ตอนที่ 1037 การเชื้อเชิญแห่งความมืด
“ราชาตายในซากปรักหักพังและถูกกินโดยวิญญาณแปลกประหลาด”
“เจ้าชาย… ตายในห้องนี้เพราะผลสะท้อนกลับของสัญญา”
“ดังนั้น เด็กคนนี้คือสายเลือดคนสุดท้ายของเทพแห่งชีวิตอย่างนั้นหรือ”
กู่ฉิงซานมองเด็กที่กำลังหลับอยู่ขณะถาม
เชี่ยนหยาพยักหน้า
นางรีบกล่าวต่อ
เย่เฟยหลีแปล “การเปลี่ยนแปลงบัลลังก์จะทำให้ทั้งเมืองเรเควี่ยมตกตะลึงอย่างแน่นอน ผู้พิทักษ์ของตระกูลราชวงศ์จะมา”
“พวกเราต้องหลีกเลี่ยงให้ไว”
“นอกจากนี้ ถึงแม้สี่เทพจะไม่มาทันที แต่พวกเขาย่อมปรากฏตัวพร้อมกันในระหว่างพิธีบรมราชาภิเษกอย่างแน่นอน”
กู่ฉิงซานกล่าวทันที “สายเกินกว่าจะไปแล้ว ลอร่า!”
“เข้าใจล่ะ”
ลอร่ากางร่ม
ทุกคนจับขอบร่มก่อนหายไปจากที่ที่เคยอยู่
หลายวินาทีต่อมา
‘ปัง!’
ประตูเปิดออก
เทพธิดาสวมชุดเกราะเต็มยศจำนวนมากเข้ามาองค์แล้วองค์เล่า
กลิ่นอายบนร่างพวกนางแทบจะแข็งแกร่งที่สุดในเมืองเรเควี่ยม เมื่อปรายตามอง พวกนางเชี่ยวชาญสกิลวิเศษที่ทรงพลังยิ่ง ครอบครองพลังที่เหนือกว่าเทพธรรมดา
คนเหล่านี้ยืนอยู่รอบเตียงเด็ก
พวกนางมองแสงสีทองที่เปล่งออกมาจากเด็กอย่างเงียบงัน
“นี่คือสายเลือดคนสุดท้ายของตระกูลราชวงศ์หรือ”
ผู้พิทักษ์คนหนึ่งพึมพำ
“ใช่ เขาเกิดมาจากเจ้าชายและผู้พิทักษ์เชี่ยนหยา แต่น่าเสียดายที่เชี่ยนหยาไม่เป็นที่ยอมรับ” ผู้พิทักษ์อีกคนถอนหายใจ
“ตอนนี้ต่อให้นางไม่เป็นที่ยอมรับ นางก็ต้องเป็นที่ยอมรับแล้ว นางคือแม่ของราชาองค์ใหม่ ตามข้อมูลที่ได้มา วิญญาณของนางยังไม่ถูกสัตว์ประหลาดกิน…”
ทุกคนมองหน้ากันอย่างเข้าใจ…
ผู้พิทักษ์อีกคนกล่าวว่า “ไปกันเถอะ พาเขากลับตำหนัก นี่ไม่ได้เกี่ยวกับคำสาบานของพวกเราเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับความปลอดภัยของทั้งโลกด้วย”
“ใช่แล้ว เขาต้องไม่ได้รับอันตราย ไม่อย่างนั้นสายเลือดของเหล่าเทพจะถูกตัดขาด เมืองเรเควี่ยมจะถูกทำลายจนสิ้น”
“หึ ไม่ว่าสี่เทพและสัตว์ประหลาดนั่นจะหยิ่งทะนงแค่ไหน พวกเขาย่อมไม่เต็มใจที่จะเห็นการทำลายล้างของโลกใบนี้หรอก มันจะทำให้ได้รับบาดเจ็บหรือถึงขั้นพรากชีวิตพวกเขาได้”
