หลังหมูกระทะมื้อเย็น เราก็พาลิสาไปส่งบ้าน แล้วฉันกับวิสกี้ก็ออกมาเริงร่ากันต่อที่ผับย่านทองหล่อเช่นเคย วันนี้เราตั้งใจมาแดนซ์กันให้สุดเหวี่ยง ฉันนัดคิตตี้มาด้วย และวิสกี้ก็นัดน้องเบลล์เพื่อนร่วมงานสาวในวงการโฆษณามาด้วยเช่นกัน
ใจจริงฉันอยากจะให้ลิสามาด้วยมาก นี่แทบจะรอให้หลานสาวที่รักอายุถึงสิบแปดไม่ไหวแล้ว ฉันอยากเปิดโลกกว้างให้ลิสาได้เรียนรู้เรื่องของอบายมุขต่างๆด้วยตัวของฉันเอง อยากจะเป็นทั้งน้าที่รักและเป็นทั้งเพื่อนที่รักของหลานสาว แต่วิสกี้เป็นผู้ทัดทานไว้ขณะเราถกเถียงเรื่องนี้กันที่ร้านหมูกระทะ
เมื่อบ่ายหลังจากเราเสร็จสิ้นจากบิงซู เราก็พากันไปช้อปปิ้งอีกนิดหน่อย และก็เหมือนเช่นเคย ลิสาเข้าร้านหนังสือ ส่วนฉันกับวิสกี้เข้าร้าน Zara เสร็จแล้วเราก็มาต่อหมูกระทะเมนูโปรดกัน
"ใจเย็นค่ะคุณลิน ถึงผับนี้เค้าจะไม่ตรวจบัตรก็จริง แต่ถ้าเกิดอะไรขึ้น ตำรวจมา ก็จบเห่กันนะคะ"
นี่ฉันก็งงๆกับกฎหมายเมืองไทยนะ เธคผับบางที่ก็ตรวจบัตร บางที่ก็ไม่ตรวจ แต่ร้านอาหารทุกที่ก็ขายแอลกอฮอล์เหมือนกัน แถมมีดนตรีเล่นสด คนก็ลุกขึ้นยืนเต้นกับโต๊ะ ก็ไม่เห็นจะตรวจบัตร คือเอาอะไรมาตัดสิน ว่าสถานที่ไหนเป็นแหล่งอบายมุขที่เด็กเข้าได้หรือห้ามเข้า
"ลิสาอยากกลับไปอ่านหนังสือมากกว่าค่ะ วันนี้ก็ออกมาข้างนอกเกือบทั้งวันแล้ว อาทิตย์หน้าโรงเรียนเค้ามีชั่วโมงให้เราไปพูดเรื่องหนังสือที่เราชอบอ่าน แต่ลิสาไม่ได้แค่อยากจะพูดอย่างเดียว ลิสาอยากแสดงเป็นตัวละครในหนังสือด้วย"
อือม์ ฉันชอบโรงเรียนนี้จริงๆ สร้างสรรค์มาก
"แล้วลิซ่าเลือกหนังสือเรื่องอะไรจ๊ะ" คุณวิสกี้ทำหน้าสนใจอยากรู้บวกกับสายตาแห่งความชื่นชม ลิสาเค้าเป็นหลานรักของเพื่อนฉัน
"เรื่องปีศาจค่ะ"
"ห้ะ ปีศาจ ของเสนีย์ เสาวพงศ์อะนะ" วิสกี้ทำเสียงตกอกตกใจ
"โอย ลิสา ทำไมเลือกหนังสือแก่ขนาดนั้น ไม่เลือกแบบแฮรี่พอตเตอร์ไรงี้" ฉันล่ะงงในตัวของหลานสาวจริงๆ
"ก็ลิสาว่าประเด็นในหนังสือมันน่าสนใจดีนี่คะ เข้ากับบ้านเมืองยุคนี้" หลานสาวคนสวยของฉันยักไหล่
