webnovel

ความรัก... บทส่งท้าย

บรรยากาศริมแม่น้ำอันเงียบสงบยามเช้ามืดและสายลมที่พัดเอื่อยๆที่ผ่านเข้าปะทะผิวหน้าหล่อนเบาๆทำให้หญิงสาวรู้สึกสุขสบายใจอย่างบอกไม่ถูก ความสุขสงบจากส่วนลึกของใจมันเป็นเช่นนี้เอง

สิปรางค์นั่งอยู่บนตักของชายหนุ่มที่หล่อนรักที่สุด หญิงสาวซุกหน้าลงกับอกเขา ขาทั้งสองของหล่อนห้อยไปที่ขั้นบันได วินเอาผ้าห่มคลุมมะปรางของเขาไว้ทั้งตัว ชายหนุ่มกอดหล่อนไว้แน่น อีกนานเท่าไหร่ไม่รู้ที่เขาจะได้มีโอกาสกอดคนสวยตัวเล็กๆของเขาเช่นนี้อีก

"อากาศตอนเช้านี่มันเย็นกว่าที่ผมคิดแฮะ"

วินโอบหญิงสาวแน่นกระชับขึ้นอีก วันนี้แล้วสินะ ที่เขาจะต้องไกลจากหล่อนอีกครั้งหนึ่ง เป็นการเดินทางไกลซึ่งมะปรางไม่ยอมให้เขาไปด้วยแม้เขาจะอ้อนวอนเพียงใด

ชายหนุ่มอดน้ำตารื้นไม่ได้เมื่อคิดไปถึงตอนที่เขาและหล่อนถกเถียงกันเรื่องนี้ หลังจากกำหนดการเดินทางไปรักษาตัวที่แดนไกลได้ถูกกำหนดขึ้น

"วิน ที่โน่นเค้าจะดูแลเราเป็นอย่างดี เพื่อนของคุณพ่อเป็นหมออยู่ที่นั่น วินเชื่อใจได้ ไม่ต้องเป็นห่วง"

"มะปรางอย่ากันผมออกไปจากชีวิตเหมือนครั้งที่แล้วสิ ทำไมทำอย่างนี้อีกแล้ว" เขาทำใจอยู่ห่างไกลจากคนสวยแสนดื้อคนนี้ไม่ได้จริงๆ ความรู้สึกทรมานมากมายจากการที่ต้องห่างจากมะปรางของเขาในครั้งที่แล้วยังตามมาหลอกหลอน

"เปล่านะ วินยังอยู่ในชีวิตเรา เราแค่ห่างกันแป๊บเดียว วินสบายใจได้เลยนะ คุณพ่อคุณแม่ของเราไปด้วย มีท่านอยู่ข้างๆแล้ว เราไม่กลัวเลย เรายังไม่เป็นอะไรตอนนี้ง่ายๆหรอกวิน ยังต้องรักษากันอีกนาน วินจัดการเรื่องทางนี้ให้เรียบร้อยก่อนแล้วค่อยตามไปทีหลังนะ"

หญิงสาวยังพูดรัวเร็วยาวเหยียดเหมือนเคยในเวลาที่ต้องการจะโน้มน้าวจิตใจใคร แม้ตอนนี้หล่อนจะรู้สึกเหนื่อยเหลือเกิน

"แล้วความรู้สึกผมล่ะ มะปรางไม่ห่วงผมบ้างเหรอ ผมอยู่ทางนี้คนเดียว ผมจะเป็นยังไง ผมทนเป็นห่วง ทนคิดถึงมะปรางไม่ได้หรอกนะ" หากผู้คนเป็นคนรักก็ตัดพ้อยาวเหยียดกลับไปเช่นกัน เขาไม่อยากเก็บความรู้สึกนี้ไว้คนเดียวอีกแล้ว

"แต่สิ่งที่เราอยากเห็นที่สุดคือความฝันของเราทั้งสองที่กำลังจะเป็นจริง วินจะทิ้งมันไปตอนนี้ไม่ได้นะ วินจะทิ้งไร่กาแฟในขณะเก็บเกี่ยวไปได้ยังไง วินอุตส่าห์ลงทุนลงแรงกับมันมาตั้งหลายเดือน เราไม่ยอมหรอก"

