webnovel

IANZO Since 2040

ในอนาคตที่โลกได้ดำเนินมาถึงจุดที่มนุษย์ไม่อาจใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อีกต่อไป นักวิทยาศาสตร์กลุ่มหนึ่งก็ได้ทำการทดลองจนได้รับสิ่งที่ถูกนิยามว่า 'เวทมนตร์' ขึ้นมาใช้กอบกู้โลกที่มืดมนเหลือเกินในตอนนั้นให้กลับมาสงบสุขเรื่อยมาและก่อเกิดเป็น ‘เอียนโซ’ องค์กรนักเวทมนตร์ผู้ถูกสรรเสริญเป็นวีรบุรุษกอบกู้โลกในปี 2040 เรื่องราวการเดินทางของ ‘วีโอเลต รอจเจอร์’ เด็กสาวที่เกิดจากครอบครัวธรรมดา ผู้มีความฝันเกินกว่าความธรรมดา เธอฝันอยากจะก้าวข้ามไปอยู่ในโลกของนักเวทมนตร์เหมือนกับพ่อของเธอที่สละชีวิตเพื่อปกป้องโลกใบนี้ไปตั้งแต่ก่อนเธอจะลืมตาขึ้นมาดูโลกเสียอีก...ทว่าสุดท้ายแล้วเธอกลับลงเอยด้วยการกลายเป็น ‘นักเวทมนตร์นอกรีด’ ศัตรูตัวฉกาจขององค์กรเอียนโซอย่างปริศนา... จุดหักเหแห่งชีวิตของนักเวทมนตร์นอกรีดผู้ยิ่งใหญ่ในอนาคตคนนี้มาจากอะไร? ยังคงเป็นเรื่องราวลึกลับและไม่อาจคาดเดาได้...

O_Jay · Fantasía
Sin suficientes valoraciones
42 Chs

บทที่10 : การทดสอบคัดเลือกนักเวทมนตร์ประจำปี (1/2)

บทที่ 10

การทดสอบคัดเลือกนักเวทมนตร์ประจำปี (1/2)

ว้าบ!

ผู้เข้าทดสอบทุกคนหลับตาลงตามคำแนะนำการใช้เครื่องจักร ก่อนที่แสงจะสว่างว่าบขึ้นมา...

"ผู้เข้าสอบคัดเลือกทุกท่าน เชิญลืมตาได้ค่ะ" เสียงของหญิงคนเดิมดังขึ้นอีกครั้ง ทุกคนค่อยๆ ลืมตาขึ้นช้าๆ ก่อนจะหันมองสอดส่องสายตาไปทั่วด้วยความสงสัย

ผู้เข้าทดสอบจำนวนร่วม200คน อยู่รวมกันในห้องโถงขนาดใหญ่ โดยแต่ละคนนั่งอยู่บนเก้าอี้สีดำมีพนักพิงที่วางเรียงกันตามหมายเลขประจำตัวผู้เข้าทดสอบ

"สวัสดีค่ะทุกท่าน ดิฉัน อลิซ AIผู้รับผิดชอบงานทดสอบคัดเลือกนักเวทประจำปี ทุกท่านจะได้เจอกับดิฉันในตลอดช่วงการแข่งขันค่ะ ดังนั้นถ้ามีปัญหาหรือข้อสงสัยใดๆ สามารถติดต่อดิฉันได้โดยตรงจากเครื่องแท็บเลตที่อยู่ด้านหน้าของทุกท่านในตอนนี้ได้เลยค่ะ" ภาพของหญิงสาวปริศนาปรากฏขึ้นบนหน้าจอขนาดใหญ่ที่ด้านหน้าของห้องโถง เธอมีรูปร่างหน้าตาที่สวยงามราวกับซุปเปอร์สตาร์ และทันทีที่เธอประกาศตัวว่าเป็นAI ทุกคนจึงเข้าใจในความงดงามของเธอทันที "ในวันนี้ขอให้ทุกท่านเข้าไปรับคีย์การ์ดห้องพักของตัวเองได้ที่เค้าเตอร์ด้านหน้าและเชิญพักผ่อนตามอัธยาศัยได้เลยค่ะ สัมภาระของทุกท่านอยู่ในห้องพักส่วนตัวทั้งหมดแล้ว การทดสอบจะเริ่มต้นขึ้นในวันพรุ่งนี้ ส่วนรายละเอียดต่างๆ ท่านสามารถเช็คได้ในเครื่องแท็บเลตส่วนตัวได้เลยค่ะ"

หลังจากจบประกาศ หน้าจอใหญ่ด้านหน้าก็ดับลง ผู้เข้าสอบเริ่มสำรวจสิ่งแวดล้อมรอบๆ

วีโอเลตก้มลงมองที่หน้าตัก พบกับเครื่องแท็บเลตที่วางอยู่ เธอจึงหยิบขึ้นมา ก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ช้าๆ

"ไปหยิบกุญแจกันเลยมั้ย?" วิคเตอร์ที่นั่งอยู่ถัดไป1ที่นั่งเดินมาชวนเธอด้วยสีหน้าสดใส

"อื้อ ไปกัน" วีตอบรับก่อนจะหันไปมองเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่ก่อนหน้าเธอ1หมายเลข "เต นายจะไปเลยมั้ย?"

