ปรากฏตัวมาจากดินแดนที่แฝงเร้งในดวงดาว เขาคนนั้นจะท้าทายต่อการเปลี่ยนแปลงอันใหญ่หลวง พวกเอเลี่ยนจากอวกาศมีหลายเผ่าพันธ์ หลากสปีชีส์ และแต่ละสายพันธ์ก็มีความเป็นตัวของตัวเองอยู่ บางพวกสามารถโบยบินบนฟ้าได้เหมือนกับนก บางพวกมีสายตาที่ดีเยี่ยม จ้องมองไปยังศัตรูแล้วจะไม่พลาดเป้าต่อใครหน้าใหน ความสามารถในการจ้องมองมาจากดินแดนที่ศัตรูคาดไม่ถึง ปรากฏตัวมาจากดินแดนที่ยิ่งใหญ่ พลังงานปลดปล่อยที่มีนั้นช่วยในการประเมินกำลังที่มีได้ก็จริง แต่ก็ไม่ทั้งหมด สิ่งที่จะช่วยตัดสินจริงๆ คือความสามารถที่มาจากการฝึกฝน หมอนั่นมันคือใครคนนั้นที่เป็นหนึ่งไม่มีสอง ความเร็วในการเคลื่อนใหวนั้นไม่ใช่ว่าจะวัดเพียงแค่
สปีดในการเคลื่อนใหวเท่านั้น รีแอคชั่นไทม์ หรืออัตราในการตอบสนอง ที่จะขยับร่างกายเพื่อโจมตี ปืนไฟเก่าๆถูกเล็งไปที่ร่างสูงใหญ่ปานภูเขาเขาคนนั้นมันเหมือนกับว่าไม่สามารถถูกหยุดใว้ด้วยความกลัวนี้ เพียงแค่ระยะไมท่ถึงหกเมตรดี ร่างนั้นกลับหลบการโจมตีได้สบาย พริบตาเดียวก็สปริงร่างกายพุ่งเข้ามาหา กล้ามเนึ้อมือถูกใช้จับเข้าไปที่ด้านของค้อนอย่างเต็มกำลัง พลังงานสายฟ้าที่แฝงในนั้นร้ายกาจยิ่งนัก ก่อนจะตวัดมันออกมาด้วยพลังที่สุดจะต่อกร พละกำลังมหาศาลเหมือนปีศาจแรงที่มากกว่านักกีฬาระดับโลกร่วมห้าเท่า บวกกับความแข็งแกร่งของวัสดุ
ที่ใช้ทำส่วนของตัวค้อน ทำให้ร่างของศัตรูคนหนึ่งถูกทำให้ถูกบนขยี้ในพริบตา ชายอีกคนหยิบปืนไรเฟิลขึ้นมาเพื่อส่องชายร่างสูง แต่ร่า่งใหญ่เหมือนกับว่าเป็นยักษ่์นั้นกลับสามารถตอบสนองในพริบตา พลังในการเคลื่อนใหวนั้นมันไม่ใช่ว่าจะสามารถถูกจัดการด้วยกำลังที่เหมือนกัีบว่าจะทำลายภาพลวงตา โปรเจคแอสการ์ดผู้มีผมสีแดงนั้นมันสามารถยกน้ำหนักได้ถึงสามตัน พละกำลังที่มีนั้นมันยิ่งกว่าปีศาจ จะทำลายภาพลวงตาด้วยความมุ่งมาดที่เกินกว่าความฝัน ปรากฏตัวมาจากดินแดนอันประหลาดนั้นมันไม่สามารถเดินทางกลับคืนมาอีกครั้ง แววตานั้นมันบอกมาว่าจะทำลายภาพลวงตาด้วยตัวเอง ปรากฏตัวมาเพื่อนำพาการเปลี่ยนแปลง เดินทางมาจาก
ความมืดที่จะเปลี่ยนแปลงต่อหน้าโชคชะตาของใคร พร้อมที่จะต่อกรกับความมืดที่แฝงเร้นในแดนใกล วีรชนคนหนึ่งคือใครที่จะไม่อ่อนแอ พลังงานสายฟ้าถูกทำให้ไหลมารวมกันที่ค้อน ก่อนที่จะเหวี่ยงออกไปด้วยโมเมนตัมกันรุนแรง สนามแม่เหล็กรุนแรงจากค้อนใช้ดึงดูดกระสุนมารวมกันอย่างรวดเร็ว สายตานั้นมันบอกมาว่าเขาคนนั้นไม่หวาดกลัวใคร กระโหลกแต่โลหิตไหลทะลัก ฟันก็หัก สมองก็พังใบหน้าและสิ่งที่เคยเป็นหัวแตกสลาย แหลกเหลวจนไม่เหลือเค้าใบหน้าที่คงอยู่ในนั้นมันสุดจะร้าย ปรากฏตัวมาคล้ายว่าเขาคนนั้นมันจะพ้นไปจากคำสาปของยามกลางคืน ทุ่มเทเพื่อไม่สามารถหวนกลับ จะไม่ขอลาลับไปกับความมืด พละกำลังที่มีนั้นมันบอกมาว่าจะไม่เดินทางหวนกลับคืน ความแข็งแกร่งที่มีนั้นมันบอกมาว่าไม่ขมขื่นกับความกลัวที่โชคชะตามอบมา
