ตอนที่ 555 ปฏิวัติ
ราชามารวิญญาณมรณะ ยืนอยู่ท่ามกลางสายลมและหิมะ เปลวเพลิงทมิฬค่อยๆ แผ่ขยายออกมาจากร่างกายของเขา สาดแสงขึ้นเรื่อยๆ
ขณะเดียวกัน ภายใต้การสาธยายของนักรบเทพ มันเพียงแค่ยืนฟังอย่างเงียบๆ ยืดหลังตรง มิได้ปลดปล่อยแรงกดดันหรือโน้มกายลงอยู่ในท่วงท่าต่อสู้
บางทีอาจเป็นเพราะมันสัมผัสได้ว่า ในขณะที่ฝั่งตนเองนั้นพร้อมรบเต็มที่ แต่อีกฝั่งหนึ่ง กลับสิ้นหวังและพร้อมที่จะตายแล้วก็ได้
นักรบเทพได้เริ่มคำสั่งโจมตี
ทว่าวินาทีนั้นเอง
ก่อนที่จะทันได้ลงมือ ราชามารวิญญาณมรณะ ก็นิ่งงันไป
“ใจเย็นๆ ก่อน ระบบของราชามารต้องการที่จะสนทนากับเขาสักเล็กน้อย” ราชามารวิญญาณมรณะกล่าว
“ว่าไงนะ!” นักรบเทพอุทานเสียงหลง
เขาชักอาวุธตนเองออกมาอย่างไม่ยินยอม และต้องการที่จะลงมือด้วยตนเอง
ท่ามกลางความเงียบ จู่ๆ กลับปรากฏถึงคมแหลมสีดำเปื้อนเลือดขึ้นต่อหน้านักรบเทพอย่างกะทันหัน
นี่คือนิ้วของราชามารวิญญาณมรณะ ไม่สิ...สมควรจะกล่าวว่ามันเป็นเพียงเล็บนิ้วมือของมันซะมากกว่า
เล็บคมกริบดั่งหอกแหลมถูกทาบวางลงเบาๆเหนือหัวของนักรบเทพ
ตามด้วยเสียงของราชามารวิญญาณมรณะที่ดังขึ้น
“หยุดซะ อย่าได้คิดท้าทายคำสั่งของระบบ มิฉะนั้นแล้วละก็…”
นักรบเทพชะงักงัน มิกล้าเคลื่อนไหวใดๆ
แล้วเขาก็มองไปยังภูเขาที่ห่างไกล
บนเนินเขา คลาคล่ำไปด้วยผู้เข้าสู่วิถีมาร
และความเร็วของพวกเขาไม่ลดลงเลย ตรงกันข้าม มันกลับยิ่งเร็วขึ้นเรื่อยๆ ซะอีก
กว่าสองร้อยล้านผู้เข้าสู่วิถีมารกำลังมุ่งหน้ามาอย่างรวดเร็ว จนตอนนี้ใกล้จะถึงตีนเขาของภูเขาที่พวกเขายืนอยู่แล้ว
การปิดล้อม จะเสร็จสมบูรณ์ในเร็วๆ นี้
ซึ่งไม่ว่าใครก็ตาม หากตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ ก็ยากที่จะหลบหนี
นักรบเทพจึงวางอาวุธของตนลง แม้จะไม่พอใจก็ตามที
เขาถลึงตามองกู่ฉิงซานชนิดหัวชนฝา ตนไม่เข้าใจจริงๆ ว่าระบบยังมีเรื่องอะไรที่ต้องการจะคุยกับคนๆนี้อยู่อีก
ตรงข้ามกับเขา กู่ฉิงซานจ้องมองเข้าไปในความว่างเปล่า
หน้าต่างต้นกำเนิดสาดแสงสีแดงเรืองรอง พร้อมกับค่อยๆ เริ่มปรากฏภาพเคลื่อนไหวขึ้น
