บทที่ 11 ห่วงยาง
ซีหลินกระหืดกระหอบ หอบของหลายอย่างวิ่งมารอรถที่หน้าโรงพยาบาล เธอพยายามเรียกรถรับจ้างในแอปพลิเคชัน แต่เหมือนรถละแวกนี้มีคนจองหมดแล้ว ช่วงกลางวันมีคนไข้และประชาชนเข้ามาใช้บริการโรงพยาบาลจำนวนมาก ทำให้รถรับจ้างมีไม่เพียงพอ
หญิงสาวชะเง้อคอมองหารถ ถ้าไม่มีรถรับจ้างก็จะนั่งรถเมล์ไปก็ได้ แต่ก็ไม่แน่ใจว่าต้องรอนานเท่าไหร่ ก้มลงดูเวลาในนาฬิกาก็กระชั้นเข้ามาทุกที ซีหลินร้อนใจตัดสินใจจะวิ่งออกจากที่นี่ไปสักระยะ อีกสักสองสามถนนข้างหน้า อาจจะมีรถผ่านมามากกว่ายืนรอหน้าโรงพยาบาลที่มีคนต้องการรถจำนวนมากแบบนี้
เพื่อเตรียมการช่วยเด็กวันนี้ เมื่อเช้าที่สั่งซื้อเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวจากร้านค้าออนไลน์ ซีหลินก็วางแผนถึงสิ่งที่จะทำในวันนี้ไว้แล้ว เธอสั่งเสื้อผ้าและรองเท้าผ้าใบที่สะดวกต่อการเคลื่อนไหวไม่อุ้มน้ำ เป็นชุดที่ใส่ออกกำลังกายและใส่เที่ยวได้สะดวกและไม่สะดุดตา รองเท้าผ้าใบกับกางเกงขายาว ใส่วิ่งอยู่บนทางเท้า แม้จะถือของพะรุงพะรังอยู่บ้างก็ไม่ลำบากเหมือนใช้ส้นสูงวิ่งหนีพวกแก๊งเงินกู้เมื่อวาน
เธอวิ่งไปด้วยมองถนนข้างๆไปด้วยเผื่อว่าจะเห็นรถสักคัน ตอนที่วิ่งมากได้สักระยะ ก็มีเสียงแตรกดเรียกดังขึ้นมา
ซีหลินหันกลับไปมองตามสัญชาตญาณ ก็เห็นรถเบนท์ลี่ย์ สีดำกำลังขับช้าๆเทียบท่าเข้ามาจอดริมทางจุดที่เธอยืนอยู่ หม่าเจิ้นตง เลขาของซ่งเว่ยหนานชะโงกหน้าออกมาจากที่นั่งข้างคนขับ
"คุณหนูซีหลิน"
"เลขาหม่า" ซีหลินหยุดวิ่งแล้วกล่าวทักทายด้วยน้ำเสียงหอบเล็กน้อย เหมือนเจ้าของร่างจะไม่ค่อยได้ออกกำลังกายเท่าไหร่ เธอวิ่งยังไม่ถึงหนึ่งกิโลเมตรเลยก็หอบเสียแล้ว
"คุณหนูซีหลินจะรีบไปที่ไหนหรือเปล่าครับ ให้พวกเราไปส่งไหม"
"ฉันจะไปสวนสาธารณะบึงต้นหลิวค่ะ"
เพราะเป็นเรื่องของชีวิตคน ซีหลินจึงไม่กล้าอิดออด ถ้าเขายินดีขับรถพาเธอไปส่ง เธอก็ยินดีจะรบกวนเขาแน่นอน ประกอบกับคนในรถก็คือเลขาหม่าและบอดีการ์ดหย่งคัง พลเมืองดีผู้มีพระคุณที่ช่วยเธอกับพี่ชายเมื่อวาน ถ้าขึ้นรถไปกับพวกเขาก็คงไม่มีอันตราย