"ฝืมือของพวกนายยังหางกับชั้นอีกเยอะ" คมมีดของอาชญากรคนหนึ่งถูกใช้แทงเข้ามาก่อนร่างนั้นจะคว้าจับข้อมือใว้ด้วยพละกำลังเหนือชั้น ใช้พละกำลังจากร่างมหึมา ทำการกระชากคู่ต่อสู้ให้เสียโมเมนตัม กริบที่จะบิดแขนพร้อมกับจับร่างของศัตรู กระชากจนไม่มีฐานยืน ร่างนั้นร้องด้วยความเจ็บปวด ขณะมีดหลุดจากมือ ขณะที่ลูกถีบรุนแรงถูกทำให้โจมตีเข้ามาใส่ที่หัวเข่าของคู่ต่อสู้ในทันที แววตานี้มันบอกมาว่าใครคนหนึ่งเป็นหนึ่งไม่มีสอง เขาคนนั้นจะไม่อ่อนแอต่อคำทำนายถึงเลือดที่ไหลนอง ประกาศิตนั้นมันจะร่ำร้องถึงความตาย ปรากฏตัวมาเพื่อเดินทางไปข้างหน้า ความมุ่งมาดปราธนาไม่พลาดไปจากเป้าหมาย แววตานั้นมันบอกมาว่าเขาคนนั้นคือผู้ตามล่ามาจากดินแดนที่อันตราย ที่จะทำลายร่างของศัตรูจนแหลกเหลวในพริบตา ร่างนั้นใช้มือขวาชูขึ้นเหนือหัว
ก่อนจะเหวี่ยงค้อนเหล็กไปรอบตัวด้วยพละกำลังมหาศาล แรงฟาดแต่ละครั้งมันบ่นกระดูกทั่วร่าง ไม่ต่างจากการทุบก้างปลาด้วยครกเหล็ก สายตาของเขาคนนั้นมันบอกมาว่าผู้ปรากฏตัวมานั้นมันไม่อ่อนแอ แววตานั้นมันบอกมาว่าเดินทางมาในเวลานี้มันปรากฏตัวมาไม่พ่ายแพ้ เดินทางมาผ่านพ้นความมืดไม่อ่อนแอต่อผู้ใด ใครคนนั้นมันไม่สามารถหวนคืนมา สายตานั้นมันบอกมาเหมือนกับว่าไม่ร่ำให้ ปรากฏตัวมาจากความมืดอันแสนใกล ช่วงเวลาอันยิ่งใหญ่ ข้าจะได้เป็นผู้ครอบครอง พละกำลังกับความเร็วที่มีนั้นมันสุดจะรับมือ ผู้ปรากฏตัวมาจากแดนใกลนั้นแท้จริงฝืมือกับนับว่าเป็นหนึ่งไม่มีสอง" เก่งมากๆ ฝืมือสูงกว่าที่คิดเสียอีก" หัวหน้าโปรเจคแอสการ์ดเงยหน้าขึ้นไป สังเกติเห็นร่างในชุดมายากลนั่งดูอยูด้านบน" นายสินะ ที่ใครๆ เรียกว่าโจ็กเกอร์" ชายในหมวกมายากลเปลี่ยนท่าที
"ดูเหมือนว่าทางคุณจะรู้อะไรมากไปนิด" ร่างนั้นว่า พลางหยิบเข็มที่มีส่วนผสมของเงินขึ้นมาในระดับสายตา ด้วยระดับพลังงานปลดปล่อยที่ตัวเองครอบครองอยู่ในเวลานี้มันบอกมาว่า ขอสัญญาว่าจะไม่ทำตัวอ่อนแอ... ร่างนั้นรเพียงแค่สะบัดข้อมือ เข็มในมือก็ปลิวออกไปด้วยความเร็วเสียง การโจมของเข็มเหล่านั้นว่ารวดเร็วแล้ว แต่นั่งก็ไม่เร็วเท่าการเคลื่อนใหวของชายแอสการ์ดหนุ่ม ที่กระชับขมือที่ถือค้อนเอาใว้อย่างรวดเร็ว ก่อนจะชูค้อนนั้นไปข้างหน้า สายตานั้นมันบอกมาว่าเหมือนกับว่าวีรชนคนหนึ่งจะไม่หวนคืนมา สายฟ้าความร้อนสูงถูกทำให้พุ่งเข้ามาหลอมละลายเข็มจำนวนมากให้หายไป ไม่มีเวลาแม้แต่จะรู้สึกถึงความกลัว หรือจะประมวลผลเพื่อหลบการโจมตีเลยด้วยซ้ำ ทันทีที่แสงกระทบสายตา พลังงานสายฟ้าที่ไหลเข้ามา ก็ทำให้ประสาททั่วร่างถูกแจมมิ่งอย่างรวดเร็ว ชายทรนงอย่างโจ็กเกอร์ถูกใช้สายฟ้าวิ่งเข้ามาในร่าง การเคลื่อนใหวของนักมายากลหนุ่ม
