ตอนที่ 16 ทะลวงต่อเนื่อง!
“ขีดจำกัดพลังวิญญาณบวกหนึ่ง ขีดจำกัดพลังวิญญาณปัจจุบัน : หกแต้มพลังวิญญาณในปัจจุบัน : สองส่วนหก”
ทุกอย่างก็ยังคงเป็นเหมือนกับคนอื่นๆ ในโลกใบนี้ เพียงแต่การฝึกฝนของกู่ฉิงซานกลับใช้พลังวิญญาณในการทะลวงด่าน อัปเลเวล
ผู้เล่นที่ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาค่าประสบการณ์ในการอัปเลเวล นี่เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ของเกม
กู่ฉิงซาน กลัวว่าอาจจะมีปัญหาในบางส่วน เขาจึงตรวจสอบมันอย่างระมัดระวัง แต่แล้วเขาก็ต้องพบกับความประหลาดใจ! เนื่องจากเขาสัมผัสได้ว่าพลังวิญญาณของตนกำลังเอ่อล้น!
หลังจากอัปเลเวลด้วยค่าประสบการณ์ จะต้องใช้เวลายาวนานอย่างมากในการบำรุงและสร้างกระแสอบอุ่นขึ้นในตันเถียน และความแข็งแกร่งก็จะค่อยๆ เพิ่มพูนขึ้นตามไปด้วยอย่างช้าๆ
แต่ตอนนี้ใครจะรู้ว่า หลังจากพลังวิญญาณของเขาก้าวสู่ขอบเขตใหม่ พลังวิญญาณกลับอยู่ในสภาวะถูกเติมเต็มทันที!
มันดูเหมือนว่าพลังวิญญาณจะเป็นพลังงานระดับสูงจริงๆ ถึงได้ให้ผลลัพธ์เช่นนี้…การเดิมพันครั้งนี้ฉันเป็นฝ่ายชนะ!
ถ้าเป็นในกรณีนี้ เขาจะสามารถทะลวงด่านต่อไปได้ด้วยตัวเองเลยทันที
“โอกาสดีๆ แบบนี้ ต้องรีบลองอีกครั้ง!”
กู่ฉิงซานไม่ต้องการที่จะคิดเกี่ยวกับมันอีกต่อไป เขาควบคุมพลังวิญญาณที่หมุนวนอยู่รอบๆ ให้กลับสู่ร่างกาย และทำตามความเข้าใจก่อนหน้านี้ ในไม่ช้าเข้าก็พบกับด่านที่ห้า
ด่านนี้ ดูคล้ายกระแสน้ำวนและตรงใจกลางบุ๋มลงไปเป็นหลุมลึก
กู่ฉิงซานได้พยายามอยู่หลายครั้งและเกือบจะทะลวงผ่านมันไปได้ แต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้ในที่สุด
เขายืนขึ้นก่อนจะเดินวนไปวนมาสองสามรอบในห้อง หลังจากปรับความคิด ฉิงซานก็สูดหายใจลึกและนั่งไขว้ขาลงอีกครั้ง
“ใช้งานสองแต้มพลังวิญญาณ เรียนรู้ขอบเขตขั้นที่ห้า ‘จ้ง’ ”
“ใช้งานเสร็จสมบูรณ์ แต้มพลังวิญญาณปัจจุบัน ศูนย์ส่วนหก”
และคราวนี้ก็ไม่ได้ทำให้เขาผิดหวัง กระแสความร้อนเอ่อล้นออกมาจากหนังสือเล่มเล็ก มันไหลเข้าสู่ทะเลแห่งความรู้ของกู่ฉิงซาน จู่ๆ เขาก็สามารถทะลวงผ่านด่านที่ห้าได้อย่างฉับพลัน
ทันทีที่ทะลวงสู่ ‘จ้ง’ พลังวิญญาณในตันเถียนของกู่ฉิงซานก็เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว และเติบโตขึ้นอีกครั้ง และอีกครั้ง จนในที่สุดมันก็ค่อยๆ สงบลง พลังวิญญาณของเขาเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าหากเทียบกับตอนที่อยู่ในระดับปราณปรับแต่งขั้นสี่!
ก่อนหน้านี้ที่เขาสังหารสงหู่ลง กู่ฉิงซานยังต้องวางแผนการอย่างรอบคอบ หากเขาได้เผชิญหน้ากับสงหู่อีกครั้งในปัจจุบันนี้ เกรงว่าคงจะสามารถระเบิดอีกฝ่ายได้ด้วยศรเพียงดอกเดียว
เขาคือผู้ฝึกยุทธปราณปรับแต่งขั้นห้า! เป็นผู้ฝึกยุทธที่เหนือล้ำที่สุดในโลกหากเทียบกับในช่วงอายุเดียวกัน!!
