรียวกดซ้ำที่ภาพ เพื่อเด้งออกจากภาพซาปาตีที่ขยายเต็มหน้าจอก่อนหน้านี้ เมื่อออกมาจากภาพขยายก็จะเห็นคำอธิบายของอาหารใต้รูป ถัดจากคำอธิบาย ข้างใต้จะเป็นราคาของแต้มที่ต้องเสีย ในบรรทัดต่อมาจากราคาจะเป็นแท็กประเภทของอาหาร หรือถิ่นกำเนิดของอาหาร และสุดท้ายอยู่ล่างสุดจะเป็นโปรไฟล์ของผู้ใช้ระบบที่เป็นผู้ขาย

คิมหันต์มองคำอธิบายอย่างผ่านๆ เพราะพออ่านเขาพบว่าวิธีทำไม่ต่างจากสิ่งที่เขารู้ ต่างแค่วัตถุดิบที่ไม่รู้จักเท่านั้น ชายหนุ่มล่ะความสนใจในเมนูนี้ทันที เมื่อสายตาเห็นแท็กประเภทอาหารที่อยู่ใต้ราคา นิ้วเรียวของเขากดเข้าไปที่แท็กอาหารดาวหลัก หน้าจอเมนูซาปาตีเปลี่ยนหน้าไปเป็นรายการสินค้าเกี่ยวกับอาหารของดาวหลัก ในนั้นเต็มไปด้วยสิ่งที่ชายหนุ่มคุ้นเคยมากมาย เขาเลื่อนดูสิ่งต่างๆอย่างมีความสุข

"อันนี้เขาบอกว่าเป็นสลัดทำจากพืชชื่อ มงกง แต่ผักที่ผมรู้จักหน้าตาแบบนี้ ผมว่าคล้ายกับมะละกอมากกว่า" คิมหันต์พูดพลางวิเคราห์ ในใจคาดไป 80 % เลยว่าเมนูสลัดมงกงเนี่ย มันคือ ส้มตำมะละกอชัดๆ ถึงในใจจะบ่นถึงความเปลี่ยนแปลงแต่ชายหนุ่มก็อดไม่ได้ที่จะดีใจที่อาหารของโลกยังไม่สาบสูญ