ผมเดินผิวปากอย่างอารมณ์ดีออกมาจากห้องของเจ้าเรน แล้วก็นึกขึ้นได้ว่ายังมีอีกหนึ่งที่หมายที่จะต้องแวะ แต่แค่แวะเอาถุงของฝากไปคล้องไว้ที่ประตูเฉยๆก็คงพอ วันนี้ไม่ไหวแล้ว เหนื่อยมาก อยากจะเข้าห้องของผมแล้วตรงเข้าไปอาบน้ำใต้ฝักบัว แล้วก็คิดถึงใครบางคนให้ชุ่มฉ่ำชื่นหัวใจเสียที
โคตรคิดถึงเลย…
ทำไมผมคิดถึงคุณป้าเค้าขนาดนี้ คิดถึงทั้งวัน แม้จะงานยุ่งก็ยังแอบปลีกเวลาสองสามนาทีมาคิดถึงเป็นระยะๆ นี่เค้าจะเป็นไงบ้าง อยู่ที่นั่นคนเดียวอีกตั้งหลายวัน จะโดนฝรั่งจีบไหม หรือจะไปแอบหาเรื่องใครอีกหรือเปล่า นี่ผมวางแผนเอาไว้แล้วว่าหลังจากอาบน้ำเสร็จ ผมจะประแป้งทำตัวหอมๆแล้วก็จะโทรถึงเค้าทันที อยากนอนคุยกับคุณป้าเขาแบบสบายๆบนเตียงนอนนุ่มๆ จะได้คุยกันกระจุ๋งกระจิ่ง ได้หยอกล้อกันให้หายคิดถึง แล้วก็อยากบอกฝันดีก่อนนอน อยากจูจุ๊บเซย์กู๊ดไนท์กันถึงวินาทีสุดท้ายทางโทรศัพท์
โอย แค่คิดล่วงหน้าก็ฟินแล้ว…
ผมยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้กับตัวเองขณะกำลังบรรจงแขวนถุงของฝากไว้ที่ลูกบิดประตูห้องนอนอีกห้องข้างๆห้องนอนของพ่อผม ทันใดนั้นบานประตูก็ถูกเปิดผลัวะออกมาโดยที่ผมไม่คาดคิด เล่นเอาผมสะดุ้งถุงของฝากเกือบหลุดมือ
"นึกอยู่แล้วว่าต้องเป็นคุณเซน ได้ยินเสียงรถแท็กซี่มาจอดหน้าบ้าน" เจ้าของห้องเขายืนยิ้มเผล่ ส่งเสียงมาด้วยน้ำเสียงแจ่มใส
"เอ้อ คุณมะพร้าว ยังไม่นอนอีกหรือครับนี่" วันนี้เหมือนว่าคนทั้งบ้านเขาจะรอคอยการกลับมาของผม
"ก็ผมรอคุณเซนอยู่น่ะครับ คิดถึง ไม่เจอกันตั้งหลายวัน"
คุณพ่อบ้านเข้าตรงเข้าสวมกอดผมอย่างไม่มีเคอะเขิน ผมจึงต้องโอบตอบพลางแตะหลังแกเบาๆ ยามเราอยู่กันตามลำพังคุณมะพร้าวเขามักจะแสดงความรักความห่วงใยต่อผมอย่างเปิดเผย แต่ต่อหน้าคนอื่นๆในครอบครัว เขาค่อนข้างจะสงวนท่าที ผมรู้ว่าเขาไม่อยากให้พ่อของผมเกิดอาการน้อยใจ ผมและคุณมะพร้าวเราสนิทกันอยู่ลึกๆ ชายสูงวัยคนนี้เป็นเสมือนพ่อคนที่สองของผม เห็นผมตั้งแต่เกิด ดูแลเอาใจใส่ในทุกรายละเอียดของผมยิ่งกว่าพ่อแท้ๆ อยู่ข้างๆผมในทุกคราวที่ผมต้องการ