"โอเค เซนน่าจะอยู่แถวหน้าๆ นะ ไปพร้อมกันเลยละกัน"

ทั้ง3คนพากันเดินไปเจอกับเซเนท หญิงสาวอีกคนที่คุ้นเคยกันดี ก่อนจะพากันเดินไปตามทางเพื่อรับคีย์การ์ดซึ่งวางเรียงตามหมายเลข

เตสังเกตเห็นหมายเลขของตัวเอง ทั้ง3คนซึ่งมีหมายเลขประจำตัวติดกันจึงเดินตามกันไป

'102...104' หมายเลขคีย์การ์ดที่เรียงกันอยู่มีเพียงเลขที่ของเตวิช 102 และของวิคเตอร์ 104 แต่หมายเลข103ที่ควรจะอยู่ระหว่างกลางกลับหายไป

"...แล้ว103ไปไหนล่ะ?" วิคเตอร์ที่สังเกตเห็น บ่นขึ้นมาเบาๆ

"ของพวก 'คนนอก' อยู่ฝั่งนู้นโน่น ฝั่งนี้มีแค่ของเมจ ไม่มีของเธอหรอก" เสียงของหญิงแปลกหน้าที่อยู่ด้านหลังวีโอเลตดังขึ้นมา เมื่อหันไปเธอก็เจอกับหญิงสาวตัวเล็ก หน้าตาสะสวย เจ้าของเรือนผมสีแดงธรรมชาติลอนคลายยาวสลวยประมาณกลางหลัง ดวงตาสีฟ้ากลมโตน่าหลงใหล ซึ่งบัดนี้ฉายความเย็นชาออกมาอย่างชัดเจน

"หา? ฉันก็เข้าใจนะว่าจะต้องโดนแบ่งแยกชนชั้นแน่ ๆ แต่ไม่คิดว่าจะทำออกมาชัดเจนขนาดนี้ นี่มันยุคไหนแล้ว?" หญิงคนหนึ่งโวยวายขึ้นมา เธอเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ไม่มีตราสัญลักษณ์ที่ข้อมือ หรือก็คือเป็น 'คนนอก' ที่เด็กสาวผมแดงกล่าวถึง

กลุ่มเด็ก 'คนนอก' เริ่มพูดกันเสียงเซ็งแซ่...ยกเว้นวีโอเลต เธอหันไปมองหน้ากับหญิงสาวตาฟ้าที่ยืนกอดอกอยู่ตรงหน้า

"ขอบใจนะ" เธอว่าก่อนจะเดินนำไปทางที่เด็กสาวตาฟ้าบอกไว้ ก่อนจะเจอคีย์การ์ดหมายเลข103ของตัวเอง เธอจึงหยิบมันขึ้นมา

"ห้องของพวกคุณอยู่ที่ชั้น1กันนะคะ" เสียงเรียบเฉยของหญิงผู้เป็นปัญญาประดิษฐ์หน้าสวยที่เพิ่งโผล่หน้าขึ้นจอในห้องโถงเมื่อสักครู่ดังขึ้น ร่างสูงของเธอกำลังเดินเข้ามาที่หลังเค้าเตอร์ ฝั่งที่วางคีย์การ์ดแยกออกมา

"แม้แต่ห้องก็ถูกแยกออกจากเมจ? เห็นพวกเราเป็นคนนอกจริงๆด้วยสินะ" หญิงสาวอีกคนในกลุ่มพูดประชดขึ้นมาด้วยสีหน้าไม่พอใจ

หลังจากที่กลุ่มคนผู้ถูกมองเป็น 'คนนอก' เริ่มแสดงความโมโหหงุดหงิดออกมา เหล่าเมจก็เริ่มถอนหายใจ กรอกตามองบนกันเป็นแถบๆ โดยเฉพาะแม่สาวผมแดงที่ดูจะเบื่อสถานการณ์นี้ที่สุด

"ก็มีห้องให้นอนเหมือนกันนี่นา" วีพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ก่อนที่บรรยากาศของกลุ่มคนที่กำลังโวยวายจะเงียบสงัดลง และเด็กสาวเจ้าของผมสีแดงเพลิงก็เริ่มกระตุกยิ้มมุมปากเอียงคอมองวีโอเลต

"อย่างน้อยก็มีคนเจียมตัวอยู่1คนแฮะ" เธอว่าพลางปรบมือช้าๆ3ครั้ง ด้วยใบหน้าเย้ยหยัน ทำเอาวีโอเลตที่กำลังถือคีย์การ์ดกำลังจะเดินไปที่ห้องพักอย่างสงบ ถึงกับหยุดกึกด้วยความหงุดหงิด เธอหันไปมองหน้าเด็กสาวคู่กรณี ก่อนจะรวบรวมสติกลับมา

"ขอบใจจ้ะ" วีโอเลตหันไปพูดขอบคุณด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ก่อนจะหุบยิ้มในทันที่จบประโยคและทำหน้านิ่ง ส่งสายตาเย็นชาสู้กับหญิงตรงหน้าเพียงเสี้ยววินาที ก่อนจะหันหน้าไปมองทางด้านหน้า ไม่ได้กลับมาสนใจสาวผมแดงที่ยืนส่งสายตาอาฆาตตามหลังมาอย่างไม่ลดละ

อวดดีนักนะ ยัยนี่ไม่ได้ตายดีแน่!

สาวสวยตาฟ้าคิดในใจด้วยความโมโหกับท่าทีอวดดีเมื่อสักครู่ของเด็กสาวผมชมพูที่บัดนี้ได้ตกเป็นเป้าหมายของเธอเข้าเสียแล้ว...

