ตอนที่ 843 หมดเวลาแล้ว
กู่ฉิงซานคนที่สามกลายเป็นภาพมายาก่อนค่อยๆ หายไปจากน้ำ
รอบข้างกลับสู่ความเงียบอีกครั้ง
กู่ฉิงซานยืนอยู่บนน้ำเพียงลำพัง แถวตัวอักษรโลหิตขนาดเล็กปรากฏขึ้นในความว่างเปล่าตรงหน้า
“ภัยพิบัติน้ำสิ้นสุดลงแล้ว”
“ท่านกลายเป็นนักพรตระดับวงแหวนนภา”
“ท่านจะต้องเลือกสิ่งต่อไปนี้”
“หนึ่ง สุ่มจั่วกองการ์ดเชื่อมั่น” หลบหนี…
“สอง ถ้าไม่จั่วในรอบนี้ หลังจากพัฒนาในครั้งต่อไป ท่านจะมีสิทธิ์เลือก ทำให้สามารถเลือกหนึ่งในห้าการ์ดระดับมรกตที่ปรากฏขึ้นแบบสุ่มได้”
กู่ฉิงซานครุ่นคิดถึงคำถามก่อนถามด้วยความสับสนว่า “ข้ารู้ว่ามีการ์ดพิเศษมากมายในกองการ์ดนี้ แต่ทำไมข้าถึงไม่เคยเห็นพวกมันมาก่อนล่ะ”
จุดกำเนิดถามกลับว่า “ท่านพูดถึงการ์ดอะไรหรือ”
กู่ฉิงซานตอบว่า “ยกตัวอย่างเช่น อัญเชิญมารแมงป่อง จองจำอาวุธ การ์ดเหล่านี้ทั้งพิเศษและทรงพลัง”
โดยเฉพาะจองจำอาวุธที่สามารถผนึกอาวุธของอีกฝ่ายได้โดยตรงนั้นนับว่าทรงพลังจริงๆ
จุดกำเนิดตอบว่า “ผู้ส่งสารแห่งบาปอันทรงเกียรติ ท่านต้องรู้ก่อนว่ากองการ์ดเชื่อมั่นคืออาวุธที่ทรงพลังมาก มันจะเปลี่ยนไปตามความแตกต่างของผู้ใช้”
“หรือก็คือ ข้าอาจจะไม่สามารถจั่วการ์ดเหล่านั้นขึ้นมาได้งั้นหรือ” กู่ฉิงซานถาม
“ใช่แล้ว ขึ้นอยู่กับว่าคุณลักษณะและพรสวรรค์ของผู้ใช้เป็นอย่างไร ต่อให้จะเป็นกองการ์ดเดียวกัน แต่การ์ดก็จะเปลี่ยนไปมากจนทำให้เกิดกองการ์ดที่แตกต่างเพื่อเหมาะสมกับผู้ใช้มากยิ่งขึ้น” จุดกำเนิดตอบ
“เช่นนั้นทำไมข้าถึงได้หอกปีศาจแดงมาล่ะ”
“นี่แสดงให้เห็นว่าการ์ดเหมาะกับท่านเช่นกัน”
“...เข้าใจล่ะ”
กู่ฉิงซานไม่ลังเลนักก่อนทำการเลือก
“รอบนี้ข้าไม่จั่ว” เขากล่าว
บนหน้าต่างจุดกำเนิด แถวข้อความปรากฏขึ้นทันที
“เพราะท่านตัดสินใจไม่จั่ว เมื่อท่านไปถึงระดับสามพันโลก ท่านจะมีสิทธิ์เลือก”
กู่ฉิงซานมองแถวตัวอักษรก่อนพยักหน้าเล็กน้อย
จำนวนการ์ดไม่จำเป็นต้องมากเกินไป กุญแจคือสิ่งที่เป็นประโยชน์มากกว่า
ตอนนี้ โลกที่เต็มไปด้วยผืนน้ำหายไปอย่างสมบูรณ์
กู่ฉิงซานพบว่าเขายังยืนอยู่ที่เดิม อีกสามทางที่เหลือ เทพแห่งความเย็นยะเยือก มนุษย์แสงและลั่วปิงหลีกำลังช่วยเขาอย่างระแวดระวัง
“เป็นอย่างไรบ้าง” ลั่วปิงหลีถามจากไกลๆ
“เพิ่งครึ่งส่วน ยังต้องใช้เวลาอีกสักหน่อย” กู่ฉิงซานตอบ
เขาตบถุงเก็บของก่อนหยิบยาเม็ดพัฒนาออกมา
นี่คือสมบัติที่เผ่าพันธุ์มนุษย์โบราณหลงเหลือไว้ให้ แต่ละคนสามารถใช้มันได้หนึ่งในชั่วชีวิตของตัวเอง
สำหรับกู่ฉิงซาน ยาเม็ดนี้สามารถช่วยให้เขาพัฒนาจากระดับวงแหวนนภาสู่ระดับสามพันโลกได้
กู่ฉิงซานไม่ลังเลที่จะยัดยาเม็ดพัฒนาเข้าปากก่อนกลืนมันลงไป!
