webnovel

เกิดใหม่มาเป็นเหยื่อของท่านประธานจอมรัท

คำโปรย ได้เกิดใหม่เป็นหนุ่มหน้าใส วัยยี่สิบทายาทไฮโซทั้งที แต่ไหงต้องมาอยู่ในกำมือของประธานหนุ่มศัตรูคู่อาฆาตด้วย ยัง..เรื่องซวยยังไม่จบ เพราะหนุ่มสุดแซบที่ว่าดันเกิดอาการรัท มีแต่ฮีทของเขาเท่านั้นจะบำบัดได้ เรื่องย่อ คำมร ไฮโซหนุ่มหน้าสวยแต่พฤติกรรมเหลวแหลก เขาคือศัตรูเบอร์หนึ่งของเดวิสประธานหนุ่มรูปหล่อของลาโฮมกรุป คำมรคือคนที่ทำให้ชีวิตของท่านประธานพังจนสิ้นไร้ความสุข เพราะหลายปีก่อนคำมรขับรถโดยประมาท จนทำให้พ่อของเดวิสเสียชีวิต การินคือชายวัยกลางคนผู้มีบาดแผลในใจ จากการสูญเสียลูกและเมียเพราะอุบัติเหตุ เขาทำงานที่ลาโฮมกรุปไปวัน ๆ อย่างไร้เป้าหมาย มีแต่เหล้าเป็นเพื่อน วันหนึ่งมีเหตุอะไรสักอย่างทำให้การินตกตกน้ำเสียชีวิต ปาฏิหาริย์มีจริง การินได้รับโอกาสของชีวิตที่สอง แต่มีคนตั้งเยอะแยะ ดันมาเกิดใหม่ในร่างของคำมรที่นอนเป็นโคม่าเพราะเสพยาเกินขนาด ซึ่งก่อนหน้านี้ เดวิดลักพาตัวคำมรที่นอนหลับใหล มาเก็บไว้ในที่ซ่อนเพราะจะรอให้ฟื้นแล้วแก้แค้น เรื่องยุ่งเริ่มเกิด การินในร่างคำมรอยู่ ๆ ก็ฟื้นขึ้นมาท่ามกลางความฉงนของคนรอบตัว แต่ที่วายป่วงยิ่งกว่าคือเดวิสดันรู้สึกแปลก ๆ ที่ดูยังไงก็เหมือนอาการรัท มันเกิดขึ้นทันทีที่ฟีโรโมนจากตัวของคำมรสัมผัสตัวของเดวิส แล้วมันเป็นแบบนี้ได้ยังไง เอาเป็นว่า ตอนนี้เดวิสหักห้ามตัวเองไม่ไหวแล้ว กลิ่นของคำมรช่างยั่วยวนจนยั้งใจไม่อยู่ และเขาจะต้องทำอะไรบางอย่าง แค่แก้แค้นอย่างเดียวคงไม่พอ... คำแนะนำในการอ่าน 1. ตัวละคร พฤติกรรม สถานที่ หน่วยงาน วิชาชีพ และเหตุการณ์ต่าง ๆ ในนิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องสมมุติที่สร้างขึ้นมาเพื่อความบันเทิงทั้งสิ้น 2. บางตัวละครในนิยายอาจแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน 3. ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ใดๆ ในเรื่องนี้ไม่ถูกต้อง 4. นิยายเรื่องนี้ยืมบางคอนเซปต์ในธีม Omegaverse มาใช้ คือ การรัท การฮีท การกัดคอเพื่อผูกพันธะ แต่ไม่ใช่นิยายธีม Omegaverse เต็ม ๆ 5. พฤติกรรมมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้เครื่องป้องกันของตัวละครในเรื่อง ไม่ใช่สิ่งที่ควรทำตาม

