...….
หลังจากที่โชและเพื่อนๆได้กลับมาจากการเข้าค่าย โชยังคงทำตัวเป็นปรกติเช่นเดิม เขาไปโรงเรียนทุกวัน และพยายามช่วยงานลุงพุธในวันหยุดเสาร์และอาทิตย์มาโดยตลอด จึงทำให้ในเวลานี้ลุงพุธได้มีความรู้สึกรักและเอ็นดูหลานชายของเขา เพราะโชทำหน้าที่เกินที่เด็กทั่วๆไปจะทำได้ เขาไม่เกเร เขาทำงานเก่งโดยไม่บ่น และเขายัง ( คง ? ) ขยันเรียน ( ในที่นี้คือตามสายตาของลุงพุธ )
และโชยังคงแวะเวียนไปช่วยป้าเพ็ญขายของและเฝ้าร้านให้ เพราะโชไม่เล่นซนเหมือนเด็กในวัยเดียวกัน ( ก็เพราะเขาไม่อยากเล่นแล้วนี่.. ) จึงทำให้ตอนนี้โชคือขวัญใจ ของพวกลุงๆป้าๆ ของเขาอย่างแท้จริง
อย่าว่าแต่บรรดาผู้ใหญ่เลย โชของเราก็ยังเป็นขวัญใจมหาชนของพวกเด็กๆในชั้นเรียนของเขาอีกด้วย เขามักจะเนื้อหอมในบรรดาหมู่เพื่อนๆของเขา และยังเป็นจุดสนใจของสาวๆในวัยเดียวกัน ( หมายถึงเวลา ณ ตอนนี้ ) อย่างเลี่ยงไม่ได้
มีผู้หญิงส่งจดหมายรักให้แก่เขาด้วย ( ในสมัยนั้นยังคงนิยมอยู่ ) บางทีก็ให้ของขวัญหรือขนมแก่โช โดยที่เขาก็รับไว้อย่างไม่ให้เสียน้ำใจ แต่ความคิดของโชนั้น เขามองเด็กผู้หญิงที่เข้ามาชอบตัวของเขานั้น ว่า
' ดูสิเด็กพวกนี้ยังดูเป็นเด็กอยู่เลย.. มองยังไงก็ไม่รู้สึกถึงความสวยและน่าพิศวาสอะไรสักอย่าง แต่ก็ดูน่ารักดีนะ อย่างว่าสิ.. ทุกคนตอนนี้ยังอยู่ในวัยสดใสและร่าเริง เราคงมองดูพวกเธอเป็นแค่เด็ก ไม่ใช่ผู้หญิงสาว จะให้รู้สึกรักชอบอะไรคงจะไม่ได้.. '
' ตัวเราในตอนนี้ เริ่มเปลี่ยนอดีตของเราเองไปได้บางส่วนและ.. ตอนนี้ทับทิมจะเป็นยังไงบ้างนะ… '
โชเริ่มนึกถึงทับทิม ซึ่งในตอนนี้เขาและเธอยังไม่ได้พบกัน จึงทำให้โชนึกอะไรต่ออะไรเรื่อยเปื่อยของเขาไป
' ตอนนี้ทับทิมจะอายุเท่าไหร่กันน้า…. คงจะดูเด็กและคงจะน่ารักมากๆ '
โชแอบยิ้มกับตัวเอง ตอนนี้เขาคงว่างงานเกินไปแล้ว.. ถึงได้มานั่งคิดถึงทับทิมไปได้
" เฮ้ย.. โช นายเป็นอะไรนั่งยิ้มอยู่ได้คนเดียว " เสียงของดำทำให้เรียกสติของโชกลับมา
" อ๋อ.. เปล่า.. พอดีฉันได้ขนมมาเยอะเลย มากินด้วยกันสิเพื่อน " โชหยิบขนมมากมายในถุง ยกขึ้นมาโชว์ให้ดำดู
พร้อมกับส่งยิ้มหวานให้เพื่อนรักของเขา