คุณมะพร้าวเขามีห้องนอนอยู่บนชั้นสองของบ้านเช่นเดียวกับพวกเรา หลังจากแม่ของผมจากไป พ่อก็แปลงห้องทำงานเล็กๆของแม่บนชั้นสองนี่ให้เป็นห้องนอนของคุณเขา 'อยู่ใกล้ๆกัน เผื่อมีอะไรจะได้เรียกหากันได้สะดวก' ผมรู้ว่าพ่อหมายถึงตัวคุณมะพร้าวเองที่อาจต้องการเราเมื่อถึงเวลา เพราะคุณพ่อบ้านของเราคนนี้อายุอานามไม่ได้ต่างจากพ่อของผมเท่าไหร่เลย แต่ถึงกระนั้นก็ยังสุขภาพแข็งแรงดีมาก ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ
"แหม ผมไปไม่กี่วันเองครับ"
นี่ผมแค่ไปเที่ยวสี่ห้าวัน พวกเขาคิดถึงผมกันขนาดนี้ แล้วตอนที่ผมไปอยู่ญี่ปุ่นเป็นปีๆล่ะ พวกเขาไม่ต้องนอนร้องไห้กันเลยรึ
"ตอนคุณเซนอยู่ญี่ปุ่น ตอนนั้นบ้านเหงาแทบแย่"
วุ้ย อ่านใจผมออกอีก บ้านนี้ทั้งบ้านเป็นอะไรกันนี่ อ่านใจผมออกกันหมดทุกคนเลย หน้าตาผมมักจะแสดงอาการความรู้สึกเด่นชัดขนาดนั้นเลยรึ
"ทุกครั้งเวลาคุณเซนกลับมาเยี่ยมบ้าน มันเป็นเวลาที่พวกเรามีความสุข และพอถึงวันที่คุณเซนต้องกลับไปญี่ปุ่น มันก็จะใจหาย เพราะรู้ว่าเราต้องจากกันอีกนาน คราวนี้พอคุณเซนกลับมาอยู่กับพวกเราจริงๆ เรายังดีใจจนคิดว่ามันคือฝันไป และถึงจะรู้ว่าคุณเซนไปบาหลีแค่ไม่กี่วัน ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมความรู้สึกเดิมมันดันกลับมา ความรู้สึกที่ว่าคุณเซนอาจจะจากพวกเราไปนานๆอีก"
น้ำเสียงนั้นเจือไปด้วยความคิดถึงและความใจหายจริงๆ ผมมองคนตรงหน้าด้วยความรู้สึกตื้นตัน ชายสูงอายุตัวเล็กผอมเกร็ง ผิวคล้ำและหลังค่อม แต่ท่าทางกระฉับกระเฉงและขยันอยู่ตลอดเวลา ชายคนที่ผมเห็นเขาตั้งแต่เกิด คนที่เป็นคนสำคัญอีกคนหนึ่งในชีวิตของผม คนที่อยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับครอบครัวของเราเสมอมา แม้เขาจะต่างสายเลือดกับพวกเรา แต่ผมแน่ใจว่าเขารักครอบครัวของผมไม่ต่างไปจากคนในสายเลือดของเขา
"นี่ผมมีของมาฝากคุณมะพร้าวด้วยน้า เสื้อบาติกสีสวยสด เอาไว้ใส่คู่กับคุณราเชนทร์เขา"
ผมกลบเกลื่อนอาการน้ำตาซึมที่ปลายหางตาของตนเองด้วยการชูถุงของฝากในมือ รู้ตัวดีว่าไม่ถนัดกับการต้องตกอยู่ในสถานการณ์ซาบซึ้งตรึงจิตเท่าไหร่นัก
"เสื้อของคุณมะพร้าวเป็นรูปต้นมะพร้าวพร้อมกับชายหาดและแสงจันทร์ ส่วนของคุณราเชนทร์เขาเป็นรูปดอกชบาสีเหลืองแดงและส้ม" ผมแจงลายเสื้ออย่างละเอียดด้วยความภาคภูมิใจ เพื่อ?