telltopia · LGBT+
Sin suficientes valoraciones
17 Chs

9 [NC] รุ่มร้อน

อีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา เดวิสก็มาที่อีกแท่นเล็ก ๆ แห่งหนึ่งซึ่งแยกตัวออกมาจากแท่นหลักของแท่นอัญชัน แท่นย่อยที่ว่านี้คือจุดให้เฮลิคอปเตอร์ร่อนลงจอด การจะมาถึงที่นี่ต้องเดินมาตามทางเดินที่สร้างขึ้นจากโครงสร้างเหล็กเชื่อมต่อซึ่งคนที่นี่เรียกว่า 'วอล์กเวย์' มันเป็นทางเดินที่สะดวกใช้ได้ แต่มีบางส่วนที่พื้นไม่ได้ถูกปูทับด้วยเหล็กแผ่นลาย ยังคงเป็นตะแกรงเหล็กตามโครงสร้างเดิม มีอยู่ครั้งหนึ่งเขาไม่ได้มองทางให้ดี รองเท้าหนังคู่แพงของเขาเลยผลุบลงไปในร่อง ยังดีที่ตอนดึงขึ้นมามันไม่ได้รับความเสียหายหรือขาเขาไม่ได้แพลง

ที่เดวิสมาที่นี่เพราะจะมารอคริสตินคู่หมั้นของเขา ฝ่ายนั้นยืนกรานจะมาหาเขาถึงที่นี่ให้ได้

เสียงใบพัดแมลงปอยักษ์สีดำดังปัด ๆๆๆ ก่อนจะร่อนลง เฮลิคอปเตอร์ลำนี้มีสีดำด้านดูหรูหราสง่างาม มันคือเฮลิคอปเตอร์ประจำตระกูลหงษทัศน์พิพัฒน์ของเขานั่นเอง

อึดใจต่อมาก็มีสาวร่างโปร่งบางสวยสะคราญก้าวออกมาจากในนั้น เธอมาในชุดเดรสเชิ้ตสีขาวตกแต่งด้วยกระดุมเม็ดใหญ่เรียงเป็นตับ กับแว่นกันแดดอันใหญ่และหมวกปีกกว้าง

"ฮาย รอนานไหม" สาวสวยรีบโบกมือทักทาย

"ไม่เลยจ้ะ" เขาจูบเบา ๆ ที่แก้มคู่หมั้นสาว มือโอบที่เอวบอบบาง อีกฝ่ายก็สนองตอบในแบบเดียวกัน

"นี่คิดถึงผมใช่ไหม คุณเลยลงทุนมารับถึงนี่"

สาวสวยบิดปากน้อย ๆ "ก็ใช่น่ะสิ เหนื่อยน่าดูเลยกว่าจะมาถึง"

"ขอบใจจ้ะที่อุตส่าห์มาหา"

"ว่าแต่เดวิสมีธุระอะไรที่นี่มากมาย คริสไม่เห็นจะมีอะไรเลย มีแต่ทะเลแล้วก็เครื่องจักรเต็มไปหมด แถมร้อนอีกต่างหาก" สาวสวยพูดไปกระพือคอเสื้อไปพลาง

"โอเค งั้นรีบเข้าไปในห้องพักดีกว่า"

ระหว่างเดินท่านประธานก็ถามอย่างเอาอกเอาใจ "ว่าแต่หิวไหม อยากกินอะไรหรือเปล่า"

"ไม่หิวน่ะ เดี๋ยวเราไปกินมื้อเย็นในเมืองดีกว่า แต่ตอนนี้คริสคอแห้งจังเลย"

"งั้นเดี๋ยวให้คนเตรียมอะไรให้ดื่ม ว่าแต่อยากดื่มอะไร"

คู่หมั้นสาวส่งสายตาบางอย่างมาให้เขา จากนั้นก็แหย่นิ้วชี้ที่เล็บทาสีแดงเข้าปากตัวเอง แล้วก็หัวเราะเสียงพลิ้วระรัว นั่นช่างยั่วอารมณ์ดีเหลือเกิน

เขาเข้าใจความหมายคำว่าคอแห้งของเธอแล้วตอนนี้ เลยส่งยิ้มให้อย่างรู้ทัน แล้วก็เหลือบมองผิวขาวใสที่ต้นคอและหน้าอกที่อยู่เหนือกระดุมเสื้อเชิ้ตที่เธอปลดลงไป ริมฝีปากอิ่มได้รูปเคลือบสีแดงสดเผยอเล็กน้อยตอนนิ้วขาว ๆ ถูกดึงออกมา

เธอช่างเย้ายวนดีเหลือเกิน กลิ่นอายความสาวกับความเป็นผู้หญิงแผ่โชยขยายมาถึงตัวเขา

เขาเกิดความต้องการขึ้นมาแล้ว

ความรู้สึกตึงเล็กน้อยตรงเป้ากางเกงทำให้เดวิสสบายใจขึ้น เขาอาจเครียดกับหลายเรื่องที่ประดังเข้ามาในช่วงนี้ จนทอดระยะทิ้งช่วงการปลดปล่อยความปรารถนาเนิ่นนานเกินไป เขาปล่อยให้คริสตินคู่หมั้นสาวสวยของเขาว่างเว้นไปสักพักแล้ว เลยทำให้คิดอะไรบ้า ๆ ที่ไม่น่าคิดกับไอ้คำมรคนนั้น

แต่แล้วความคิดของท่านประธานก็ล่องลอย...

