webnovel

ตอนที่ 4 ธาตุทั้ง 4

 

____เวทมนตร์ธาตุแรกที่แฟนธ่อมสามารถร่ายได้สำเร็จก็คือธาตุลม นั่นทำให้แฟนธ่อมคาดเดาได้ไม่ยากว่าเวทมนตร์ประจำตัวของเขาก็คงเป็นธาตุลมนั่นเอง ซึ่งหลังจากที่แฟนธ่อมสามารถใช้เวทมนตร์ธาตุลมได้สำเร็จ เขาก็ทดลองร่ายเวทมนตร์ธาตุอื่นๆทันที โชคร้ายเขากลับไม่สามารถร่ายเวทมนตร์ธาตุอื่นได้เลย 

____นี่ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอะไร เพราะแฟนธ่อมก็มักจะเห็นเหล่าบาทหลวงใช้เวทมนตร์เพียงธาตุเดียวเท่านั้นในการทำงาน ส่วนงานใดที่ไม่สามารถทำได้ด้วยธาตุประจำตัวของพวกเขา บิชอปก็มักจะแบ่งงานให้แต่ละบุคคลทำอย่างเหมาะสมในความสามารถของตน

____แต่แฟนธ่อมรู้สึกว่าตนเองค่อนข้างโลภ เขาอยากใช้เวทมนตร์ได้ทุกธาตุโดยไร้ข้อจำกัด อีกทั้งเขายังมีลางสังหรณ์บางอย่างที่บอกว่าเขาอาจสามารถทำได้สำเร็จก็เป็นได้ ลางสังหรณ์ของแฟนธ่อมน่ากลัวมาก ถึงแม้เขาจะต้องตายเพราะกระสุนปืนกลนับหมื่นนัด แต่กระสุนเหล่านั้นถูกยิงมาจากป้อมปืนกลที่ไร้จิตสังหาร แฟนธ่อมเคยสามารถหลบหลีกกระสุนปืนไรเฟิลเจาะเกราะรถถังที่ถูกยิงมาจากระยะ 3,000 เมตรได้มาก่อน นั่นยังไม่รวมการต่อสู้อีกครั้งที่เขาต้องใช้เพียงมีดพกในการต่อกรกับกลุ่มมือสังหารชั้นยอดอาวุธปืนครบมือนับ 10 คน

____จินตนาการสำคัญพอๆกับความรู้ แฟนธ่อมไม่รู้ว่าโลกใบนี้มีหลักการทางวิทยาศาสตร์เหมือนกับโลกเดิมของเขาหรือไม่ แต่แฟนธ่อมได้ลองจินตนาการภาพในหัวว่าประกายไฟกำเนิดจากการเสียดสีของอนุภาคอากาศ เพียงเวลาไม่นานเขาก็ประสบความสำเร็จในการร่ายเวทมนตร์ธาตุไฟ

____แฟนธ่อมเปิดหนังสือทฤษฎีเวทมนตร์ที่ว่าด้วยการฝึกฝนพลังงานเวท ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่าเหตุใดก่อนหน้านี้เขาจึงล้มเหลวในการทดลองร่ายเวทมนตร์มาเป็นเวลายาวนานเกือบ 5 ปี เวทมนตร์ทุกบทมีความแตกต่างด้านการกำหนดจิตและการควบคุมการไหลเวียนของพลังงานเวทที่อยู่ในเส้นวงจรเวท 

____เส้นวงจรเวท เป็นอวัยวะพิเศษที่บุคคลส่วนใหญ่บนโลกใบนี้มี มันเป็นเส้นฝอยสีฟ้าคล้ายคลึงกับเส้นโลหิต เส้นวงจรเวทกระจายไปทั่วร่ายกาย มีศูนย์กลางคือแกนมานาที่อยู่ใจกลางร่างกายระหว่างปอดทั้งสองข้าง 

____แกนมานา เป็นอวัยวะที่สำคัญเช่นเดียวกับหัวใจ มันเป็นอวัยวะที่ใช้กักเก็บมานา มีรูปร่างคล้ายผลึกอัญมณีที่ถูกเจียระไนแล้ว สีและรูปทรงจะแตกต่างไปตามแต่ละบุคคลและธาตุประจำตัวของบุคคลนั้น หากแกนมานาได้รับความเสียหายคนผู้นั้นอาจตายได้ทันที

____ไม่เพียงแค่นั้น เป้าหมายและผลลัพธ์ของเวทมนตร์ที่ถูกร่ายออกไปยังต้องถูกควบคุมด้วยจิตสำนึกของผู้ร่ายอย่างแม่นยำ จินตนาการภาพเวทมนตร์ที่ชัดเจนและทรงพลังจะช่วยให้เวทมนตร์ที่ถูกร่ายออกมาทรงพลังมากยิ่งขึ้น สภาวะอารมณ์ที่รุนแรงของผู้ร่ายอาจส่งผลต่อผลลัพธ์ของเวทมนตร์ทั้งทางบวกและทางลบ อารมณ์ที่แปรปรวนของผู้ร่ายอาจทำให้เวทมนตร์สลายตัวไปทันทีพร้อมตีกลับทำให้ผู้ร่ายเวทมนตร์บาดเจ็บ หรืออาจส่งผลทำให้เวทมนตร์บทนั้นทรงพลังมากยิ่งขึ้นก็เป็นได้ 

