webnovel

ระบบตกหนอนหนังสือไปเปิดไฟท์ที่ต่างโลก

ตอนที่ 11

ไม่ว่ายอมรับหรือไม่ยอมรับอิลิเลียแน่ใจว่าเผ่าบีสท์คนนี้ใช่จินตกชแน่นอน ก็จะมีใครอีกเล่าที่สามารถวิจารณ์พระเอกให้เสียหายแบบนั้นได้ถ้าไม่ใช่คนที่เข้ามาเดินเล่นในนิยายเหมือนๆ กันและเป็นคนที่ไม่สนเกาะแข้งขาพระเอกเป็นงานหลักเหมือนผู้เดินเล่นคนอื่นทำเมื่อได้เจอพระเอก

"ออกไปห่างหน่อยได้ไหมเกาะติดแบบนี้ไม่เห็นสายตาพระเอกหรือไง" ถึงไม่รู้ทำไมยูเกรนไม่พอใจที่ตอนนี้อิลิเลียมากระแซะติดเขาอยู่ แต่แบบนี้มันน่ากลัวมากเลยนะ

ฉันกลัวลูกหลงนะเว้ย ฝีมือดาบของพระเอกลบเงาหัวฉันได้ง่ายยิ่งกว่าหายใจสักเฮือกเสียอีก

"ออกไปห่างจะได้โดนเชือดนะสิคะ พระเอกน่ากลัวขนาดนั้น" อิลิเลียเองก็รู้ว่าทางนั้นพร้อมมือกระตุกทุกเวลา ซึ่งเธอพอรู้ว่าเพราะอะไร "คือ... ที่จับมังกรนั่นมาเป็นสัตว์เลี้ยงเป็นภารกิจที่ระบบมอบให้นะพี่จินต์ จริงๆ นะ" นี่แหละเหตุผลที่เธอเข้าใจว่าทำให้พระเอกไม่พอใจคิดว่าเธอเป็นเจ้าหญิงนิสัยร้ายกาจเหยียบย่ำผู้อื่น เธอจึงช้อนสายตาน่าเวทนาสุดชีวิตใส่คนที่มั่นใจว่าช่วยเธอไม่ให้โดนพระเอกส่งออกจากนิยายก่อนเวลาได้ด้วยพลังเต็มร้อย

สายตาร้อนแรงนั่นทำเท้าจินตกชกระตุกจนได้ ถีบแบบไม่มีถนอมสักนิดทั้งที่อีกฝ่ายเป็นเจ้าหญิงนะ ก็แบบว่าอิลิเลียมีทักษะนักรบร่างกายถึกทนทานกว่าคนทั่วไปหลายเท่าถีบพุ่งไปซบพื้นแทบเท้าพระเอกไม่ทำให้เจ็บๆ คันๆ เท่าไรหรอกน่า "ไปอธิบายให้เขาฟังเองสิ สู้ๆนะ" หัวเราะตบท้ายอย่างคนกำลังสนุกที่ได้แกล้งคนอื่นอย่างมากมาย

สายตาพระเอกเย็นชาน่ากลัวให้อิลิเลียอดคิดไม่ได้ว่าทำไมผู้เขียนชอบสร้างพระเอกเย็นชาหน้านิ่งชอบแผ่จิตสังหารให้ผู้คนหวาดผวาด้วย เป็นมิตรสว่างไสวบ้างมันสร้างยากนักหรือไง

'ฉันดับอนาถแน่แล้วค่ะ'

"ฉัน... ขอโทษค่ะ ไม่ได้ตั้งใจแกล้งมังกรตัวนั้นเลยนะคะแต่มันเป็นภารกิจที่ไม่ทำไม่ได้ค่ะ ฉันจะถูกลงโทษรวมทั้งต้องจ่ายค่าล้มเหลวอย่างแพงมากด้วยค่ะ" หมอบราบไปกับพื้นอย่างนอบน้อมที่สุดแล้ว

ยูเกรนนิ่งมองอยู่ครู่หนึ่ง "ภารกิจอะไร ใครสั่ง?"