เช้าวันถัดมา

3.00AM

ณ สนามวิ่งวงแหวน

ผู้เข้าทดสอบถูกเรียกตัวมารวมกันในตอนเช้าตรู่โดยไม่มีการเตือนล่วงหน้าใดๆ ทั้งสิ้น...คำพูดของแม่สาวAIที่ทิ้งไว้ให้เมื่อวานนี้มีแค่ 'การทดสอบจะเริ่มวันพรุ่งนี้' ...ก็อาจจะถือว่าเตือนแล้วก็ได้น่ะนะ

ทุกคนใส่ปลอกแขนโลหะที่ได้รับไว้ ก่อนจะเริ่มยืดเส้นยืดสาย

"ในด่านแรกเราจะเริ่มต้นที่การวิ่งวนในสนามค่ะ ถ้าวิ่งจนครบระยะที่กำหนดไว้แล้ว ที่ปลอกแขนจะขึ้นสัญญาณไฟสีเขียว ถึงตอนนั้นท่านจึงจะสามารถออกจากสนามได้ค่ะ ถ้าใครหยุดวิ่งเกิน10นาที หรือออกจากสนามก่อนได้รับสัญญาณไฟ จะถือว่าสละสิทธิ์ค่ะ การคัดเลือกจะจบเวลา 7โมงเช้า ถ้ามีใครที่ยังไม่ได้รับสัญญาณจนถึงตอนนั้น ถือว่าทดสอบไม่ผ่านค่ะ" AIสาวสวยคนเดิมยืนอธิบายกติกา วันนี้เธอแต่งชุดวอร์มสำหรับออกกำลังกาย แม้ว่าจริงๆ แล้วเธอจะไม่ได้เป็นคนที่ต้องมาออกกำลังสักหน่อย

พวกเขาต่างหากที่ถูกทดสอบ!

"ถ้าทุกท่านพร้อมแล้ว...เริ่มได้เลยค่ะ"

สิ้นเสียงหญิงสาว ทุกคนเริ่มออกตัววิ่ง อีก1สิ่งที่ทำให้เห็นได้ชัดว่าใครเป็นเมจหรือใครไม่ใช่ ก็คือท่าทางตอนออกตัววิ่ง...ในตอนเริ่มวิ่ง เหล่าเมจดูจะตั้งสมาธิเพื่อทำอะไรบางอย่าง ก่อนที่จะมีแสงออร่าสีฟ้าจางๆเปล่งประกายออกจากร่างกายของพวกเขาเล็กน้อย

มันคือการใช้พลังเวทมนตร์เสริมพลังร่างกาย เป็นวิธีการที่จะเพิ่มขีดจำกัดของร่างกายมนุษย์ อย่างในกรณีนี้ก็อาจจะช่วยให้วิ่งได้เร็วขึ้น และเหนื่อยยากขึ้น

ทำให้ตอนนี้กลุ่มเมจเริ่มวิ่งเร็วขึ้น และดูไม่ค่อยเหนื่อยกันสักเท่าไหร่

เป็นการทดสอบที่ดูยังไง เมจก็ผ่านฉลุยแน่นอน

ในขณะที่อีกกลุ่มหนึ่ง กำลังวิ่งด้วยพละกำลังขีดจำกัดของร่างกายมนุษย์ปกติ แถมยังไม่มีใครรู้ว่าตกลงแล้วจะต้องวิ่งนานแค่ไหน? พวกเขาทำได้เพียงแหงะมองปลอกแขนในทุก ๆ ครั้งที่เริ่มเหนื่อยจนทนไม่ไหว

วีโอเลตซึ่งแม้จะไม่ใช่กลุ่มของเมจ แต่ก็ดูจะจัดการร่างกายของตัวเองได้ค่อนข้างดี เธอรวบรวมสติให้มั่นคง และจัดการการหายใจให้สม่ำเสมอ สายตาสอดส่องไปสังเกตร่างสูงของชายที่ทุกคนเรียกกันว่า 'ตัวเต็ง'

เตวิชที่เสริมพลังด้วยพลังเวทของตัวเองแล้ว เริ่มออกวิ่งด้วยความเร็วสูงโดยไม่รู้สึกตัวว่าถูกจับจ้องด้วยสายตาเฉียบแหลมของหญิงสาวเจ้าของนัยน์ตาสีบลูเบอร์รี่

ทุกๆ ครั้งที่ร่างสูงวิ่งครบ1รอบ เด็กสาวก็จะขยับปากขมุบขมิบนับเลขตามจำนวนรอบแบบลับๆ

ติ๊ดๆๆ

เสียงสัญญาณเสียงแรกดังขึ้นจากแขนของเต แสงสีเขียวกะพริบขึ้นบ่งบอกให้รู้ว่าเขาสอบผ่านเรียบร้อยแล้ว เด็กหนุ่มจึงค่อยๆ ชะลอแล้ววิ่งเหยาะๆออกไปพักข้างสนาม

หลังจากเตวิช ก็ตามมาด้วยวิคเตอร์ เซน และเหล่าเมจคนอื่น ๆ ที่ค่อยๆ ทยอยสอบผ่านและออกมาจากสนาม

ปึก!

ผ่านไปไม่นานนัก วีโอเลตก็เริ่มถูกก่อกวนจากเด็กที่มีตราบนข้อมือบางคนที่วิ่งเข้ามาจากด้านหลังเธอด้วยความเร็วและจงใจกระทบไหล่ให้เธอเสียสมดุลและเสียสมาธิ

ปึก!

