TW : กล่าวถึงสงคราม
'...ทหารเดินกันเต็มไปหมดเลย เจ้าชาย'
นาถะยากล่าวกับเจ้าชายของเขา ขณะที่เห็นทหารบางส่วนมารวมตัวกันตรงบริเวณหน้าลานฝึกวิชา ทหารเหล่านี้ล้วนเป็นชาวต่างด้าว ทั้งชาวแขก ชาวฝะรังคี เว้ ยะไข่[1] หรือกระทั่งจากทวีปแดนไกลโพ้น คนเหล่านี้ล้วนมีจุดร่วมกันคือชำนาญอาวุธปืนที่ราชสำนักหงสาวดีต้องการ พวกเขาอยู่ภายใต้สังกัดกรมกองราชองครักษ์ขึ้นตรงต่อประมุขสูงสุด
เนื่องด้วยท่านครูดีเอโก้รับหน้าที่เป็นแม่ทัพสนับสนุนศึกมณีปุระ ในคราวนี้นาถะยาเห็นว่าท่านครูสวมชุดศึกขึงขัง ไม่ได้ใส่ชุดลำลองยามปรกติ สวมหมวกขนนกหลากสีทำให้ดูโดดเด่นและน่าเกรงขาม ไม่ห่างกันนัก เสนาจัน ผู้รับกิจตัวแทนข้ารับใช้วังหน้าที่จะถูกส่งร่วมรบในคราวนี้ก็กำลังบัญชาโยกนายทหารไปอีกจุด พร้อมสั่งให้พลทหารกลุ่มหนึ่งนำวัวเทียมม้าเทียมล้อทยอยออกจากวังหน้าไปพลาง
'ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเดินทางกันในวันนี้' ดวงจิตคู่ขวัญกล่าว 'ท่านครูตัวใหญ่ ข้าขอให้ท่านครูกลับมาอย่างปลอดภัย'
'เอาเวลาห่วงผู้อื่น มาจัดการเรื่องของเราดีกว่า' หลานหลวงรับสั่งในห้วงความคิด ก่อนจะหยิบไม้พลองขนาดเท่าศอก จำลองแทนอาวุธซัดมีคม หลานหลวงมังสามเกียดเพ่งพิศครู่หนึ่งกะระยะ เพื่อฝึกฝนสมาธิกับกำลังแขน
'เวลาผ่านไป นาถะยาว่าตนเองก็พอจะมีกำลังวังชาขึ้น' ดวงจิตพูดก่อนไปแอบข้างพระกรที่กำลังจะฝึกซัดอาวุธ 'เช่นกดแรงใส่หัตถ์เจ้าชาย นี่แน่ะ!' ว่าแล้วเจ้าวิญญาณแสบก็ดันแรงใส่พระหัตถ์ขององค์หลานหลวงในจังหวะที่กำลังฝึกอาวุธ ดวงเนตรขัตติยะเขม็งเพราะเสียจังหวะ
"สำเร็จ เข้าเป้าแล้วพระเจ้าค่ะพระองค์" เชงมาตะโกนแจ้งพร้อมปรบมือชื่นชม เมื่อเห็นไม้พลองซัดมาถึงหุ่นฟางเป้าหมายพอดี
'เห็นหรือไม่พระองค์ นาถะยามีประโยชน์แล้ว ไม่ได้ลอยชายไปวันๆ ' ดวงจิตยิ้มร่าสีหน้าราวกับต้องการคำชมเชย ใช้นิ้วชี้เช็ดปลายสันจมูกกับเชื้อพระวงศ์หงสาที่มองอย่างขัดเคือง
'เก่ง...เก่งมาก...เจ้าได้เลื่อนขั้นจากผีอำเป็นผีผลักแล้ว'
มังสามเกียดตรัสเสียงเรียบกับนาถะยา ก่อนจะแบพระหัตถ์ แล้วเอ่ยดำริต่อ 'บัดนี้เราก็ทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้แล้ว เราเหลือเวลาฝึกปรืออีกไม่มาก...'
'ไม่มากของพระองค์คือเวลากี่วันเล่า?'
'หลังจากสมรภูมิเมืองกระแซที่มณีปุระจบลง หงสาวดีจะพักฟื้น ไม่มีกิจสงครามใหญ่' หลานหลวงหยิบไม้พลอง ตั้งท่าเล็ง 'เรามีเวลาราวสองสามปี'
'สองสามปี? นี่คือไม่นานหรือพระองค์'
'วันเวลาผันผ่านไปไว นาถะยา...พริบตาเดียวเท่านั้นแล' รับสั่งจบก็เขวี้ยงซัดแรงใส่ไม้พลองพุ่งออกไปไกลลับ 'ถ้าไม่เตรียมตัวเตรียมใจแต่เนิ่นๆ ชัยชนะของเราอาจเปลี่ยนไป...ข้าจะไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้น ข้าจะไม่ยอมซ้ำรอยอดีตเช่นนั้นอีกเด็ดขาด'
ไม้พลองพุ่งกระแทกตัวทุ่มจนสั่นไหว เสียงตะโกนชื่นชมของพี่เลี้ยงดังอีกครั้ง ระคนปรบมือดังขึ้นอีกหน