ผู้พิทักษ์หลายคนสนทนากัน
พวกเขาพาเด็กออกจากห้อง
ผ่านไปสักพัก
ลอร่ากำลังจะหุบร่ม แต่กู่ฉิงซานและเหล่าต้าจับมือนางไว้พร้อมกัน
เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ
ทันใดนั้น บรรยากาศคลุมเครือลึกล้ำสี่กลุ่มปรากฏขึ้นพร้อมกัน
เสียงหนึ่งดังมาจากความว่างเปล่า “นั่นคือสายเลือดสุดท้ายของเทพแห่งชีวิตหรือ”
อีกเสียงตอบว่า “ข้าไม่รู้ นายท่านกำลังยืนยันขั้นสุดท้ายอยู่”
เสียงที่สามกล่าวว่า “นี่เป็นเรื่องที่ดี ราชาองค์ใหม่คือเด็กอายุสามขวบ คงอีกนานกว่าเขาจะสามารถนำเหล่าเทพได้”
เสียงสุดท้ายกล่าวว่า “นี่ก็ไม่จริงเสียทีเดียว เจ้าต้องตรวจสอบว่าเขามีสมาชิกครอบครัวที่ใกล้ชิดอยู่หรือเปล่า…”
“อืม ไปกันเถอะ กลับไปดูว่านายท่านพูดอะไรบ้าง”
“พวกเราต้องอยู่ในพิธีบรมราชาภิเษกเพียงเพื่อเทศนาเกี่ยวกับพลังของเหล่าเทพ จากนั้นก็ค่อยไป”
เสียงค่อยๆ หายไป
หลังจากผ่านไปเนิ่นนาน
กู่ฉิงซาน จางหยิงห่าว เย่เฟยหลี เหล่าต้าและลอร่าปรากฏขึ้นอีกครั้ง
“ขอบคุณที่พวกเจ้าตอบสนองกันได้ไวนะ เมื่อครู่อันตรายจริงๆ” ลอร่ากล่าวด้วยความหวาดกลัว
คนอื่นคิดเหมือนกัน
“ได้ยินหรือเปล่า พิธีบรมราชาภิเษก พวกเขาจะปรากฏตัวพร้อมกัน” จางหยิงห่าวกล่าว
“เวลากำลังจะหมด ตอนนี้พวกเราควรเริ่มเตรียมการได้แล้ว” กู่ฉิงซานกล่าว
…
หน้าผาสูงชันไกลลิบ
เย่เฟยหลีและจางหยิงห่าวได้แสดงความสามารถการต่อสู้ของพวกเขาให้ได้เห็น
เหล่าต้าชื่นชม “ถึงพละกำลังพวกเจ้าจะไม่แข็งแกร่งมาก แต่ก็มีพรสวรรค์ในการฆ่าคน ความสามารถพิเศษนับว่าดีทีเดียว”
“แล้วเจ้าล่ะ พละกำลังยังไม่ฟื้นคืนอีกหรือ” จางหยิงห่าวถาม
เหล่าต้าเดินไปที่หน้าผาแล้วกล่าวกับตัวเองว่า “พลังหุบเหวของข้าฟื้นคืนมานิดเดียวเท่านั้น แต่ในหุบเหวถือว่าก้าวหน้าขึ้นมากแล้ว หากพวกเจ้าไม่พบกับข้า เกรงว่าคงไม่ได้เห็นพลังนี้ตลอดชั่วชีวิตที่เหลือหรอก”
หนังสือแห่งชะตากรรมปรากฏขึ้นข้างเขาก่อนเปิดออกเอง
เหล่าต้ายืนอยู่ตรงหน้าผา ฉีกหน้ากระดาษแผ่นหนึ่งออกแล้วกล่าวว่า “จงเผาไหม้!”