ไม่เพียงแค่คนเดียวเท่านั้น ยิ่งพวกเขาเห็นว่ามีคนทำ คนอื่นๆ ก็เริ่มทำตามบ้างด้วยความสนุก

ไอ้พวกเด็กนิสัยเสียพวกนี้นี่มันเหลือเกินจริงๆ ! ที่บ้านตามใจกันมาตั้งแต่เด็กๆ สินะ โอเค! ถ้าที่บ้านไม่สั่งไม่สอน งั้นฉันช่วยสอนสักนิดก็คงได้แหละ

วีโอเลตคิดในใจพลางเก็บสีหน้าให้นิ่งเฉยเข้าไว้ ก่อนจะเปิดโหมดรับประสาทสัมผัสเต็มที่...ด้วยผลจากการฝึกฝนร่างกายและจิตใจมาโดยตลอด ทำให้วีโอเลตมีประสาทสัมผัสที่ค่อนข้างดีกว่าคนอื่นๆ

...ใน 5...4...3...2...

ทันใดนั้นเอง วีโอเลตยกมือ2ข้างขึ้นมา งอข้อศอก ก่อนจะจงใจออกแรงส่งให้แขนทั้ง2ข้างยืดออกไปด้านข้างอย่างรวดเร็วและปล่อยเต็มแรง

ปั้ก!

"โอ๊ย!!"

ศอกของเด็กสาวกระแทกเข้าอย่างจังบริเวณลิ้นปี่ของเด็กหนุ่มแปลกหน้าที่วิ่งเข้ามาจากด้านหลังซึ่ง 'บังเอิญ' อยู่กระชั้นชิดกับเธอในระยะกระทบไหล่พอดี...

แหม จะพูดว่าบังเอิญก็รู้สึกกระดากปากแฮะ...ก็พวกเขาจงใจเล่นไม่ซื่อกับเธอก่อนนี่นา เธอไม่ได้เริ่มนะ

"โอ๊ะ 'โทษๆๆ" วีโอเลตแสร้งทำหน้าตกใจราวกับไม่รู้มาก่อนเลยว่ามีคนวิ่งมาด้านหลังเธอในระยะกระชั้นชิด และกล่าวขอโทษขอโพยเล็กน้อย แล้ววิ่งต่อไปด้วยสีหน้าเรียบเฉย

เหตุการณ์นั้นทำเอาผู้เฝ้ามองเหตุการณ์คนอื่น ๆ ก็เริ่มรับรู้ได้ว่า 'ยัยนี่ไม่ใช่ประเภทที่จะยอมให้คนอื่นแกล้งได้นาน' แล้วก็เริ่มรู้สึกว่าแผนกลั่นแกล้งนี้ดูไม่เวิร์คอีกต่อไป ทุกอย่างจึงกลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติ วีโอเลตได้รับความสงบสุขกลับคืนมาอีกครั้ง เธอจึงกลับไปตั้งใจควบคุมร่างกายและลมหายใจได้ดังเดิม

เวลาผ่านไปสักพักจนกระทั่งในสนามไม่หลงเหลือเมจสักคนแล้ว และเหล่าคนที่ยังเหลืออยู่ในสนามก็เริ่มดูอ่อนล้า...เว้นแต่เพียงเด็กสาวผมชมพูที่แม้จะไม่ใช้ความเร็วสูงนัก แต่ก็ยังดูมีท่าทีที่สบายๆ

ไม่มีใครมองออกว่าจริงๆ แล้วในหัวสมองของเด็กสาวตอนนี้กำลังประมวลผลอย่างหนัก เธอคำนวณทุก ๆ ย่างก้าวของตัวเองอย่างแม่นยำ ทำให้จิตใจยังค่อนข้างมั่นคง...การร่ำเรียนสายวิทย์-คณิตตั้งแต่ม.1ยันม.6 แล้วต่อด้วยคณะวิทยาศาสตร์ต่อในมหา'ลัยอีก4ปีของเธอไม่เคยเสียเปล่าจริงๆ ทุกอย่างอยู่ในขอบเขตของการประมวลผลได้หมดแหละ! ที่ผ่านมาเธอฝึกร่างกายจนแข็งแรงพอแล้ว ตอนนี้ก็เหลือแค่ต้องคงสติไว้ให้มั่นจนกว่าจะจบ!

"บ้าจริง วีโอเลตของฉันนี่มีเสน่ห์ชะมัด" วิคเตอร์ที่ยืนมองจากข้างสนาม พูดขึ้นมา พลางส่งสายตาขี้เล่นมองตามแม่สาวผมชมพูไม่ละสายตา

"ของแก? ของแกตอนไหน? ฉันเห็นวีก็เลี่ยงแกมาตลอด เอาจริงๆ ยัยนั่นถนอมน้ำใจแกขั้นสุดแล้วนะ" เด็กสาวผมบลอนด์ผู้ยืนฟังคำพูดของเด็กหนุ่มพูดขัดขึ้นมาด้วยหน้าตานิ่ง ๆ

เซเนทมองไปที่เด็กสาวผมชมพูในสนามที่เธอเองก็คุ้นตา แต่แววตาของเธอนิ่งมากจนไม่สามารถอ่านออกว่าคิดอะไรอยู่

"ก็แค่ตอนนี้แหละน่า ไว้หลังจากได้เข้าเป็นนักเวทด้วยกัน ฉันมั่นใจว่าฉันจะมีโอกาสโปรยเสน่ห์มากกว่านี้นั่นแหละ"

วิคเตอร์และเซนยืนคุยกันอยู่สักพัก โดยไม่ได้สังเกตว่ามีบุคคลนอกวงสนทนายืนฟังอยู่ด้านหลัง

