webnovel

รังอสูร (3)

การไม่เอาคนออกมามากจนเกินไปน่าจะช่วยให้การเดินทางคล่องตัวขึ้น แต่แอนและแคทอยากทดสอบความปลอดภัยของเส้นทางพวกเราจึงตั้งใจว่าต่อให้เป็นการเดินทางที่ดูเอิกเกริกไปบ้างก็คงไม่เป็นอะไร

พวกเราหยุดแวะข้างทางเป็นบางครั้งเพื่อสะสมเสบียงเพิ่ม บางครั้งเพื่อจัดการฝูงซอมบีเก็บคะแนนและทำให้ถนนหนทางปลอดภัยขึ้น

แม้จะพยายามหลีกเลี่ยงแต่ก็มีบางครั้งที่พวกเราถูกบีบให้ต้องหยุดเพราะมนุษย์ด้วยกันเอง พวกเราถูกคนดักปล้นถึงสี่รอบตลอดระยะทางไม่ถึงร้อยกิโลด้วยซ้ำ

เคยคิดว่าถ้าเห็นจำนวนยานพาหนะและกำลังพลที่ขนมาขนาดนี้จะไม่มีกลุ่มไหนกล้าเข้ามาระราน ผมมองโลกในแง่ดีเกินไป มันมีพวกที่ไม่ประเมินตัวเองอยู่ทุกหนทุกแห่ง นั่นคือเหตุผลให้พวกเราถูกโจมตีถึงสี่ครั้งสี่ครา

"เฮ้ย ยิงไม่โดนเลย"

"เร็วมาก พวกนี้คนจริง ๆ เรอะ"

"หวาาา เจ้าหน้ากากนี่กระสุนทำอะไรไม่ได้เลย"

ทุกครั้งที่หยุดสู้กับคน พวกเราจะได้ยินประโยคแนวนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีกจนรู้สึกเบื่อ แต่ไม่มีครั้งไหนที่ทำให้จดจำได้ดีเท่ากับครั้งสุดท้ายที่เจอ กลุ่มที่โจมตีใส่พวกเราเป็นครอบครัวแปดคนที่มีทั้งผู้ชาย ผู้หญิง คนแก่หรือแม้กระทั่งเด็ก

คงเพราะพลังของระบบที่ทำให้พวกเราอยู่กันสบายขึ้นจนลืมไปว่าโลกยุคนี้มันเลวร้ายขนาดไหน แอนสะเทือนใจที่เห็นเด็กต้องจับปืนออกปล้นคนอื่นจนเธอลังเลที่จะจัดการอีกฝ่าย

โลกนี้คือโลกที่ปลาใหญ่กินปลาเล็ก หากเป็นสถานการณ์ปกติเรื่องนี้ไม่มีทางจบลงอย่างสวยงามแน่นอน แต่คงเพราะแอนกลายเป็นพวกเหนือมนุษย์ไปแล้ว ต่อให้เธอสู้อย่างลังเล ศัตรูที่เป็นคนธรรมดาก็ยากที่จะจัดการเธอได้

ฝ่ายผู้จู่โจมพ่ายแพ้โดยไม่สามารถทำอะไรได้นัก รถของเราได้รับความเสียหาย มีคนบาดเจ็บกันคนละเล็กคนละน้อยแต่ทั้งหมดสามารถแก้ไขได้ด้วยการเรียกพวกเขากลับเป็นการ์ดอีกที ในขณะที่ฝ่ายศัตรูถูกสวนกลับจนหมดท่า ถ้าไม่ถูกเล่นงานจนสลบเหมือด แต่ละคนก็ถูกปลดอาวุธและถูกจับกุมจนไม่เหลือคนรอด

ทั้งหมดเกิดขึ้นและจบลงภายในเวลาแค่ไม่ถึงสิบนาทีด้วยซ้ำ

เพราะฝ่ายเราไม่ได้สูญเสีย ผมจึงมอบหน้าที่ในการตัดสินใจกับคนกลุ่มนี้ให้กับแอนทั้งหมด ซึ่งแน่นอนว่าเธอตัดสินใจปล่อยตัวพวกเขา

"อย่ามาโกหก ปล่อยตัวพวกเราโดยไม่ทำอะไร ตลกแล้ว" ชายผู้น่าจะเป็นคนพ่อถามตอนที่เขาและครอบครัวถูกพวกเราจับตัวเอาไว้ได้

"อยากคิดว่าพวกเรามีแผนก็แล้วแต่พวกคุณเลยค่ะ แต่ถ้าเป็นฉัน ฉันจะใช้โอกาสนี้กลับตัวกลับใจ โลกในเวลานี้อยู่ยากพอแล้ว อย่าดักทำร้ายใครอีกเลยนะคะ"

"ไม่อดอยากแบบเราก็พูดได้สิ" คนหนึ่งในกลุ่มนั้นพึมพำขึ้น

แอนรู้สึกโกรธที่คนพวกนี้เอาเรื่องความอดอยากมาอ้าง คนที่ถูกพวกเขาปล้นก็คงไม่ได้มีมากไปกว่ากัน นอกจากนั้นสิ่งที่พวกเขาปล้นชิงก็ไม่ได้มีแค่อาหารด้วย ก่อนหน้านี้พวกเขาคงทำร้ายคนไปไม่น้อยเพื่อปืนหรือกระสุนแค่ไม่กี่นัด