...เอ่อ คงเพื่อต้องการจะเบี่ยงเบนประเด็นเรื่องความซึ้งมั้ง
"ดีจังเลยครับ ผมจะได้นัดกับคุณท่าน ใส่ไปหัวหินพร้อมกัน" คนตรงหน้ารับถุงกระดาษจากมือของผมแล้วเปิดดู ก่อนจะแสดงอาการดีอกดีใจกับของฝาก คุณมะพร้าวเขารู้จักผมดีแหละว่าผมไม่ชอบสภาวะดราม่า
แต่นี่ใจคอสองคนนี้พ่อผมกับคุณมะพร้าวเขาไม่คิดจะไปเที่ยวที่อื่นกันนอกจากหัวหินเลยเรอะ สมกับเป็นคนสนิทของกันและกันจริงๆ
"คุณมะพร้าวเข้านอนเถอะครับ ผมไม่กวนแล้ว" ผมพยายามตัดบทอย่างเนียนๆ อยากจะไปอาบน้ำแล้วก็โทรหาคุณลินใจจะขาดแล้ว
"เอ่อ… ความจริง… ผมมีเรื่องสำคัญอยากจะคุยกับคุณเซน"
ห้ะ อย่าบอกนะ ว่าเป็นเรื่องของคุณลินอีก!
"เอาไว้คุยกันพรุ่งนี้นะครับ" ผมเอื้อมมือไปลูบหลังชายชราอย่างอ่อนโยน รู้ว่าที่คุณมะพร้าวเขาไม่ยอมเข้านอนก็เพื่ออยู่รอคุยกับผม แต่วันนี้ผมคุยเรื่องคุณลินไม่ไหวแล้วจริงๆ
"คือ…" ฝ่ายนั้นลังเลอึกอัก "ผมใจร้อน อยากบอกคุณเซนมากๆ ผมไปเจอใครคนหนึ่งมาโดยบังเอิญครับ"
"ครับ เจอคนเยอะๆก็ดีครับ คนเราต้องมีสังคมภายนอก ต้องพบปะโลกกว้างครับ ไว้คุยกันครับ ผมไปนอนล่ะนะครับ" ผมไม่ได้ใส่ใจสิ่งที่คุณมะพร้าวอยากจะบอก วันนี้ผมเหนื่อยแล้วจริงๆ
"เอ่อ ครับ งั้นคุณเซนไปนอนเถอะ ไว้เรื่องนี้เราค่อยคุยกันวันหลังก็ได้ครับ" อีกฝ่ายต้องยอมจำนนเมื่อเห็นสีหน้าที่เริ่มจะเรียบเฉยของผม
เป็นอันรู้กันทุกคนรู้ว่าสีหน้านี้ของผมคือการตัดบทโดยไม่มีข้อแม้
แม้ผมจะรักและเกรงใจคุณมะพร้าวมากแค่ไหน แต่วันนี้ผมขอหนึ่งวัน ผมอยากมีเวลาส่วนตัวแล้ว และที่สำคัญอยากจะคุยกับคุณลินก่อนนอนด้วย ขอโทษด้วยนะครับคุณมะพร้าว…
และในที่สุดผมก็ได้ยืนอยู่ใต้ฝักบัวสมใจปรารถนาเสียที อา สายน้ำอันชุ่มชื่น ผมชอบการอาบน้ำ ชอบการปล่อยให้สายน้ำไหลชโลมไปทั่วร่างกาย ผมชอบน้ำ…
ผมมักใช้เวลาใต้ฝักบัวครุ่นคิดเรื่องต่างๆเป็นเวลานานๆ มันเป็นเวลาส่วนตัวของผมจริงๆ เป็นเวลาที่ได้อยู่กับตัวตนของผมเอง ได้เปลือยทั้งกายและเปลือยทั้งใจของตัวเอง
ซึ่งในตอนนี้… ใจของผมกำลังโดนเปลือยด้วยฝีมือของผู้หญิงคนหนึ่ง