ไม่!
มันติดคอ!
ยาเม็ดนี้ใหญ่เกินไป เขายังต้องเคี้ยวก่อน
กู่ฉิงซานสงบสติเล็กน้อยขณะเคี้ยวยาเม็ด
ใช่แล้ว จะใจร้อนเกินไปไม่ได้
มันไม่ใช่สิ่งที่จะเกิดขึ้นแบบปุบปับ
ยังไงเสีย เขาเพียงใช้เวลาเล็กน้อยในการผ่านภัยพิบัติน้ำ
ภูเขาในโลกอิสรภาพทนทานมาก ต้องใช้เวลาหลายวันกว่าที่คนพวกนั้นจะทำลายภูเขาเพื่อสังหารคนที่อยู่ข้างในได้
ในที่สุดกู่ฉิงซานก็กินยาเม็ดพัฒนาเสร็จแล้ว
พูดกันตามตรง ยาเม็ดพัฒนานี้หวานเกินไปหน่อย
เหมือนกับลูกกวาด
กู่ฉิงซานรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของพลังวิญญาณในร่างกายอย่างเงียบงัน
หลังจากบรรลุระดับวงแหวนนภา พลังวิญญาณในร่างกายทะยานขึ้นมา ด้วยความช่วยเหลือของยาเม็ดพัฒนานี้ เขากำลังจะมีพลังวิญญาณในระดับสามพันโลก
เช่นเดียวกัน
พลังของวิชาดาบเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว
พลังวิญญาณคือแหล่งกำเนิดของพลังเพื่อใช้วิชาดาบ ยิ่งแหล่งกำเนิดทรงพลังเท่าไหร่ ความน่าสะพรึงของพลังจากวิชาดาบยิ่งมากขึ้นเท่านั้น
หลักการนี้เหมือนกับนักพรตเวทและนักพรตคนอื่น
กู่ฉิงซานตรวจสอบใกล้ๆ ก่อนพบว่าไม่มีปัญหาอะไร เขาจึงค่อยๆ วางใจ
เขากำลังคิดถึงภัยพิบัติที่กำลังจะเผชิญต่อจากนี้
ลม ไฟ น้ำและดิน
หากนักพรตต้องการบรรลุระดับสามพันโลก พวกเขาต้องประสบกับสี่ภัยพิบัตินี้อย่างต่อเนื่องจึงจะสามารถพัฒนาได้สำเร็จ
นี่คือกระบวนการที่ยากและยาวนาน
ไม่นานนักก่อนที่สายลมจะเริ่มพัดผ่าน
ทรายหินปลิวว่อน ท้องนภาหมองหม่น ปฐพีมืดมิด
ในสายลมที่โหมกระหน่ำ กู่ฉิงซานยืนอยู่เพียงลำพัง
เขากำลังรอ
ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ แต่เสียงกระซิบจำนวนมากเริ่มได้ยินมาจากสายลม
พวกมารปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่าเป็นครั้งแรกขณะมองกู่ฉิงซาน
“ช่างเป็นพลังวิญญาณที่เอ่อล้นและทรงพลังจริงๆ ข้าอดใจไม่ไหวแล้ว”
“ข้าก็อดใจไม่ไหวเช่นกัน ต้องกินมันให้ได้!”