ภาพตั้งแต่ที่กู่ฉิงซานได้เข้ามายังโลกใบนี้ และฉากการต่อสู้ที่ผ่านมาได้ปรากฏขึ้นบนหน้าต่าง
การต่อสู้ปิดล้อมในครั้งแรก กู่ฉิงซานสามารถใช้ดาบกวาดล้างทั้งเมืองออกไปได้
ในการต่อสู้ครั้งที่สอง เมื่อต้องเผชิญหน้ากับปีศาจหิมะในหุบเหวน้ำแข็ง เขาก็ใช้กระสุนเพียงนัดเดียว ยิงเปรี้ยง! แล้วทุกอย่างก็กลายเป็นเถ้าถ่าน
ในการต่อสู้ครั้งที่สาม เขาเลือกที่จะกระโจนลงจากยอดตึกหกร้อยชั้น ระหว่างทางก็ทุบทำลายกำแพง และกระโดดเข้าไปฆ่าสังหารบ้างเป็นครั้งคราว
ในการต่อสู้ครั้งที่สี่ เขาได้ต่อกรกับศัตรูหลายคนอย่างต่อเนื่อง โดยการใช้ร่างเงาแทนที่ ทั้งหมดทั้งสิ้นสามลมหายใจเพื่อดับชีวิตนับสิบของอีกฝ่าย
หนึ่งในคำอธิบายโดดเด่นที่ปรากฏขึ้น ระบุเกี่ยวกับคนเหล่านั้นว่า “ทีมเลือดสังหาร การจัดอันดับทีมที่สอง”
ในการต่อสู้ครั้งที่ห้า ยังไม่ได้เริ่มต้นขึ้น มันจึงเพียงแสดงให้เห็นภาพของเขาที่ยืนอยู่ในวิหาร พร้อมด้วยคำอธิบายว่า ผู้เข้าสู่วิถีมารกว่าแปดร้อยคนได้ถอนการติดตั้งต้นกำเนิด
เมื่อภาพที่ห้าสิ้นสุดลง เสียงของต้นกำเนิดก็ดังขึ้น
“อ้างอิงตามระดับความสามารถในการต่อสู้ ในบรรดาผู้เข้าสู่วิถีมารทั้งหมด ระดับของกู่ฉิงซานเก้า”
“อ้างอิงตามความสามารถในการตัดสินใจ ความสามารถในการตอบสนองต่อกลยุทธ์ ในบรรดาผู้เข้าสู่วิถีมารทั้งหมด ระดับของกู่ฉิงซานหนึ่ง”
“ผู้ทรยศกู่ฉิงซานเอ๋ย เจ้าเกิดมาเพื่อเป็นนักรบโดยแท้ ร่างกายของเจ้าครอบครองมาตรฐานการต่อสู้ที่ดี ขณะเดียวกัน กลยุทธ์การตอบสนองต่อสถานการณ์ก็ยอดเยี่ยม ดังนั้นข้าจึงจะมอบโอกาสสุดท้ายให้แก่เจ้า”
“โปรดยอมแพ้ที่จะต่อต้านซะ แล้วให้คำมั่นสาบานว่าจะจงรักภักดีต่อต้นกำเนิดของราชามาร แล้วเจ้าจะสามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้”
ในหัวใจของกู่ฉิงซานเต้นครึกโครม
นี่มันต้องมีอะไรบางอย่างผิดปกติแน่ๆ
นั่นเพราะเขารู้จักเจ้าต้นกำเนิดนี่ดี
ไม่ว่าจะในชีวิตก่อนหน้าหรือชีวิตนี้ ต้นกำเนิดมันโหดเหี้ยมและไม่เคยแยแสเสมอมา มันกระทำต่อสิ่งมีชีวิตดั่งมดไร้ค่า และย่อมไม่มีทางที่จะปล่อยใครไปง่ายๆ
แล้วเพราะอะไรกัน? ทำไมจู่ๆ มันถึงมาพูดดีๆ กับเขา?