ทั้งที่อีกฝ่ายคือเจ้าหญิงแล้วคนถามเป็นคนธรรมดาสามัญเท่านั้นทว่าพระเอกนี่นา ย่อมมีรัศมีสูงส่งยิ่งกว่าตัวละครไหนๆ ต่อให้คนตรงหน้าคือเทพก็ยังต้องด้อยกว่าเขาอยู่ดี

"ภารกิจคือต้องจับสัตว์ในตำนานหรือไม่ก็สัตว์โบราณมาเป็นสัตว์เลี้ยงอย่างน้อยหนึ่งตัว ส่วนผู้ใดสั่งไม่สามารถบอกรายละเอียดได้จริงๆ ค่ะ ไม่ได้มีเจตนาอะไรมากกว่านั้นเลยจริงๆ" ยกสองมือขึ้นมากุมตรงหน้าแทบคลานเข่าเข้าไปเกาะเท้าพระเอกแล้ว

ยูเกรนถอยหลังออกมาเล็กน้อย "ชนชั้นสูงอย่างพวกเจ้าอยากทำอะไรก็ทำไม่สนใจสิ่งใดผู้ใดทั้งนั้น ให้ฉันเชื่อได้อย่างไรว่าเธอไม่มีเจตน่ากลั่นแกล้งอวดเบ่งอำนาจรังแกผู้อื่นเอาสนุกกันล่ะ"

"สาบานด้วยเกียรติของนักเวทเลยค่ะ ฉันทำทุกอย่างเพื่อให้ภารกิจลุล่วงเท่านั้นจริงๆ ไม่มีเจตน่ากลั่นแกล้งรังแกใครเลยสักนิด!" เจ้าหล่อนเผ่นพรวดจากพื้นขึ้นมาชูนิ้วสาบานสีหน้าจริงจัง

"ถ้าแค่จับเป็นสัตว์เลี้ยงเธอก็ควรจับไปเฉยๆ สิ ไอ้ท่าทางเหยียดว่าผู้อื่นต่ำต้อยกว่าที่แสดงให้เห็นที่รังมังกรนั่นมันอะไร" แม้จิตกชรู้ว่านิสัยแต่ละคนไม่ใช่สิ่งที่ตนจะเข้าไปก้าวก่าย แต่ว่านิสัยบางอย่างของบางคนก็ทำใจยอมรับยากถึงได้ทำเป็นไม่รู้จักอยู่นี่ไง ไม่เช่นนั้นอาจมีเท้ากระตุก

"ในคู่มือจับสัตว์ในตำนานบอกไว้ว่าต้องทำให้อีกฝ่ายรู้สึกต่ำต้อยจนต้องเงยหน้ามองเท่านั้นถึงจะเชื่องนี่คะ" ว่าแล้วเอาหนังสือปกแข็งสีน้ำตาลแดงเล่มหนาออกมาจากถุงมิติประคองสองมือส่งให้จินตกช

เจ้าตัวรับมาเปิดดูและมียูเกรนยื่นหน้าเข้ามาดูด้วย แค่หน้าแรกทั้งสองคนก็แทบคว้างทิ้ง "ใครมันเขียนขึ้นมาฟะ ควรค่าต่อการจับมาบูรณะสมองที่สุดเลยว่าไหม" หันไปถามยูเกรนซึ่งหัวคิ้วขมวดมุ่น แสดงออกว่าควรแวะไปเยี่ยมคนเขียนหนังสือเล่มนี้สักครั้งจริงๆ "แล้วนี่ต้องจับแต่มังกรหรือเปล่า?"

อิลิเลียส่ายหน้า "ตัวอะไรก็ได้ที่เป็นสัตว์ในตำนานหรือสัตว์โบราณ เล็กใหญ่ไม่จำกัดค่ะ"

"งั้นทำไมไม่หาซื้อไข่มาฟักเอาล่ะ ถ้าไม่จำกัดแค่เลี้ยงตั้งแต่ออกจากไข่ไม่ง่ายกว่าหรือไง" แทนที่จะเชื่อที่เขียนในหนังสือควรขว้างทิ้งนั่น เชื่อความรู้พื้นฐานว่าฟักออกมาจากไข่เห็นสิ่งใดเคลื่อนไหวได้มันก็เข้าใจว่าคือแม่ของมัน จินตกชว่าแบบนั้นง่ายกว่ามาไล่จับตัวใหญ่แล้วฝึกให้เชื่องตั้งเยอะ