อย่างไรก็ต้องพยายามหว่านล้อมเขาให้อยู่ที่นี่ให้ได้ สิ่งที่คนรักของหล่อนทำมาทั้งหมดมันต้องดำเนินต่อไป จะมาสะดุดลงเพราะการเจ็บป่วยของหล่อนไม่ได้

"มะปราง… ผมไม่สน ช่างไร่กาแฟมันสิ ผมไม่แคร์ เราต้องอยู่ด้วยกัน ผมอยากจะดูแลมะปราง ยังไงผมก็จะไปด้วย" คนตัวสูงเริ่มงอแง เมื่อเริ่มรู้ตัวว่าจะต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ต่อคนตัวเล็กอีกครั้ง

"วิน… ถ้าวินไปด้วย เราจะไม่สบายใจ วินก็รู้จักเราดี เราเข้มแข็งพอ เดี๋ยวเราวิดีโอคอลคุยกันทุกวันก็ได้นี่นา ภาพที่จะทำให้เรามีกำลังใจที่ดีคือภาพวินอยู่ที่ไร่และกำลังยืนคั่วเมล็ดกาแฟจากไร่ของเราอยู่ เราไม่อยากเห็นวินนั่งหน้าเศร้าอยู่ข้างๆเตียงของเรา ไม่รู้ล่ะ เราไม่ให้วินไปด้วย ห้ามไป"

หญิงสาวยื่นคำขาดก่อนที่หล่อนจะหมดแรงในการโต้เถียงกับชายหนุ่ม

และแล้ววินก็ต้องยอมจำนนต่อหญิงสาวที่เขารักอีกครั้ง ในหลายครั้งเขาก็ไม่อาจเข้าใจวิธีคิดของมะปรางได้ หญิงสาวมีวิธีการของหล่อนที่ไม่เหมือนคนอื่น แม้แต่ในเวลานี้… เขาไม่เข้าใจจริงๆ คนทุกคนก็อยากอยู่ข้างๆคนที่ตัวเองรักในยามเจ็บป่วยไม่ใช่หรือ ทำไมหล่อนใจแข็งนัก ผู้หญิงคนนี้กันเขาออกจากชีวิตหล่อนได้อีกครั้ง

ความเข้มแข็งของหล่อนทำให้เขาเจ็บปวด…

"แปลกดีนะ เราเคยภูมิใจว่าเรามีหัวสมองที่ดีกว่าคนอื่นๆ ตั้งแต่เด็กๆใครๆก็ชมว่าเราฉลาด ถ้าใครถามเราว่าชอบอะไรที่สุดในตัวเรา เราก็จะตอบทันทีโดยไม่ลังเลเลยว่า ชอบสมอง แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นว่าส่วนที่เราชอบที่เรารักที่สุด มันกำลังทำร้ายเรา"

คนป่วยในอ้อมอกเขาพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนแรง ชายหนุ่มกอดหล่อนแน่นขึ้น มองคนรักของเขาด้วยสายตาที่อ่อนโยน รู้ว่าการพูดยาวๆแบบนี้ทำให้หล่อนเหนื่อยมาก ระยะหลังๆมานี้มะปรางของเขาอ่อนเพลียง่ายขึ้นมาก แค่จะลุกขึ้นนั่งก็ต้องระวังไม่ลุกเร็วเกินไปเพราะอาการวิงเวียนศีรษะจะเกิดขึ้น และหล่อนก็ไม่สามารถเดินเป็นระยะไกลๆได้แล้ว เวลาส่วนใหญ่ในแต่ละวันของหล่อนหมดไปกับการนั่งเล่นที่บันไดท่าน้ำสลับกับการขึ้นมานอนพักบนบ้าน