ยามอยู่กับเธอผมไม่เคยต้องพยายามฝืนตัวเอง เธอปล่อยให้ผมได้เป็นตัวของตัวเองอย่างเต็มที่ ในฐานะเจ้านายกับลูกน้องคุณลินดูจะขี้งอนและมีคาดหวังสูงกับผม แต่ในฐานะเพื่อน เธอคือเพื่อนที่เพอร์เฟค เพื่อนที่เข้าอกเข้าใจ ผมสามารถจะสลัดทุกบทบาทของตัวเองทิ้งไปได้ บทบาทที่หนักอึ้งยามเมื่ออยู่ในกรุงเทพ บทบาทในการเป็นลูกที่เอาการเอางานของพ่อ เป็นพ่อผู้เอาใจใส่ลูกชาย เป็นผู้นำที่ดีของพนักงานในบริษัท หรือเป็นผู้ชายที่ดีของน้องพลอย
สามวันเต็มที่ได้ร่อนเร่ไปตามที่ต่างๆในบาหลีกับผู้หญิงคนนี้ช่างเป็นช่วงเวลาที่พิเศษสุด เรากลับไปเป็นเหมือนหนุ่มสาววัยรุ่นอีกครั้ง ทำทุกอย่างที่อยากทำ เหมือนผมได้กลับไปเป็นไอ้เซนคนเดิม คนที่นั่งสูบบุหรี่ข้างถนน คนที่พูดจาหยาบคาย คนที่หัวสมองว่างเปล่าและไร้สาระ และกลางคืนผมก็กลายเป็นเซนผู้บ้าคลั่ง และคุณลินเธอก็ตอบสนองผมได้ดี ผมต้องการร่วมรักกับเธออย่างไม่หยุดหย่อน ผมอยากมีเธออยู่ใกล้ๆตลอดเวลา
ผมยอมรับว่าผมหลงคุณลินเอามากๆแม้เธอจะไม่ใช่ผู้หญิงที่สวยจัด ซึ่งเอาจริงแล้วเมื่อเทียบกับน้องพลอย คุณลินเธอแพ้ราบคาบเรื่องนี้ น้องพลอยสวยน่ารักและมีจริตหญิงมากกว่าคุณลินมากมาย ในสายตาผมแล้วนับว่าคุณลินเป็นผู้หญิงหน้าตาธรรมดาๆเสียด้วยซ้ำ รูปร่างก็ผอมไปนิด หน้าอกหน้าใจก็แทบไม่มี แถมบางครั้งยังแต่งตัวเชยหน่อยๆ แต่คุณลินก็เป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์มากสำหรับผม คงเป็นเพราะเธอยิ้มเก่ง เธอหัวเราะเก่ง อารมณ์ดีตลอดเวลา และมีน้ำใจเผื่อแผ่ให้คนรอบข้าง อยู่กับคุณลินแล้วสบายใจ อ้อ ผิวสองสีของเธอก็นวลเนียนดี บัดนี้ได้ยาวลงมาคลอเคลียไหล่ผอมๆนั่นแล้ว ซึ่งในบางครั้งเธอก็รวบมันขึ้นไปเป็นหางม้า เผยให้เห็นลำคอเนียนๆ โคตรเซ็กซี่…
โอย คิดถึงมาก รีบออกไปโทรหาคุณป้าดีกว่า ยืนแช่ฝักบัวจนชุ่มฉ่ำใจแล้วนี่
เมื่อคิดได้ดังนั้นผมจึงออกมาจากห้องน้ำแล้วรีบลงมือแต่งตัวอย่างรวดเร็ว เมื่อเสร็จจึงเดินปรี่ไปที่โต๊ะเล็กข้างหัวเตียงในทันที ก่อนจะอาบน้ำผมได้ส่งเมสเสจไปบอกคุณป้าเขาว่าขออาบน้ำแป๊บนึง แล้วจะได้ตัวหอมๆมาโทรคุยกับเขา ไม่รู้เขาได้อ่านข้อความของผมหรือยัง วันนี้ทั้งวันเราไม่ได้คุยกันเลย ผมยุ่งมาก ส่วนเธอก็ส่งเมสเสจสั้นๆมาถึงผมเมื่อตอนบ่ายถามว่าถึงกรุงเทพเรียบร้อยแล้วใช่ไหม ผมก็ตอบไปสั้นๆว่า 'เรียบร้อยแล้วครับ คิดถึงมาก'