"ทำแบบนั้นง่ายจริงค่ะ แต่ตัดใจยากนะคะพี่จินต์" ผู้เข้ามาเดินเล่นนั้นสักวันก็ต้องออกไปแล้วทิ้งออกไปได้ง่ายๆ หรือ เพราะงั้นเธอถึงมาไล่จับพวกตัวโตเต็มวัยจะได้ไม่มีความผูกพันมากจนตัดใจทิ้งไปไม่ได้

"ถูกของเธอ ฉันลืมไปเพราะภารกิจของฉันไม่มีแบบนี้ ฉันคิดน้อยไปจริงๆ" จินตกชยอมรับว่าไม่ทันคิดถึงเหตุผลนี้จริง ฉะนั้นการกระทำที่ผ่านมาต่อเจ้ามังกรแดงของอิลิเลียจึงยอมให้ได้สักครั้ง "แต่หลังจากนี้ถ้าจับอะไรไปเลี้ยงเพื่อทำภารกิจให้สำเร็จก็เลือกไอ้ที่ไม่สร้างอันตรายให้ผู้คนต้องเหยียบไว้ใต้เท้าละกัน"

อิลิเลียพยักหน้าแล้วรับคำอย่างหนักแน่น "ค่ะ พี่จินต์"

"พี่จินต์... หมายถึงนายหรือ?" ยูเกรนถามเสียงเรียบทว่าสายตาคาดคั้นจนบีสท์ขี้ริ้วหูลู่

จินตกชกระแอมเบาๆ "เป็นอีกชื่อของฉันน่ะ"

ดังที่รู้ยูเกรนสามารถอ่านความรู้สึกคนได้ เขาจึงรู้ว่าซีวิลล์ไม่ได้โกหก จินต์ เป็นอีกชื่อของเขาจริง ยูเกรนไม่ถามอะไรเพิ่มเขาพยักหน้ารับรู้ "เอาไงต่อจากนี้ เดินทางต่อหรือพักแรมสักคืนก่อน" แม้การพักแรมในทะเลทรายอันตรายแต่ยังน้อยกว่าเดินไปเรื่อยๆ ซึ่งไม่รู้ว่าจะเจออะไรระหว่างทางบ้าง

จินตกชกวาดตามองสำรวจไปไกลแค่ไหนยูเกรนกับอิลิเลียไม่รู้หรอก "แถวนี้มีแค่ไฮยีน่าดำออกล่า คงเป็นอาณาบริเวณล่าเหยื่อของพวกมัน เพราะงั้นพักแถวนี้ก็ดี รับมือมอนสเตอร์ชนิดเดียวถึงเยอะแต่ไม่ยาก"

"พี่จินต์มองเห็นได้ไกลแค่ไหนแล้วคะ?" อิลิเลียมองฝ่าความมืดออกไปได้ไกลสักห้าร้อยเมตรได้ทว่าเชื่อได้ว่าจินตกชมองเห็นได้ไกลกวาเธอหลายเท่าแน่นอน

บีสท์ขี้ริ้วยักไหล่ท่าทางก่อกวนอวัยวะเบื้องล่างน่าดู "เดาสิ"

อิลิเลียชูนิ้วขึ้นมาหนึ่งแล้วเพิ่มเป็นสอง "หนึ่งกิโล ไม่สิคงสองกิโลเมตรแล้วมากกว่า"

"ตามนั้นละกัน" จินตกชยิ้มขำแล้วเรียกคลังเก็บของออกมาเอาของที่ต้องการ "ก่อกองไฟก่อนแล้วตั้งแค้มป์กันเถอะ"