ชายหนุ่มลูบไล้ปลายผมอ่อนนุ่มนั้นอย่างเบามือ รู้ว่าอีกไม่นานผมนุ่มสวยนี้จะไม่เหลืออยู่เลยเนื่องจากการกระบวนผ่าตัดสมอง วินสงสารคนในอ้อมกอดจับใจ มะปรางรักสวยรักงาม หล่อนคงรู้สึกแย่ไม่น้อยที่จะไม่สามารถจะรักษาเส้นผมนุ่มๆนี้เอาไว้ได้ แต่มะปรางของเขาก็ไม่เคยพูดถึงหรือแสดงอาการวิตกกังวลใดๆเกี่ยวกับอาการป่วยของตนเองเลย หล่อนกลับพยายามช่วยเหลือตนเองทุกอย่าง ไม่เคยยอมให้เขาต้องมานั่งเฝ้า ไล่ให้เขาไปทำงานในไร่ตลอดเวลา

เขารักหัวใจแกร่งดวงนี้เหลือเกิน…

"งั้นมะปรางต้องเปลี่ยนมาเป็นรักหัวใจของมะปรางเองแทนสมองละกัน เราจะได้รักในสิ่งสิ่งเดียวกัน ดีไหม"

จากที่เคยเป็นคนไม่ค่อยพูด วินต้องเปลี่ยนมาเป็นคนที่พูดมากขึ้นตั้งแต่หญิงสาวเริ่มป่วยมีอาการทางสมอง เขาอยากพูดเพื่อให้หล่อนสบายใจและคลายวิตกกังวล

"วินเริ่มชอบเราตั้งแต่ตอนไหน"

ตอนนี้หญิงสาวอยากเก็บความรู้สึกทุกเสี้ยววินาทีกับชายหนุ่มตรงหน้าไว้ในความทรงจำให้มากที่สุด หล่อนไม่แน่ใจว่าเมื่อฟื้นจากการผ่าตัดแล้วความทรงจำทุกอย่างที่เกี่ยวกับเขาจะยังอยู่ครบเหมือนเดิมไหม หล่อนอยากมีผู้ชายน่ารักๆแบบนี้ไว้ในความทรงจำตลอดไป

วินเป็นผู้ชายที่น่ารักที่สุดเท่าที่หล่อนเคยเจอมา

คนน่ารักอมยิ้มมองคนสวยตรงหน้าด้วยความรักอย่างท่วมท้น รู้ว่าวันนี้ต้องมาถึง วันที่มะปรางอยากจะรู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับเขา

"ก็ตั้งแต่วันที่ได้ยินใครไม่รู้ร้องเพลงสาวเชียงใหม่ที่ท่าน้ำ แล้วก็ร้องเพี้ยน" เขายังจำวันนั้นได้ดี

"หา! วินชอบเราตั้งแต่แรกพบเลยเหรอ"

หญิงสาวยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ไม่คิดว่าตนเองก็มีเสน่ห์เหมือนกัน ขนาดร้องเพลงเพี้ยนนะเนี่ย

"ก็…น่ารักดี"

ชายหนุ่มพูดแล้วก็เขิน ไม่รู้ว่ามาถึงขนาดนี้แล้วจะเขินทำไม แต่เขาก็ยังรู้สึกเขินทุกครั้งเมื่ออยู่ใกล้มะปรางของเขา

"เราเริ่มชอบวินตอนนั่งดูดาวที่บ้านลุงแปง คือเสียงขลุ่ยมันเข้าบรรยากาศมาก แล้วคือที่วินนั่งพิงฝาบ้านแบบสบายๆ วินดูเท่มากเลย" หญิงสาวยิ้มหวานรายงานโดยที่ชายหนุ่มไม่จำเป็นต้องถามกลับ

วินยิ้มกว้างพร้อมกับเอามือเขี่ยแก้มคนสวยไปมา เขาชอบหล่อนก็ตรงนี้ ตรงที่มะปรางของเขาเป็นคนสวยที่ตรงไปตรงมาซะเหลือเกิน

"วิน… ชาติหน้าเราเกิดมาเป็นแฟนกันอีกนะ" คนสวยเงยหน้าขึ้นจ้องมองดวงตาชายหนุ่มอย่างลึกซึ้ง

"แน่นอนครับ" เขาก้มลงจูบหน้าผากเนียนนั้นอย่างแผ่วเบา ไม่ว่าชาติไหนเขาก็อยากจะเป็นแฟนกับเด็กดื้อคนนี้ เด็กดื้อที่อีกไม่นานจะทิ้งเขาไว้กับไร่กาแฟอย่างเดียวดาย