แต่ในจังหวะที่ผมกำลังจะเดินถึงโต๊ะหัวเตียงนั้น พลันก็มีสายเรียกเข้ามา ผมยิ้ม คุณป้าเขาคงจะโทรมานั่นล่ะ คิดถึงผมเหมือนกันล่ะซี้ ผมรีบเอื้อมมือไปที่โทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะนั่นอย่างรวดเร็ว
ปรากฏว่าเป็นน้องพลอย…
อะไรกันวะเนี่ย วันนี้ทำไมมีคนอยากจะคุยกับผมนัก เอ จะรับหรือไม่รับดี ถ้าต้องคุยกับน้องพลอยอีกก็กลัวว่าคุณป้าเขาจะคอย แล้วอีกอย่างผมก็รู้สึกฉุนๆเล็กน้อยที่น้องพลอยโทรหาผมดึกๆแบบนี้ นี่น้องเค้าไม่คิดบ้างหรือว่าผมน่าจะเหนื่อยจากการเดินทาง และก็น่าจะเข้านอนไปแล้ว หรือไม่ก็น่าจะอยากพักผ่อนมากกว่ามาคุยโทรศัพท์
แต่เสียงเรียกเข้านั้นก็ยังดังไม่ยอมหยุด
เออ เออ รับหน่อยก็ได้มั้ง สงสารน้องเขา วันนี้น้องพลอยพยายามจะเข้ามาคุยกับผมทั้งวัน ผมก็ได้แต่บอกปัดไม่ว่าง เพราะงานยุ่งจริงๆ
ท้ายสุดผมก็ตัดสินใจกดรับสายวิดีโอคอลนั้น ดีเหมือนกันจะได้ถือโอกาสพูดตรงๆให้เธอเลิกโทรหาดึกๆอย่างนี้เสียที
"พี่เซนนอนยังคะ เหนื่อยหรือเปล่า" เสียงใสๆนั้นทักทายมา น้องพลอยอยู่ในชุดนอนน่ารักเช่นเคย นี่ขนาดไม่มีเครื่องสำอางหน้ายังสวยคมใสกิ๊กขนาดนี้ บางทีผมก็นึกเสียดายตัวเองว่าทำไมไม่คิดจะรักคนสวยๆแบบนี้บ้างวะ
"พี่เพิ่งอาบน้ำเสร็จน่ะครับ ว่าจะนอนละ เหนื่อยมาก" ผมตอบเธอไปด้วยสีหน้าเรียบๆ
"วันนี้พลอยหาโอกาสคุยกับพี่เซนไม่ได้เลยค่ะ เห็นพี่เซนยุ่งทั้งวัน"
"ครับ ก็มีงานที่ต้องสะสางเยอะมาก"
"พี่เซนไม่อยู่หลายวัน รู้มั้ยคะว่าพลอยคิดถึงพี่เซนมากแค่ไหน"
"เอ่อ.. ไม่รู้เป็นไรครับ ช่วงนี้พี่ฮอตมาก นี่คนบ้านนี้ทั้งบ้านเขาก็คิดถึงพี่เหมือนกัน" ผมพยายามเฉไฉไปเรื่อยเปื่อย
"แล้วพี่เซนไม่คิดถึงพลอยบ้างหรือคะ" แต่น้องพลอยเขาก็ยังพยายามหยอดกลับมา
"เอ่อ… พี่ก็คิดถึงทุกคนล่ะครับ คิดถึงคุณราเชนทร์ คิดถึงเจ้าเรน คิดถึงคุณมะพร้าว แล้วก็คิดถึงพนักงานในบริษัทเราทุกคน" ผมก็พยายามเลี่ยงไปอีก
โอย ผมไม่อยากเล่นเกมหยอกเอินนี่แล้ว ผมอยากจะไปโทรหาคุณป้าเค้าแล้ว
"คือ… น้องพลอยครับ ไว้เราคุยกันพรุ่งนี้นะครับ พี่เหนื่อยมาก พี่ว่าจะเข้านอนแล้วครับ" ผมตัดสินใจตัดบท แต่ยังไม่ถึงขั้นทำสีหน้าเรียบเฉยขนาดนั้น
