webnovel

ตอนที่ 6 จากร้ายเป็นดี

 

____ตัวบิชอปวาเนสซ่าเองเดิมทีเธอก็คิดว่ามันเป็นเพียงเรื่องของภัยพิบัติทางธรรมชาตินั่นเอง อันที่จริงบิชอปวาเนสซ่าตั้งใจจะไม่ตรวจสอบเหตุการณ์นี้และกลับไปนอนต่อเลยด้วยซ้ำ ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเนื่องจากเหตุการณ์นี้ มันทำให้เธอพบว่ากุญแจห้องสมุดที่เธอเก็บรักษาไว้หายไป หากไม่ใช่ว่าเธอทำมันหายไปด้วยตนเอง ก็ต้องมีคนขโมยไป และภายในโบสถ์แห่งนี้ บุคคลที่น่าสงสัยว่าอาจเป็นขโมยได้ก็ต้องเป็นเด็กกำพร้าทั้งหมดในห้องนี้เพียงเท่านั้น แต่น่าประหลาดว่าเด็กๆทุกคนกลับอยู่กันครบ นั่นทำให้การที่กุญแจห้องสมุดที่หายไปเพราะเด็กกำพร้าเหล่านี้มีความเป็นไปได้ที่น้อยลง แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลย

____"อืม! แน่นอนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่เป็นแผ่นดินไหว แต่คนที่ขโมยกุญแจห้องสมุดของฉันไปอาจอยู่ในห้องนี้ก็เป็นได้ ใครขโมยกุญแจห้องสมุดไปให้ก้าวออกมายืนข้างหน้า ไม่อย่างนั้นถ้าฉันเป็นคนเจอกุญแจดอกนั้นเอง เจ้าหัวขโมยนั่นจะต้องถูกจับโยนออกไปนอกโบสถ์ทันที!" บิชอปวาเนสซ่ากล่าวด้วยน้ำเสียงดุดัน

____บรรยากาศความหวาดกลัวและความกดดันแพร่กระจายไปรอบห้องนอนรวมของเด็กกำพร้าอย่างรวดเร็ว เด็กกำพร้าหลายคนต่างหันมองหน้ากันพลางตัวสั่นเทา ไม่เคยมีเด็กกำพร้าคนไหนไม่เคยทำผิดมาก่อน ต่อให้ไม่ใช่เรื่องการขโมยกุญแจห้องสมุดในครั้งนี้ พวกเขาก็ต้องเคยขโมยบางสิ่งบางอย่างมาก่อนอย่างแน่นอน นี่เป็นทักษะการเอาตัวรอดของเด็กกำพร้าทุกคน หากไม่ใช่ว่าเป็นเด็กกำพร้าที่พึ่งเข้ามาอยู่ในวิหารเซนต์มารีอาได้ไม่นาน ส่วนใหญ่พวกเขาจะเคยทำอะไรไม่ดีมาก่อนครั้งถึงสองครั้ง

____"ว่าไง! มีใครจะรับสารภาพหรือไม่?!!" บิชอปวาเนสซ่ากดดันมากยิ่งขึ้น

____แรงกดดันสำหรับผู้ใหญ่ที่มีต่อเด็กน้อยนั้นรุนแรงมาก เด็กหลายคนเริ่มร้องไห้ หลายคนเริ่มสารภาพผิดพร้อมทั้งนำของที่พวกเขาขโมยไปออกมา แต่ของพวกนั้นส่วนใหญ่จะเป็น ตุ๊กตา ของเล่น อาหาร เสื้อผ้า และ สิ่งของมีค่า แม้หลายอย่างจะเป็นสิ่งของของเหล่าบาทหลวงที่หายไปนาน แต่ไม่มีแม้แต่อย่างเดียวที่เป็นกุญแจห้องสมุดหรือสิ่งที่เกี่ยวกับห้องสมุด