____เมื่อแฟนธ่อมอ่านมาถึงบทนี้ เขาก็เข้าใจในที่สุด การฝึกฝนสมาธิและพลังจิตของเขาในอดีตจะช่วยส่งผลต่อการใช้เวทมนตร์อย่างแน่นอน เพียงแต่ว่าโลกในอดีตของเขามันอาจมีอนุภาคพลังงานธรรมชาติอยู่น้อยหรือไม่มีพลังงานธรรมชาติอยู่เลยก็เป็นได้ 

____แต่เมื่อแฟนธ่อมพิจารณาถึงจุดนี้เขาก็แปลกใจ ก็ในเมื่อก่อนหน้านี้ ตัวของแฟนธ่อมยังไม่ได้รับรู้ถึงทฤษฎีเวทมนตร์ขั้นพื้นฐานมาก่อน หากว่ากันตามตรงเขาก็ไม่ควรจะร่ายเวทมนตร์ได้ แต่นี่ไม่ใช่ เขาสามารถร่ายเวทมนตร์สำเร็จแล้ว ถ้าเช่นนั้นเขาทำมันได้อย่างไร 

____ข้อสันนิษฐานคือ เทคนิคการทำสมาธิและการฝึกฝนพลังจิตมีบางส่วนใกล้เคียงและทับซ้อนการฝึกฝนเวทมนตร์ ซึ่งเมื่อแฟนธ่อมอ่านหนังสือทฤษฎีเวทมนตร์พื้นฐานเขาก็พบว่าเป็นจริงตามนั้น แต่มันมีอีกเหตุผลหนึ่งร่วมด้วย 

____ว่ากันว่าเวทมนตร์แท้จริงก็คือพลังงานธรรมชาติ มนุษย์ก็เป็นสิ่งที่ธรรมชาติสรรค์สร้างขึ้น ทุกสิ่งทุกอย่างถือกำเนิดขึ้นมาพร้อมกัน มันเป็นเหรียญเดียวกันที่อยู่คนละด้าน มนุษย์บนโลกนี้จะมีเส้นวงจรเวทและแกนมานาอยู่ภายในร่างกาย พวกเขาจะซึมซับพลังงานธรรมชาติเข้ามากักเก็บในแกนมานา และหมุนเวียนโคจรในเส้นวงจรเวท เมื่อพลังงานธรรมชาติเข้ามาอยู่ในร่างกายมนุษย์ มันจะถูกเรียกว่า 'มานา'

____แต่มนุษย์ไม่สามารถเรียกใช้งานเวทมนตร์ออกมาได้ดั่งใจนึก การใช้งานเวทมนตร์ต้องมีมานาที่มากเพียงพอและมี 'ประสาทสัมผัสเวทมนตร์' เพื่อใช้ในการสื่อสารกับธรรมชาติ เพื่อขอร้องหรือบงการให้พลังงานธรรมชาติแปรเปลี่ยนตนเองให้กลายเป็นเวทมนตร์ที่ทำตามความต้องการของผู้ร่าย

____ซึ่งมนุษย์จะยังมีประสาทสัมผัสเวทมนตร์ระดับสูงอยู่ในเด็กอายุประมาณ 0-5 ปี เด็กในวัยนี้มีโอกาสสูงมากที่จะมีอารมณ์แปรปรวนบางอย่างที่สามารถสื่อสารกับธรรมชาติได้โดยบังเอิญ และทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า 'การตื่นขึ้นของพลังเวทมนตร์'

____การตื่นขึ้นของเวทมนตร์ ถือเป็นอุบัติการณ์หรือปรากฎการณ์ที่จะเกิดขึ้นภายในเด็กเยาว์วัยอายุไม่เกิน 20 ปี ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อเด็กคนนั้นมีอารมณ์แปรปรวนรุนแรงหรือความต้องการบางอย่าง ทำให้เกิดปรากฏการณ์เวทมนตร์หลุดการควบคุม ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่จะอิงกับมานาในตัวของเด็กในตอนนั้น ซึ่งเนื่องจากว่าเหตการณ์นี้มักเกิดขึ้นในเด็กอายุไม่เกิน 20 ปี ซึ่งเด็กวัยนี้มักจะมีพื้นฐานมานาน้อยและยังไม่ผ่านการฝึกฝนมานาและเวทมนตร์ ทำให้ผลลัพธ์ของปรากฏการณ์เวทมนตร์หลุดการควบคุมมักไม่รุนแรง