เด็กสาวผมแดงกับกลุ่มเพื่อนสาวที่ยืนอยู่ด้วยกันราว3-4คนได้ยินบทสนทนาในเชิงชื่นชมจากคนระดับท็อป3ในคลาสนักเวท แล้วรู้สึกไม่พอใจขึ้นมา เด็กสาวผมแดงผู้เป็นเหมือนหัวโจกของกลุ่มค่อยๆ ยกมือขึ้นมา สายตาเล็งไปที่เด็กสาวผมชมพูในสนาม ก่อนจะเริ่มตั้งสมาธิ

"เฟย์ แกจะทำอะไรอ่ะ" 1ในบรรดาเพื่อนสาวกระซิบถามสาวผมแดงเจ้าของชื่อ

"สั่งสอนคนอวดดีให้รู้จักที่ต่ำที่สูงสักหน่อยไง" เธอตอบกลับพลางตั้งสมาธิควบคุมพลังงานเตรียมเล็งไปที่เป้าหมาย

"จะดีเหรอแก"

"นั่นสิ"

ประโยคคำพูดดูเหมือนจะคัดค้าน แต่สีหน้าและน้ำเสียงของพวกเธอกลับแลดูสนุกสนานและสะใจไปด้วย

สรุปแล้วก็ไม่มีใครห้ามเธอสักคน เฟย์ค่อยๆ ส่งพลังงานเข้าไปใกล้สนามเรื่อย ๆ แบบลับ ๆ

ถึงจะมีคนเห็นพลังของเธอแต่พวกเขาก็ไม่รู้อยู่ดีว่ามันเป็นของเธอ และเธอเองก็แน่ใจว่า เมจคนอื่นๆ ก็เหม็นขี้หน้ายัยเด็กนี่พอๆ กันกับเธอนั่นแหละ

"..." ไม่ทันที่พลังงานจะไปถึงตัวเป้าหมาย วิคเตอร์ที่รู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างก็หันมามองหน้าเฟย์...

สายตานิ่งเฉยที่เขาส่งมาในแวบแรกนั้น ทำเอาเด็กสาวสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ

จริงสิ เด็กระดับSทั้ง3คนนี้ดูเหมือนจะสนิทกับเด็กนั่นนี่นา...ถ้าเขาเกิดเปิดโปงฉันขึ้นมา...

ความคิดของเธอพลันสับสนวุ่นวายไปชั่วขณะ ก่อนที่สายตาของชายหนุ่มที่มองมาที่เธอจะเปลี่ยนไป กลายเป็นสายตาเจ้าเล่ห์ปนขี้เล่น เขากระตุกยิ้มมุมปากเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับไปมองที่สนามดั่งเดิม ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เขาไม่ได้ไม่พอใจถ้าฉันจะแกล้งเด็กนั่นสินะ? ก็ว่าอยู่ คนอย่างวิคเตอร์จะห่วงใครจริงจังล่ะ ก็คงสนใจแค่ชั่วครั้งชั่วคราวเหมือนที่ผ่านๆ มานั่นแหละ

เฟย์คิดในใจก่อนจะกระตุกยิ้มมุมปากแล้วกลับไปโฟกัสกับเรื่องตรงหน้าต่อ

เซนที่สังเกตเห็นทุกๆสิ่งที่เกิดขึ้นเหลือบมองชายหนุ่มผู้เป็นเพื่อน

"คิดว่าแกจะห้ามยัยนั่นซะอีก"

"...อืม...ไม่ล่ะ แบบนั้นไม่น่าจะสนุก" เขาว่าพลางยิ้มเจ้าเล่ห์มองตรงไปที่สนามวิ่ง "ฉันยังอยากจะรู้ว่า 'วีโอเลต รอจเจอร์' มีอะไรซ่อนไว้บ้าง...แกก็รู้นี่นาว่าคุณนายตระกูลเดแคลนไม่ได้ให้ความสนใจกับคนธรรมดาทั่วไปหรอกนะ"

"ดูเหมือนแกกำลังสนุกมากกว่าอยากรู้อยากเห็นนะ"

"ไม่เถียง"

วิคเตอร์ยักไหล่ ก่อนจะยิ้มบางๆ แสดงแววตาเป็นประกายส่งไปที่ร่างบางของหญิงสาวคนเดิมที่ยังคงวิ่งต่อไปด้วยการหายใจอย่างสม่ำเสมอ

ออร่าพลังงานจางๆของเฟย์เคลื่อนตัวเขาไปใกล้สนามขึ้นเรื่อย ๆ แต่ไม่ได้เคลื่อนไปเร็วมากนัก เพราะผู้ใช้เองก็ยังไม่ได้ชำนาญมากพอ

ฟึ่บ!

จู่ ๆ ลมก็พัดเข้ามาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ทิศทางลมถูดพามาที่สาวผมแดงโดยตรง ทำเอาผมลอนสวยของเธอถูกพัดอย่างแรงจนกระเซอะกระเซิงไปหมด

"ว้าย!"

"เฟย์ ผมแก!"

กลุ่มเด็กสาวร้องขึ้นมาด้วยความตกใจ ทุกสายตาหันมาสนใจเหตุการณ์ตรงหน้าทันที

บ้าจริง! ฉันลงทุนเสียพลังเวทไปเมื่อเช้าเพื่อจัดให้ทรงผมเป๊ะภายใน5วินาทีก่อนจะวิ่งออกมาเชียวนะ!