"เอ่อ…" ฉันกับวิสกี้เพื่อนรักอึ้งไปชั่วครู่
เปลี่ยนเรื่องดีกว่า ดูสายตาของลิสาแล้วเหี้ยมเกรียมแปลกๆ
"เอ้อ นี่ ลิสาอยากลองกินเบียร์ไหม หากลิสาจะอยากลองแตะต้องเรื่องเหล้ายาของมึนเมา ลิสาต้องมากับน้านะจ๊ะ อย่าไปลองกับคนอื่น เพราะน้านี่เซียนกว่าใคร"
ฉันอยากจะเป็นน้าสาวที่คูลๆเข้ากับวัยรุ่นได้ แบบว่าเราเพื่อนกันไรงี้
"เคยลองแล้วค่ะ ไม่ชอบ ไม่มีประโยชน์" ท่าทางของหลานสาวฉันเด็ดเดี่ยวมาก
"อ้าว… เอ้อ…" งั้นคงไม่มีประโยชน์ที่จะโน้มน้าวจิตใจเด็กสาวคนสวยคนนี้
"อ้อ อีกเรื่องนะจ๊ะ เรื่องบุหรี่น่ะ ถ้าลิสาอยากลองสูบ น้าไม่ว่าเลย เรามาสูบด้วยกันตอนคุณยายไม่อยู่บ้านดีไหม" ฉันทำเสียงจิ๊จ๊ะ แฟร์ๆกับหลานสาวเต็มที่ อยากจะลองอะไร ฉันไม่เคยห้าม บ้านของเราเคารพกันและกันเสมอ
"เคยลองแล้วค่ะ ไม่ชอบ และก็ไม่เห็นประโยชน์เหมือนกัน" ท่าทางของลิสามั่นใจจนฉันขนลุก
"เอ้อ…" ฉันกับวิสกี้เพื่อนรักอึ้งกันอีกรอบ
นี่ฉันกับลิสาคงจะเกิดมาสลับร่างสลับวัยกันแน่ๆ
"โอ้โห ซิส ยามราตรีนี่แซ่บเหมือนเคยเลยนะฮ้า เสื้อตัวนี้นี่คือปังมาก ขอบอก สะกิดนิดเดียวนี่พร้อมหลุดเลยนะ"
คิตตี้ปราดเข้ามาลูบไล้เสื้อตัวบางเฉียบสายเดี่ยวสีดำของฉันอย่างชื่นชม
เราเจอกันตามเวลานัดหมายที่หน้าทางเข้าผับ คิตตี้กับน้องเบลล์มากันตรงเวลา กลุ่มเราออกเที่ยวด้วยกันบ่อยจนสนิทสนมคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว ฉันรู้จักเพื่อนร่วมงานของวิสกี้อยู่หลายคนทีเดียว
ฉันยักไหล่แล้วก้มลงมองดูตัวเอง ชุดลายดอกไม้ที่ใส่เป็นประจำทั้งที่ทำงานและยามว่างถูกสลัดทิ้งไป ราตรีแห่งการแดนซ์มันต้องถูกเติมเต็มด้วยแนวเซ็กซี่ขี้เล่นเท่านั้น มีเพื่อนร่วมงานของฉันไม่กี่คนที่มีโอกาสได้รับรู้การมีตัวตนหลายภาคส่วนของฉัน คิตตี้ก็เป็นหนึ่งในนั้น
"นี่หัวหน้าทีมเธอเค้าแต่งตัวเร็วด้วยนะ เมื่อกี้พวกพี่เพิ่งเอาหลานสาวไปส่งที่บ้านมา คุณลินเค้าก็เลยถือโอกาสเปลี่ยนชุด แล้วสีสันบนใบหน้าอันเฉี่ยวเปรี้ยวนี่ก็ถูกแต่งเติมด้วยฝีมือของน้องลิซ่าหลานรักของพวกพี่เอง" วิสกี้เพื่อนรักของฉันเอ่ยกับคิตตี้ลูกทีมที่รักของฉันอย่างสนิทสนม