"ทางผ่านของพวกเราพอดีเชิญคุณหนูซีหลินขึ้นรถเลยครับ" เลขาหม่าลงจากรถมาเปิดประตูหลังให้ซีหลินขึ้นไปนั่ง
เมื่อประตูเปิด ซีหลินจึงรู้ว่าในที่นั่งผู้โดยสารมีซ่งเว่ยหนานนั่งอยู่ เขาหันมายิ้มทักทายเธออย่างสุภาพเช่นเดิม
"ท่านประธานซ่ง สวัสดีค่ะ ต้องขอโทษที่รบกวนคุณอีกแล้วนะคะ" ซีหลินยิ้มอย่างรู้สึกผิดให้เขาขณะเข้าไปนั่งในรถ
"ไม่รบกวนครับ เป็นทางผ่านอยู่แล้ว"
"ว่าแต่ว่าอาการบาดเจ็บของคุณหนูดีขึ้นแล้วเหรอครับ ใบหน้ายังบวมช้ำอยู่เลยไม่ต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลเหรอ" เลขาหม่าเอ่ยถามออกมาจากหน้ารถ
"อาการดีขึ้นมากแล้วค่ะ ยุบกว่าเมื่อวานเยอะแล้ว เหลือแค่รอยเขียวช้ำเฉยๆ" มองเห็นเวลาในหน้าจอรถ ซีหลินก็เริ่มกระสับกระส่ายขึ้นมา
"ฉันขออนุญาตยืมพื้นที่รถของท่านประธานเตรียมของสักอย่างหน่อยนะคะ พอดีมีเรื่องเร่งด่วนจำเป็นต้องใช้"
"อ๋อ ตามสบายเลยครับ มีอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่า" ซ่งเว่ยหนานเอ่ยตอบ
"ถ้าอย่างนั้นก็รบกวนหน่อยนะคะ" ซีหลินไม่มีเวลามาเกรงใจ เธอรีบหยิบห่วงยางลายเป็ดสีเหลืองพร้อมที่สูบลมที่สั่งซื้อมาจากร้านค้าออนไลน์เมื่อเช้าออกมาจากถุง
"ช่วยจับไว้ให้หน่อยนะคะ เดี๋ยวฉันจะเติมลม" ส่งปลายห่วงยางด้านหนึ่งให้ซ่งเว่ยหนานช่วยถือให้ ส่วนตัวเองก็เริ่มทำการสูบลมเข้าไปอย่างขะมักเขม้น
ชายหนุ่มในรถมองห่วงยางรูปเป็ดสีเหลืองที่กำลังพองตัวและหันมองหลี่ซีหลินที่กำลังตั้งใจทำงานของเธอเป็นตาเดียว
"อ่า…คุณหนูซีหลิน จะเอาห่วงยางนี้ไปทำอะไรเหรอครับ" เลขาหม่าอดใจไม่ไหวเอ่ยถามขึ้นมา
"อ๊ะ เอ่อ คือว่า…." เจอคำถามปุบปับซีหลินคิดหาคำอธิบายไม่ออก เธอจะบอกเขาไปได้อย่างไรล่ะว่าตัวเองมีระบบแก้ไขความเสียใจ รู้ว่าจะมีเด็กตกน้ำเสียชีวิต เลยเอาห่วงยางมาเพื่อช่วยชีวิตเด็ก
ตามที่เธอค้นหาข้อมูลเมื่อเช้า มีผู้รู้บอกไว้ว่าหากพบคนจมน้ำ วิธีการช่วยเหลือที่ดีที่สุดคือหากอยู่ในระยะที่ไม่ไกลกันนักก็ให้โยนเชือก ตะขอ หรือห่วงยางไปให้เขาจับ แล้วพยายามลากดึงเขาขึ้นฝั่ง ไม่ควรกระโดดลงไปช่วยด้วยตัวเอง เพราะเสี่ยงจะจมน้ำไปด้วยกันเกิดโศกนาฏกรรมที่น่าเศร้ามากขึ้น