“อย่ามาแย่งของข้า!”
“ของข้าต่างหาก!”
พวกมันพุ่งเข้าหากู่ฉิงซาน
จิตของกู่ฉิงซานขยับ
ดาบลับ หมื่นมายา!
ดาบบินเจ็ดร้อยเล่มพุ่งออกไป
ภายใต้พรจากพลังวิญญาณอันไร้ขีดจำกัด ดาบบินทุกเล่มระเบิดเงาดาบสีดำนับหมื่นออกมา
เงาดาบสีดำนับไม่ถ้วนกระจายทั่วพื้นที่ภัยพิบัติ ทำให้พื้นที่นี้กลายเป็นฉากเงาทันที
เป็นฉากที่เกิดจากเงาดาบ
“ทุ่มสุดกำลังเลยหรือ” ลั่วปิงหลีถามผ่านกระแสจิต”
“ไม่มีเวลามาล้อเล่นกับพวกมันอีกแล้ว” กู่ฉิงซานตอบ
เงาดาบสีดำทั้งหมดพุ่งเข้าสู่สายลม บดขยี้มารจนเละเป็นซากก่อนใช้สายลมพัดพาจนไม่เหลือร่องรอยแม้แต่นิดเดียว
กู่ฉิงซานเกิดความรู้แจ้งขึ้นในใจแล้วคร่าวๆ
หลังจากผ่านการต่อสู้มามากมาย เขาพลันรู้สึกว่าสามารถควบคุมดาบบินได้มากขึ้นอีกครั้ง
“หนึ่งพันสองร้อยเล่มหรือ เอาเถอะ จำนวนก็คงประมาณนี้แหละ” กู่ฉิงซานพึมพำ
ตอนนี้สายลมหยุดพัดแล้ว
ไม่มีมารรอดสักตน
แต่เพลิงมายาปรากฏขึ้นจากอากาศบางขณะตกกระทบบนตัวกู่ฉิงซานอย่างแผ่วเบา
หลังจากผ่านลมไปแล้วก็ถึงคราวของไฟ!
เปลวเพลิงกระจายทั่วร่างของเขา
ภัยพิบัติไฟกระจายออกตรงหน้ากู่ฉิงซานก่อนเผยฉากโลกโลกหนึ่งตรงหน้า
นั่นคือโลกอิสรภาพ
“ได้เวลาฆ่าแล้ว”
กู่ฉิงซานกล่าวเสียงต่ำ
วิญญาณของเขาพุ่งออกไป มือยกขึ้นคว้าดาบคลื่นเสียงจากความว่างเปล่าก่อนก้าวเข้าสู่เปลวเพลิง
…
เมื่อรู้สึกถึงพลังวิญญาณมหาศาลบนร่างของกู่ฉิงซาน ชายชราพยักหน้าก่อนโค้งเอวคำนับแล้วกล่าวว่า “สหายเต๋าคนนี้ โลกอิสรภาพเปรียบเสมือนบ้าน เจ้าจะได้รับการต้อนรับเมื่อมาที่นี่อีกครั้ง”
กู่ฉิงซานมองเขาพร้อมกับส่งยิ้มให้
“ไหนเจ้าบอกว่าข้ามีแค่สองทางเลือกคืออยู่ที่นี่หรือไม่ก็รอให้จื้อลัวถูกเจ้าฆ่าไงล่ะ”
ชายชราไม่กล้าแม้แต่จะเช็ดเหงื่อเย็นบนหน้าผากก่อนกล่าวพร้อมรอยยิ้มว่า “เรื่องล้อเล่นน่า โปรดอย่าเก็บมาคิดจริงจังเลย”
“เรื่องล้อเล่นจริงๆ หรือ” กู่ฉิงซานถาม
ชายชราตบอกแล้วรีบกล่าวว่า “เป็นเรื่องล้อเล่นจริงๆ โปรดอย่าเก็บมาคิดให้หนักใจไปเลย”
กู่ฉิงซานมองคนอื่น
“พวกข้าก็ล้อเล่นเหมือนกัน”
“ใช่ มันเป็นเรื่องยากนักที่พวกข้าจะได้พบสหายเต๋า เพราะงั้นก็แค่ล้อเล่นกันเฉยๆ เอง”
“สหายเต๋า จื้อลัวเป็นผู้หญิงที่ดี มีความสัมพันธ์กับเจ้ามากมาย พวกข้าจะไปฆ่านางได้อย่างไร”
พวกนักพรตพล่ามไม่หยุด
กู่ฉิงซานพยักหน้าแล้วถามว่า “แสดงว่าพวกเจ้าทุกคนล้อเล่นกับข้าสินะ”
“ใช่แล้วๆ!”