ว่าแต่คำมรก็หน้าหวานดีนะ อันที่จริงคำมรตัวจริงผิดไปจากภาพลักษณ์ที่เขาคิดมาตลอด เขานึกว่าฝ่ายนั้นจะเป็นทายาทตระกูลไฮโซที่เอาแต่ใจ ชอบดูถูกคนอื่น แถมทำตัวไม่เป็นโล้เป็นพายเสียอีก แต่คำมรที่เขาเห็นกลับดูสงวนทีท่า ภาษากายตอนมองเขากลับก็ไม่ได้ดูกลัวหงอ แต่เหมือนมีท่าทางครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

ที่สำคัญแววตาคู่โตของไอ้คำมรสุกใสน่ามองอยู่เหมือนกัน แถมยังมีประกายบางอย่างที่ดู...จะพูดว่าอย่างไรดี น่าจะใช้คำว่าเฉลียวฉลาด และน่าสนใจ

ถ้าพูดอย่างยอมรับความจริงก็คือโดยรวมคำมรน่ารักน่ามองกว่าที่เขาคาดไว้เยอะเลย

เดวิสสั่นศีรษะ ไอ้บ้า คิดอะไรแบบนี้อีกแล้ว ไร้สาระจริง

คริสตินลูบเขาที่แผ่นหลัง "ส่ายหัวทำไมคะที่รัก"

"อ้อ เปล่าจ้ะ สะบัดที่คอเพราะมันตึง ๆ หน่อยเท่านั้น"

"เดี๋ยวทำให้หายตึงเอง" แล้วเธอก็หัวเราะคิก ๆ อย่างเจ้าเล่ห์

เขาเลยกระชับเอวของคริสตินแน่นขึ้น หยุดเดินครู่หนึ่งเพื่อใช้สองมือโอบที่แก้มแล้วประทับริมฝีปากกับเธออย่างดูดดื่มขณะเดินไปตามวอล์กเวย์

+++++

ในห้องพักของเขา ตอนนี้คริสตินอยู่ในห้องน้ำ

ร่างกายท่อนบนของเขายังเปลือยเปล่า เขากึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียง หมอนสีขาวใบใหญ่รองข้างหลัง ทั้งตัวสวมเพียงกางเกงในบ็อกเซอร์เท่านั้น

เขาหลับตา นึกย้อนภาพเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านไปเมื่อครู่

ทันทีที่ก้าวข้ามประตูเข้ามา ด้วยความร้อนรุ่มกำหนัดห้ามตัวเองไม่อยู่ของเดวิส คริสตินยังไม่ทันได้นั่งพักเป็นเรื่องเป็นราวในห้องสวีตแห่งนี้เลยด้วยซ้ำ เขาก็จับไหล่เธอ เอามือสอดเข้าไปใต้ชายเสื้อเชิ้ตตัวยาวซึ่งเธอใส่กางเกงขาสั้นบาง ๆ สีขาวเอาไว้ เขาขยับปลายนิ้วไม่กี่ที กางเกงขาสั้นและกางในของเธอก็ลงไปกองตรงข้อเท้า แล้วมือใหญ่ของเขาก็ตะกรุมตะกรามอย่างร้อนรุ่มไปยังพื้นที่สามเหลี่ยมตรงหว่างขาของเธอทันที

เธอช้อนตามองเขาอย่างงุนงงเล็กน้อย ขนตางอนหนากะพริบสองสามที นั่นราวกับการขยับปีกของผีเสื้อ แต่แล้วริมฝีปากสีแดงสดของเธอก็คลี่ออก ฟันขาวสะอาดซี่เล็ก ๆ ของเธอมอบรอยยิ้มเปล่งประกาย เขาเห็นกระทั่งรอยย่นเล็ก น้อยตรงหางตาของเธอด้วยซ้ำ เธอตามใจเขาเสมอในเรื่องแบบนี้