เมื่อเจอข้อมูลนั้นซีหลินจึงตัดสินใจซื้อห่วงยางพร้อมเชือกและที่สูบลมมา ตั้งใจว่าจะมาที่สวนสาธารณะก่อนเวลาแล้วค่อยสูบลมใส่ คงไม่มีใครสงสัยหรือคิดว่าเธอทำตัวแปลกประหลาด เพราะตามความทรงจำของเจ้าของร่าง บึงต้นหลิวก็มีจุดที่มีคนว่ายน้ำเล่นเหมือนกัน
แต่เพราะเวลามันคลาดเคลื่อนเนื่องจากต้องคุยเรื่องคดีกับตำรวจ ทำให้ใช้เวลาเกินมา
"พอดีตั้งใจว่าจะไปว่ายน้ำเล่นที่บึง ก็เลยเอาห่วงยางมาด้วยน่ะค่ะ"
"ว่ายน้ำเล่นที่บึง ต้นเดือนเมษา อุณหภูมิสิบเจ็ดองศาเซลเซียสนี่เหรอครับ?" เลขาหม่าสอบถาม
"อุณหภูมิกำลังดี เย็นสบายเลยนะคะ แหะๆ" ซีหลินพยายามทำหน้าตามั่นใจชวนสนทนาต่อไปเหมือนตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิดปกติ "เลขาหม่าสนใจมาว่ายด้วยกันไหมคะ นี่ฉันซื้อห่วงยางมาแบบสองแถมหนึ่ง เหลืออีกสองอันมีสีชมพูลายจุดกับ สีฟ้าลายปลาวาฬ พวกคุณก็เอาไปแบ่งกันเล่นได้นะคะ เดี๋ยวฉันทิ้งที่สูบลมไว้ให้"
ระหว่างที่พูดคุยก็สูบลมเสร็จสิ้น เธอเอาเชือกที่เตรียมไว้ผูกที่เส้นห่วงยางให้แน่นหนา ถ้าโยนห่วงยางออกไปก็สามารถใช้เชือกนี้ดึงห่วงยางกลับเข้าฝั่งได้ เธอซื้อเชือกยาว15เมตร หวังว่าจะเพียงพอ
"คุณดูเตรียมพร้อมกับการเล่นน้ำดีนะครับ มีเชือกผูกที่ห่วงยางเตรียมเอาไว้ด้วย" ซ่งเว่ยหนานพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงสุภาพ ถ้าไม่สังเกตดีๆก็คงไม่รู้ว่าเขากำลังจับผิดเธออยู่
ซีหลินยิ้มแหยๆ "ปลอดภัยไว้ก่อนดีที่สุดค่ะ ฉันว่ายน้ำไม่ค่อยแข็งเท่าไหร่ก็เลยเอาห่วงยางมาด้วยเพิ่มความมั่นใจ… ถึงแล้ว ถึงแล้ว"เธอร้องอุทานด้วยความดีใจ "ช่วยจอดส่งฉันตรงนี้เลยนะคะ ขอบคุณมากๆที่มาส่งค่ะ"
เมื่อรถจอดสนิท ซีหลินก็คว้าสิ่งของที่ต้องใช้ โค้งหัวพร้อมกล่าวขอบคุณอีกหลายครั้ง แล้วก็รีบวิ่งลงจากรถไปอย่างรวดเร็ว ดีใจที่ได้รีบไปทำภารกิจ และดีใจที่ไม่ต้องตอบคำถามที่เสี่ยงจะถูกจับผิดได้อีก
ซ่งเว่ยหนานรี่ตามองหญิงสาวชุดสปอร์ตสีดำสะพายเป็ดยางสีเหลืองวิ่งปุเลงปุเลงจากไปด้วยความสงสัย
"เจ้านายว่าคุณหนูซีหลินเธอดูมีอะไรแปลกๆหรือเปล่าครับ"
