ตอนที่ 4 ช่วยซาลาเปาลูกเล็กไว้หนึ่งลูก
ซาลาเปาน้อยถูกเธอทำให้ตกใจ จนใบหน้าขาวซีด
จากนั้นหนิงซีก็นั่งลงข้างๆ ซาลาเปาน้อยโดยไม่ทำอะไร เพียงแต่ปิดเปลือกตาลงแล้วก็หลับไป
คืนนี้ถูกฉางลี่ลากตัวมานั่งดื่มเป็นเพื่อนแขก ตอนนี้รู้สึกปวดหัวเหลือเกิน
หนิงซีนอนหลับไปพักหนึ่ง เมื่อตื่นขึ้นมาก็รู้สึกถึงความร้อนบริเวณขา เมื่อก้มหน้ามองลงไปก็พบว่าซาลาเปาน้อยมาพิงขาของเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ แถมมือยังดึงชายเสื้อเธอไว้อีกต่างหาก
หนิงซีหัวเราะออกมา
เมื่อก่อนตอนยังอยู่ชนบท เธอเคยเลี้ยงแมวไว้ตัวหนึ่ง มันขี้กลัวมาก โดยเฉพาะกลัวคน เพียงแค่เห็นมันก็จะรีบวิ่งหนีทันที แต่ว่า ขอเพียงแค่ไม่สนใจมัน ปล่อยให้มันรู้สึกผ่อนคลาย รู้สึกว่าเธอไม่เป็นภัยต่อมันเท่านั้น มันก็จะค่อยๆ เข้ามานัวเนียอยู่รอบๆ ตัวเธอ จนกระทั่งปีนขึ้นไปนอนหลับบนตักเลยทีเดียว
ซาลาเปาน้อยดูเหมือนจะสัมผัสได้ถึงสายตาที่จ้องมองของเธอ ทำให้ใบหน้าแดงระเรื่อขึ้นมา แต่คราวนี้ในแววตาไม่หลงเหลือความตื่นกลัว หากแต่ดวงตากลมโตนั้นแฝงไปด้วยความประหลาดใจ
ช่างเหมือนลูกแมวซะจริงๆ แม้แต่สายตานั้นก็เหมือน
หนิงซียิ้มมุมปาก รู้สึกคันมือเหลือเกิน ท้ายที่สุดก็อดใจไม่ไหว ยื่นมือออกไปสัมผัสศีรษะน้อยๆ ที่ปกคลุมไปด้วยเส้นผมนุ่ม
เพียงแตะมือลงไปเท่านั้น สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนทันที
ทำไมหน้าผากร้อนแบบนี้เนี่ย!
“นี่หนูเป็นไข้เหรอ?”
ฉางลี่กักตัวเธอไว้ที่นี่อย่างมากก็รอให้การออดิชั่นพรุ่งนี้จบลง
หากเด็กน้อยไข้สูงแบบนี้ต่อไป เกรงว่าจะเป็นอันตราย
ขณะกำลังกังวลใจอยู่นั้น เธอก็รู้สึกถึงความผิดปกติ ในเมื่อหลอดไฟเสียไปแล้ว ทำไมในห้องถึงยังมีแสงสว่าง?