"พี่เซนจะรีบเข้านอน หรือจะรีบไปโทรหาพี่ลินกันแน่คะ"
เฮ้ย รู้ความในใจผมได้ไงเนี่ย ทำไมทุกคนเดาใจผมออกกันหมดเลยวะ
"พี่เซนชอบพี่ลินหรือคะ"
คำถามที่ตรงไปตรงมานั้นทำเอาผมอึ้งไป นี่น้องพลอยไปสังเกตมาตอนไหนว่าผมกับคุณลินชอบกัน ผมว่าผมไม่เคยแสดงอาการในออฟฟิศเลยนะ
"น้องพลอย..." ผมพยายามทำเสียงเหมือนว่าไม่อยากจะพูดเรื่องนี้
"พี่เซนไม่เคยขาดงานกะทันหัน แล้วที่พี่เซนหายไปเมื่อวาน ทั้งบริษัทเค้าก็รู้กันแหละค่ะว่าพี่เซนไปกับพี่ลิน แล้วยิ่งพี่ลินเป็นคนส่งรูปที่พี่เซนถ่ายกับพี่โป๊ปมาให้คุณเยลลี่อีก พี่เซนรู้ตัวไหมคะ คนเขาลือเรื่องของพี่เซนกับพี่ลินกันทั้งออฟฟิศ"
ผมถอนหายใจ เริ่มรู้สึกไม่พอใจนิดๆที่น้องพลอยเริ่มก้าวข้ามมารุกล้ำเรื่องส่วนตัวของผม ถึงเราจะสนิทกันตั้งแต่เด็กก็ตาม แต่ผมก็ไม่ใช่คนประเภทจะเล่าเรื่องของตัวเองให้ใครฟังง่ายๆ
"น้องพลอยครับ พี่เหนื่อยแล้ว พี่อยากเข้านอนแล้วครับ" ตัดบทไปอีกที
"พี่เซน... พี่เซนก็รู้ว่าพลอยคิดยังไงกับพี่เซน พลอยรอพี่เซนมาตลอดสิบห้าปี" น้ำเสียงนั้นเริ่มสั่นเครือ
"น้องพลอย..."
ผมไม่ชอบอารมณ์แบบนี้เลยจริงๆ แม้จะรู้มาตลอดว่าสักวันหนึ่งมันอาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งผมก็ได้แต่ภาวนาให้น้องพลอยเขาเจอผู้ชายดีๆคนอื่นๆไปก่อน ก่อนที่เราจะต้องมาพูดเรื่องแบบนี้กัน…
แต่น้องพลอยยังไม่ยอมหยุด สายตาที่น้องเค้ามองผมนั้นเต็มไปด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ
"พี่ลินเค้าแก่กว่าพี่เซนตั้งเยอะ แล้วที่ผ่านมาเค้าเองก็มีแฟนเก่ามาหาถึงที่ทำงานบ่อยๆ นี่แปลว่าพี่ลินเค้าตั้งใจจะคบซ้อนหรือเปล่าคะ ความจริงพี่ลินก็อายุเยอะแล้ว เรื่องแบบนี้น่าจะวางตัวให้ดีหน่อย"
"พลอย!"
ผมเรียกเธอด้วยเสียงเรียบ และใช้อาการนิ่งเงียบเป็นการส่งสัญญาณว่าผมไม่พอใจและไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะพูดคุย เรื่องของคุณลินและผมเป็นเรื่องของเราสองคน ผมตัดสินใจเองได้
"พลอยรักพี่เซน รักมาตลอด พลอยไม่เคยสนใจผู้ชายคนอื่น พลอยรอพี่เซนคนเดียว" คำสารภาพรักและหยาดน้ำตาที่เริ่มไหลหลั่งรินจากดวงตาคู่สวยนั้นทำเอาผมรู้สึกแย่
"พี่..."