นี่มันช่างยอดเยี่ยม ต้องรู้นะว่าในโลกแห่งวรยุทธ รุ่นเยาว์ที่มีอายุราวๆ สิบหกถึงสิบเจ็ดปี แต่กลับสามารถฝึกฝนจนมาถึงระดับปราณปรับแต่งขั้นห้า หากไม่ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดี มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
“ขีดจำกัดพลังวิญญาณบวกหนึ่ง ขีดจำกัดปัจจุบันของพลังวิญญาณ : เจ็ดพลังวิญญาณปัจจุบัน : ศูนย์ส่วนเจ็ด”
ขีดจำกัดพลังวิญญาณก็เปลี่ยนจากหกไปเป็นเจ็ด
กู่ฉิงซานมองไปยัง ‘แต้มพลังวิญญาณ’ ในหัวใจของเขาคิดเกี่ยวกับธนูกองทัพ และอีกสองสกิลที่ยังเหลืออยู่
เนื่องจากขีดจำกัดพลังวิญญาณเพิ่มขึ้นแล้ว ดังนั้นจึงไม่ต้องรีบร้อนที่จะฝึกฝนสกิล ‘แม่นยำ’
หากสะสมพลังวิญญาณถึงหกแต้ม เขาก็จะสามารถเรียนรู้สกิล ‘คู่นางแอ่นเหิน’!
วรยุทธพื้นฐานในโลกก่อนหน้านี้ แม้ว่าจะไม่สามารถนำกลับมาใช้ได้ แต่ประสบการณ์และวิสัยทัศน์ของกู่ฉิงซานยังคงอยู่
‘แม่นยำ’ สามารถเพิ่มอัตราการยิงและโอกาสที่จะยิงถูกเป้าหมาย แน่นอนว่ามันก็เป็นท่าที่จำเป็นต้องเรียนรู้ แต่ ‘คู่นางแอ่นเหิน’ นั้นเป็นสกิลโจมตีสายธนูที่ทรงพลัง
สำหรับผู้เล่น แม้ว่าตัวเขาจะมีระดับสูง แต่หากไม่มีรูปแบบการโจมตีที่แข็งแกร่งและทรงประสิทธิภาพ พวกเขาก็จะไม่สามารถใช้พลังวิญญาณในปริมาณมากได้
ดังนั้น ‘คู่นางแอ่นเหิน’ สกิลนี้จึงมีความสำคัญอย่างมาก
ในหัวใจของกู่ฉิงซานครุ่นคิดอยู่อย่างเงียบๆ ก่อนที่เขาจะยืนขึ้นและสัมผัสได้ถึงพลังอันไม่มีที่สิ้นสุดในร่างกาย เพียงแค่กำปั้นก็อาจเจาะผืนดินได้
นี่คือภาพมายาที่ผู้คนมักจะพบเจอหากทะลวงด่านได้รวดเร็วเกินไป แม้จะทำให้เกิดความมั่นใจแต่ก็อาจจะทำอะไรออกไปโดยไม่คาดคิด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงจิตใจที่ยังไม่มั่นคงในพื้นฐานวรยุทของเขา
นอกจากนี้ยังเป็นการทะลวงผ่านสองขอบเขตติดๆ กัน เป็นเรื่องที่หาได้ยากยิ่งในโลกของผู้ฝึกยุทธ
กู่ฉิงซานลองเหวี่ยงหมัดเล่นภายในห้อง ก่อนจะพบว่าร่างกายของเขาไม่มีอะไรผิดปกติ จากนั้นจึงหยิบธนูกองทัพขึ้นมา และเดินออกจากประตูไป
พอเดินผ่านห้องของจ้าวหลิว ก็พบว่าอีกฝ่ายกำลังโห่ร้องยินดีอย่างบ้าคลั่งอยู่ภายใน ก่อนเสียงนั้นจะเงียบลง คาดว่าเจ้าตัวลงหลับฝันดีไปแล้ว
กู่ฉิงซานไม่ได้หยุด เขาเดินต่อไปไม่ช้าก็ออกจากค่ายทหารและลับสายตาไปในยามค่ำคืน
เขาต้องการออกล่าสังหารมารอสูรบางจำพวกที่แข็งแกร่ง เพื่อเสริมสร้างพื้นฐานวรยุทธ หากตกอยู่ในสถานการณ์ระหว่างความเป็นความตาย เขาก็จะได้รับแต้มพลังวิญญาณเพิ่มขึ้น
ภายในป่า
มอนสเตอร์งูเหลือมสีน้ำตาลร่วงลงจากต้นไม้ ปากของมันอ้ากว้างพอจะงับร่างคนลงไปทั้งร่าง พร้อมกับส่งเสียงขู่ฟ่อออกมา
มันเป็นนักล่าที่อยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหารภายในพื้นที่ป่าแห่งนี้ และทุกการล่ามันไม่เคยพลาดพลั้ง!