พวกนักพรตรีบพยักหน้า
“กลายเป็นว่ามันเป็นแค่เรื่องล้อเล่น ข้าก็คงโกรธไม่ลง”
กู่ฉิงซานหัวเราะออกมา
“ใช่แล้ว!”
“นายท่าน อย่าคิดให้มากความเลย ท่านคือแขกผู้ทรงเกียรติของพวกเรา พวกข้าไม่กล้าผิดใจหรอก”
“มาๆๆ มอบสุราให้สหายเต๋าคนนี้หน่อย”
“เร็วสิ อาหารดีๆ ก็รีบเอาออกมา”
พวกนักพรตวุ่นวายกันใหญ่
เมื่อเห็นการตอบสนองเช่นนี้ กู่ฉิงซานเก็บดาบคลื่นเสียงเข้าสู่ความว่างเปล่า
ดาบคลื่นเสียงที่ถูกเก็บไว้ในความว่างเปล่าส่งเสียง “หึ่ง”
ฉากนี้ทำเอาหลายคนอ้าปากค้าง
กู่ฉิงซานยกขวดสุราขึ้น มองรอบข้างเพื่อนับจำนวนคน
“เจ็ดร้อยเอ็ดคน ชิ เกินมาหนึ่งคน แต่โชคดีที่ข้าแค่ล้อเล่นเฉยๆ”
เขายกแก้วสุราขึ้นแล้วส่งสัญญาณให้พวกนักพรต
พวกนักพรตรีบยกแก้วสุราตาม
กู่ฉิงซานดื่มรวดเดียวหมด
ในเวลาเดียวกัน เงาดาบเจ็ดร้อยเล่มวูบไหว
ดาบลับ นางแอ่นหวนกลับ!
นี่คือวิชาดาบลอบสังหาร ไม่เพียงแค่เร็วดุจสายฟ้าเท่านั้น แต่ยังโจมตีจากหน้าหลังพร้อมกันอีกด้วย ทำให้ไม่อาจป้องกันได้
ทั่วทั้งลาน พวกนักพรตถูกเก็บกวาด
มีเพียงชายชราที่ยังยืนอยู่กับที่
กู่ฉิงซานวางแก้วสุราลงก่อนชำเลืองมองเขา
ครั้งนี้ชายชราไม่มีวิชาลับในร่างกาย ประกอบกับการฝึกฝนของกู่ฉิงซานทะยานขึ้นเป็นเท่าตัว ชายชราไม่สามารถขัดขืนเนตรสัจจะฟาดฟันวิญญาณได้
หลังจากหายไปสักพัก ชายชราปรากฏขึ้นอีกครั้ง
ร่างกายเขาล้มลงกับพื้นทันที
กู่ฉิงซานยืนนิ่ง
ดาบบินลอยกลับมาเล่มแล้วเล่มเล่า ก่อเกิดเป็นปีกดาบยักษ์สองข้างด้านหลังกู่ฉิงซานก่อนค่อยๆ ซ่อนในความว่างเปล่า
กู่ฉิงซานมองซากศพทุกหนแห่งก่อนกล่าวกับตัวเองว่า “แบบนี้สิถึงจะนับว่าเป็นเรื่องล้อเล่นอย่างสมบูรณ์ได้”
หลังจากกล่าวคำพูดเหล่านี้ เขายืนตัวตรงก่อนเหาะขึ้นไปทางที่จั้วลืออยู่
…………………………………………..