ยูเกรนอึ้งจริงจังกับอาหารสดใหม่ในหม้อใบใหญ่ที่กำลังเดือดพล่านอีกไม่นานก็กินได้ เนื้อสันชิ้นโตหั่นสามย่างเนยส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลาย ขนมปังกรอบนอกนุ่มในพูนตะกร้าใบใหญ่ แล้วยังเต็นท์นอนหลังโตท่าทางแข็งแรงแบบเกิดพายุทรายก็ไม่ปลิวเพราะตอกหมุดผูกไว้อย่างแน่นหนา โต๊ะวางอาหาร เก้าอี้สนาม ผ้าห่มหนานุ่มกันอากาศหนาวจัดในทะเลทรายได้แน่นอน แล้วยังขนมขบเคี้ยวกองใหญ่ ผลไม้สดๆ หนังสืออ่านเล่นหลายเล่ม

"นายเอาของแบบนี้ใส่มาให้เปลืองเนื้อที่ในถุงมิติทำไม" ยูเกรนว่ามันแบบนี้มันใช้เนื้อที่แบบเสียเปล่า ควรเอาไว้เก็บอาวุธ ยาวิเศษของวิเศษต่างๆ สิ

"ไม่เปลืองเท่าไหร่หรอกน่า" จินตกชพูดจริง คลังเก็บของที่ระบบให้มามีเนื้อที่พันลูกบาศก์เมตร ยัดคฤหาสน์สามสี่หลังเข้าไปยังได้ หรือปราสาททั้งแห่งยังเหลือเนื้อที่อีกมากโข

"ไหนหรือคะถุงมิติของพี่จินต์?" อิลิเลียมองหาหลังจากเธอจัดการวางเขตแดนบริเวณที่พักเสร็จเรียบร้อยแล้ว

"คลังเก็บของ เธอไม่มีหรือ?"

อิลิเลียอึ้งไปครู่หนึ่งแล้วหยิบถุงมิติข้างเอวขึ้นมาให้ดู "มีแต่ถุงนี้ค่ะ"

"แลกซื้อมาจากระบบน่ะ กลับไปแล้วก็ลองถามดูละกัน อ้อ แพงมาก" กู้ทั้งค่าทักษะทั้งค่าคลังเก็บของแล้วยังทักษะพิเศษที่เพิ่งต่อราคากับอินจันเมื่อวันก่อนอีก ไม่รู้ตอนนี้เหลือนิยายในคลังเก็บถึงห้าเรื่องหรือเปล่า... หนทางอ่านฟรีตลอดชีพช่างลำบากและยาวไกลยิ่งนัก

"กลับไปนี่ฉันต้องหามาบ้างแล้ว" เจ้าตัวหมายมาด ที่เก็บของเจ๋งๆ แบบนั้นใครไม่อยากได้กันเล่า

"มากินมื้อค่ำกันก่อนเถอะ เดี๋ยวเย็นชืดหมด" จินตกชเอาเนื้อย่างกับสตูในหม้อจัดใส่จานวางบนโต๊ะ พร้อมผักสดขนมปังกับซอสเพิ่มรสชาติอีกหลายอย่าง ก่อนจะผายมือเชิญคนกินทั้งสอง

"ถ้ามีไวน์แดงสักแก้วคงดีมากเลย" อิลิเลียหั่นเนื้อชิ้นโตให้พอดีคำแล้วส่งเข้าปาก เคี้ยวจนแก้มป่อง สีหน้าปลื้มปริ่มกับรสอาหารฝีมือจินตกชมากมาย

"ฉันไม่ดื่มเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ มีแค่น้ำเปล่า กาแฟและก็นมเอาอะไร?" หยิบที่ว่าทั้งหมดออกมาวางตรงหน้า "นายล่ะเอาอะไร"

"น้ำเปล่า" ต่อให้ในถุงมิติมีเหล้าราคาแพงเก็บอยู่ยูเกรนก็ไม่เอาออกมาในเมื่อทางนั้นบอกไม่ดื่ม

"น้ำเปล่าเช่นกันค่ะ"