" อ๋ออออ… ที่นายยิ้มน้อยยิ้มใหญ่นี่ก็คงเพราะ มีสาวๆเอาขนมมาให้เยอะแยะใช่มั้ย ? ฮ่าๆๆๆๆ… ร้ายจังนะเพื่อนเรา " ดำหัวเราะขำถูกใจที่เพื่อนของเขามีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้าม จนทำให้เขามีผลพลอยได้ไปด้วย
" อืม.. นายจะคิดแบบนั้นก็ได้นะ ตามใจของนายเลย แต่ช่วยฉันกินขนมนี่ก่อนเถอะ มันเยอะไม่ไหวแล้ว "
" ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวฉันช่วยนายเอง ถ้ายังไงเอาไปเผื่อสองแฝดไหม ? "
" แล้วแต่นายเลย ฉันยกให้ เพราะว่าฉันกินมาพอแล้ว เดี๋ยวท้องแตกตายพอดี ฮ่าๆๆ "
โชยังคงล้อเล่นกับเพื่อนตามเดิม ชีวิตของเขาไม่ต้องเครียดแล้ว และดูมีความสุข โดยที่เขาไม่ต้องดิ้นรนเหมือนอย่างแต่ก่อน แต่ในทางกลับกัน ชีวิตของทุกคนยังคงดำเนิน.. ไปเช่นเดิม ตามเส้นชีวิตที่คงเดิมอย่างเช่น ' ทับทิม '
...
ใกล้ถึงวันสอบปลายภาคเข้าไปแล้ว ทั้งคุณครูและอาจารย์ต่างก็เร่งการเรียนและการสอน รวมถึงการสอบเก็บคะแนนย่อยๆด้วย โดยจะสอบแบบวัดผลทางภาคปฎิบัติให้แก่นักเรียนทุกคน จึงทำให้เด็กๆในช่วงนี้ต่างก็ต้องรีบทำงานที่ค้างส่งอาจารย์ไว้กันแทบทั้งนั้น
" โช นายมีงานค้างส่งอาจารย์มั่งรึเปล่า ? " ดำถามโชเพื่อหาเพื่อนทำงานร่วมด้วยกันกับเขา
" ของเราน่ะเหรอ.. ไม่มีหรอก.. เราส่งอาจารย์ไปหมดแล้วขี้เกียจดองเอาไว้น่ะ " โชพูดแบบสบายๆแต่มันทำให้ดำรู้สึกผิดหวังอย่างแรง
" อ่าว.. เหรอ.. ว้า….!! นายนี่ดีจัง ทำเสร็จส่งอาจารย์ไปหมดแล้ว ส่วนของฉันยังไม่ได้ส่งอาจารย์ตั้งสองวิชาเลยเนี้ย.. โอ้ยๆๆๆๆจะปั่นงานส่งเสร็จทันรึเปล่าก็ไม่รู้ "
" ช่วยไม่ได้นี่ นายอยากดองงานส่งอาจารย์เอง ฮ่าๆๆๆ " โชขำเพื่อนรักของเขา และอดคิดไม่ได้ว่าถ้าเป็นเมื่อก่อนสมัยอดีตของเขานั้น เขาก็ไม่ได้แตกต่างอะไรจากเพื่อนของเขาสักเท่าไหร่นัก ซ้ำยังขี้เกียจทำงานส่งอาจารย์อีกด้วย และพอลุงมาบอกให้เลิกเรียนหนังสือ เขาก็ยังดีใจและเชื่อลุงอย่างโดยดี และตัดสินใจลาออกจากโรงเรียนโดยไม่ได้อะไรขึ้นมาเลย ตัวของเขานั้นโง่.. ยิ่งกว่าใครๆทั้งหมด และพอโตขึ้นมาถึงได้รู้สึกเสียดายและเสียใจมาโดยตลอดกับการตัดสินใจแบบผิดๆของเขาในครั้งนั้น..