ความคิดโผล่ขึ้นมาในหัวเธอทันทีที่ผมสีแดงเพลิงของเธอปลิวมั่วซั่วปิดหน้าปิดตาเต็มไปหมด

เด็กสาวลืมทุกเรื่องที่กำลังทำอยู่แล้วรีบใช้2มือจัดทรงผมให้เข้าที่เข้าทางอย่างรวดเร็ว

"กระจก! เอากระจกมาเดี๋ยวนี้เลย"

"นี่ๆๆ! ฉันมี!"

พวกเธอโวยวายกันยกใหญ่ และควานหากระจกส่งให้เฟย์อย่างร้อนรนกันไปหมด ทำเอาทุกคนเปลี่ยนโฟกัส...เป็นไปตามแผนของชายหนุ่มผู้ยืนนิ่งอยู่รอบนอกบริเวณฝูงชน...

สายตาที่ว่างเปล่าของเขาไม่สั่นคลอนแม้แต่น้อย เขาเพียงแต่มองไปที่กลุ่มเด็กสาวที่วุ่นวายกันอยู่เล็กน้อย ก่อนจะละสายตากลับไปมองสอดส่องที่สนามฝึกอีกครั้ง ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ชายเจ้าของแววตาขี้เล่นหันมามองสถานการณ์วุ่นวายที่เกิดขึ้นด้านหลังเล็กน้อย ก่อนจะเปลี่ยนจุดโฟกัสไปมองชายร่างสูงที่ยืนนิ่งเฉยเหมือนไม่ได้ทำอะไรทั้งสิ้น

"เสียของหมดเลย ไอ้คนใจอ่อนนั่น...น่าหงุดหงิดชะมัด" วิคเตอร์บ่นอุบอิบก่อนจะหันกลับมาด้วยสีหน้าที่แสดงออกถึงความรำคาญใจ

เซเนทที่ยืนอยู่ใกล้กันเหลือบมองหน้าผู้เป็นเพื่อนเล็กน้อย ก่อนจะหันมองไปที่เด็กหนุ่มคนเดียวกัน...ดูเหมือนว่านอกจากเขา2คนแล้ว ทุกคนต่างก็คิดว่าลมพัดเมื่อสักครู่เป็นเพียงแค่ความบังเอิญทั้งนั้น...

เธอจ้องมองด้วยสายตาที่ไม่แสดงความรู้สึกอยู่สักพัก ก่อนจะผละสายตากลับมามองที่เด็กสาวที่ยังคงวิ่งวนอยู่ในสนามฝึกด้วยท่าทางแบบเดิม

บัดนี้คนในสนามเริ่มถอดใจกันไปเป็นแถบ บางคนถึงกับทรุดตัวลงไปนั่งกลางสนามแล้วด้วยซ้ำ ในขณะที่วีโอเลตเริ่มประมวลผลอีกครั้ง

...ระยะทางทั้งหมดที่ต้องวิ่งถ้าคำนวณจากจำนวนรอบของสนามวิ่งนี้แล้วคือ...ราว ๆ 50กิโลเมตร ระยะทางค่อนข้างใกล้เคียงกับการวิ่งอัลตร้ามาราธอน แต่จำกัดเวลาเพียง 4 ชั่วโมง แถมยังไม่มีน้ำดื่ม และไม่ปล่อยให้พักนาน ถ้าเป็นร่างกายมนุษย์ปกติ ยังไงก็ไม่มีทางทนไหว ไม่ว่ายังไงก็ต้องมีการฝึกฝนมาอย่างน้อย 3-6เดือน และยังต้องมีพลังงานที่มากกว่าระดับปกติเพื่อคอยเสริมร่างกายไว้ตลอดเวลาที่วิ่ง

เช่นเดียวกับที่เธอกำลังทำอยู่!

วีโอเลตผู้เตรียมการมาก่อนการทดสอบมากมาย และยังใช้ไหวพริบของตัวเองควบคู่กันไป ทำการประมวลผลข้อมูลในหัวอย่างชาญฉลาดและวิ่งต่อไปไม่ยอมแพ้

เหลืออีก2รอบสนาม...

วีโอเลตคิดในใจด้วยความโล่งอก...ตอนนี้เป็นเวลา ตี5 กับอีก45นาที ทันแบบสบายๆ

ทันทีที่รู้สถานการณ์ตัวเองว่ากำลังจะปลอดภัย เธอก็เริ่มมองไปที่ผู้เข้าแข่งคนอื่นๆ ที่ยังอยู่ในสนาม...แววตาของพวกเขาดูไร้ความหวังจนเธอรู้สึกเศร้าใจ และอดไม่ได้...

วีโอเลตที่รู้ตัวว่ากำลังจะรอดแล้ว รู้สึกเจ็บใจแปลกๆ จากการที่ประมวลผลได้ว่า หากเธอผ่านการแข่งและออกจากสนามไปในตอนนี้ล่ะก็...คนที่เหลือน่าจะรอดอยาก...หรืออาจจะไม่มีใครผ่านเลยสักคน...