____หนังสือและวิชาความรู้เป็นเพียงอย่างเดียวที่ไม่มีผู้ใดต้องการหรือขวนขวายในการขโมยมันมาให้ได้ แตกต่างจากแฟนธ่อม เขาเคยผ่านประสบการณ์ชีวิตมาอย่างมากมาย เขาเคยได้ใช้ชีวิตมาอย่างสุดเหวี่ยงและคุ้มค่า แฟนธ่อมรู้อย่างชัดเจนว่าในโลกใบนี้ ความรู้เป็นสิ่งที่ล้ำค่าที่สุด และต่อให้เขาต้องเสี่ยงตายมาเพื่อให้ได้ซึ่งความรู้ แฟนธ่อมก็จะไม่ลังเลแม้แต่น้อย

____แต่ในบรรดาเด็กกำพร้าร้อยกว่าคนนั้น มีเพียงไม่ถึงสิบคนเท่านั้นที่ไม่ยอมรับผิดไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเด็กวัยรุ่นที่มีประสบการณ์และไม่หวั่นเกรงอะไร มีเพียงเด็กน้อยผู้เดียวเท่านั้นที่ยืนนิ่งไม่ไหวติง ราวกับเขาไม่ได้มีส่วนร่วมกับเรื่องราวไม่ดีใดๆเลย เด็กชายผู้นั้นคือแฟนธ่อมนั่นเอง

____"ทุกคนเอาของทั้งหมดไปกองไว้หน้าห้อง แล้วไปยืนรออยู่หน้าห้องก่อน ฉันจะเริ่มค้นจากเตียงของดาฮัด" บิชอปวาเนสซ่ากล่าวพลางเดินไปค้นตามใต้หมอนและใต้ฟูกเตียงทั้งสองชั้นของดาฮัดและเพื่อนร่วมเตียง

____เมื่อไม่พบกุญแจห้องสมุด บิชอปวาเนสซ่าก็หันมากล่าวกับดาฮัดและเพื่อนของเขา

____"พวกเธอทั้งสองคนไปค้นตามเตียงอื่นๆ ค้นหาซิว่ายังมีใครซุกซ่อนอะไรอีกหรือไม่?" บิชอปวาเนสซ่ากล่าวพลางยืนมองทั้งคู่ปฏิบัติงานตามที่เธอมอบหมาย

____งานค้นเตียงไม่ใช่เรื่องยากอะไร ท่ามกลางความอกสั่นขวัญแขวนหวาดกลัวในหัวใจของเหล่าเด็กน้อย เพียงไม่ถึง 10 นาทีพวกเขาทั้งสองคนก็ค้นทุกเตียงเรียบร้อยแล้ว มีบางคนที่ยังแอบเก็บบางสิ่งบางอย่างไว้ ส่วนใหญ่จะเป็นสิ่งของมีค่าราคาสูงที่ไม่ทราบว่าพวกเขาไปแอบขโมยมาจากใคร แต่ไม่มีแม้แต่ชิ้นเดียวที่เป็นกุญแจ

____"เอาล่ะ! อะไรที่ไม่ใช่สิ่งของมีค่าของตนให้เก็บกลับคืนไปได้ เรื่องของที่ถูกขโมยมาเหล่านี้ฉันจะไม่เอาเรื่องอะไรพวกเธอ แต่อย่าให้มีเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นอีก ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าฉันใจร้าย เข้าใจหรือไม่?!!" บิชอปวาเนสซ่ากล่าวเสียงเข้มอีกครั้งหลังจากที่เธอไม่พบว่าใครเป็นผู้ที่ขโมยกุญแจห้องสมุดดอกนั้นไป

____"ขอรับท่านบิชอป!!!" เด็กทุกคนกล่าวพร้อมกัน

____พวกบาทหลวงและซิสเตอร์มีกุญแจกันอยู่หลายคน อีกทั้งพวกเขายังมีสิทธิ์เข้าสู่ห้องสมุดได้ตลอดเวลา ฉะนั้นไม่น่าเป็นพวกเขาที่ขโมยกุญแจห้องสมุดไป มีเพียงพวกอโคไลท์และโนวิซเท่านั้นที่น่าสงสัย เนื่องจากพวกเขาเหล่านั้นไม่ใช่ทุกคนที่จะมีสิทธิ์เข้าสู่ห้องสมุด อีกอย่างพวกเขาส่วนใหญ่ก็ไม่ได้พักอาศัยอยู่ที่โบสถ์แห่งนี้เป็นประจำ ฉะนั้นหากคนเหล่านั้นเป็นผู้ขโมยกุญแจห้องสมุดไปก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ซึ่งบิชอปวาเนสซ่าตั้งใจจะไปคาดคั้นเอาจากคนเหล่านั้นภายหลัง