พอเก็บคะแนนสอบภาคปฎิบัติเสร็จเรียบร้อยแล้ว อาจารย์ก็ได้กำหนดวันสอบปลายภาคเรียนมาให้ดังนี้
ให้นักเรียน ม. ต้นทุกชั้นเรียนมาสอบเพียง 3 วันติดกัน คือวันจันทร์ , วันอังคาร , วันพุธ แต่ทั้ง 3 วันนี้เลิกเวลา บ่ายสองโมง ส่วนนักเรียนชั้น ม. ปลาย ให้มาสอบ 2 วันติดกัน คือวันพฤหัสบดี , วันศุกร์ แต่ของ ม. ปลายจะเลิกช้ากว่าเล็กน้อยคือ บ่ายสามโมงครึ่ง เพราะฉนั้นเวลา ม. ต้นสอบนักเรียน ม. ปลายจะหยุดมาโรงเรียน และพอ ม. ต้นสอบเสร็จก็จะให้หยุดมาโรงเรียนได้เลยคือ ให้ปิดเทอมเลยแต่นักเรียนต้องมาฟังผลสอบกันในวันที่อาจารย์ได้นัดไว้
...
หลังสอบเสร็จในวันสุดท้าย ดำได้ชวนโชไปเล่นเกมส์ที่บ้านของดำและแฝดผู้พี่ก็ได้ขอไปด้วย ทั้งสองคนเลยแวะไปที่บ้านของดำ
ส่วนตัวของโชนั้นไม่ได้อยากเล่นเกมส์เหมือนอย่างที่ดำกับไก่ต้องการ แต่ตัวเขานั้นอยากจะเพิ่มความสนิทสนมกลมเกลียวในหมู่เพื่อนฝูงเสียมากกว่า เพราะใจที่นิ่งของโชนั้นยังคงเป็นวัยผู้ใหญ่ที่คิดลึกซึ้งไปแล้ว..
ที่บ้านของดำ เมื่อโชไปถึงที่นั่น เขามองไปรอบๆ บรรยากาศของบ้านดูเหมือนเดิมแต่สภาพของบ้านยังดูดีไม่ดูโทรมหรือเก่ามาก อาการของโชในตอนนี้เหมือนเดจาวู เพราะเขาเคยมาที่บ้านหลังนี้ บ่อยๆและหลายครั้งแล้ว
บ้านของดำเป็นบ้านไม้สองชั้นยกพื้นเตี้ยๆ หน้าบ้านมีพื้นที่เล็กน้อยให้วางกระถางต้นไม้และโอ่งน้ำ มีบันไดสองขั้นเตี้ยๆเพื่อสำหรับใช้เดินขึ้นไปเปิดประตูเล็กๆที่อยู่ตรงระเบียงหน้าบ้าน มีรั้วเตี้ยๆล้อมโดยรอบตรงระเบียง พอเข้าไปในระเบียงแล้วเดินไปสักเล็กน้อยก็จะเจอประตูหน้าบ้าน พื้นที่ตรงระเบียงนั้นสามารถนั่งหรือนอนเล่นได้อย่างสบายใจเลยล่ะ เพราะมีลมพัดผ่านอย่างเย็นสบาย ข้างในตัวบ้านนั้นดูโล่งแปลกตาสำหรับโชในตอนนี้ เพราะเขาคุ้นเคยกับความรกและข้าวของที่อัดจนเต็มบ้านเพราะดำ ( หมายถึงดำในตอนโตที่ไม่ค่อยดูแลบ้าน )
โชและไก่นั่งลงที่พื้นกลางบ้าน ดำบอกให้นั่งรอไปก่อน เดี๋ยวเขาเอากระเป๋านักเรียนไปเก็บก่อนที่ข้างบนบ้าน โชกับไก่นั่งรอดำและมองหน้ากันไปมา สักพักดำก็ลงมาพร้อมกับที่เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าในชุดลำลองลงมาด้วย
" ดำมีอะไรกินบ้าง ฉันเริ่มหิวแล้ว " ไก่ถามดำอย่างอยากรู้
" มีนะ ในตู้กับข้าวมีใข่เจียวที่ฉันกินก่อนไปโรงเรียนน่ะเอาไหม ? " ดำพูดพร้อมเดินไปเปิดตู้กับข้าวให้เพื่อนดู