เหล่ามารอสูรที่ทรงพลังยิ่งกว่ามันมากมาย ต่อสู้ได้ไม่นาน สุดท้ายก็ตกอยู่ภายใต้พิษร้ายของมัน และถูกสวาปามลงสู่ท้อง
มอนสเตอร์งูเหลือมไม่เคยขาดความอดทนในการล่า
ทว่าวันนี้ ดูเหมือนจะตรงกันข้าม เนื่องเพราะมันก็ได้พบกับนักล่าเช่นกัน
การต่อสู้เริ่มต้นไปได้ไม่กี่นาที สองตาของมันก็ถูกยิงจนมืดบอด ปลายแหลมของศรเจาะทะลวงโดยสมบูรณ์ลึกลงไปกว่าเจ็ดชุ่น! มันทำได้เพียงต่อสู้อย่างเต็มกำลัง แต่ก็ไม่อาจทำดาเมจร้ายแรงใส่ศัตรูได้
มอนสเตอร์งูเหลือมฝืนสู้จนสุดใจจวบจนลมหายใจสุดท้าย
“พลังวิญญาณบวกห้า พลังวิญญาณปัจจุบันเข็ดส่วนเจ็ด”
กู่ฉิงซานเดินออกมาจากเงามืดเบื้องหลังกิ่งไม้ และมองไปยังมอนสเตอร์งูเหลือมเบื้องหน้า
ในตอนที่เขาอยู่ระดับปราณปรับแต่งขั้นสองและมายังที่นี่ เขาถูกมันตามไล่ล่าไปหลายสิบไมล์ สุดท้ายจึงหลบหนีมาได้อย่างอ่อนล้า
เวลานี้เขาก้าวขึ้นสู่ปราณปรับแต่งขั้นห้า แข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิมสองเท่า และในที่สุดก็กลับมาฆ่ามอนสเตอร์งูเหลือมลงได้
ในบรรดามารอสูรทั่วไป มอนสเตอร์ประเภทงูค่อนข้างหาได้ยาก เกรงว่าบางทีในป่าแห่งนี้คงไม่มีตัวที่สอง
มารอสูรประเภทงูเปรียบดั่งสมบัติล้ำค่า ถุงน้ำดีของงูสามารถใช้แก้พิษได้เป็นร้อยชนิด รักษาบาดแผลที่ได้รับความเสียหายร้ายแรง ส่วนเลือดของมันมีคุณสมบัติเสริมสร้างประสาทสัมผัสทั้งห้า เนื้อของมันช่วยฟื้นฟูและเพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่ร่างกาย และเขี้ยวของมันเป็นส่วนที่ดีที่สุด เพราะสามารถนำเอาไปเป็นวัสดุในการทำมีดหรือหัวลูกศรได้
มอนสเตอร์งูเหลือมตัวนี้อยู่มานานพอสมควร ดังนั้นส่วนต่างๆ ในร่างกายของมันจึงไม่เลวร้าย
กู่ฉิงซานหยิบมีดออกมา ก่อนจะพุ่งแทงเข้าไปในร่างของงูและกระชากมันออกอย่างแรง!