ต่อมาไม่นานเธอมานั่งคร่อมตักของเขา เสียงครางกระเส่าของฝ่ายถูกกระทำดังขึ้นไม่ขาดเสียง

"โอ โอ้ โอ้ว ดาร์ลิง วันนี้ทำไมร้อนแรงจังคะ"

แม้ปากจะพูดแบบนั้น แต่มือเธอลูบคลำไปที่แผงอกชื้นเหงื่อของเขาอย่างสุขสม

เขาไม่ตอบ อันที่จริงคือไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรตั้งแต่เริ่มบรรเลงลีลาด้วยซ้ำ เขาแค่นั่งบนเก้าอี้นวม แล้วก็จับเธอมานั่งตัก เสื้อเชิ้ตของเธอยังรั้งติดกายเพราะเธอติดกระดุมแขนเสื้อไว้ แต่กระดุมหลายเม็ดตรงสาบเนื้อถูกปลดออก

ทรวงอกขาวเนียนราวกับดอกบัว มันกระเพื่อมไหวตามจังหวะที่เขากระแทกกระทั้น เขาประกบปากลงไปที่ยอดถัน ดูดดึงคลึงตรงเม็ดเนื้อด้วยลิ้นและฟัน คริสตินกรีดร้องเสียงแหลม

"อู๊ย โอ๊ย อึก ดีเหลือเกินที่รัก อา อ๊า อ๊า"

ช่องทางของคู่หมั้นของเขายิ่งเปียกชื้น เขาจับเอวเธอไว้แล้วผลักดันให้ลำตัวของเธอขยับขึ้นลงเร็วขึ้น แรงขึ้นอีก

เสียงต้นขาที่แข็งแรงกระทบกับเนื้อตรงบั้นท้ายของเธอที่อ่อนนุ่ม สอดประสานกับเสียงร้องของคริสติน

"อ๊ะ ๆ โอ๊ย อ้า แรง ๆ เลย ดีจังเลยค่ะที่รัก"

พอทำไปสักพักเหมือนท่านี้จะทำให้เขาไม่เต็มอิ่ม ท่านประธานเลยจับที่สะโพกของเธอยกขึ้นจากท่อนเนื้อของเขา ร่างกายเธอเล็กและบอบบางจนเขาอุ้มได้สบาย พอเขาวางลงบนพื้น เธอก็ถูกรุนหลังไปติดหน้าต่าง

แก้มกับสองมือของเธอทาบที่กระจก ริมฝีปากแดงเผยออ้า ตาเธอหลับพริ้ม ที่อยู่เลยกระจกออกไปคือวิวทะเลสีครามอันงดงาม

เขากดข้อมือทั้งสองของเธอบนนั้น กระจกนั้นอุ่นเล็กน้อยด้วยการแผ่รังสีความร้อนจากข้างนอก ข้อมือขาวบอบบางของเธอถูกตรึงแน่นตรงนั้นราวกับถูกตอกตะปูไว้ เขาเอื้อมมือไปปลดกระดุมแขนเสื้อให้เธอ แล้วอีกแค่นาทีเดียว เดรสเสื้อเชิ้ตตัวนั้นก็หลุดออกจากตัวเธอทั้งหมด

ต่อมาก็คือเสียงหลายเสียงที่สอดแทรกดังไปพร้อมกัน

ตับ ๆๆ

"อ๊ะ โอ๊ะ อึก โอ้ โอว อูย"

เสียงเนื้อที่ต้นขากระแทกบั้นท้ายขาวสะอาดอ่อนนุ่มของคนข้างหน้าดังหนักหน่วงเป็นจังหวะถี่กระชั้น ฟังแล้วได้อารมณ์วาบหวิว

อีกแค่ไม่กี่นาทีต่อมาเขาก็แทบทนไม่ไหว

"อ๊าก ผมจะเสร็จแล้ว" เขาคำรามเสียงดังอย่างไม่เก็บกลั้น

"อู้ว โอ๊ย เดวิสค่ะ ต่ออีกหน่อย คริสยังไม่..."