____ซึ่งเมื่อแฟนธ่อมพิจารณาถึงเหตุผลนี้ การที่แฟนธ่อมสามารถใช้เวทมนตร์ได้อาจจะเกิดจากทั้งสองสาเหตุรวมกัน หากว่ากันตามจริง ปรากฏการณ์การตื่นขึ้นของเวทมนตร์นั้นปรากฏขึ้นมาตั้งแต่วันแรกที่เขาเกิด ทันทีที่แฟนธ่อมถือกำเนิด สายลมในห้องก็ปั่นป่วนรุนแรง ภายนอกอาคารเกิดพายุสายฟ้าโหมกระหน่ำรุนแรง แม้ในยามนั้นแฟนธ่อมจะยังแทบไม่สามารถรับรู้ถึงสิ่งใดได้มากนัก แต่เขาก็ยังพอที่จะจดจำเหตุการณ์ความวุ่นวายและเสียงกรีดร้องของผู้คนในวันนั้นได้ดี

____สิ่งเหล่านี้ทำให้แฟนธ่อมนึกย้อนไปถึงสาเหตุของการใช้เวทมนตร์ของมนุษย์ขึ้นมาเป็นครั้งแรก มันควรเป็นการปรากฏของเวทมนตร์ขึ้นมาโดยบังเอิญ ส่วนคำร่ายและเทคนิคการควบคุมเวทมนตร์ ควรเป็นสิ่งที่ถูกเหล่านักเวทวิจัย คิดค้นขึ้นมาภายหลังเพื่อให้ผู้ฝึกฝนเวทมนตร์สามารถใช้งานเวทมนตร์ได้ง่ายขึ้น คำร่ายและเทคนิคการร่ายนั้นไม่ต่างจากแนวทางที่ทำให้ผู้ใช้งานสามารถร่ายเวทมนตร์ได้ง่ายขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่าหากผู้ที่ไม่รับรู้เทคนิคเหล่านี้จะไม่สามารถใช้เวทมนตร์ได้เลย เมื่อแฟนธ่อมได้รับรู้ถึงทฤษฎีทางเวทมนตร์เหล่านี้เพิ่มเติม มันก็ทำให้เขารู้สึกว่าได้ปลดล็อคพันธนาการทางเวทมนตร์ แฟนธ่อมมั่นใจว่าความรู้เหล่านี้จะต้องทำให้ตนสามารถใช้งานเวทมนตร์ได้ง่ายขึ้นอย่างแน่นอน

____แฟนธ่อมไม่คิดเปล่า เขาวางหนังสือเล่มใหญ่ยาว 50 เซนติเมตร หนา 30 เซนติเมตรราวกับหนังสือเอ็นไซโคลพีเดียที่วางอยู่บนตักลง เด็กชายหลับตาพลางจินตนาการถึงภาพของเปลวไฟที่หมุนเวียนไปตามสายลม เพียงไม่นานเบื้องหน้าแฟนธ่อมก็บังเกิดก้อนพายุเพลิงเล็กจิ๋ว ที่ดูน่ารักและไร้พิษสงลอยอยู่เบื้องหน้าเด็กชาย

____"สำเร็จ!" แฟนธ่อมเปล่งเสียงด้วยความดีใจพลางสลายเวทมนตร์ให้หายไปอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นเขาก็หยิบหนังสือทฤษฎีเวทมนตร์เล่มใหม่มาเปิดอ่านต่อไปโดยไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก

____แต่การกระทำเช่นนั้นหากมีผู้อื่นมาเห็นพวกเขาจะต้องกรีดร้อง การที่มนุษย์คนหนึ่งสามารถใช้งานเวทมนตร์ได้หลายธาตุไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร แต่เด็กเล็กอายุเพียง 4 ปีสามารถใช้เวทมนตร์สองธาตุผสานนั่นเป็นอะไรที่น่าหวาดกลัว อีกทั้งเมื่อครู่แฟนธ่อมอาจลืมบางสิ่งบางอย่างไป เวทมนตร์ที่เขาพึ่งร่ายออกมาแฟนธ่อมไม่ได้เปล่งเสียงร่ายเวทมนตร์แม้แต่น้อย นั่นเป็นอีกระดับของเวทมนตร์ผสาน นี่มันยิ่งกว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์บนโลกใบนี้ไปแล้ว

____"เวทมนตร์ธาตุดินและเวทมนตร์ธาตุน้ำงั้นหรอ... น่าสนใจดีนี่" แฟนธ่อมกล่าวแผ่วเบาขณะพลิกเปิดปกหนังสือโบราณเล่มหนาไปด้วย ในหนังสือถูกบันทึกไว้ด้วยบันทึกลายมือหวัดๆ อีกทั้งยังมีรูปประกอบของทฤษฎีเวทมนตร์ไปด้วย ซึ่งมันช่วยให้ผู้ศึกษาเวทมนตร์สามารถทำความเข้าใจได้ง่ายขึ้น

____"เทอรัส" แฟนธ่อมร่ายเวทมนตร์ธาตุดินพลางเพ่งจิตสมาธิควบคุมฝุ่นในห้องสมุด แต่ทุกสิ่งกลับเงียบงันไม่มีฝุ่นเม็ดใดไหวติง

____"ไม่ได้ผลงั้นหรอ? แปลกจัง" แฟนธ่อมเอียงศีรษะพลางเท้าคางด้วยความงุนงง