ถุงน้ำดีขนาดเท่ากำปั้นสองถุงถูกกระเด็นออกมา และถูกคว้าจับโดยกู่ฉิงซาน
ถุงน้ำดีของเปล่งประกายระยิบระยับราวผลึกคริสทัล สีของมันขุ่นขาวราวน้ำนม
แน่นอนว่าที่มันเป็นไอเท็มล้ำค่า ไม่ใช่แค่เพียงเพราะมันหายาก แต่ยังเป็นเพราะประสิทธิภาพของมันอีกด้วย ในโลกของผู้ฝึกยุทธ ‘บางสิ่งไม่อาจได้มาด้วยโชค แต่ต้องออกไปค้นหา’
กู่ฉิงซานเก็บถุงน้ำดีงูถุงแรกขึ้นมาอย่างระมัดระวัง และล้างมันอยู่กว่าสองสามครั้งจึงจะสะอาด จากนั้นก็กลืนมันลงไป
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง บาดแผลทั่วร่างกายก็เริ่มคันยิบๆ
กู่ฉิงซานอดไม่ได้ที่จะสุขใจ
เขาไม่ได้คาดหวังเลยว่ามันจะออกฤทธิ์เร็วขนาดนี้ ถุงน้ำดีของมอนสเตอร์งูเหลือมไม่เพียงสามารถสลายพิษในร่างกาย แต่ยังรักษาบาดแผลและเสริมสร้างกล้ามเนื้ออีกด้วย
ตามความรวดเร็วนี้ ขอเพียงแค่หนึ่งชั่วโมง อาการบาดเจ็บทั้งหมดของกู่ฉิงซานก็จะหายเป็นปลิดทิ้ง
กู่ฉิงซานเก็บถุงน้ำดีงูอีกถุงอย่างระมัดระวัง ก่อนจะชักมีดออกมาและตรงไปเลาะเขี้ยวงูออก
ตรงจุดนี้ไม่เพียงห่างไกลจากค่ายทหารมากเกินไป แต่นี่ยังเป็นช่วงเวลากลางคืนที่มารอสูรมักจะออกล่า หากต้องไปตามคนกลับมาลากมอนสเตอร์งูตัวนี้ ดูจะเป็นเพียงความฝันอันโง่เขลา
กู่ฉิงซานจึงทำได้เพียงใช้เวลาอันมีค่าให้เกิดประโยชน์ที่สุด และเลือกส่วนที่จำเป็นที่สุดของมันมอนสเตอร์งูออกมา
ถุงน้ำดีงู และเขี้ยวงูได้รับมาแล้ว ตอนนั้นเองกู่ฉิงซานก็นึกขึ้นมาได้ว่าเขามีกระติกน้ำของกองทัพอยู่ จึงเทน้ำทิ้ง และเติมเลือดงูลงไป
เขาลองจิบมันหนึ่งอึก และพบว่ามันเต็มไปด้วยกลิ่นแปลกๆ
กู่ฉิงซานกัดฟันกรอด ก่อนจะกระดกไปหลายอึก จากนั้นก็เติมงูเลือดจนเต็มแล้วปิดฝา
เจ้าสิ่งนี้ไม่สามารถดื่มมากจนเกินไปในทีเดียว มันไม่ใช่สิ่งที่ผู้ฝึกยุทธระดับปราณปรับแต่งจะแบกรับไหว
หลังจากเก็บรวบรวมวัสดุทั้งหมดจากมอนสเตอร์งูเหลือม ต่อไปก็ถึงขั้นสุดท้าย
เจ้ามอนสเตอร์งูเหลือมนี้เป็นมารอสูรที่ล่าสังหารได้ยากเย็นที่สุดในค่ำคืนนี้ ทำให้กู่ฉิงซานได้รับพลังวิญญาณทันที5แต้มในคราวเดียว หากรวมกับมารอสูรสองสามตัวก่อนหน้า เวลานี้ก็สมควรถึงช่วงเวลาสุดท้ายของการเก็บเกี่ยว
กู่ฉิงซานสูดหายใจลึก สายตาจับจ้องหน้าต่างระบบเทพสงครามแล้วกล่าว “ใช้งานหกแต้มพลังวิญญาณ เรียนรู้ คู่นางแอ่นเหิน”
“เรียนรู้คู่นางแอ่นเหินเสร็จสมบูรณ์แล้ว แต้มพลังวิญญาณปัจจุบัน หนึ่งส่วนเจ็ด”
กระแสความร้อนหลั่งไหลออกจากคันธนู ก่อนจะแพ่รกระจายเข้าไปในแขนทั้งสองของกู่ฉิงซาน ลามไปทั่วร่าง
ทุกชนิดของสกิล ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวของมือ การใช้พลังวิญญาณ และระยะโจมตี ทั้งหมดปรากฏขึ้นในจิตใจของกู่ฉิงซาน
หลังจากระแสความร้อนแพร่กระจายไปทั่วร่างของกู่ฉิงซาน พวกมันทั้งหมดก็ค่อยๆ จมหายลงไปในทะเลความรู้ และค่อยๆ สลายไป
ถึงจะไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่ในที่สุดเขาก็สามารถเรียนรู้สกิลอันทรงพลังนี้ได้เสียที!
.....................................