____เมื่อกำลังจะจากไป บิชอปวาเนสซ่าก็ได้หันไปหาแฟนธ่อมพลางลูบหัวเขาอย่างเอ็นดู ในบรรดาเด็กกำพร้าร้อยกว่าคน ไม่ว่าผู้ใดจะยอมรับหรือไม่ก็ตาม พวกเขาทั้งหมดล้วนแอบขโมยสิ่งใดสิ่งหนึ่งเก็บไว้ทั้งสิ้น มีเพียงแฟนธ่อมเท่านั้นที่เป็นเด็กดีและไม่มีพฤติกรรมไม่ดีเลยแม้แต่น้อย ต่อให้บิชอปวาเนสซ่าและเหล่าบาทหลวงชายหญิงจะพยายามไม่แสดงออกว่ารักแฟนธ่อมมากเป็นพิเศษกว่าเด็กคนอื่นอย่างไร แต่พวกเขาก็ไม่อาจเก็บความเมตตาที่มีให้แฟนธ่อมมากเป็นพิเศษไว้ได้จริงๆ

____"เธอเป็นเด็กดีจริงๆแฟนธ่อม ฉันเห็นเธอขวนขวายอยากเข้าเรียนในโรงเรียนและอยากให้พวกเราสอนเธอเกี่ยวกับเวทมนตร์เสมอมา เมื่อเธออายุครบ 5 ปีฉันจะอนุญาตให้เธอสามารถเข้าเรียนในโรงเรียนเซนต์มารีอาได้ ฉันจะเป็นคนสนับสนุนทุนการศึกษาให้เธอเอง หากทางโรงเรียนพบว่าเธอมีพรสวรรค์ทางด้านเวทมนตร์ ฉันจะอนุญาตให้เธอเข้าเรียนคลาสเวทมนตร์เป็นกรณีพิเศษ" บิชอปวาเนสซ่ากล่าวด้วยความเมตตา

____"จริงหรอฮะมาเธอร์ ขอบคุณมากเลยฮะ" แฟนธ่อมกล่าวพลางเข้าไปกอดเอวบิชอปวาเนสซ่า

____แฟนธ่อมมักทำตัวเช่นนี้ แม้เขาจะเป็นเด็กกำพร้าเช่นเดียวกับคนอื่น แต่แฟนธ่อมไม่เคยแสดงออกเลยว่าเขาเป็นเด็กมีปัญหาเหมือนที่เด็กกำพร้าคนอื่นมักจะทำ แฟนธ่อมมักจะแสดงออกให้เหล่าบาทหลวงและซิสเตอร์เห็นถึงความบริสุทธิ์สดใสเหมือนดั่งที่เด็กน้อยคนหนึ่งควรจะเป็น ต่อให้จะเป็นคนที่ใจแข็งเหมือนกับบิชอปวาเนสซ่าก็ตาม แม้แต่พ่อแม่ยังรักลูกไม่เท่ากัน บิชอปวาเนสซ่าเองก็เช่นกัน ภายในใจของเธอก็อดที่จะมอบความรักให้แด่แฟนธ่อมมากเป็นพิเศษไม่ได้ ที่สำคัญคือเธอมักจะรู้สึกผูกพันธ์กับแฟนธ่อมโดยไม่ทราบสาเหตุ เธอเองไม่รู้ว่าทำไม แต่เนื่องจากแฟนธ่อมนั้นเป็นเด็กที่มีนิสัยดีมากโดยตลอด บิชอปวาเนสซ่าจึงคิดว่าไม่แปลกที่เธอจะรักแฟนธ่อมมากกว่าเด็กกำพร้าทั้งหมดที่เธอเคยรับเลี้ยง