แต่ดูเหมือนจะไม่ทันแล้ว เพราะเดวิสส่งเสียง ฮึก... จากนั้นเขาก็ซบหน้าลงกับไหล่ขาวเนียนของคนตรงหน้า

+++++

กลับมาสู่เหตุการณ์ปัจจุบัน เดวิสเหม่อมองขึ้นไปที่เพดานห้องสีขาว

เขาใช้มือแตะเบา ๆ ที่อวัยวะตรงนั้น เมื่อครู่เขาเพิ่งหลั่งน้ำกามออกไป มันมากพอสมควรเพราะเขาไม่ได้ระบายมันออกหลายวันแล้ว

เขาถอนใจ ปกติหลังการร่วมรักกับคริสติน เขาจะรู้สึกปลดปล่อย เบาเนื้อตัว สมองโล่งเลยทีเดียว แต่ทำไมครั้งนี้ตรงนี้ยังปวดหนึบ ๆ รู้สึกได้เลยว่าภายในยังคงร้อนรุ่ม ไม่สบายเนื้อสบายตัวเอาเสียเลย เขาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน มันเกิดจากอะไรกันแน่

เขาถอนใจอีกรอบ ลองหลับตา หายใจเข้าลึกออกยาว เพื่อรวบรวมสติ บางทีเขาอาจแค่เครียดมากไป

แต่พอหลับตา หายใจเข้าออกช้า ๆ เขากลับหวนนึกถึงเรื่องเก่า ก็เหตุการณ์ที่เขายื่นหน้าไปจนชิดไอ้คำมรศัตรูของเขาไง พอคิดเรื่องนี้แล้วราวกับข้างในเส้นประสาทสมองของเขาเกิดการสปาร์ก และแล้วทุกความรู้สึกก็กลับมา

ส่วนหัวของอวัยวะตรงนั้นกระตุกน้อย ๆ อันเนื่องจากความคิดบางอย่างในหัวของเดวิส ซึ่งทำให้เขาลืมตัวเผยอปากขึ้นเล็กน้อย เป่าลมหายใจออกทางปากช้า ๆ ตายังหลับ เล็บมือมน ๆ ของเขาเขี่ยเบา ๆ ที่ตรงปลายดุ้นเนื้อใต้กางเกงในบ็อกเซอร์ เขาทำลงไปโดยไม่รู้ตัว

เรือนร่างที่มีแรงดึงดูดอย่างประหลาด ผิวขาวเนียนจนเกือบโปร่งแสง ใบหน้าสว่างราวกับหลอดไฟ ตาคู่สวย ริมฝีปากอิ่มที่เผยอน้อย ๆ เต็มไปด้วยแรงปลุกเร้าทางเพศ

เดวิสรู้สึกตัว ลืมตาขึ้น สักพักเขาต้องเอาสองมือกุมที่ศีรษะทีเดียว จากนั้นก็ซุกหน้าลงกับฝ่ามือ เขาสูดลมหายใจสองสามทีจากในนั้น แล้วก็เงยหน้าขึ้น

เกิดความรู้สึกบาดลึกบางอย่างเสียดแทงอยู่ในอกเมื่อครู่ เป็นความรู้สึกที่กระเพื่อมไหวราวกับหมอกลอยเรี่ยเหนือยอดเขา มันสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนปริ่มขอบ จนตอนนี้มาแตะแถวลำคอของเขา

+++++

อีกไม่นานเขาก็เก็บของส่วนตัวเพียงเล็กน้อยใส่ในกระเป๋าสะพาย ส่วนเสื้อผ้าและข้าวของชิ้นใหญ่เขาทิ้งไว้ที่นี่

ขณะเขากับคริสตินเดินไปตามวอล์กเวย์เพื่อไปยังจุดขึ้นเฮลิคอปเตอร์ คริสตินก็ขอหยุดสักพัก เธอขอให้เขาช่วยถ่ายรูปของเธอโดยมีวิวแท่นขุดเจาะเป็นพื้นหลัง เธอให้เหตุผลว่าถ้าถ่ายจากมุมนี้ จะเห็นแท่นย่อยต่าง ๆ ของอัญชันเรียงตัวโดยมีทางเชื่อมวอล์กเวย์ทาสีเหลืองเป็นเส้นนำสายตา

เขามองคู่หมั้นคนสวยโพสท่าผ่านหน้าจอโทรศัพท์ นั่นเลยทำให้เดวิสเห็นสิ่งหนึ่ง ตรงดาดฟ้าเล็ก ๆ ของอีกแท่นที่อยู่ติดกับที่ที่เขายืนอยู่