แม่นแล้ว ลิสาเป็นคนแต่งหน้าให้ฉันเอง เด็กอะไรก็ไม่รู้ สวยก็สวย มีความคิด และเก่งไปหมดทุกเรื่อง หลานใครเนี่ย น่าจะได้ทักษะความเก่งกาจมาจากน้าสาวแน่เลย
"เฉียบค่ะซิส คืนนี้ล่ะ รับรองหญ้าอ่อนทั้งหลายต้องถูกแทะโลมอย่างไม่ยั้ง" คิตตี้มีสายตาที่มุ่งมั่น
"เอ่อ… เบาได้เบาค่ะคิตตี้ พี่เน้นแด๊นซซซ ไม่เน้นแทะโลม เริ่มแก่แล้ว" ฉันรีบห้ามปราม
พักหลังนี่รู้สึกสังขารจะไม่ค่อยอำนวย ฉันถอนตัวออกจากวงการการแอ๊วเด็กมานานแล้ว
"แหมพี่ลิน อย่าถอดใจสิคะ เราต้องแซ่บให้สุด แล้วไปหยุดที่การเทผู้" น้องเบลล์คนสวยเพื่อนร่วมงานวิสกี้พยายามจะให้กำลังใจฉัน
"แหม น้องเบลล์ ปล่อยพี่เต้นเงียบๆของพี่ไปเห๊อะ เออ ว่าแต่ศุกร์ที่แล้วที่ไปผับเปิดใหม่กันน่ะ เป็นไงกันบ้าง มีหนุ่มแซ่บๆเยอะป่าว แล้วมีมาตกหลุมน้องเบลล์กี่คนกันจ๊ะ"
น้องเบลล์นี่เค้าเป็นดาวเด่นของกลุ่มเราเลยจ้า เป็นตัวดึงดูดหนุ่มๆเลย สาวๆวงการโฆษณาแก๊งคุณวิสกี้นี่เค้าเฟี้ยวกันเกือบทุกคน เป็นสายแข็งทั้งทางด้านการทำงานและการปาร์ตี้
"โอ๊ย ลิน อาทิตย์ที่แล้วน่ะเบลล์มันเมาก่อนใครเพื่อนเลย ชั้นนี่ต้องเป็นคนพากลับบ้าน สงสัยคืนนี้ก็คงเหมือนเดิม" วิสกี้รีบฟ้อง
ใช่แล้ว เสียดายที่น้องเบลล์ขี้เมาไปนิด แถมเมาแล้วซ่าส์มากกว่าปกติด้วย
ส่วนฉัน… สายเมาแล้วแดนซ์
"เสียดายพี่ลินไม่ได้ไปด้วย คืนนั้นหนุ่มๆแซ่บมากพี่" น้องเบลล์ทำตาเล็กตาน้อย
อาทิตย์ที่แล้วฉันไม่ได้ไปร่วมจอยด้วย เพราะมีนัดกินข้าวกับญาติๆ ไม่งั้นฉันแทบไม่เคยพลาดการออกเที่ยวกับแก๊งนี้
"ซิส คืนนี้ซิสต้องได้อย่างน้อยหนึ่งคนนะฮ้า สายเดี่ยวสีดำตัวนี้มันต้องถูกถอดด้วยมือของหนุ่มหล่อๆ" คิตตี้ยังมีความหวังให้ฉันเสมอในเรื่องนี้
ตรงๆก็คือ ในกลุ่มนี้น่ะ ฉันยังโสดอยู่คนเดียว เที่ยวกันทีไรทุกคนก็ต้องพยายามผลักดันฉันอย่างเต็มที่
"เอ้อ เข้าไปข้างในกันเห๊อะ"