“ฉันไม่ต้องการที่จะต่อกรกับราชามารวิญญาณมรณะ เพราะฉันสู้มันไม่ได้จริงๆ”
กู่ฉิงซานคิดแล้วพูดต่อ “ฉะนั้นก่อนที่ฉันจะพิจารณาเรื่องยอมจำนน ได้โปรดบอกฉันมาก่อนว่าทำไมแกถึงเปิดช่องโหว่ มอบโอกาสที่จะให้ฉันมีชีวิตอยู่ต่อไปกัน?”
ต้นกำเนิด “ที่เจ้าได้รับโอกาสรอดชีวิต นั่นก็เพราะเจ้าจะต้องช่วยข้าค้นหาวิธียึดครองสถานที่แห่งหนึ่ง”
กู่ฉิงซานตั้งใจฟังอย่างรอบคอบ และจมอยู่ในห้วงความคิดอย่างลึกซึ้ง
ฟังจากที่พูดมา ดูเหมือนว่าต้นกำเนิดจะมีปัญหาบางอย่าง
ทันใดนั้นร่างของสิ่งมีชีวิตโบราณก็ปรากฏขึ้นในจิตใจของกู่ฉิงซาน
จริงสิ ในโลกใบนี้น่ะ นอกจากมีเหล่าผู้เข้าสู่วิถีมารกว่าสองร้อยล้านคนของต้นกำเนิด และสิ่งมีชีวิตโบราณที่ถูกทิ้งไว้โดยเทพบรรพกาลแล้ว บางทีอาจจะยังมีสิ่งอื่นที่สามารถต่อกรกับมันได้อยู่อีกก็ได้
แต่ดูจากท่าทีของต้นกำเนิดที่กำลังร้อนใจ เหมือนกับว่ามันไม่ลังเลเลยที่จะทุ่มหมดตัว หรือยอมแม้กระทั่งปล่อยให้กู่ฉิงซานรอดชีวิตต่อไป
เพื่อที่จะยึดสถานที่ดังกล่าว มันถึงขั้นยอมใช้เฉือนเนื้อตัวเอง ประโยชน์จากศัตรู
นี่บ่งบอกได้ว่ามันทุ่มทุกอย่างแล้วจริงๆ
ทำไมกันล่ะ?
สิ่งใดกันที่จะสามารถทำให้ต้นกำเนิดร้อนรนได้ถึงขนาดนี้?
กู่ฉิงซานเค้นสมองขบคิด
“ระบบเทพสงคราม” เขาเรียกอย่างเงียบๆ
ติ๊ง!
บังเกิดเสียงอันคมชัด หน้าต่างสีฟ้าอ่อนสว่างขึ้นทันที เบียดเข้ามาข้างๆ กับหน้าต่างสีแดง
“ฉันอยู่ที่นี่แล้ว” ระบบเทพสงครามตอบกลับ
“พอดีว่าฉันมีคำถามที่ต้องการถามคุณ”
“โปรดอธิบายถึงคำถามของคุณ”
“ในเมื่อเชื้อไฟสามารถอัพเกรดขึ้นเป็นต้นกำเนิดได้ ถ้าอย่างนั้นแล้วต้นกำเนิดล่ะ? ต้นกำเนิดมันปรารถนาสิ่งใดกัน? มันจะยังอัพเกรดตัวเองได้อีกเหรอ?”
ระบบเทพสงครามตอบกลับ “สามระดับของหมื่นสวรรค์สิ้นโลกาออนไลน์มีรายละเอียดดังนี้”
“ระดับแรก คือเชื้อไฟ และมันจะต้องได้รับแต้มพลังวิญญาณมากพอจึงจะสามารถอัพเกรดได้”
“ระดับที่สอง คือต้นกำเนิด นอกเหนือไปจากแต้มพลังวิญญาณ มันยังจำเป็นต้องการบางสิ่งบางอย่างที่วิเศษเป็นอย่างมาก เพื่อที่จะอัพเกรดไปสู่ระดับถัดไป”
“ต้นกำเนิดสามารถแพร่กระจายได้เพียงสิบล้านเก้าสิบโลกลำดับชั้นเท่านั้น และฟังก์ชันต่างๆ ของมันยังขาดความละเอียดอ่อนอยู่มาก”
“ระดับที่สาม เมื่อต้นกำเนิดสามารถอัพเกรดตนเองได้สำเร็จ มันจะสามารถแพร่กระจายไปได้ตลอดทั้งสามร้อยล้านโลกลำดับชั้น และแทบจะไม่มีใครสามารถต่อกรกับมันได้เลย”
“ซึ่งในระดับนี้ มันจะถูกเรียกว่า ‘หมื่นสวรรค์สิ้นโลกาออนไลน์ปฏิวัติ’ ”
ในหัวใจของกู่ฉิงซานตกตะลึง
สามารถแพร่กระจายไปได้มากกว่าสามร้อยล้านโลกลำดับชั้น!
