ตอนที่ 18 ของขวัญวันเกิด (1)
ทั้งวันได้ผ่านล่วงเลยไปอย่างรวดเร็ว กู่ฉิงซานอยู่ในเกมจนถึงกำหนดเวลาที่จำกัด และถูกส่งกลับสู่โลกจริง ทว่าช่วงเวลาในโลกจริงกลับผ่านไปแค่เพียงหนึ่งชั่วโมงเท่านั้น
เสียงเรียกเข้าของอุปกรณ์สื่อสารที่ถูกวางทิ้งไว้บนเตียงดังขึ้นอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด เขาหยิบมันขึ้นมาดูและพบว่า มีสายที่ไม่ได้รับถึงเจ็ดสาย และทั้งหมดมาจากซูเซี่ยเอ๋อ
กู่ฉิงซานกดรับ และภาพทางฝั่งเขากับอีกฝ่ายก็เชื่อมต่อกันทันที
ใบหน้าอันละเอียดลออของซูเซี่ยเอ๋อที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายความอ่อนเยาว์ปรากฏขึ้นบนอุปกรณ์สื่อสาร
“พี่ใหญ่ฉิงซาน ฉันมีข่าวดีที่จะนำมาแบ่งปันกับนาย”
ซูเซี่ยเอ๋อกล่าวอย่างมีความสุข
“อ๋า? ข่าวดีอะไรงั้นเหรอ?” กู่ฉิงซานถาม
ซูเซี่ยเอ๋อสูดหายใจลึกและกล่าวเน้นย้ำทีละคำ “ฉัน ได้ ทุน เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยในเมืองหลวง! นั่นหมายความว่าฉันไม่จำเป็นต้องทำการสอบเพื่อวัดคะแนนเข้ามหาวิทยาลัยอีกต่อไป และฉันจะต้องไปรายงานตัวทันที!”
เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ กู่ฉิงซานก็อดไม่ได้ที่จะต้องยิ้มตาม และเอ่ยแสดงความยินดี “มหาวิทยาลัยในเมืองหลวงนับว่าเป็นสถาบันที่ดีที่สุดของรัฐบาลกลาง ขอแสดงความยินดีกับเธอด้วย”
ซูเซี่ยเอ๋อเลียริมฝีปากและกล่าว “น่าเสียดายที่ทางตระกูลเตรียมให้ฉันต้องออกเดินทางในทันที ดังนั้นฉันเลยคงไม่ได้ไปกินบาร์บีคิวที่ร้านแผงลอยของนายในคืนนี้”
กู่ฉิงซานหัวเราและกล่าว “นั่นไม่สำคัญหรอก ไว้เธอกลับมาเมื่อไหร่ ฉันจะทำให้เธอกินเอง”
เขาคิดอย่างจริงจังเกี่ยวกับเรื่องนี้และเอ่ย “ไว้รอเธออายุสิบแปดปีซะก่อน ถึงเวลานั้นเธอก็จะดื่มแอลกอฮอล์ได้ พอถึงเวลานั้นฉันจะนำไวน์ไปให้เธอเป็นการส่วนตัว รู้ไว้ด้วยล่ะว่าตัวเองโชคดีแค่ไหน คนธรรมดาไม่มีทางได้ดื่มไวน์ที่ฉันทำขึ้นเองได้หรอกนะ”
ประโยคนี้ที่กู่ฉิงซานเอ่ยออกมาดูเหมือนเป็นคำกล่าวธรรมดาๆ เนื่องเพราะเขาได้รับอิทธิพลมาจากเพื่อนเก่าในชีวิตก่อนหน้า เมื่อไม่มีอะไรที่จะสามารถทำได้ เขาก็มักจะทำอาหารบางอย่าง หรือหมักไวน์ แล้วนำไปอวยพรอีกฝ่ายด้วยตัวเอง
นอกจากนี้เขายังได้เรียนรู้วิธีการทำค็อกเทล แน่นอนว่าฝีมือระดับซูเปอร์คลาส และในภายหลังยังได้เรียนรู้การใช้วัสดุจากต่างโลกมาใช้หมักไวน์อีกด้วย ซึ่งส่วนผสมของมันมีประโยชน์ที่ดีต่อร่างกายมาก