"แต่อันที่จริงชาตินี้เราก็ยังเป็นแฟนกันอยู่เลย จะรีบคิดถึงชาติหน้าไปทำไมครับ" เขาพูดยิ้มๆ

"ก็… เราไม่รู้ว่าเราจะได้กลับมาหรือเปล่า…" หญิงสาวพูดด้วยใบหน้าเรียบเฉย

หล่อนอยากทำให้เรื่องการจากกันเป็นเรื่องธรรมดาที่สุด สิปรางค์รู้ตัวดีว่าหล่อนมีอาการสับสนไปมาอยู่เป็นระยะๆ บางขณะก็คิดว่ายังไงก็จะสู้ต่อ หล่อนจะไม่ยอมแพ้ หากในบางขณะความคิดว่าตนเองคงไม่มีทางรักษาหายก็จะมารบกวนอยู่เป็นระยะๆ

"เฮ้ย! กลับมาสิครับ กลับมาทำการตลาดกาแฟออร์แกนิคแบบที่มะปรางฝันไว้ไง"

ชายหนุ่มจ้องตาหล่อน พยายามบังคับตนเองไม่ให้เสียงสั่นและกลั้นน้ำตาเอาไว้อย่างสุดความสามารถ หมดเวลาที่จะเศร้าเสียใจแล้ว เขาเศร้ามามากแล้ว ตอนนี้เขาต้องมีความหวังเท่านั้น ต้องหวังว่ามะปรางของเขาจะต้องหายเป็นปกติ

"แต่อย่างน้อย การจากไปของเราในวันนี้ มันก็ไม่ทำให้เราต้องทนอยู่กับความรู้สึกผิดไปชั่วชีวิตนะ วิน…"

เขารู้ว่ามะปรางยังไม่เคยลืมเรื่องการปิดโรงงาน ความรู้สึกผิดยังตามมาหลอกหลอนหล่อนอยู่เสมอๆ

"รู้สึกผิดที่ทำกับข้าวไม่เป็นน่ะหรือครับ" แต่วินก็พยายามพูดมุกตลกที่สุดที่เขานึกได้ในขณะนั้น

เขาเคยอ่านมาว่าผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งที่สมองนั้นอาจจะมีอาการซึมเศร้าหรือกังวลกว่าปกติ แม้ว่าพวกเขาอาจจะไม่เคยมีอาการเหล่านี้มาก่อนได้ เกิดจากการที่เนื้องอกนั้นไปกดหรือทำให้สมองส่วนหน้าเกิดการระคายเคือง ซึ่งเป็นสมองส่วนที่ควบคุมการแสดงออกของบุคลิกภาพ ทำให้มีอารมณ์และความนึกคิดกลับไปกลับมาได้

"อุ๊ย เรื่องนั้นเราไม่เคยรู้สึกผิดหรอก วินทำกับข้าวเก่งจะตาย"

ได้ผล เขาต้องพยายามไม่เศร้าตามไปกับหล่อนด้วย เขาต้องพยายามทำให้หญิงสาวสบายใจที่สุด เป็นแค่มะเร็งสมองก็พอแล้ว เขาไม่อยากให้มะปรางเป็นโรคซึมเศร้าด้วยอีก

"อื้อ… มะปรางต้องรีบกลับมาหาผมไวๆนะครับ นี่ผมจะทำตำขนุนรอไว้เลย ให้สมเพชรกับลุงแปงไปเก็บผักเสี้ยนหนามรอไว้ด้วย แล้วผมก็จะแพ็คเมล็ดกาแฟที่คั่วเสร็จแล้วใส่ถุงรอไว้ให้มะปรางขับรถเอาไปขายที่ตลาด"

"อื้อ…วิน อย่าทิ้งไร่กาแฟของเรานะ"