หากนับดินแดนที่ถูกยึดครองโดยศัตรูเพิ่มเข้าไปด้วยแล้วละก็ นั่นหมายความว่า เกมหมื่นสวรรค์สิ้นโลกา จะสามารถแพร่กระจายไปได้เกินครึ่งของโลกเก้าร้อยล้านชั้น!
และเหตุการณ์นี้จะเปลี่ยนแปลงโลกตลอดทั้งเก้าร้อยล้านชั้นไปอย่างแน่นอน
ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมชื่อของมันถึงถูกเปลี่ยนเป็น ‘ปฏิวัติ’
ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมตัวมันเองถึงร้อนรนมากมายขนาดนี้!
กู่ฉิงซานเอ่ยถามทันที “แล้วนอกเหนือไปจากแต้มพลังวิญญาณนี่ … ต้นกำเนิดยังต้องการอะไรอีกเพื่ออัพเกรดไปสู้ขั้นถัดไป”
ระบบ “มันจำเป็นต้องใช้วัตถุวิเศษบางอย่างที่ถูกทิ้งเอาไว้โดยเทพวิญญาณจากโบราณอันไกลโพ้น ซึ่งวัตถุชิ้นนี้จะช่วยให้สิ่งมีชีวิตทั้งหมดไม่สามารถวิวัฒนาการได้”
กู่ฉิงซานผงกหัวเล็กน้อยและกล่าวอย่างเงียบๆ “ฉันสงสัยว่าต้นกำเนิดคงจะพบสถานที่ตั้งของวัตถุวิเศษที่ว่าแล้ว แต่มันยังไม่สามารถเข้าไปยึดเอาวัตถุที่ว่ามาได้ ดังนั้นมันจึงหยิบยื่นชีวิตให้แก่ฉัน”
ในเวลานั้นเอง เสียงของต้นกำเนิดก็ดังขึ้นอีกครั้ง “กู่ฉิงซาน เจ้าจงบอกคำตอบมา จะรับคำของข้า หรือจะทุกข์ทรมานจนตาย”
“นี่คือคำถามสุดท้ายที่ข้าจะถามเจ้า! และเจ้าก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว จงให้คำมั่นแก่ข้าซะ!”
พร้อมกันกับเสียงของต้นกำเนิด ราชามารวิญญาณมรณะก็กลับมาอยู่ในท่วงท่าเตรียมโจมตีอีกครั้ง
ตลอดทุกทิศทาง คลื่นสีดำกำลังกระเพื่อมไหว เหล่าผู้เข้าสู่วิถีมารกำลังเข้ามาปิดล้อมเขา มากขึ้น มากขึ้นเรื่อยๆ ครอบคลุมออกไปจนสุดสายตา
ตอนนี้ พวกเขาเริ่มที่จะปีนป่ายขึ้นภูเขาแล้ว และคงจะมาถึงที่นี่ในไม่ช้า
กู่ฉิงซาน สังเกตสถานการณ์โดยรอบวูบหนึ่งและกล่าว “ระบบของราชามารที่ยิ่งใหญ่ ฉันขอเวลาคิดสักหนึ่งนาทีจะได้ไหม?”
“หนึ่งนาทีรึ? ตกลง” ต้นกำเนิดกล่าว
…………………………………..........