" เออ.. ก็ยังดี กินทั้งนั้นแหละตอนนี้ " ไก่พูดพลางลุกขึ้นเดินไปหยิบจานข้าวและหาหม้อข้าวเพื่อที่จะคดข้าวใส่จาน
" ไหน ? ข้าวอยู่ตรงไหนล่ะดำ "
ดำเดินไปดูตรงโต๊ะที่วางหม้อหุงข้าวเอาไว้ ที่นั่นมีผ้าคลุมหม้อหุงข้าวเอาไว้จึงทำให้ดำมองไม่เห็นหม้อหุงข้าว แต่พอดำเปิดผ้าคลุมออกดู ก็รู้ว่าแม่เอาหม้อข้าวชั้นในออกไปแล้ว คงเพราะจะกินข้าวหมดแล้วแน่ๆ แม่ของดำก็เลยนำหม้อไปล้างคว่ำไว้
" ทำไงดีล่ะ ? ข้าวหมด.. " ดำพูดกับไก่อย่างสิ้นหวัง
" มีมาม่าไหมล่ะดำ ? เดี๋ยวเราต้มให้ " โชบอกกับเพื่อนทั้งสองคน
" เออ!! จริงด้วย ฉันก็อยากกิน เอาๆๆๆ โชต้มเผื่อฉันด้วยนะ " ดำรีบกุลีกุจอหยิบซองบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปส่งไปให้โช
โชเดินเข้าครัวไป เขาหยิบหม้อตั้งเตาเติมน้ำ จุดแก๊สอย่างคล่องแคล่ว เหมือนประหนึ่งว่าที่บ้านหลังนี้ก็คือบ้านของเขาเอง ดำและไก่ดูทึ่งในความสามารถของโช ทั้งที่เขาก็ไม่ได้ทำอะไรที่แปลกใหม่เลย
" โช นายนี่เก่งเนอะ นายทำเหมือนว่านายเคยมาที่บ้านของดำเลยแฮะ " ไก่พูดด้วยความทึ่งในความสามารถของเขา
" เอ่อ.. เราก็มาพร้อมกับนายนี่ไง ( ใครบอกล่ะ ก็ฉันเคยมาแล้วจริงๆ และก็เคยมาบ่อยด้วย!! ) " โชแกล้งพูด
" จริง!! พวกนายทั้งสองคนเพิ่งจะเคยมาบ้านฉันไงล่ะ ฉันยังไม่เคยชวนใครมาเลยนะ " ดำรีบบอก
โชต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเสร็จแล้ว ทั้งสามคนก็เลยนั่งกินด้วยกันก่อนด้วยความหิว ดำยกน้ำอัดลมแบบขวดลิตรลงมาตั้งให้เพื่อนของเขาดื่ม ไก่ดูชอบอกชอบใจใหญ่เลย
" แหม!! พอดีเลย ฉันกำลังหิวน้ำอยู่พอดี " ไก่คงจะชื่นชอบในตัวน้ำอัดลมมาก " มีน้ำแข็งไหมดำ "
" มีสิ ในถังน่ะ " ดำเดินไปหลังบ้าน เขามีถังใบใหญ่ไว้ใสน้ำแข็ง ทั้งแบบก้อนและแบบป่น ดำตักน้ำแข็งใส่กระติกมาเพียงเล็กน้อย
" ขอบใจนะเพื่อนดำ " ไก่พูดกับดำดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก
หลังจากร่วมรับประทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่โชต้มให้กินกันเสร็จแล้วนั้น พวกเขาทั้งสามคนก็ได้นั่งเล่นเกมส์กันอย่างสนุกสนาน ในสมัยนั้นดำมีเครื่องเกมส์เพลย์วัน ( PlayStation ) เครื่องรุ่นแรก ( เครื่องใหญ่ ) อยู่ 1 เครื่อง พ่อของเขาเป็นคนซื้อให้เขาเล่นกับพ่อของเขา ตั้งแต่นานแล้วก่อนที่พ่อของดำจะเสียไป..