ฉันตัดบท แล้วเริ่มออกเดินนำทีม แค่ได้ยินเสียงจังหวะแน่นๆของกลองที่ดังมาจากข้างในผับฉันก็ขนลุกซู่ เรื่องผู้ชายน่ะคือเรื่องรอง หัวใจรักเสียงดนตรีของฉันมันเต้นตุ๊บๆรอแล้ว
พวกเราทั้งเต้นทั้้งดื่มกันอย่างสุดเหวี่ยง เรื่องของความสูงวัยไม่อาจปิดกั้นกลุ่มเราได้
แม้เราจะมีการกระทบกระทั่งกับกลุ่มสาวน้อยวัยนักศึกษาสี่ห้าคนที่เต้นอยู่ข้างๆเราเป็นระยะๆ แต่พวกเราก็ไม่หวั่น ฉันไม่เคยยอมแพ้ใครเรื่องการวาดลวดลายอยู่แล้ว
"น้องคะ อย่าตีเนียน ถังน้ำแข็งนี่วางอยู่บนโต๊ะพี่นะคะ"
น้องเบลล์จับข้อมือเล็กๆนั้นไว้หมับ ก่อนที่น้ำแข็งของเราจะถูกขโมยไปใส่ในแก้วแม่โขงของกลุ่มสาวน้อยนั้น
"อ้าว ถังนี่ของโต๊ะป้าหรือคะ สงสัยหนูคงเบลอ" เสียงใสๆกวนๆตอบกลับมา
ฉันไม่ติดใจเรื่องน้ำแข็ง แต่ติดใจสรรพนาม 'ป้า'
"น้ำแข็งโต๊ะหนูหมด ยืมนิดๆหน่อยๆนะคะป้า" น้องวัยใสอีกคนส่งเสียงมา
"นี่พวกหล่อนอย่าเนียน สั่งเองสิยะ" คิตตี้เสียงแหวขึ้นมาบ้าง เหมือนคิตตี้เขาหมั่นไส้กลุ่มนี้มานานแล้ว
ฉันเหลือบตามองขวดแม่โขงของโต๊ะข้างๆแล้วรู้สึกหวั่นๆ ชะนีน้อยกลุ่มนี้ไม่น่าธรรมดา สายแข็งฮาร์ดคอร์เสียด้วย
"เอาน่า แบ่งๆให้น้องๆเค้าหน่อย น้ำแข็งถังละไม่กี่ตังค์" วิสกี้ตัดสิน คนนี้เขาสายเกย์ใจดี ไม่นิยมมีเรื่องกับชะนี
"จริง อย่ามีเรื่องกะเด็กเลยว่ะ" ฉันเข้าข้างวิสกี้
"แหม พี่กี้พี่ลิน ถ้าขอกันดีๆอะ ก็ให้อยู่แล้ว แต่นี่เหมือนจงใจหาเรื่องกันชัดๆ" ความกรึ่มของน้องเบลล์ชักจะทำให้เรื่องเลยเถิดกันไปไกล
ฉันเห็นแล้วแหละ ว่าน้องเบลล์กะน้องคนสวยโต๊ะข้างๆกำลังแข่งกันเต้นท่าเซ็กซี่อวดสายตาหนุ่มหล่อโต๊ะเยื้องๆนั้นอยู่
"จริงด้วยค่ะซิส เด็กอะไรไม่มีมารยาท นี่มีใครสั่งสอนกันบ้างหรือเปล่ายะ" คิตตี้ก็กรึ่มมากเช่นกัน และเริ่มจะไม่ยอมความ
"อ้าว ป้า" คราวนี้เสียงเซ็งแซ่เริ่มดังมาจากกลุ่มสาววัยใสนั้น
แต่ก่อนที่เหตุการณ์อันน่าระทึกจะดำเนินต่อไป
ทันใดนั้นเสียงประกาศจากบนเวทีก็ดังขึ้นมา