นั่นทำให้ยอดยุทธหลายคนต้องการเป็นสหายกับกู่ฉิงซาน ไม่ใช่เพียงแค่เฉพาะสถานะผู้บัญชาการรบของเขา แต่ยังเป็นเพราะไวน์ของเขามันคุณภาพดีจนน่าดึงดูดใจอีกด้วย
แต่สำหรับซูเซี่ยเอ๋อ พอได้ยินคำว่า ‘ไวน์’ ริ้วแดงก็ปรากฏขึ้นบนพวงแก้มเธอ ก่อนจะกล่าวแผ่วเบาราวเสียงกระซิบ “พี่ใหญ่ฉิงซานก็ต้องผ่านการสอบเข้ามหาวิทยาลัยให้ได้นะ สู้เขา ฉันจะรอนายอยู่ที่เมืองหลวง”
ช่วงท้ายๆ ประโยคเสียงเธอเบาลงจนเกือบจะไม่ได้ยิน
แต่กู่ฉิงซานคือใคร? เขาคือผู้ฝึกยุทธปราณปรับแต่งขั้นห้า เพียงแรงสั่นสะเทือนเล็กน้อยในอากาศยังไม่อาจเล็ดลอดการได้ยินของเขาไปได้ ยิ่งเป็นเสียงเบาๆ ที่เปล่งออกมายิ่งไม่ต้องกล่าวถึง
กู่ฉิงซานมักจะใช้ชีวิตแบบหลบเลี่ยงความตาย ดังนั้นเขาจึงไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับความรักที่แฝงอยู่ในถ้อยคำกล่าวนี้
เขาอึ้งและเริ่มสับสน ก็เรื่องที่เขาพูดไปชัดเจนว่ามันเกี่ยวกับอาหารและแอลกอฮอล์ ไหงถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้?
ทว่าเมื่อต้องเผชิญกับความจริงใจของซูเซี่ยเอ๋อ ในหัวใจของกู่ฉิงซานก็เต้นครึกโครมอย่างไม่อาจอดกลั้น
กู่ฉิงซานกำลังจะกล่าวอธิบายสิ่งที่เขาพูด แต่ซูเซี่ยเอ๋อกลับหลบตาเขาเสียก่อน แถมยังไม่กล้าเหลือบกลับขึ้นมามองอีกเลย และยื่นมือเล็กๆ มายังอุปกรณ์สื่อสาร ก่อนที่ภาพตรงหน้าเขาจะดับไป
มันน่าอายที่จะพูดแบบนี้ แต่ซูเซี่ยเอ๋อรู้สึกว่าเธอกำลังจะเป็นบ้า
ก่อนหน้านี้เธอต้องเผชิญหน้ากับกู่ฉิงซานที่มาสารภาพรักกับเธอต่อหน้าครู นักเรียน และแขกทั้งโรงเรียน ในความเป็นจริงหัวใจของเธอรู้สึกเจ็บปวดมาก เนื่องเพราะเธอไม่อาจให้สัญญาแก่อีกฝ่ายได้
ถ้าหากเธอรับคำขอของกู่ฉิงซานต่อหน้าทุกคน ไม่ต้องเอ่ยถึงผู้ใหญ่ในตระกูลของเธอที่จะไม่ยอมปล่อยกู่ฉิงซานไป แต่พวกเพลย์บอยของตระกูลชั้นสูง ก็จะเริ่มลอบโจมตีกู่ฉิงซานด้วย
นี่ไม่ใช่สิ่งที่ซูเซี่ยเอ๋อยินดีที่จะเห็น
ใครจะรู้ว่าทุกอย่างกลับเป็นเรื่องเข้าใจผิด และเป็นคนอื่นที่ต้องการสร้างปัญหา
ในงานเลี้ยง กู่ฉิงซานตอบโต้อย่างใจเย็น กล่าวอย่างมีเหตุผล และจัดการแก้ปัญหาได้อย่างสมบูรณ์แบบ
หัวใจของซูเซี่ยเอ๋อรู้สึกโล่งอก และความประทับใจที่มีต่อกู่ฉิงซานก็ยังเพิ่มมากขึ้น
และนั่นคือสาเหตุที่ก่อให้เกิดความคิดริเริ่มที่จะติดต่อกับเขาในวันนี้
อีกด้านหนึ่ง กู่ฉิงซานยืนจ้องอากาศตรงหน้าอยู่เนิ่นนาน จนเขาได้รับการแจ้งเตือนว่ามีข้อความเข้า เขาจึงได้สติกลับมา
มันเป็นข้อความจากซูเซี่ยเอ๋อ
“พี่ใหญ่ฉิงซาน จำวันเกิดครั้งล่าสุดของนายได้ไหม?”