"ตารางต่อจากนี้คืออะไร" ซ่งเว่ยหนานไม่เอ่ยตอบ แต่ถามคำถามแทน
"ตารางต่อจากนี้ คือไปดูที่ดินที่ถนน627 ที่มีคนอยากชวนเจ้านายลงทุนพัฒนาเป็นที่พักอาศัยครบวงจรน่ะครับ จากนั้นห้าโมงเย็นประชุมทางไกลกับบริษัทAYC เรื่องความคืบหน้าผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางตัวใหม่ หนึ่งทุ่มครึ่งรับประทานอาหารกับนายท่านผู้เฒ่าและสมาชิกตระกูลซ่งต้อนรับเจ้านายกลับมาหลังจากไปทำงานที่ต่างประเทศหกเดือน รูปแบบงานจะเป็นงานเลี้ยงเล็กๆเชิญคู่ค้านอกตระกูลมาด้วยจำนวนหนึ่ง จากที่ผมได้ยินมาเหมือนนายท่านผู้เฒ่าจะนัดคุณหนูสาวๆในวงสังคมให้มาดูตัวเจ้านายวันนี้หลายคน"
"เลื่อนเรื่องดูที่ดินไปสักหนึ่งชั่วโมงแล้วกัน"
"ได้ครับ แล้วเวลาช่วงนี้เจ้านายจะทำอะไรเหรอครับ"
"เดินเล่นสักหน่อย" ไม่ได้อธิบายเพิ่มเติม ซ่งเว่ยหนานก็เดินลงจากรถ ตามร่างหญิงสาวที่สะพายห่วงยางรูปเป็ดสีเหลืองไป
"เจ้านายจะตามไปดูคุณหนูซีหลินว่ายน้ำเหรอ?! เอ๊ย!!" พอได้ยินคำพูดของตัวเองหม่าเจิ้นตงก็รู้สึกว่าความหมายมันดูไม่ค่อยดี เขารีบหุบปากทันที หย่งคังหันมาขมวดคิ้วใส่เขาแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
หม่าเจิ้นตงเงียบเสียงไปสักพัก ในใจเต็มไปด้วยความตื่นเต้น อยากรู้จะแย่ว่าเจ้านาย ที่ไม่เคยชายตาแลหญิงสาวคนไหน จะถูกใจคุณหนูซีหลิน จนตามไปดูเธอว่ายน้ำจริงๆหรือเปล่า แต่เนื่องจากถูกฝึกฝนมาอย่างดี ถ้าเจ้านายไม่สั่งเขาก็ตามไปรบกวนไม่ได้ จึงทำได้แค่นั่งรออยู่ในรถเท่านั้น
ถ้านายท่านผู้เฒ่ารู้ว่าคุณชายเริ่มให้ความสนใจหญิงสาว ไม่รู้ว่านายท่านผู้เฒ่าจะดีใจสักแค่ไหน
"แต่คุณหนูซีหลิน เธอมาจากตระกูลที่ล้มละลาย?"
เขาพึมพำขึ้นมาเบาๆ สถานะของคุณหนูซีหลินตอนนี้ไม่รู้ว่าจะเป็นอุปสรรคหรือเปล่า ถึงเจ้านายจะไม่ใช่ทายาทผู้สืบทอดของตระกูลซ่ง แต่เจ้านายก็เป็นหลานชายที่นายท่านผู้เฒ่ารักที่สุด ผู้หญิงที่จะมาเป็นคู่ครองของเจ้านายได้ ยังไงก็ต้องมีคุณสมบัติสูงส่งคู่ควรเหมาะสมกัน สำหรับคุณหนูซีหลินตอนนี้นั้น หากอยากจะเข้าบ้านตระกูลซ่งก็คงยากอยู่พอสมควร