มันเป็นคำสารภาพรักที่ผมไม่เคยอยากได้ยิน…
"ตอนพี่เซนอยู่ญี่ปุ่นพลอยก็ดูแลครอบครัวของพี่เซนให้เป็นอย่างดี พลอยเข้าทำงานที่นี่ก็เพราะอยากช่วยพี่เซนบริหารงาน พลอยทำทุกอย่างก็เพื่อพี่เซน เพราะพี่เซนคือคนสำคัญในชีวิตของพลอย"
"…"
ผมปล่อยให้น้องเขาระบายความในใจด้วยสายตาของความเห็นใจ รับรู้ทุกอย่างที่เขาพูดมา แต่เรื่องของความรักมันไม่ใช่เรื่องของการตอบแทนความดี และโดยเฉพาะกับผู้ชายอย่างผม
"พี่เซนเคยเห็นพลอยอยู่ในสายตาบ้างไหมคะ ทำไมคะ พลอยไม่ดีตรงไหน พลอยผิดอะไร พลอยเทียบกับพี่ลินไม่ได้ตรงไหน" ใบหน้าสวยหวานบัดนี้เลอะไปด้วยคราบน้ำตา
แต่คำถามคาดคั้นที่พาดพิงไปถึงคุณลินนั้นทำให้ผมไม่สบายใจ และคงต้องเริ่มพูดอะไรที่มันน้ำเน่าออกไป
"เอ่อ… พี่… พี่ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมา"
และก็ต้องคิดต่อไปถึงประโยคปลอบใจที่เคยๆได้ยินมา จะเลือกใช้ประโยคไหนดีวะ
แต่พี่อยากให้น้องพลอยได้เจอกับผู้ชายที่ดีกว่าพี่
น้องพลอยเป็นผู้หญิงที่เพียบพร้อมน่ารัก คงจะมีผู้ชายอีกมากมายที่เขาอยากจะเข้ามาดูแลน้องพลอย
เรามาเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิมเถอะนะครับ พี่เห็นน้องพลอยเป็นน้องสาวคนสนิทของพี่เสมอ
น้องพลอยดีเกินไป พี่มันชั่ว พี่รู้พี่มันเลว
เอาไงดีหว่า…
แต่แล้วก็ผมตัดสินใจวินาทีสุดท้าย ตรงเข้าประเด็นโดยไม่อ้อมค้อมอีกต่อไปจะดีที่สุด
"แต่พี่ไม่ได้รักน้องพลอยนะครับ"
ผมไม่สามารถพูดคำพูดน้ำเน่าได้เกินหนึ่งประโยคจริงๆว่ะ ตัดจบความอึดอัดนี้ที่มีมาตลอดตั้งแต่กลับมาอยู่เมืองไทยเสียที
"แล้วเราก็ไม่ควรจะโทรคุยกันดึกๆอย่างนี้อีกแล้ว"
"พี่เซนนนนน...." เสียงร้องไห้โฮเหมือนจะขาดใจที่ดังออกมาจากคนในจอมือถือนั่นทำเอาผมรู้สึกแย่ นี่ผมใจร้ายเกินไปหรือเปล่าวะ ผมพูดตรงเกินไปหรือ
แต่ผมคุยกับน้องพลอยอย่างนี้ไม่ได้อีกต่อไปแล้วจริงๆ ผมมีใครคนอื่นอยู่ในใจที่ผมเริ่มจะเกรงใจเค้า ถ้าคุณลินรู้ว่าผมยังคุยกับน้องพลอยดึกๆก่อนเข้านอนแบบนี้ คุณลินเค้าจะคิดยังไง แม้ผมจะยังไม่เคยสารภาพความในใจกับเธออย่างเป็นทางการ แต่มาจนถึงขนาดนี้แล้ว ผมว่าคุณลินก็น่าจะรู้ว่าผมรู้สึกยังไงกับเขา
"น้องพลอย… พี่ขอโทษ แต่พี่เหนื่อย พี่ง่วงจริงๆครับ เอาไว้เราค่อยคุยกันนะครับ แค่นี้ก่อนนะครับ"
แล้วผมก็เริ่มที่จะทำสีหน้าเรียบเฉยขั้นสุด และก็แน่นอนว่าถ้าน้องพลอยเขารู้จักผมดี เขาควรจะรู้ว่าถึงเวลาที่ผมต้องการจะตัดบทแล้ว และก็ไม่มีใครจะขัดใจได้
"พี่เซน…" น้ำเสียงนั้นใจหายอย่างเป็นที่สุด
"…"
"พี่เซน…"
"…" ผมมองหน้าเธอนิ่งๆ