ถึงเลยช่วงเวลาเย็นไปนานแล้วแต่ยังไม่ดึกนักและกองไฟที่พักของทั้งสามค่อนข้างเด่นมากกลางทะเลทรายเวิ้งว้างฉะนั้นมันย่อมกลายเป็นเป้าสายตาสัตว์นักล่า แน่นอนว่าไม่ใช่สัตว์ธรรมดา จินตกชกำลังเก็บโต๊ะเข้าคลังพื้นดินเกิดสะเทือนราวกำลังเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ หนอนทะเลทรายตัวเท่าขบวนรถไฟนับสิบพุ่งขึ้นมาจากพื้นทราย

"หนอนพวกนี้อะไร?" อิลิเลียกำลังอ่านหนังสือแนะนำเกี่ยวกับโบราณสถานกิลเมดัชพูดเสียงเย็น เพราะการปรากฏตัวของเจ้าพวกนี้ทำแก้วกาแฟของเธอหกกระจาย เครื่องดื่มโต้รุ่งของเธอโดนพื้นทรายดื่มแทนเสียแล้ว

ยูเกรนเงยหน้าจากดาบที่กำลังเช็ดทำความสะอาดขึ้นมองหนอนตัวยักษ์สีม่วงคล้ำล้อมรอบที่พักด้วยสีหน้าเรียบเฉยครั้งหนึ่ง แล้วก้มลงเช็ดดาบต่อเหมือนพวกตัวยักษ์ไม่มีอะไรให้สนใจ

"เวิร์มดรากอน... ไม่ใช่แบบนี้สิ ไม่เห็นมีตรงไหนเป็นดรากอนได้เลย" จินตกชบ่นอย่างคนผิดหวังมากมาย

"พี่จินตกชตั้งความหวังว่าหน้าตาพวกมันจะเป็นอย่างไรหรือ?"

"หัวมันควรเป็นหัวแบบมังกรสิ ต่อให้ไร้ขาก็ไม่ควรไร้กระดูกแบบนี้" ชี้หน้าพวกหนอนแล้วโวยวายราวเจ้าพวกนั้นรวมหัวกันรังแกเขาอย่างร้ายกาจ

"หนอนก็คือหนอนจะเป็นมังกรได้ยังไง"

เจ้าพวกไร้กระดูกคงฟังเข้าใจว่ายูเกรนว่าพวกมัน หนอนยักษ์หลายตัวพุ่งใส่ทางทิศที่ชายหนุ่มนั่งอยู่ และนั่นจึงเป็นการพิสูจน์ว่าพลังเวทของอิลิเลียแข็งแกร่งแค่ไหน ชนเข้าโครมเดียวหนอนยักษ์หน้ายู่ไปตามๆ กัน ลงไปชักดิ้นชักงอท่าทางเจ็บมากมาย

"คงไม่ปล่อยให้มันพุ่งชนทั้งคืนหรอกนะ" แม้พวกมันเข้ามาไม่ได้แต่ก็ทำให้พื้นสะเทือนแล้วยังเสียงกระแทกกับเสียงโหยหวนซึ่งจินตกชไม่รู้ว่านั่นคือเสียงคำรามหรือเสียงร้องจากความเจ็บที่พุ่งชนหน้ายู่กันแน่

"แต่ถ้าเก็บพวกมันทั้งหมดคงพักตรงนี้ต่อไม่ได้นะพี่จินต์" อิลิเลียไม่ยอมนอนมองหน้าหนอนไม่เจริญตาพวกนี้ทั้งคืนแน่ๆ

"ฉันกับยูเกรนเชือด แล้วเธอค่อยฝังไว้ใต้ทราย โอเคไหม?" แบ่งหน้าที่อย่างไว เขาเองก็ไม่คิดนอนมองเจ้าพวกนี้ทั้งคืนเช่นกัน

ไม่ต้องให้ตอบรับยูเกรนก็เดินออกไปจากอาณาเขตเวทที่อิลิเลียกางไว้ คมดาบตวัดฟาดฟันออกไปรวดเร็วแบบตาเนื้อมองไม่ทัน ก่อนเจ้าตัวจะพุ่งเข้าไปกลางดงหนอนแล้วตวัดดาบอีกสี่ห้าครั้ง หนอนยักษ์หนังเหนียวทนทางต่อพลังเวทระดับสูง เลือดมีพิษร้ายแรง เขี้ยวแหลมคมก็กลายเป็นเศษซาก เลือดพิษสาดกระเซ็นเหมือนฝนตกอยู่ครู่หนึ่งทว่ามันไม่เปื้อนพระเอกเลยแม้แต่หยดเดียว จิตของเจ้าตัวป้องกันทุกอย่างได้หมด