"สวัสดีคร้าบสายแดนซ์ทุกท่าน ผมเวฟนะคร้าบ แม้เดือนแห่งความรักจะเพิ่งผ่านพ้นไป แต่ในใจพวกเราก็ไม่เคยขาดรัก"
"กรี๊ดดดด" เสียงเซ็งแซ่ดังมาจากแก๊งวัยใสข้างๆเรา
คิดตี้และน้องเบลล์หันไปมองชะนีแก๊งนั้นอย่างพร้อมเพรียง
"วันนี้เราอยากจะขอเชิญสุภาพสตรีสาวสวยซักสองท่านออกมาข้างหน้านี้นะคร้าบ มาวาดลวดลายแข่งกันซักนิดหน่อยนะคร้าบ รางวัลใหญ่สำหรับค่ำคืนนี้ก็คือ การเปิดขวดฟรีตามใจท่านเลือก ครั้งละหนึ่งขวดเป็นเวลาหนึ่งเดือนเลยคร้าบ"
"กรี๊ดดดด" คราวนี้เสียงกรีดร้องดังลั่นมาจากทุกคน รางวัลยิ่งใหญ่ขนาดนี้เป็นใครก็ต้องกรีดร้อง
"ใครออกมาก่อน ได้สิทธิ์ก่อนนะคร้าบ สองท่านเท่านั้นคร้าบ" คุณเวฟบนเวทียังคงยั่วยุต่อไป
แล้วหนึ่งในกลุ่มวัยใสข้างๆพวกเราก็ยกมือ หันมามองพวกเราด้วยคางเชิ่ดอย่างน่าหมั่นไส้ ก่อนจะเดินอย่างอาจหาญออกไปที่เวที และตอนนี้สาวๆทั้งกลุ่มนั้นพากันส่งเสียงเย้ยหยันพวกเราเซ็งแซ่
"พวกป้าไม่กล้าหร้อก"
"แก่แล้วกระดูกน่าจะเปราะบาง"
"กลับบ้านนอนดีกว่านะค้า"
"ซิส! อย่ายอมพวกชะนีน้อยพวกนั้นง่ายๆค่ะ ซิสต้องออกไปสู้ค่ะ" เสียงคิตตี้ปลุกเร้าฉันเต็มที่
"อ้าว แล้วทำไมต้องเป็นพี่ล่ะคิตตี้" แต่ฉันยังไม่มั่นใจ
"แหม ของอย่างนี้มันต้องใช้วัยวุฒิเข้าสู้ค่ะคุณลิน" เสียงวิสกี้มาดมั่น
"ไม่มีเวลาแล้ว!" แล้วเสียงน้องเบลล์ก็ตะโกนลั่นขึ้นมา
แล้วฉันก็รู้สึกเหมือนมีมือหลายๆมือผลักดันฉันและฉุดฉันให้ออกเดินไปข้างหน้าเวที
"ทางนี้ค่ะทางนี้ นักเต้นรุ่นใหญ่ไฟกะพริบอยู่ทางนี้ค่า" เสียงน้องเบลล์ตะโกนอย่างบ้าคลั่ง
ฉันรู้ว่าน้องเบลล์เริ่มเมามากแล้ว และน้องคงอยากได้รางวัลใหญ่นี้
"คนนี้ค่า คนนี้เต้นเก่งมาก เก่งที่สุดต้องคนนี้เท่านั้นค่า" เสียงคิตตี้ตะโกนสำทับ ชูไม้ชูมือให้วุ่นวาย
สังเกตจากการแผดเสียงและอากัปกิริยานั้นแล้ว ฉันว่าลูกทีมของฉันคนนี้ก็ท่าจะเริ่มเมาหนัก
และแสงสปอตไลท์อันเจิดจ้านั้นก็จับมาที่ฉันทันที
เอาแล้วไง ซวยแล้ว!
"ยินดีต้อนรับทั้งสองท่านนะคร้าบ โอ๊ะ แม่สาวน้อยคนนั้นเริ่มออกสเต็ปแล้วคร้าบท่านผู้ชม!"