จึงทำให้ดำไม่ค่อยได้เล่นเกมส์อีกสักเท่าไหร่ และแม่ของเขาต้องขายของและหาเงินแค่คนเดียว ดำจึงต้องช่วยแม่ของเขาขายของบ้างในวันหยุด แต่ยังดีที่บ้านของดำเป็นบ้านเก่าของพ่อ ดำกับแม่จึงไม่ต้องเสียค่าเช่า แต่ดำก็ช่วยแม่ของเขาประหยัดโดยการเรียนที่โรงเรียนรัฐบาลเพราะค่าเทอมมันน้อยและแม่ของเขาจะได้จ่ายค่าเทอมไม่แพงจนเกินไป จากในตอนแรกดำก็กังวลว่า ตัวของเขาเองนั้นจะมีเพื่อนที่โรงเรียนรึเปล่า แต่ดำก็โชคดีที่มีเพื่อนอย่างโชกับไก่
ทั้งสามเล่นเกมส์กันที่บ้านของดำจนเย็นเลย โชกับไก่ก็เลยขอตัวกลับบ้าน กลัวที่บ้านจะเป็นห่วง โชมาถึงบ้าน 6 โมงเย็นเลย เขามาถึงก็เห็นยายของเขานั่งรออยู่ที่หน้าบ้านด้วยความเป็นห่วง
" ไปไหนมาล่ะ สอบเสร็จตั้งแต่บ่ายสองโมงไม่ใช่เหรอ ? " ยายถามเขาด้วยความเป็นห่วง
" ผมขอโทษครับยาย พอดีเพื่อนมันชวนผมไปเล่นเกมส์ที่บ้านของมันน่ะครับ " โชรู้ว่ายายเป็นห่วงและเขาในตอนนี้เป็นเด็กที่อยู่ในความปกครองของยาย
" ทำไมไม่มาบอกยายก่อนล่ะ ? รู้ไหมยายเป็นห่วง " ยายบ่นหลานชายของเธอ
" ครับยาย ต่อไป.. ถ้าผมจะไปไหนอีก ผมจะขออนุญาติกับยายก่อนนะครับ " โชรับปากผู้เป็นยายของเขาอย่างมั่นเหมาะ
โชเลือกที่จะบอกกับยายของเขาไปอย่างตรงๆและไม่คิดที่จะโกหก เพราะเขารู้ดีว่าการโกหกนั้นจะจะส่งผลต่อการกระทำของเขาอย่างไร อย่างเช่นตอนนั้นสมัยก่อน ตอนอดีต ( เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ) เขาก็ได้แอบไปเล่นที่บ้านของดำตอนหลังสอบเสร็จแบบในครั้งนี้ แต่ตอนนั้นไปกันแค่สองคนกับดำ พอกลับมาถึงบ้าน ยายก็ถามว่าไปไหน ? ทำไมกลับเย็น ? ในครั้งนั้นยายไม่ได้มานั่งรอที่ตรงหน้าบ้านหลอกนะ ยายอยู่ในบ้านนั่นแหละ พอเห็นโชก็เลยถาม ซึ่งโชในตอนนั้นไม่อยากให้ยายรู้ว่าตัวเองหนีไปเที่ยวเล่นก็เลยโกหกกับยายไปว่าอาจารย์ให้เขาไปช่วยงานที่โรงเรียนกับเพื่อนกว่าจะเสร็จเลยต้องกลับมาบ้านเย็น ด้วยความที่เขายังเป็นเด็กคำโกหกต่างๆจึงดูมีพิรุธและน่าสงสัย ยายของเขาจึงได้ไปถามอาจารย์ฝ่ายปกครองที่ยายสนิทด้วย จึงทำให้ยายของเขารู้ว่าหลานชายได้โกหกเพื่อให้ตัวเองนั้นพ้นจากความผิด ทำให้ยายของเขารู้สึกโกรธและโมโหที่หลานชายของเธอเป็นเด็กที่ขี้โกหกไป
โชยังจำคำพูดของยายในครั้งนั้นได้