"แม่จ๋า พระเอกน่ากลัวเกินไปไหม" เจ้าหญิงผมทองอ้าปากค้าง

เพียงครู่เดียวยูเกรนก็ส่งพวกหนอนทะเลทรายไปโลกหน้าทั้งหมด เจ้าตัวสะบัดดาบเสียครั้งคราบเลือดบนตัวดาบกระเด็นออกไปหมดสิ้น "นั่นงานท่านเจ้าหญิง" ชี้ไปยังซากหนอนขณะเดินเข้ามานั่งข้างกองไฟ ก่อนรินกาแฟใส่แก้วแล้วยกขึ้นมาจิบท่าทางสงบนิ่งเหมือนเมื่อครู่ไม่ได้ออกไปโชว์ฝีมือดาบเขย่าขวัญผู้คน

อิลิเลียรีบรับช่วงต่อกรรมกร เวทที่ใช้ออกไปแทนที่จะฝังกลายเป็นเผาไหม้กลายเป็นขี้เถ้าทั้งหมดในเวลาไม่กี่อึดใจ ใช่ว่าเธออยากโชว์พลังเวทเกทับพระเอก แค่รนจนท่องเวทผิดต่างหาก

'แง อย่าเขม่นแบบนั้นสิคะคุณพระเอก ฉันแค่ท่องเวทผิดบทเท่านั้นเอง'

ยูเกรนเหลือบตามองนิ่งๆ ครู่หนึ่งแล้วเลิกสนใจ ทว่าครู่เดียวนั้นทำอิลิเลียหายใจไม่ทั่วท้องเชียวแหละ ต่างจากจินตกชที่มองทั้งสองสลับไปมาแล้วส่ายหน้าก่อนกระโจนพรวดไปเก็บข้าวของทั้งหมดเข้าคลัง

"รีบไปจากตรงนี้ ตามฉันมาเร็ว!" พริบตาบีสท์ขี้ริ้วก็พุ่งตัวออกไปไกลลิบให้ทั้งสองคนวิ่งตามไปเกือบไม่ทัน ยังไม่ได้ถามอะไรทั้งสองได้ยินเสียงคำรามของสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ด้านหลังพอหันกลับไปเจ้าหญิงผมทองหลุดเสียงกรี๊ดสนั่น

"นั่นมันโครโนซอรัส... หรือเปล่า?" อิลิเลียไม่แน่ใจกับสัตว์โบราณร่างยักษ์หน้าแหลมคล้ายจระเข้หกขา ซึ่งขาแต่ละข้างน่าจะยาวสามเมตร ตั้งแต่หัวจรดปลายหางคาดว่าเกินสิบห้าเมตรแน่ๆ นอกจากผิวหนังหนาเหมือนสวมเกราะมันยังมีเขาแหลมบิดเป็นเกลียวคู่โต

เจ้าตัวยักษ์นั่นไม่ได้มาแค่ตัวเดียวมันมาถึงห้าตัวทำพื้นทรายฟุ้งกระจายสูงขึ้นฟ้าไปนับสิบเมตร พวกมันไล่กวดมาได้เร็วจนตอนนี้แทบหายใจรดต้นคอทั้งสาม

"ตัวแบบนี้มันน่ามีอยู่แค่ในทะเลไม่ใช่หรือไง มาวิ่งฝุ่นตลบแบบนี้ได้ไง!" อิลิเลียผวาไม่เก็บสีหน้า

"แล้วตรงนี้ไม่ใช่ทะเลที่ไหนล่ะ" จินตกชยังพูดจาตลกชวนตายได้อย่างน่าตบรางวัลยิ่งนัก

"มันควรอยู่ในทะเลที่เป็นน้ำค่ะพี่จินต์ ไม่ใช่ทะเลที่มีแต่ทรายไร้น้ำสักหยดแบบนี้!" เจ้าหญิงผมทองโวยออกไปสุดเสียง นึกหมั่นเขี้ยวคนพูดไม่ใช่น้อย