____โดยเฉพาะการอนุญาตให้แฟนธ่อมเข้าเรียนในคลาสพิเศษอย่างคลาสเวทมนตร์นั้นเป็นเรื่องที่ซิสเตอร์แคทเธอรีนเองยังประหลาดใจ โรงเรียนเซนต์มารีอานั้นไม่ใช่โรงเรียนธรรมดา มันถือเป็นหนึ่งในโรงเรียนที่โด่งดังและมีชื่อเสียงมากที่สุดภายในอาณาจักรออโรร่า ค่าเล่าเรียนต่อปีนั้นสูงถึงปีละ 100 เหรียญทอง

____100 เหรียญ ทองแดง เท่ากับ 1 เหรียญเงิน 100 เหรียญเงิน เท่ากับ 100 เหรียญทอง ในขณะที่คนทั่วไปแม้แต่เงินเก็บออม 50 เหรียญทองแดงก็อาจจะไม่สามารถเก็บออมได้ ซึ่งแต่ละปีจะมีบุตรหลานขุนนางและพ่อค้าร่ำรวยมากมายแข่งขันเพื่อส่งบุตรหลานของตนในการเข้าศึกษาที่โรงเรียนเซนต์มารีอาให้ได้ การมอบทุนการศึกษาเรียนฟรีให้เด็กกำพร้าคนหนึ่ง ไม่ต่างจากการมอบเงินมหาศาล 100 เหรียญทองให้เขาฟรีทุกปี นั่นยังไม่นับรวมถึงคลาสเวทมนตร์ที่ต้องชำระปีละ 1,000 เหรียญทอง แม้กระนั้นก็ยังมีผู้คนมากมายที่ต้องการให้บุตรหลานของเขาได้เข้าศึกษาในคลาสเวทมนตร์ เพราะการได้เข้าเรียนในคลาสเวทมนตร์คือการเปลี่ยนชีวิตเด็กคนหนึ่งไปตลอดกาล

____การเป็นนักเวทกับคนธรรมดานั้นแตกต่างกันสุดขั้ว ในอนาคตพวกเขาสามารถเลือกทำได้แทบทุกอาชีพ เมื่อเป็นนักเวทแล้วบุคคลผู้นั้นจะมีสถานะเทียบเท่าขุนนางทันที อีกทั้งยังสามารถเข้าเป็นขุนนางได้โดยไม่ต้องสอบแข่งขันกับผู้อื่น มีขุนนางและชนชั้นสูงมากมายที่ในอดีตพวกเขาเป็นศิษย์ของโรงเรียนเซนต์มารีอา ฉะนั้นไม่มีผู้ใดไม่ต้องการเข้าเรียนในโรงเรียนแห่งนี้ โดยเฉพาะการเข้าเรียนในคลาสเวทมนตร์

____"ยินดีด้วยนะ" ซิสเตอร์แคทเธอรีนเดินเข้ามาลูบหัวและแสดงความยินดีกับแฟนธ่อมภายหลังจากที่บิชอปวาเนสซ่าเดินจากไป

____"ขอบคุณฮะ" แฟนธ่อมเข้าไปสวมกอดซิสเตอร์แคทเธอรีนจนแน่นราวกับเธอเป็นมารดาของเขา

____แฟนธ่อมมักจะแสดงออกถึงความสนิทสนมกับบิชอปวาเนสซ่าและเหล่าบาทหลวงชายหญิงภายในโบสถ์อยู่บ่อยครั้ง เดิมทีพวกเขาก็มักจะดุแฟนธ่อมอย่างรุนแรงและห้ามไม่ให้เด็กชายกระทำเช่นนั้นอีก เพราะพวกเขากังวลว่ามันจะส่งผลทำให้เด็กกำพร้าคนอื่นรังเกียจในตัวเด็กชาย แต่ราวกับว่าแฟนธ่อมไม่เคยรับรู้ถึงความหวังดีลึกๆในใจของพวกเขาเลย แฟนธ่อมมักจะทำเป็นหูทวนลมเสมอเมื่อถูกดุ แต่ภายหลังจากนั้นเด็กชายก็จะยังแสดงออกถึงความสนิทสนมกับเหล่าบาทหลวงภายในโบสถ์ต่อไป สุดท้ายบาทหลวงเหล่านั้นจึงเป็นฝ่ายพ่ายแพ้และไม่เคยตำหนิอะไรแฟนธ่อมอีกเลย