มุมปากของกู่ฉิงซานคลี่ออกเล็กน้อย เขาป้อนข้อความผ่านอุปกรณ์สื่อสาร “ในตอนนั้นเธอส่งกล่องของขวัญที่ข้างในเต็มไปด้วยดาวกระดาษมาให้ เพื่อของขวัญชิ้นนี้ เธอถึงกับใช้เวลาทั้งอาทิตย์ในการพับมัน นิ้วเธอเป็นแผลครบทั้งสิบนิ้ว เจ็บจนไม่สามารถถือปากกาได้ ดังนั้นพอหมดเวลาสอบแล้วปรากฏว่าเธอยังทำมันไม่เสร็จ สุดท้ายเธอก็ร้องไห้ออกมา”
ในหัวใจของเขาเต็มไปด้วยความอบอุ่น “เรื่องโง่ๆ แบบนั้น ฉันจะลืมมันได้อย่างไรกัน…”
“ฮึ! ว่าฉันโง่อย่างงั้นเหรอ นายมันคนไม่รู้จักสำนึกบุญคุณ! สัปดาห์หน้าเป็นวันเกิดของฉัน ทีฉันยังทำของขวัญวันเกิดให้นายเลย เพราะฉะนั้นนายก็ต้องทำให้ฉันด้วย ฉันต้องการของขวัญวันเกิด!”
กู่ฉิงซานหลับตาลง ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบกลับไป “ตกลง”
เมื่อความทรงจำดีๆ ปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตา ใกล้จนแทบจะเอื้อมถึง กู่ฉิงซานยอมรับว่าตัวเขาเองก็อดไม่ได้ที่จะคว้ามันเอาไว้
“แต่นี่ ช่างมีความสุขจริงๆ ”
กู่ฉิงซานพึมพำกับตนเอง ในหัวใจของเขาได้ตัดสินใจแล้ว
เขาลุกขึ้นและเดินออกจากห้องพัก ก่อนจะเข้าลิฟต์ รูดการ์ด และกดปุ่ม ‘ชั้นเก้าสิบเก้า’
ลิฟต์เลื่อนขึ้นไปเรื่อยๆ ตลอดเส้นทางจนถึงชั้นบนสุดของตึกบริษัทวิจัยหุ่นรบกังเตี๋ย
กู่ฉิงซานเดินออกมา ก่อนจะหยุดอยู่หน้าแกนกลางตัวประมวลผลขนาดใหญ่ที่ชั้นบนสุด และวางฝ่ามือของเขาลงบนเครื่องสแกน
เสียงสังเคราะห์อิเล็กทรอนิกส์ดังขึ้น “ยืนยันตัวตน หมายเลขสี่หนึ่งหนึ่งห้าเจ็ดคุณต้องการใช้บริการอะไร?”
นี่คือระบบสมองควอนตัมหลักของบริษัทวิจัยหุ่นรบกังเตี๋ยแห่งฉางหนิง ทุกเรื่องภายในเครือบริษัทจะได้รับการดูแลจัดการโดยมัน
กู่ฉิงซานกล่าว “ฉันต้องการสมัครเชื่อมต่อกับเทพธิดากงเจิ้ง เทพธิดาแห่งความยุติธรรม”
สิ้นเสียงของเขา เสียงอิเล็กทรอนิกส์ก็ดังตอบทันที “การเชื่อมต่อกับเทพธิดากงเจิ้ง จำเป็นที่จะต้องได้รับการตรวจสอบอย่างเข้มงวดที่สุด รวมไปถึงตรวจสอบแต้มบุญส่วนบุคคลอีกด้วย ทั้งนี้เพื่อให้แน่ใจว่าความน่าเชื่อถือของบริษัทกังเตี๋ยจะไม่ได้รับความเสียหายจากพฤติกรรมส่วนบุคคลของคุณ คุณแน่ใจหรือไม่ว่าต้องการเชื่อมต่อกับเทพธิดา?”