ร่างผอมผิวซีดกับผมซอยสั้นติดหนังศีรษะในรถเข็น มีไม้ค้ำวางอยู่บนตัก คำมรนั่นเอง

ร่างผอมนั้นใช้ไม้อันหนึ่งยันพื้นไว้ จากนั้นก็ดันตัวลุกขึ้นจากรถเข็นอย่างเชื่องช้า

'นี่ประมาณหนึ่งสัปดาห์ได้แล้วหลังจากนอนโคม่ามาเป็นปีสินะ' เดวิสคิด

แม้จะอยู่ท่ามกลางแดดจ้า แต่ร่างนั้นไม่หวาดหวั่น หนุ่มน้อยร่างบางสวมแค่หมวกแก๊ปสีขาวใบหนึ่งเท่านั้น คนร่างผอมพยายามเคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วยไม้ค้ำ เดวิสมองไม่เห็นใบหน้าของฝ่ายนั้นถนัด แต่ภาษากายการเคลื่อนที่ของคำมรนั้นดูมุ่งมั่นไม่ธรรมดา

ลมทะเลพัดมาวูบหนึ่งจากตรงที่คนนั้นยืนอยู่ มันมากระทบกับฆานประสาทของประธานหนุ่มจนใบหน้าหงายเริดไปด้านหลัง ไม่มีกลิ่นใด ๆ มากับลม แต่เดวิสแน่ใจว่าในลมนั้นมีอะไรบางอย่าง เป็นความรู้สึกแบบเดียวกับคืนนั้นที่ร่างกายเขาใกล้ชิดกับคำมรเป็นครั้งแรก เมื่อกี้เขารู้สึกถึงมันได้อย่างชัดเจนเลยทีเดียว

อะไรที่ว่าที่มากับลมทำให้เขาร้อนผ่าวจากข้างใน ทำให้เกิดความรุ่มร้อนจนบางอย่างขยายตัวดันกางเกงขึ้น

'ทำไมร่างกายกูถึงเป็นแบบนี้ละโว้ย'

เดวิสกลัวว่าสิ่งที่ปูดขึ้นมาเล็กน้อยใต้กางเกงสแล็กจะทำให้คริสตินสงสัย เขาเลยลดมือถือลง แล้วพยายามยืนห่อตัว เอาต้นแขนไปเหน็บไว้กลางลำตัว น่าทุเรศตัวเองจริง ๆ

"ถ่ายเสร็จหรือยัง" คู่หมั้นสาวของเขาถาม

"เรียบร้อยแล้วครับ" จากนั้นก็ส่งมือถือคืนให้

เธอรับไปดูที่หน้าจอ แล้วถึงกับห่อปาก อุทานร้องเสียงแหลม

"อุ้ย ดาร์ลิงถ่ายรูปสวยจัง เค้าดูดีมากเลย"

"ถ้างั้นเราไปกันเถอะ"

คริสตินยิ้ม ถือโอกาสเกาะแขนแล้วจูบที่ปากเขาดังฟอด เขาจูบตอบ แต่หางตากลับเหลือบไปยังหนุ่มน้อยคนที่มุ่งมั่นกับการฝึกเดินอย่างไม่ย่อท้อ

เขาไม่ได้คิดไปเอง แต่คำมรก็น่าจะมองมาเห็นที่เขาจูบกับคริสตินเมื่อกี้เช่นกัน

ขณะเดินโอบหลังคริสติน เขาก็ถอนใจเป็นรอบที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้ หลังจากเสร็จสมเมื่อไม่ถึงชั่วโมงที่ผ่านมา เขานึกว่าตัวเองจะดีขึ้นจากอาการงุ่นง่าน แต่นี่อะไรกัน แค่ลมแรงที่พัดโบกผ่านตัวคำมรมาถึงตัวเขาแค่นั้น ยังทำให้เขารู้สึกหนึบหน่วง

ตอนนี้เขาเริ่มไม่สบายใจแล้ว นี่ขนาดลมหอบกลิ่นของฝ่ายนั้นมาวูบเดียวแค่นั้น ยังทำให้เขารู้สึกได้ไม่ต่างจากตอนแอบเข้าไปในห้องพักของอีกฝ่ายเมื่อคืน

นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรกับเขากันแน่