ตอนที่ 12 ร้องไห้ขนาดนั้นยังไม่ลืมที่จะส่งกอด
ยวี่หว่าพูดจบก็กัดริมฝีปากล่างไว้แน่น สีหน้าเย็นชา
ทันใดนั้น โทรศัพท์ของมู่เฉิงเหยียนก็ดังขึ้น
“อืม ผมจะไปเดี๋ยวนี้” น่าจะมีคนเรียกให้เขาเข้าไปในงาน หลังจากกดวางสายเขาก็มองยวี่หว่านพร้อมขมวดคิ้ว “ยวี่หว่าน ผมขอโทษ”
ยวี่หว่านไม่ตอบ เธอมองตอนที่มู่เฉิงเหยียนเดินหันหลังจากไป ในใจรู้สึกเจ็บปวดทรมานสุดจะทน
หญิงสาวทรุดตัวลงแล้วกอดเข่าร้องไห้ น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าไหลลงมาอย่างไม่ขาดสาย โชคดีที่ตรงนั้นเป็นมุมอับ ไม่มีใครมองเห็น
ตอนที่มู่เฉิงเหยียนตอบตกลงคบกับเธอ เธอดีใจจนแทบบ้า อดไม่ได้ที่จะบอกข่าวดีนี้กับทุกคน มู่เฉิงเหยียนในตอนนั้นก็ดีกับเธอมาก ตอนที่เธอเตรียมตัวไปประกวดนักออกแบบ เขาก็อดหลับอดนอนอยู่เป็นเพื่อนเธอทุกวัน
แต่ทุกสิ่งุกอย่างก็พังทลายลง
หญิงสาวร้องไห้จนหมดแรง ตั้งแต่วันที่เข้าคุกจนถึงวันนี้เธอไม่เคยร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดขนาดนี้มาก่อน ตั้งแต่วินาทีที่เหยียบเข้าคุกก็พร่ำบอกกับตัวเองอยู่เสมอว่าเธอต้องไม่ร้องไห้ แต่พอได้พบมู่เฉิงเหยียน เธอกลับไม่สามารถที่จะควบคุมความเจ็บปวดนี้ได้เลย.....
ขณะที่หญิงสาวร้องไห้จนตัวสั่นอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงเย็นชาของผู้ชายคนหนึ่งพูดขึ้นมา
“ต่อหน้าคนอื่นทำเป็นอวดเก่งปากดี แต่พอลับหลังก็แค่ลูกพลับที่อ่อนปวกเปียกดีๆนี่เอง”
ยวี่หว่านรู้สึกคุ้นกับเสียงนี้ หล่อนเงยหน้าขึ้น พอเห็นว่าเป็นชายหนุ่มรูปงามอย่างเฉิงฉีตง ก็ลุกขึ้นมาด้วยความตกใจ ตกใจเสียจนน้ำตายังหยุดไหล
หล่อนมัวแต่จะลุกขึ้นยืน แต่เพราะนั่งอยู่นานจนขาชา ทำให้ยืนได้ไม่มั่นคง จึงยื่นมือไปหวังจะจับแขนของเฉิงฉีตงเพื่อพยุงตัวเองไว้
หล่อนจับไม่แน่น จึงเซเข้าหาเฉิงฉีตง มือคว้าจับเอาแขนเสื้อสูทราคาแพงของเขา
“ร้องไห้ขนาดนั้นยังไม่ลืมที่จะส่งกอดอีกหรือคุณ” ชายหนุ่มพูดแบบกวนโอ๊ย แต่น้ำเสียงยังคงนิ่งเฉยและสุขุม
ยวี่หว่านได้ยินเช่นนั้นก็หันไปมองหน้าชายหนุ่ม น้ำตาที่ยังเช็ดไม่แห้งสนิท ดวงตาใสจนเห็นได้ชัด “ได้ยินมาว่าผู้ชายจะใจอ่อนถ้าเห็นน้ำตาของผู้หญิง ฉันก็อยากจะลองดู ไม่ทราบว่าคุณเฉิงแพ้น้ำตาผู้หญิงมั้ยคะ”
เฉิงฉีตงก้มลงมองที่หล่อน โดยไม่พูดจาใดๆ
ข้างๆสุดทางเดินเป็นห้องน้ำ เขายืนล้างมืออยู่ในนั้น เพราะมุมที่เขายืนอยู่ไม่มีใครมองเห็น ทำให้ยวี่หว่านกับมู่เฉิงเหยียนไม่เห็นว่าข้างๆมีเขาอยู่ด้วย ด้วยมารยาทเขาก็เลยไม่ออกมารบกวนพวกเขาสองคน
ยวี่หว่านคิดว่าเฉิงฉีตงน่าจะได้ยินที่พวกเธอคุยกัน น่าขายหน้าชะมัด
เฉิงฉีตงผลักหญิงสาวออกเบาๆ แม้ไม่ได้แรงมากท่าทางก็ดูเป็นสุภาพบุรุษ แต่ก็ดูออกว่าจงใจเว้นระยะห่างจากเธอ เหมือนกับว่าการที่หล่อนอยู่ใกล้ๆจะเป็นการรบกวนเขาได้
“อายุยังน้อย แต่ร้ายไม่เบา” เฉิงฉีตงยิ่งมั่นใจว่าผู้หญิงคนนี้เจ้าแผนการไม่เบา เปลี่ยนหน้าเร็วเสียกว่านักแสดงเสียอีก
เมื่อตะกี้ร้องไห้จะเป็นจะตาย ตอนนี้กลับสวมหน้ากากจอมปลอมเข้ามาประจบประแจงเขา
“ว่าที่คุณนายเฉิง ต้องรู้จักร้ายไว้บ้าง จะได้ออกสังคมได้ไงค่ะ” ยวี่หว่านจ้องเขา จนเฉิงฉีตงหลบสายตาไป
ทันใดนั้นลู่เฉินก็วิ่งเข้ามา “บอสครับ คนของบริษัทหัวเฉิงมาถึงแล้วครับ รอบอสอยู่ในห้องประชุม”
เฉิงฉีตงได้ยินดังนั้นก็พยักหน้ารับ ลู่เฉินมองยวี่หว่านอย่างงงๆ ทำไมเป็นผู้หญิงคนนี้อีกแล้วล่ะ?