“ฉันแน่ใจ” กู่ฉิงซานกล่าว
“เช่นนั้น ตามที่คุณปรารถนา ระบบตรวจสอบจะเริ่มต้นภายในหนึ่งนาที”
เสียงอิเล็กทรอนิกส์ค่อยๆ จางหายไป แต่กลับปรากฏแขนกลที่ส่องประกายเย็นเยียบผุดขึ้นมาจากพื้น และเริ่มทำการตรวจสอบรอบตัวของกู่ฉิงซาน
ในเวลาเดียวกัน ทางเข้าชั้นที่เก้าสิบเก้าก็ปิดลงอย่างสมบูรณ์ ไม่มีใครสามารถเข้ามาได้
“การตรวจสอบม่านตา : ผ่าน”
“การตรวจสอบเลือด : ผ่าน”
“ความสอดคล้องกับลักษณะทางชีวภาพ 99.1759 %”
“ตรวจสอบคุณสมบัติร่างโคลน ยืนยันว่านี่มิใช่ร่างโคลน”
“การตรวจสอบ DNA : ผ่าน”
“สิ่งมีชีวิตนี้มีความเป็นเอกลักษณ์ สอดคล้องกับที่ได้รับการบันทึกเอาไว้ : ผ่าน”
“อ่านไฟล์ข้อมูลวงจรชีวิตส่วนบุคคล เพื่อตัดสินว่าตัวตนนี้จะไม่เป็นอันตราย”
“บันทึกประวัติ : ดี ”
“เริ่มอ่านค่าแต้มบุญ… ”
กู่ฉิงซานยืนนิ่งอยู่ที่เดิม รอคอยการตรวจสอบที่แสนจะซับซ้อนและยุ่งยากให้สิ้นสุดลงอย่างเงียบๆ
เทพธิดากงเจิ้ง เป็นแกนระบบประมวลอัจฉริยะของรัฐบาลกลาง และควบคุมดำเนินการโดยรัฐบาลกลางทั้งหมด มีหน้าที่รับผิดชอบในทุกๆ กิจกรรมของพลเมืองทุกผู้คน และดำเนินการทุกอย่างตามรัฐธรรมนูญของรัฐบาลกลางอย่างเป็นธรรม
เทพธิดากงเจิ้งคือการตกผลึกของการผสมผสานระหว่างวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดของรัฐบาลกลาง และเป็นหนึ่งในผลงานความสำเร็จอันยอดเยี่ยมที่สุดของอารยธรรมมนุษย์
เนื่องเพราะความรวดเร็วในการปฏิบัติการของเทพธิดากงเจิ้งนั้นน่าหวาดกลัวเกินไป ระดับสติปัญญาและระดับของการเดิมพันนั้นสูงยิ่งกว่าประเทศอื่นๆ ไปมากโข ดังนั้นจึงไม่มีประเทศใดกล้าที่จะทำการโจมตีรัฐบาลกลางเลยในหลายทศวรรษที่ผ่านมา
สิบนาทีให้หลัง
เสียงอิเล็กทรอนิกส์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง “แต้มบุญของคุณมีมากพอตามข้อกำหนด ผลการตรวจสอบ : ผ่าน สมองควอนตัมได้อนุมัติคำขออย่างเป็นทางการสำหรับการสมัครเพื่อเชื่อมต่อกับเทพธิดากงเจิ้ง หมายเลขสี่หนึ่งหนึ่งห้าเจ็ดโปรดรอสักครู่ อย่าพึ่งขยับไปไหน ”
แต้มบุญส่วนบุคคลก็คือการสร้างผลงานในฐานะพลเมืองของรัฐบาลกลางเพื่อพัฒนาสู่อารยธรรมและสังคมมนุษย์ที่สูงขึ้น
ยิ่งพลเมืองมีส่วนร่วมมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งได้รับสวัสดิการที่ดีมากขึ้นเท่านั้น
แม้กระทั่งการรับสมัครนักศึกษาของบางมหาวิทยาลัยระดับสูง ก็ยังมีการตรวจสอบแต้มบุญส่วนบุคคล หากไม่ถึงตามข้อกำหนด แม้ว่าผลงานและผลสอบจะออกมาดี แต่ก็จะไม่ได้รับการยอมรับ
“เทพธิดากงเจิ้งยอมรับเรื่องร้องขอ”
ทันใดนั้น เสียงอิเล็กทรอนิกส์ก็เปลี่ยนไป มันถูกแทนที่ด้วยเสียงของหญิงสาวที่ฟังดูเคร่งขรึม
เสียงนี้จะเปล่งออกมาทีละคำ แต่ก็เป็นจังหวะที่มีเอกลักษณ์ ฟังแล้วให้ความรู้สึกพิเศษ
“พลเมืองของรัฐบาลกลางกู่ฉิงซาน ฉันคือเทพธิดาแห่งความยุติธรรม โปรดกล่าวสิ่งที่ท่านต้องการร้องขอ”
“โปรดจดจำเอาไว้ด้วยว่า ต่อหน้าฉัน ทุกๆ การกระทำของคุณจะส่งผลต่อคะแนนการประเมิน... ”
...................................