เมื่อแหงนขึ้นมอง จึงพบว่าบนนั้นมีหน้าต่างบานเล็กๆ อยู่ แสงจากดาวบนท้องฟ้าส่องประกายลงมาผ่านทางหน้าต่างบานนี้นั่นเอง
หนิงซีหาจนทั่วห้อง แล้วจึงย้ายบันไดอันหนึ่งเข้ามา
“ซาลาเปาน้อย มานี่ ฉันจะช่วยให้เธอออกไป”
นับเป็นครั้งแรกที่เด็กน้อยมีปฏิกิริยาต่อคำพูดของเธอ แต่ก็กลับส่ายหัว ด้วยแววตาเด็ดเดี่ยว
หนิงซีเข้าใจความหมายของเขา เธอยิ้มแล้วบีบแก้มเด็กน้อย
“นับว่ามีคุณธรรมนะเรา อยากอยู่ร่วมทุกข์กับฉันที่นี่เหรอ? ขึ้นไปเถอะ หน้าต่างบานนี้เล็กเกินไป ฉันออกไปไม่ได้หรอก เธอออกไปก่อน แล้วค่อยตามคนมาช่วยฉันนะ”
เมื่อเห็นว่าเด็กน้อยยังลังเล หนิงซีจึงอุ้มเขาขึ้นวางบนบันได
“เร็วเข้า เป็นลูกผู้ชาย อย่ากลัวความมืด ฉันจะอยู่ข้างล่างคอยคุ้มครองเธอเอง”
กว่าจะส่งเด็กน้อยให้ออกไปได้ไม่ง่ายเลย หนิงซีรู้สึกเวียนหัว ขาอ่อนแรง ทันใดก็ร่วงผล็อยจากบันไดลงสู่พื้นเบื้องล่าง…
นอกหน้าต่างนั้น เด็กน้อยเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ใบหน้าที่ไร้ความรู้สึกอยู่ตลอดเวลานั้น บัดนี้เต็มไปด้วยความตื่นตระหนก…
หนิงซีแข็งใจกำชับออกมาได้คำเดียว “ไป…”
ภายใต้แสงดาว ใบหน้าของหญิงสาวขาวซีด ทว่าก็ไม่อาจปกปิดใบหน้าที่สวยงามสะดุดตานั้นได้ โดยเฉพาะดวงตาคู่นั้น ที่เปล่งประกายงดงามสดใส เหมือนดั่งแสงสะท้อนในทะเลแห่งดวงดาว
ตอนนี้เธอไม่ใช่สาวบ้านนอกและลูกเป็ดขี้เหร่คนเดิมอีกต่อไปแล้ว
แต่ว่า จะมีประโยชน์อะไร?
หนิงซียิ้มอย่างขมขื่น ความแค้นใหญ่หลวงยังไม่ได้สะสาง เธอก็ต้องตกลงมาตายอยู่ที่นี่แล้ว...
แต่ว่า ก่อนตายได้ช่วยชีวิตซาลาเปาน้อยลูกหนึ่ง ก็นับว่าได้ทำเรื่องดีแล้ว
หากเมื่อครั้งนั้น ลูกของเธอไม่ตาย ก็น่าจะอายุประมาณนี้...
อุบัติเหตุเมื่อห้าปีก่อน ทำให้สกุลหนิงรังเกียจที่เธอทำเรื่องขายหน้า จึงส่งเธอไปอเมริกา ส่งเธอเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยไม่มีระดับ ที่รับลูกหลานคนรวยโดยเฉพาะ แล้วปล่อยให้เธอเผชิญชะตากรรมที่เธอก่อขึ้นด้วยตัวเอง
เธอดรอปเรียนแล้วไปสมัครเข้ามหาวิทยาลัยเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนีย อยู่ที่นี่เธอมุ่งมั่นเรียนจนแทบจะเป็นบ้า
เพราะเธอต้องการเอาชนะหนิงเสวี่ยลั่ว ต้องการเอาทุกอย่างที่ควรเป็นของเธอกลับคืนมา!
ที่สำคัญที่สุด การแสดงคือความใฝ่ฝันสูงสุดในชีวิตของเธอ
เมื่อกลับมาจากต่างประเทศ อาศัยรูปร่างหน้าตาและฝีมือการแสดง ทำให้เข้าตาฉางลี่ จนสามารถเข้ามาอยู่ในสังกัดของบริษัทบันเทิงยักษ์ใหญ่อย่างซิงฮุยเอนเตอร์เทนเมนท์ได้
ถนนสู่ดวงดาวเดิมทีนั้นน่าจะเปิดกว้างสำหรับเธอ แต่ทว่าหนิงเสวี่ยลั่วกลับตามรอยเธอเข้ามาอยู่ในสังกัดซิงฮุย ใช้เงินฟาดหัวฉางลี่และคอยบงการให้กดดันเธอในทุกๆ ทาง…