"เดี๋ยวก่อนค่ะ"

"อะ อะไร จะเปลี่ยนใจเหรอ"

"เปล่าค่ะ" แอนชี้ไปที่เด็กสองสามคนที่อยู่ในกลุ่ม "น้อง ๆ พวกนี้ไม่ได้กินอะไรมาหลายวันแล้วใช่ไหมคะ"

ควรจะปล่อยไปตามยถากรรมแท้ ๆ แต่พอเห็นเด็ก ๆ หิวโซ แอนก็แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นไม่ได้ เธอไม่กล้าขอแบ่งเสบียงอันแสนสำคัญจากกลุ่มไป แต่อย่างน้อยเธอก็อยากทิ้ง 'กล่องสุ่มอาหาร' ไว้ให้กับพวกเขา

ทำไมต้องใจดีขนาดนั้น คำถามของผมได้รับคำตอบหลังจากนั้นแบบทันทีทันใด กล่องสุ่มอาหารที่แอนไม่สามารถใช้กับตัวเองได้ บางทีอาจมีไว้เพื่อแบบนี้

[คุณได้รับ 3 แชริตีพอยต์]

[คุณได้รับ 2 แชริตีพอยต์]

[คุณได้รับ 3 แชริตีพอยต์]

"สุดยอดเลย เอามาให้พวกเดียวกันกินก็ได้แค่อิ่มท้อง แต่ถ้าเอาไปให้คนนอกกลุ่มก็ได้แชริตีพอยต์กลับคืนมา แต่มันคุ้มไหมเนี่ย"

"ถ้าในแง่คะแนนที่เสียไปกับที่ได้กลับมาไม่ค่อยคุ้มหรอก" ผมตอบแคทไป "...สำหรับแอน เรื่องคุ้มไม่คุ้มไม่เกี่ยวหรอกมั้ง เธอแค่อยากให้"

"เฮ้ออ เอาเถอะ อย่างน้อยนิสัยแบบนี้ก็ทำให้ปลดล็อกได้แพ็คพิเศษที่ทั้งฉันทั้งนายไม่มีนี่นะ บ่นอะไรไม่ได้อยู่ดี"

"นั่นสินะ ต่างคนก็ต่างแนวทาง"

เมื่อจบเรื่องกวนใจ พวกเราก็กลับมาสนใจกับเป้าหมายหลักอีกครั้ง ระยะทางที่พวกเราต้องไปต่อยังเหลืออีกมากกว่าครึ่งทาง แต่เส้นทางครึ่งหลังนี้พวกเราไม่ถูกดักโจมตีอีกเลย

การที่ไม่เจอโจรดักปล้นน่าจะเป็นเรื่องที่ดี แต่มันทำให้คิดได้อีกแง่ว่ายิ่งใกล้จุดมุ่งหมายมากเท่าไหร่ จำนวนของมนุษย์ที่พบเจอระหว่างทางก็ยิ่งลดลง จนในที่สุดก็ถึงจุดที่ไม่พบร่อยรอยของมนุษย์เหลืออีกเลย

"ซอมบี"

จอนที่กำลังใช้กล้องส่องทางไกลสำรวจทางเข้าเหมืองเอ่ยขึ้น ซอมบีไม่ใช่ของแปลกอะไรนัก แต่ที่เขาพึมพำขึ้นมาก็เพราะเขาได้เห็นพฤติกรรมประหลาดที่ไม่เคยได้เห็นที่ไหนมาก่อน มันเหมือนกับว่าซอมบีหน้าเหมืองกำลังเฝ้าระวังภัยอยู่ด้านหน้า

"แปลกพิลึก มีซอมบีที่ทำท่าเหมือนกำลังเฝ้ายามอยู่ด้วยค่ะ" อลิซาเบธรายงานเสริม

ผมรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี มันชวนให้นึกถึงตอนที่ซอมบีบุกซานเชวิลล์ ใครหรืออะไรบางอย่างกำลังควบคุมซอมบีพวกนี้อยู่ ผมได้แต่หวังว่าตัวเองจะคิดมากไป

พวกเราซ่อนอยู่อยู่บนเนินเขาเพื่อสังเกตการณ์ ผมให้จอนและกลุ่มของเขาสำรวจเส้นทางเพิ่มเติมเพื่อหาว่ามีทางเข้าเหมืองทางอื่นที่ปลอดภัยกว่าทางที่เต็มไปด้วยซอมบีแบบนี้หรือไม่

ผมรู้ว่าแอนกำลังร้อนใจ มิชชันที่ได้มาคราวนี้ระบุไว้ชัดเจนว่ามีผู้รอดชีวิตในเหมือง ระหว่างที่พวกเรารอ โอกาสรอดของพวกเขาก็ยิ่งลดลง

ถึงจะอยากตามใจแอน แต่ความปลอดภัยของกลุ่มสำคัญกว่า พวกเราจำเป็นต้องได้ข้อมูลมากกว่านี้