"งั้นแค่นี้ก็ได้ค่ะ แต่พลอยอยากจะเตือนพี่เซนเอาไว้ ว่าพี่เซนจะต้องเสียใจ กู๊ดไนท์ค่ะพี่เซน" แล้วน้องพลอยก็ยอมวางสายไปพร้อมน้ำตา
ผมรู้ว่าการกระทำของผมมันโหดร้าย ไม่มีมารยาท นิสัยไม่ดี ไม่สนใจความรู้สึกของน้องพลอย และน้องเขาก็คงโกรธเอามากๆ แต่คุณลินกำลังจะกลายเป็นคนสำคัญในชีวิตของผมอีกคนหนึ่ง ผมคงต้องจัดอันดับให้เวลาเขาก่อนน้องพลอย ป่านนี้คุณลินคงจะคอยผมจนหลับคามือถือไปแล้วแน่ๆ เขาจะโกรธไหมนะที่ผมไม่ยอมรีบโทรหาเขา แต่ผู้หญิงก็อย่างนี้ล่ะ ขี้งอน ผมคงต้องพยายามใจเย็นและรับมือกับการงอนของคุณป้าเธอให้ได้ เฮ้อ… แอบอมยิ้มกับตัวเอง ไม่ได้มีความรู้สึกกุ๊กกิ๊กงอนง้ออย่างนี้มานานแล้วเรา
เมื่อเป็นอิสระจากน้องพลอยแล้ว ผมจึงรีบกดเข้าไปที่ห้องไลน์ของผมกับคุณลินเพื่อจะวิดีโอคอลหาเขาทันที แต่แล้วสายตาก็เหลือบไปเห็นข้อความตอบกลับของเขาที่ผมยังไม่ทันได้อ่าน
'เซนเข้านอนได้เลยนะคะ ไม่ต้องอยู่รอคุยกัน ลินจะออกไปปาร์ตี้กับสมฤดีเพื่อนสมัยมัธยมที่เจอกันโดยบังเอิญ น่าจะกลับเข้าที่พักดึกมาก หรืออาจจะกลับเช้าเลย วันนี้เซนเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว เข้านอนโลดเลยจ้า กู๊ดไนท์ จุ๊บจุ๊บ'
"…"
คืออะไร…
ความผิดหวังอย่างที่สุดถาโถมเข้ามาใส่ ความพลุ่งพล่านเกิดขึ้นในใจ เมื่อเช้าคุณป้าเขาขับรถมาส่งผมที่สนามบิน และในวินาทีสุดท้ายก่อนที่ผมจะต้องไปขึ้นเครื่อง เราค่อยๆปล่อยมือออกจากกันอย่างอ้อยอิ่ง ดวงตากลมโตนั้นมีความอาลัยอาวรณ์อย่างสุดซึ้ง นี่ผมอุตส่าห์นึกว่าเธอคงจะคิดถึงผมอย่างที่สุด เธอคงจะรู้สึกเหงาและโดดเดี่ยวอ้างว้าง และอาจถึงขั้นไม่มีอารมณ์จะไปเที่ยวที่ไหนต่อ คงจะเฝ้ารอการโทรหาจากผมอย่างใจจดใจจ่อ
แล้วนี่อะไร? ออกไปเที่ยวเตร่ดึกดื่นโดยไม่มีผมงั้นรึ การไปปาร์ตี้มันสำคัญกว่าการรอคุยโทรศัพท์กับผมงั้นรึ
หมดกัน! ผิดหวังอย่างแรงมาก! แผนที่วางเอาไว้ว่าจะได้นอนคุยกุ๊กกิ๊กกันทางไกลได้พังทลายลง แล้วนี่พ่อผมเขาอุตส่าห์เป็นห่วงคุณลิน กลัวว่าผมจะเป็นฝ่ายไม่จริงจัง จะทำให้คุณลินเสียใจ กลับกลายเป็นว่า…
ผมไม่ยอมหรอก อุตส่าห์รอมาทั้งวันที่จะได้คุยกับเขา อุตส่าห์ตัดบททั้งพ่อ เจ้าเรน คุณมะพร้าว และก็น้องพลอยเพื่อที่จะมาคุยกับเขา อุตส่าห์อาบน้ำสระผมทำหน้าใสทำตัวหอม ใส่ชุดนอนชุดที่เขาบอกว่าน่ารักมาเตรียมรอคุย
ยังไงคืนนี้ผมก็ต้องได้คุยกับเขา!
ว่าแล้วผมก็กระหน่ำกดโทรศัพท์ถึงคุณป้า รวมทั้งส่งข้อความทั้งทางไลน์ ทั้งทางเบอร์มือถือธรรมดา รวมไปถึงทางอีเมลด้วย
…แต่ปรากฏว่าหนึ่งชั่วโมงผ่านไป ไม่มีทั้งข้อความหรือทั้งการโทรกลับ
โคตรงอน!
…