สามัญสำนึกบางอย่างในตัวเธอตื่นขึ้น วีโอเลตตัดสินใจชะลอความเร็วลง ก่อนจะวิ่งไปแตะบ่าคนที่อยู่ด้านหน้าเธอซึ่งดูหมดเรี่ยวหมดแรงแล้ว และตั้งสมาธิ ปล่อยพลังงานผ่านไปที่ปลายนิ้วเล็กน้อย

ถึงแม้เธอจะไม่ได้มีพลังงานล้นเหลือ แต่อีกเดี๋ยวเดียวเธอก็จะจบการทดสอบนี้แล้ว

เด็กหนุ่มที่ถูกแตะบ่าได้รับพลังงานผ่านเข้ามาในตัวเล็กน้อย ทำให้ร่างกายของเขาดีขึ้นมานิดหน่อย

"125รอบ...วิ่งครบเมื่อไหร่ก็จบ" เธอกระซิบเขาเบาๆ ก่อนจะวิ่งต่อเงียบๆและทำแบบนั้นต่อกับคนที่อยู่ถัดไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งสัญญาณสีเขียวขึ้นที่ปลอกแขนของเธอ เธอจึงต้องวิ่งออกจากสนามไป

หลังจากวีโอเลตผ่านการทดสอบด้วยสภาพร่อแร่ คนอื่นๆ ในสนามที่ทำท่าเหมือนจะยอมแพ้กันไปแล้ว จู่ ๆ ก็ให้บรรยากาศที่เปลี่ยนไป แววตาของพวกเขาดูฮึดสู้ขึ้นมาดื้อๆ!

และผลของการทดสอบในครั้งนั้น...

1.00PM

กลุ่มคนที่ผ่านการทดสอบจากรอบแรกถูกเรียกเข้ามาเตรียมตัวทดสอบรอบที่2 พวกเขายืนอยู่ที่ด้านหน้าห้องๆหนึ่งในตัวอาคาร

ในกลุ่มผู้สอบผ่าน มีบุคคลที่ถูกเมจเรียกว่า 'คนนอก' อยู่ด้วยไม่น้อย...พวกเขาผ่านการทดสอบมาได้ด้วยแรงฮึดในชั่วโมงสุดท้ายแบบฉิวเฉียด

"ปกติพวกคนนอกจะถอดใจกันไปหมดตั้งแต่รอบแรกแล้วแท้ๆ ...พอสุมหัวช่วยกันเข้าหน่อยก็เลยผ่านมาได้สินะ" เสียงบ่นดังเซ็งแซ่จากกลุ่มเมจหลายๆคนที่ดูจะไม่ค่อยพอใจกับผลการทดสอบรอบแรกสักเท่าไหร่ เดิมทีพวกเขาคิดว่าอย่างมากก็มีแค่เด็กสาวอวดดีผมชมพูคนเดียวที่มีแววจะผ่านมาจากรอบนั้นได้

วีโอเลตที่ตกเป็นเป้าสายตาเข้าไปอีก ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ราวกับว่าเธอไม่ได้ยิน...ทั้ง ๆ ที่เธอเป็นคนหูดีตาดีจะตาย

บางเรื่องที่ไม่สำคัญขนาดนั้น ไม่จำเป็นต้องตอบโต้ก็ได้ เปลืองพลังงานเกินไป

นั่นคือสิ่งที่วีโอเลตจำใส่ใจมาโดยตลอด หลังจากที่เธอใช้ชีวิต20กว่าปีที่ผ่านมาโดยการตอบสนองกับทุกสิ่งและทุกคนที่เข้ามาหาเรื่อง...ถ้าให้พูดตรงๆ ด้วยหลายๆอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิต ทำให้เธอตกเป็นเป้าหมายที่น่าหาเรื่องไม่ว่าจะอยู่ในสังคมไหนก็ตามน่ะนะ...แต่เมื่อช่วงไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ นิปุณเพื่อนรักเพิ่งจะขอร้องเธอจากใจจริงว่า

'ไม่ต้องตอบโต้ทุกคนที่หาเรื่องก็ได้มั้ง'

และพอเธอลองพยายามทำแบบนั้นดู...เธอก็ได้พบกับความสงบสุขในชีวิตแบบคาดไม่ถึง! แม้ว่าพวกที่ชอบหาเรื่องจะยังคงชอบเข้ามาหาเรื่องเหมือนเดิม...แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือ เธอไม่เหนื่อยกับการต้องไปคิดหาวิธีตอบโต้อีกต่อไป! อย่างมากก็กวนประสาทแบบเนียนๆ ไปบ้างนิดหน่อยเท่านั้นเอง

คำขอร้องแกมสั่งสอนของเพื่อนรักใช้ได้ผลแบบไม่ต้องสงสัย! คาราวะ!

"เชิญผู้เข้าแข่งขันทุกท่านเข้าไปประจำที่ตามหมายเลขประจำตัวด้านในได้เลยค่ะ การทดสอบรอบที่2จะเริ่มภายใน1นาทีหลังจากทุกท่านเข้าประจำที่เรียบร้อยค่ะ" อลิซ ผู้คุมสอบเจ้าเก่าเจ้าเดิมยืนประกาศอยู่ด้านหน้าทางเข้า ก่อนที่ประตูบานใหญ่นั้นจะเปิดออกเองโดยอัตโนมัติ แล้วผู้เข้าทดสอบจึงทยอยเดินเข้าไป

วีโอเลตกวาดสายตามองไปรอบๆ ก่อนจะเริ่มเข้าใจว่า ตำแหน่งการยืนรอบนี้ไม่ได้ถูกเรียงตามหมายเลขเหมือนเช่นทุกครั้ง หมายเลขถูกจัดสลับตำแหน่งกันมั่วจนเป็นการยากที่จะหาเลขของตัวเอง

บรรยากาศการเดินหาตำแหน่งของตัวเองดำเนินไปด้วยความวุ่นวายอยู่สักพัก ก่อนที่ทุกคนจะเจอและประจำตำแหน่งตามหมายเลข