เปลวเพลิงสีเทาปรากฏขึ้นจากหน้ากระดาษหนังสือ
เหล่าต้าสะบัดมือ
หน้ากระดาษหนังสือเผาไหม้จะเป็นเถ้าถ่านก่อนหายไปทันที
เหล่าต้าหันหลังแล้วกล่าวกับทุกคนว่า “หิ่งห้อยดาราไม่สามารถใช้งานได้เพราะข้าฟื้นคืนพละกำลังได้เพียงส่วนหนึ่ง ตอนนี้เลยไม่อยากทำอะไรบุ่มบ่ามเกินตัว ถ้าหากข้าตายง่ายเกินไป มันจะทำให้ทุกสิ่งที่ทำมากลับไปสุดจุดเริ่มต้นอีกครั้ง”
“เจ้านี่มองโลกในแง่ดีเหลือเกิน”
เขาแบมือก่อนกระซิบว่า “เปลวเพลิงแห่งความว่างเปล่า”
‘ตูม!’
หน้าผาสูงชันพลันถูกเปลวเพลิงสีเทาห้อมล้อม
หน้าผาระเบิด จากนั้นหดตัวและพังทลายจนกลายเป็นจุดสีเทาขนาดเล็กอย่างรวดเร็ว
ไม่ช้า จุดสีเทาหายไปจนสิ้น
ไม่หลงเหลืออะไรในบริเวณนั้นอีกแล้ว
เสียงของเหล่าต้าดังขึ้น
“อย่างที่พวกเจ้าเห็น พลังของเปลวเพลิงแห่งความว่างเปล่านี้ทรงพลังมาก แม้กระทั่งเทพจอมปลอมก็จะถูกฆ่าด้วยพลังนี้”
ตรงข้ามเขา ทุกคนนับถือเล็กน้อย
“ทรงพลังจริงๆ” จางหยิงห่าวมองรอยร้าวสะอาดเอี่ยมบนหน้าผาจนอดที่จะอุทานออกมาไม่ได้
“สมกับเป็นเหล่าต้า ถ้าเจ้าพยายามสุดความสามารถ อาจจะสามารถจัดการเทพจอมปลอมเหล่านั้นได้” เย่เฟยหลีชูนิ้วโป้งให้ขณะลอบคิดว่าเขาควรรับมือกับวิชานี้อย่างไร
“คนที่แข็งแกร่งที่สุดในหุบเหวย่อมต้องน่าทึ่งอยู่แล้ว”
ลอร่าอดที่จะกล่าวเช่นนั้นไม่ได้
นางเสียสมาธิสักพักก่อนเริ่มคิดเกี่ยวกับสิ่งประดิษฐ์วิญญาณหุบเหวที่อีกฝ่ายเคยกล่าวถึง
เหล่าต้ายิ้มขณะเช็ดเหงื่อจากหน้าผาก “แน่นอน ข้าคือผู้แข็งแกร่งที่สุดบนมงกุฎดารา คือตัวตนแข็งแกร่งที่สุดในหุบเหว พวกเจ้าต้องจำเรื่องนี้เอาไว้ด้วย”
ทั้งสามกลับมามีสติก่อนพยักหน้าอย่างรวดเร็วพร้อมกัน
แต่กู่ฉิงซานไม่พูด
เพราะในบรรดาคนกลุ่มนี้ เขาคือคนเดียวที่สังเกตกระบวนการทั้งหมดด้วยจิตเทพทรงพลังในระดับสี่เสาศักดิ์สิทธิ์จนค้นพบปัญหา
อืม…
จะพูดอย่างไรดีล่ะ…
เหล่าต้าคล้ายกับยังฟื้นคืนพลังไม่มากพอที่จะควบคุมพลังของ “เปลวเพลิงแห่งความว่างเปล่า” ได้ดีพอ
ตอนที่ทำการโจมตีเมื่อครู่ เพื่อให้ดูอลังการงานสร้าง เหล่าต้าใช้ “เปลวเพลิงแห่งความว่างเปล่า” ต่อหน้าทุกคนแล้วหันหลังให้กับหน้าผาโดยเฉพาะ