ฉันมีอาการเลิ่กลั่กเล็กน้อย มองไปก็เห็นแม่สาวน้อยคุู่แข่งเริ่มวาดลวดลาย และกองเชียร์แก๊งชะนีน้อยก็กำลังเปล่งเสียงฟังไม่ได้ศัพท์แข่งกับกองเชียร์แก๊งชะนีใหญ่เพื่อนๆของฉัน
ไฟแดนซ์ในตัวฉันเริ่มลุกโชน ในเมื่อมีการท้าทายกันขนาดนี้ ฉันก็คงต้องแสดงให้เด็กๆวัยใสพวกนั้นเห็นของจริงสักหน่อย
โอเค ไม่รอช้า เริ่มเลย!
ฉันงัดท่าเต้นทั้งหลายที่ลิสาเคยสอนให้ออกมาเท่าที่จำได้ เสียงเชียร์ที่ดังสนั่นเป็นระยะๆทำให้ฉันเคลื่อนไหวโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ฉันอยากจะอัดคลิปไปให้หลานสาวคนสวยดูเหลือเกิน ว่าน้าสาวคนนี้เป็นลูกศิษย์ที่ยอดเยี่ยมขนาดไหน
และเสียงกรี๊ดก็ยิ่งดังลั่นไม่หยุดเมื่อฉันลงทุนนอนขนานไปกับพื้น แล้วพลิกตัวขึ้นมาด้านข้างเพื่อทำท่าตบพื้นอันลือลั่นของลิซ่าแบล็กพิงค์
เป็นไงล่ะ อึ้งไปตามๆกันใช่ไหมจ๊ะ
ชะนีน้อยคู่แข่งของฉันเต้นอยู่ตรงส่วนไหนของผับ ฉันไม่สนใจ ณ วินาทีนี้ ฉันโฟกัสแต่ท่วงท่าอันงดงามของตนเองเท่านั้น ยิ่งเสียงเชียร์ดังเท่าไหร่ ฉันก็ยิ่งคึก
และศิลปินที่มีเสน่ห์ก็ต้องมีส่วนร่วมกับท่านผู้ชม ตอนนี้ฉันเริ่มสาวเท้าเข้าไปหาชาวผับที่มุงดูการเต้นของผู้เข้าแข่งขันอยู่รอบๆ
แสงสปอตไลท์ที่ตามติดฉันไปทุกย่างก้าวทำให้ฉันได้มีโอกาสได้เห็นหน้าค่าตาชาวผับอย่างชัดบ้างไม่ชัดบ้าง แต่เท่าที่เห็นชาวผับที่นี่เค้าหน้าตาดีแต่งตัวดีกันทั้งนั้นนะ หนุ่มๆสาวๆพากันหุ่นแซ่บแบบไม่มีใครยอมใคร
โดยเฉพาะหนุ่มเชิ้ตดำกางเกงยีนผมปรกหน้าคนนั้น คนที่กำลังยืนโดดเด่นท่ามกลางสาวๆที่รายล้อม หุ่นเค้าสเปคฉันเลยแหละ สูงโปร่ง ไม่ก้ามปูเกินไปนัก แต่ก็ไม่ผอมแห้ง แล้วก็ท่ากระดกเบียร์จากขวดของเค้านี่ อย่างเท่
ฉันพยายามเยื้องกรายตามจังหวะดนตรีเข้าไปให้ใกล้เค้าที่สุด ปกติฉันไม่ค่อยจะชอบเต้นท่าเซ็กซี่เท่าไหร่ แต่วันนี้… สำหรับหนุ่มเชิ้ตดำคนนี้ สู้ตายค่ะ!
แต่เอ๊ะ เดี๋ยวนะ…
พอไฟสปอตไลท์จับไปตรงๆที่ใบหน้าของพ่อหนุ่มนั่น แววตาเรียวๆยิ้มๆที่กำลังจ้องมองตรงมาที่ฉันนั้น กลับคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก
เชี่ย! คุณเซน!
…