สีหน้าที่สดชื่นขึ้นมาของหญิงสาวทำเอาวินสะท้อนใจ มองใบหน้าสวยอันเป็นที่รักนั้นแล้วก็อดที่จะรู้สึกอ่อนแอขึ้นในส่วนลึกของจิตใจไม่ได้ เคยคิดว่าตัวเองทำใจได้แล้ว เขาต้องเข้มแข็งเพื่อหล่อน แต่พอมาถึงวันนี้ที่หล่อนจะต้องบินไปรักษาตัวจริงๆ เขากลับทำใจได้ยากมาก หากไม่มีหล่อนเป็นแรงใจแล้ว เขาจะต่อสู้กับความฝันคนเดียวได้อย่างไร หล่อนเป็นความเข้มแข็งในชีวิตของเขา

"แค่คิดก็มีความสุขแล้ว ไปเยอรมันแค่แป๊บเดียว เดี๋ยวก็จะได้กลับมากินกับข้าวฝีมือวินอีก"

แม้สิปรางค์จะหายใจหอบแรงด้วยความเหนื่อย ทว่าใบหน้าของหล่อนกลับเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม หญิงสาวพยายามสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าเต็มปอดให้ได้มากที่สุด อากาศริมแม่น้ำยามเช้านี้ช่างสดชื่นเหลือเกิน

แม้จะหายใจลำบาก และอาการปวดศีรษะก็รบกวนอยู่เรื่อยๆ แต่หญิงสาวก็มีความสุข หล่อนไม่กลัวความตาย การได้อยู่ในอ้อมกอดของผู้ชายที่หล่อนรัก มันทำให้สิปรางค์ไม่กลัวอะไรอีกแล้วในชีวิตนี้

"ผมจะทำตามหน้าที่ของผม แต่มะปรางก็ต้องทำตามหน้าที่ของมะปรางนะครับ มะปรางจะต้องรักษาตัวเองเป็นอย่างดี ห้ามตาย มะปรางจะต้องหาย สัญญานะครับว่ามะปรางจะกลับมาเอากาแฟของผมไปขายที่ตลาดสะเมิง" เขาลูบไล้ใบหน้าเนียนอย่างแผ่วเบา คนสวยของเขา…

"สัญญานะครับว่ามะปรางจะกลับอยู่กับผม"

หล่อนคือแรงใจของเขา ผู้หญิงที่มีหัวใจแกร่งคนนี้ เขาจะสู้เพื่อหล่อน เพื่อไร่กาแฟของเรา

"อื้อ… เราสัญญา เรารักวินนะ รักมากที่สุด…"

เขาคือแรงใจของหล่อน ผู้ชายนัยน์ตายิ้มได้คนนี้ หล่อนรู้สึกอยากมีชีวิตอยู่ต่อก็เพื่อเขา เพื่อไร่กาแฟของเรา

"ผมก็รักมะปรางนะครับ รักมากที่สุดเหมือนกัน…"

วินพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง มองหล่อนด้วยแววตามุ่งมั่น ชายหนุ่มจะพยายามทำความฝันของหล่อนให้เป็นจริง มะปรางจะไม่ต้องรู้สึกผิดอีกต่อไป เขาจะแสดงให้หญิงสาวเห็นว่าผู้ชายเรื่อยเปื่อยอย่างเขา หากต้องลุกขึ้นมาทำเพื่อหญิงสาวอันเป็นที่รัก เขาก็จะทำมันให้สำเร็จ

ชายหนุ่มเห็นคนในอ้อมแขนยิ้มตอบกลับมาหวานมาก เป็นรอยยิ้มที่กระจายอยู่ทั่วใบหน้าอย่างมีความสุข เป็นรอยยิ้มที่เขาจะเก็บเอาไว้เป็นแรงใจของเขา วินสบตากับมะปรางของเขาอย่างเนิ่นนาน ให้คำมั่นสัญญากับหญิงสาวอย่างอ่อนโยนทว่าหนักแน่น

"รอผมนะ มะปรางของผม ผมจะไปรับมะปรางกลับมาด้วยตัวเอง เราจะกลับมาอยู่ไร่กาแฟของเราด้วยกัน"

เมื่อประตูบานเก่าปิดลง ประตูบานใหม่จะเปิดขึ้นมาเสมอ

อยู่ที่ว่า คุณจะเลือกเปิดประตูบานใหม่ แล้วก้าวเดินออกไป

หรือคุณจะขังตัวเองอยู่ในห้องเดิมตลอดไป…

..........................................จบ...........................................................