จากนั้น
แผ่นหลังของเขาถูกระเบิดจนเนื้อชุ่มโลหิต เผยให้เห็นบั้นท้ายครึ่งหนึ่ง
ถ้าเป็นแบบนี้ เขาจะอธิบายอย่างไรได้ล่ะ
กู่ฉิงซานครุ่นคิดเงียบๆ อยู่ในใจจนอดที่จะมองเหล่าต้าไม่ได้
เขาเห็นเหล่าต้าถือหนังสือแห่งชะตากรรมไว้ในมือข้างหนึ่ง มืออีกข้างลูบเส้นผมแล้วกล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า “จู่ๆ ข้าก็คิดบางอย่างขึ้นมาได้ พวกเจ้าควรไปพักก่อน ข้าต้องยืนอยู่ที่นี่สักพัก อย่ามายืนอยู่ที่นี่เพื่อขัดขวางสกิลต่อสู้ของข้าจะดีกว่า”
“โอ้ ได้” เย่เฟยหลีกล่าว
ทุกคนหันหลังแล้วเดินไปยังค่ายกลลับที่อยู่ไม่ไกลนัก
กู่ฉิงซานลังเลสักพัก
ช่างเถอะ
เพราะเหล่าต้าอยากแข็งแกร่งขึ้น ดังนั้นปล่อยเขาไว้ดีกว่า
กู่ฉิงซานตามคนอื่นไปที่ค่ายกลเช่นกัน
ทุกคนพักผ่อนชั่วคราวขณะรอเหล่าต้า
ตอนนี้ กู่ฉิงซานจั่วไพ่ออกมา ถือไว้ในมือแล้วดูอย่างตั้งใจ
กระแสน้ำวนทรงกลมปรากฏขึ้นบนไพ่ มันลอยเหนือศีรษะของคนที่มีกล้องส่องทางไกล
ในหน้าต่างระบบเทพสงคราม แถวหิ่งห้อยขนาดเล็กปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว
“วิชาอาณาจักร: การเชื้อเชิญแห่งความมืด”
“การใช้ไพ่ใบนี้จะทำให้เป้าหมายที่ระบุตกลงไปในโลกพิเศษ ระดับความอันตรายของโลกขึ้นอยู่กับผู้สร้าง”
“กลืนกินไพ่ใบนี้แล้วท่านจะได้รับข้อมูลเชิงลึกเพื่อวิวัฒนาการวิชาดาบ”
นี่คือหนึ่งในไพ่ที่ได้มาจากลอร่าและเป็นไพ่ใบที่สองที่สามารถช่วยวิวัฒนาการวิชาดาบได้
ก่อนหน้านี้ กู่ฉิงซานกลืนกิน “การไล่ล่าของธาตุลม” ครั้งนี้จะกลืนกิน “การเชื้อเชิญแห่งความมืด” โดยไม่ต้องคิดให้มากความ
เขากำลังจะสู้กับสี่เทพจอมปลอมในไม่ช้า กู่ฉิงซานหวังว่าเขาจะสามารถก้าวเข้าสู่พลังหนึ่งดาบได้ทัน
เขาไม่ลังเลก่อนกล่าวว่า “กลืนกิน”
เมื่อสิ้นเสียง ไพ่พลันกลายเป็นแสงขนาดเล็กกระจายไปทั่วร่าง
กู่ฉิงซานหลับตาเพิ่มเริ่มสัมผัสความลึกลับของวิชาดาบ
ทันใดนั้น บนหน้าต่างระบบเทพสงคราม แถวหิ่งห้อยขนาดเล็กวูบไหวผ่านดวงตาของเขาอย่างรวดเร็ว
กู่ฉิงซานมองด้วยความประหลาดใจ
“โปรดทราบ! โปรดทราบ!”
“สถานการณ์ที่หาได้ยากยิ่ง!”