" ทำไมไม่บอกว่าไปเที่ยวเล่นที่บ้านเพื่อนมา ทำไม่ไม่บอกกับยายตรงๆ แล้วมาโกหกยายว่าช่วยงานอาจารย์ที่โรงเรียน ทำแบบนี้.. มันทำให้ยายโกรธมากรู้ไหม ? ถ้าบอกเรื่องจริงตั้งแต่ทีแรก ยายจะไม่โกรธเลยอาจจะบ่นว่าเล็กน้อยเท่านั้น!! แต่นี่มาโกหกกัน ถึงยังไงยายต้องทำโทษแก.. " ยายพูดจบก็ไปหยิบไม้เรียวมาฟาดโชไปสองที ในครั้งนั้นโชยังตราตรึงกับรสชาติของไม้เรียวของยายไม่หาย.. จึงมีผลต่อการพูดความจริงไปในครั้งนี้
' ยายของฉันนี่เป็นคนที่ซื่อตรงกับตัวเองจริงๆ ถ้าฉันยังคงโกหกอีกที ก็คงจะโดนไม้เรียวของยายอีกเป็นแน่ ไม่ยังงั้นก็ต้องใช้วิธีการโกหกเอาแบบที่เนียนที่สุด แต่เอาจริงๆนะ ฉันก็แค่ไปเที่ยวเล่นแค่ครั้งเดียวครั้งแรก ( เฉพาะตอนนี้ ) เพราะฉนั้นยายของฉันจึงไม่โกรธแต่เป็นห่วงต่างหาก เราจึงควรบอกแกไปตรงๆถึงจะถูก แค่เนี้ยยายก็ไม่โกรธแล้ว '
โชเดินยิ้มกรุ้มกริ่มไปอาบน้ำอย่างสบายใจ…
...
โรงเรียนปิดเทอมแล้ว โชรู้สึกว่าตัวเองว่างงานเสียเหลือเกิน แถมลุงพุธของเขาก็ว่างงานไปอีกคนในช่วงนี้ คราวนี้ก็ต้องตกหนักที่ป้าเพ็ญของเราอีกแล้ว ซึ่งการเฝ้าร้านค้าขายของชำที่ป้าเพ็ญทำอยู่นั้น มันก็ไม่ได้ขายดิบขายดีแบบที่ว่าคนจะมาแย่งกันซื้อและรุมกันซื้อของที่ร้านป้าเพ็ญซะเมื่อไหร่ แต่จะต้องนั่งเฝ้า ยืนเฝ้า และนอนเฝ้า!? กันก่อนล่ะนะ กว่าที่ลูกค้าในแต่ละท่าน จะมีความจำเป็นและคิดอยากจะมาซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคของทางที่ร้านของป้าเพ็ญ ก็ต้องใช้ความอดทนแบบเบื่อๆ นั่งโง่ๆ ไปจนกว่าจะฉลาดนั่นแหละ!!
ในระหว่างที่รอลูกค้าไป โชก็ได้หาหนังสือดีดีที่ยายเก็บเอาไว้มาอ่าน ในร้านของป้าเพ็ญวันนี้ดูเงียบเหงากว่าเดิมเพราะหลังจากที่โรงเรียนปิดเทอมไป ลูกค้าเด็กๆก็หายไปด้วย ป้าเพ็ญจึงได้ขายของไปอย่างเงียบๆแบบนี้
วันนี้ลุงพุธก็ไม่มีงาน.. คงจะเบื่อแย่ ถึงได้เดินมาหาป้าเพ็ญ เพื่อจะอ้อนอะไรป้าเพ็ญอีกล่ะสิ ? โชเห็นลุงพุธเดินมา เขาเลยขอตัวกลับบ้านเพื่อมาหายาย และเขายังคงไม่ลืมที่จะถือหนังสือที่อ่านอยู่กลับมาด้วย
โชเดินมาได้แค่.. พ้นร้านมานิดหน่อยเขาก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งกำลังเดินมาทำท่าเหมือนกำลังหาอะไรหรือหาใครสักคน แต่พอเห็นใบหน้าของชายคนนั้น โชก็ตกใจและวิ่งกลับไปที่ร้านของป้าเพ็ญทันที..!?