ถูกหยุดใว้อย่างรวดเร็ว เขาพยายามควบคุมแร่เงินรอบตัวให้เข้าโจมตีอีกฝ่าย แต่มันกลับถูกหยุดใว้ได้เพียงแค่สายตากับการยกมือ" ทางนั้นไม่ควรเปิดตัวมาด้วยการโจมตีใส่ก่อนโดยไม่พูดจา" โจ็กเกอร์ที่ถูกแจมมิ่งระบบประสาท ตั้งใจจับขยับแขงเพิื่อตอบโต้ แต่ร่างกายกลับไปขยับที่ขาเองเอ่ยขึ้น" ฝืมือนายมันสูงกว่าที่ผมคิดใว้ซะอีกนะ คิดไม่ถึงว่าจะโดนแจมมิ่งประสาทจนลุกไม่ขึ้น กับโดนหยุดการโจมตีได้ในครั้งเดียวแบบนี้" เปล่าๆ ร่างของชายหนุ่มชาวต่างดางที่สูงร่วม สองเมตรยี่สิบสามเซนติเมตรสายหัว แขนของเขามันยาวกว่าความสูงของร่างกายเด็กทั่วไปด้วยซ้ำ สายตาที่ดูทะนง ไม่ต่างจากไปครั้งอดีต พละกำลังทีมี ไม่ต่างอะไรกับเทพปีศาจ" เข้าใจอะไรผิดแล้ว ต่อให้วางแผนการรบมาดียังใง แต่ความเร็วของสายฟ้าอะคือของจริง"
"มนุษย์ใงๆ ก็หลบสิ่งที่รวดเร็วที่สุดในจักรวาลไม่พ้นหรอกนะ ใครที่คิดว่าจะหลบการโจมตีของผมพ้นง่ายๆ คนนั้นก็ประเมินฝืมือกันต่ำไปหน่อย สายตานั้นมันบอกมาว่าจะไม่อ่อนแอต่อผู้ใด จะไม่ถูกทำลายจากความมืด กำลังที่มีนั้นมันเหมือนกับว่าเป็นเทพปีศาจ ความแข็งแกร่งนั้นมันบอกมาว่าเขาคนนั้นมันยังคงร้ายกาจ จะไม่ถูกทำลายต่อหน้าความอาฆาติของใครๆ วีรชนเพียงหนึ่งไม่จากลา เขาคนนั้นจะต่อสู้กับภาพมายาไม่ร่ำให้ จะให้เดินทางค้นหากี่ดวงดาว จะให้ฝึกฝนตัวเองกี่สิบปี ความเป็นจริงมันก็มีอยู่ว่า กฏทางฟีสิกส์ไม่สามารถเปลี่ยนแปลง กำลังมหาศาลเหมือนกับว่าเป็นเทพหรือมารที่อาศัยอยู่ บอกมาว่าผู้ปรากฏตัวมาในเวลานี้ไม่สนใจคำขู่ของศัตรูที่ปรากฏตัวมา แววตานั้นมันบอกมาว่าไร้เมตตา ปรากฏตัวมาไม่สามารถถูกทำลายได้โดยง่ายดาย เดินทางมา
จากดินแดนที่ใครต่อใครไม่รู้มาว่ามันหนาวเย็นกว่าทั้งโลก สายตานั้นมันบอกมาว่าเหมือนกับว่าปรากฏตัวมาในช่วงเวลานั้นมันเหมือนกับว่าจะเดินทางมาไม่สามารถหวนกลับคืน สายตานั้นมันบอกมาว่าจะไม่ตื่นพบตะวัน" นายจะทำอะไร ฆ่าผมให้ตายเรีองก็ไม่จบ"ก็พอจะรู้อยู่ว่าสถานการณ์มันเกินกว่าจะจบด้วยวิธีปกติมาตั้งนานแล้ว"ร่างของชายถือค้อนเอ่ยคำพูดกับนักมายากลอันดับหนึ่งของยุค" แต่เรื่องมันไม่ได้เกี่ยวกับกรณีนั้นหรอกนะ ผมจะไปให้ถึงเลเวลเกิน 35 ให้ดู โจ็กเกอร์บอกถึง" คำถามคือนายยังสติดีหรือเปล่าที่ตั้งเป้าหมายพรรค์นั้น เลเวล 35 พลังงานปลดปล่อยคือ 10 ยกกำลัง 18 จูลขึ้นไป "ตัวตนแบบนั้นขยับตัวทีทวีปก็เคลื่อนใหวแล้ว แถมถ้ามองในแง่ของพลังงานที่ใช้งานละก็ พวกที่มีพลังงาน 10 ยกกำลัง 18 จูลขึ้นไป สามารถขยี้อุกกาบาติขนาด 50 กิโลเมตร ให้ไม่เหลืออะไรในพริบตา แต่จะทำอย่างนั้นได้ต้องใช้แหล่งพลังงานมหาศาลเป็นบ้าเป็นหลังเลยละ"