“การกลืนกินไพ่สามารถนับว่าท่านได้ถูกร่ายด้วยวิชาอาณาจักร: ‘การเชื้อเชิญแห่งความมืด’ แต่เพราะศัตรูไม่เก่งในการใช้วิชาอาณาจักร ทำให้ไม่เกิดปัญหาใดๆ”
“สถานการณ์หายากที่เกิดขึ้นในระหว่างกระบวนการกลืนกินนี้: ร่างวิญญาณพิเศษเข้าสู่กระบวนการของวิชา”
“วิญญาณกำลังเชื้อเชิญท่านเข้าสู่โลก”
“ไม่สามารถรับรู้ความตั้งใจของร่างวิญญาณได้”
“โปรดรักษาความปลอดภัยของท่านด้วย”
ตัวอักษรขนาดเล็กทั้งหมดหายไป
ด้วยความประหลาดใจ กู่ฉิงซานพบว่าพวกจางหยิงห่าวหายไปแล้ว ทุ่งหญ้ากับค่ายกลก็หายไปด้วยเช่นกัน
สิ่งปลูกสร้างทรุดโทรมสูงตระหง่านพลันปรากฏขึ้น
กู่ฉิงซานพบว่าตัวเองอยู่ข้างใน ยืนอยู่ใจกลางทางเดิน
“น่าสนใจ น่าจะไม่ใช่สัตว์ประหลาดนั่น มันไม่สามารถสัมผัสคนนอกอย่างพวกเราได้ ไม่อย่างนั้นคงฆ่าพวกเราไปนานแล้ว”
“ถ้าเช่นนั้น ใครกันล่ะ”
กู่ฉิงซานพึมพำขณะมองรอบข้าง
ทั่วทางเดินมืดมิด โคมไฟแขวนอยู่บนเพดานอย่างโดดเดี่ยว หลอดไฟแตกและเต็มไปด้วยฝุ่น
เพราะมีสิ่งปลูกสร้างสูงอยู่รอบข้างมากมาย จึงไม่มีแสงอาทิตย์สาดส่องเข้ามาแม้จะเป็นช่วงกลางวัน
เดี๋ยวนะ นี่มัน
ความทรงจำอันยาวนานปรากฏขึ้นในใจของกู่ฉิงซานจนอดที่จะรู้สึกเย็นยะเยือกไม่ได้
กู่ฉิงซานสาวเท้าไปตามทางเดินจนมายืนอยู่ที่ประตูห้องอันคุ้นเคย
เขาไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่กุญแจมาปรากฏอยู่ในมือ
กู่ฉิงซานไม่พูดสักคำ เขาใช้กุญแจเปิดประตูก่อนเดินเข้าไปอย่างไม่ลังเล
เขายืนอยู่ในห้องขณะมองรอบข้าง
ไม่มีห้องนั่งเล่น ห้องนอนหรือห้องครัว ในห้องที่มีทางเดินยาวคับแคบนี้ เตียงกับตู้วางแทบจะไม่ได้ ของชิ้นอื่น ๆ ต้องวางซ้อนกัน ไม่อย่างนั้นจะไม่มีที่วาง
ไม่มีห้องน้ำ
สภาพแวดล้อมการใช้ชีวิตเช่นนี้นับว่าด้อยกว่าสลัมเสียอีก
กู่ฉิงซานมองทั้งหมดนี้เงียบๆ
ใช่แล้ว นี่เคยเป็นห้องของเขา
โลกแบบไหนที่สามารถทำให้เขากลับสู่โลกดั้งเดิมจนมาถึงสลัมของสหพันธ์ได้
กู่ฉิงซานเต็มไปด้วยคำถาม
เขาหลับตาแน่นแล้วเริ่มสัมผัสทุกสิ่งรอบข้าง
ทันใดนั้น
ขณะกู่ฉิงซานตกอยู่ในห้วงสมาธิ บางสิ่งปรากฏขึ้นในห้องที่มืดมิดและคับแคบแห่งนี้
เขาเห็นลิ้นยาวค่อยๆ ห้อยลงมาจากเพดานขณะอ้อมมาด้านหลังกู่ฉิงซานอย่างเงียบงัน
ลิ้นยาวเลียหลังของกู่ฉิงซานอย่างแผ่วเบาจนลากยาวมาถึงคอ
………………………………