วีโอเลตสอดส่องสังเกตรอบๆ ห้องและเห็นว่า ห้องทั้งห้องที่ยืนอยู่มีสีขาวโพลนตั้งแต่บนเพดาน ผนัง หรือแม้แต่ที่พื้นห้อง ตำแหน่งการยืนที่ทุกคนยืนนั้นจะไม่ได้เรียงเป็นระเบียบเรียบร้อยนัก แถวค่อนข้างสะเปะสะปะ และมีระยะห่างระหว่างกันพอสมควร นอกจากนี้กลุ่มคนที่เธอพอจะรู้จักอย่าง Top 3 ทั้ง3คน ก็ถูกจัดตำแหน่งไว้ที่ด้านหลังทั้งหมด ในขณะที่ด้านหน้าสุดนั้นไม่มีเมจเลยสักคนเดียว ถ้าจะให้พูดถึงการจัดตำแหน่งในตอนนี้แบบไม่คิดเยอะ พูดตามที่เห็นเลยก็คือ…พวกเขาเรียงกลุ่มคนจากระดับพลังงาน แถวหน้าเริ่มจากคนที่พลังงานค่อนข้างน้อย ไปจนถึงแถวหลังที่เป็นแถวของกลุ่มเมจที่พลังงานค่อนข้างสูง

พอคิดได้อย่างนั้น เธอก็รีบสอดส่องสายตาหาเด็กสาวผมแดงคู่กรณีที่เธอคิดว่าเป็นบุคคลอันตรายสำหรับเธอ…เด็กนั่นอยู่แถวหลัง ๆ ใกล้เคียงกับTop3 ซึ่งหมายความว่าอยู่ด้านหลังเธอด้วย

...รู้สึกไม่ปลอดภัยชอบกลแฮะ...

วีโอเลตแอบกังวลขึ้นมาเล็กน้อย แต่ก็สลัดความคิดนั้นทิ้งไป และตั้งใจมองตรงไปด้านหน้า

"ตอนนี้ทุกท่านประจำที่แล้ว ดิฉันจะนับถอยหลัง 1 นาทีเพื่อเริ่มการทดสอบค่ะ" อลิซว่าก่อนจะกดเครื่องจับเวลาที่อยู่ข้าง ๆ เธอ ซึ่งบัดนี้ตัวเลขดิจิตอลค่อย ๆ นับถอยหลังจาก 60วินาทีแล้ว นอกจากนั้น ป้ายเหล็กที่แสดงหมายเลขประจำตัวของทุก ๆคนซึ่งเคยตั้งอยู่ที่พื้น ก็หายวับไปในทันที "ในระหว่าง 1 นาทีนี้ ดิฉันจะอธิบายกติกาของรอบนี้ไปด้วยค่ะ โปรดตั้งใจฟังให้ดี เพราะจะไม่มีการอธิบายซ้ำ และไม่ขยายเวลานับถอยหลังค่ะ"

จู่ ๆ อลิซก็เลือกที่จะอธิบายกติกาในตอนที่ทุกคนกำลังเริ่มตื่นเต้นกับการนับถอยหลัง…เป็นวิธีการที่ทำให้หลาย ๆ คนเริ่มเลิ่กลั่กและสติกระเจิงเล็กน้อย บางคนเริ่มแสดงออกถึงแววตาที่เคร่งเครียดทั้งที่ยังไม่ทันได้ฟังกติกาด้วยซ้ำ

"ในการทดสอบรอบนี้ เราจะทดสอบไหวพริบและความคล่องตัวของผู้เข้าทดสอบค่ะ หลังจากเริ่มการทดสอบ ลูกบอลเวทมนตร์จะถูกปล่อยออกมาจาก 'ทุกที่ในห้องนี้' ยกเว้นจากที่พื้นเท่านั้นค่ะ ทุกท่านมีหน้าที่ต้องคอยหลบหลีกหรือป้องกันไม่ให้ลูกบอลโดนตัว โดยที่ไม่สามารถขยับออกจากตำแหน่งที่ยืนอยู่ได้เกิน 50เมตรค่ะ หากขยับไกลเกิน 50เมตร 'ตกรอบ' หากลูกบอลโดนตัวท่านเกิน 5ครั้ง 'ตกรอบ' ท่านต้องอยู่ในการแข่งขันจนกว่าจะครบเวลาที่กำหนดคือ…3ชั่วโมง"

"หา!?"

หลังจากอลิซร่ายยาวกติกาน่าขนหัวลุกออกมารวดเดียวด้วยสีหน้านิ่งเฉย เด็ก ๆ แถวหน้า ๆ ก็เริ่มหันมองหน้ากัน เสียงบ่นที่ผสมความกดดันเซ็งแซ่ขึ้นมา …จนหลาย ๆ คนลืมมองว่านาฬิกาที่นับเวลาถอยหลังกำลังดำเนินไปอย่างเงียบงันด้านหน้านั้น กำลังจะนับครบเวลาที่ตั้งไว้แล้ว!

"10!" วีโอเลตตะโกนขึ้นมาท่ามกลางกลุ่มคนที่ไม่ทันระวังตัวเหล่านั้น เป็นดั่งสัญญาณบอกให้พวกเขาตั้งสติเตรียมรับมือ !

เลขที่นาฬิกา ตอนนี้กำลังนับ 10…9…8…7…

กลุ่มบุคคลผู้แตกตื่นกันอยู่เมื่อสักครู่หันกลับไปมองตัวเลขบนนาฬิกา ก่อนจะรีบตั้งสติ…แม้ว่าจะมีบางคนที่ยังร้อนรนอยู่ก็ตาม

…3…2…1

"เริ่มทดสอบค่ะ"