"ทะเลทรายก็คือทะเลมาก่อนฉะนั้นมีเจ้าพวกนี้ไม่แปลกตรงไหน ดูสิมันวิวัฒนาการจากครีบเป็นขาแล้วยังมีหกขาเลยด้วย คงอยู่มานานปีตัวถึงใหญ่กว่าวาฬสีน้ำเงินโตเต็มวัยสี่เท่าแบบนั้น"

"ตัวขนาดนี้คงอยู่มาเป็นพันปีแล้วมั้ง" อิลิเลียไม่เคยคาดคิดเลยว่ามอนสเตอร์ยักษ์พวกนี้จะมีจิตสังหารให้สันหลังเย็นยะเยือกลมหายใจติดขัด เรี่ยวแรงที่มีพาลจะหมดไปด้วย

"ไม่ถึง เจ้าพวกนี้อายุหลักร้อยเท่านั้น... จริงสิ เอาเจ้าพวกนี้เป็นสัตว์เลี้ยงไหม?" ถามเหมือนล้อเล่นแต่สีหน้าจินตกชจริงจังน่ากลัว

อิลิเลียส่ายหน้ารัวเร็ว "ตัวแบบนี้ใครอยากเลี้ยงกันคะ ฉันไม่มีปัญญาหาอาหารมาให้มันกินหรอก"

"ให้มันหาเองไง"

สาวเจ้ายังคงส่ายหน้า "ที่อยู่อีกล่ะ ยิ่งถ้าฉันไม่อยู่แล้วใครจะรับเลี้ยงต่อคะ"

"ไม่อยู่แล้วก็ปล่อยกลับ" ทางออกทุกอย่างดูง่ายเมื่อออกมาจากปากบีสท์ขี้ริ้วทว่าเจ้าหญิงยังคงส่ายหน้า

"ไม่เอาค่ะ!" ยังคงยืนยันหนักแน่น จินตกชไหวไหล่ท่าทางอ่อนใจน้อยๆ

"ไม่เอาก็ไม่เอา งั้นเร่งฝีเท้าหน่อย อ้อ ระวังตามทางด้วย" บิสท์ขี้ริ้วพาทั้งสามวิ่งผ่าเข้าไปกลางฝูงไฮยีน่าดำ พวกมันแตกตื่นวิ่งหนีกันวุ่นวายทว่าฝีเท้าเจ้าพวกนี้ไม่เร็วไปกว่ามอนสเตอร์ยักษ์ที่ไล่กวดมา ไฮยีน่าดำฝูงใหญ่เลยกลายเป็นอาหารให้โครโนซอรัสกลายพันธุ์แทนคนทั้งสาม แต่ยังมีอีกสองตัววิ่งไล่ตามมา ราวมันเบื่อเนื้อสุนัขแล้วอยากกินเนื้อคนมากกว่า

ทิศทางที่จินตกชพายูเกรนกับอิลิเลียวิ่งมายังมีฝูงสัตว์ร้ายอีกหลายชนิด แน่นอนว่าพวกมันกลายเป็นอาหารแบบไม่รู้ตัว แล้วยังมีพืชพิษร้ายแรงให้เบี่ยงทิศหลบกันวุ่นวายในขณะที่เจ้าตัวยักษ์สองตัวที่ไล่ตามมาเหยียบย่ำทุกสิ่งไม่มีรู้สึกใด พืชพิษมากมายหลากสายพันธุ์ราบเป็นหน้ากลอง ไม่กี่อึดใจวิ่งไล่กันมาจนมองเห็นเงาดำเป็นกำแพงยาวที่เส้นขอบฟ้า นั่นทำให้ทั้งสามรู้ว่ากำลังใกล้โบราณสถานกิลเมดัชเข้าไปทุกทีแล้ว

พริบตาที่ผ่านโอเบรีสกำหนดเขตแดนของกิลเมดัชเข้าไปกับดักเวทด่านแรกทำงานทันที หอกแสง ธนูแสงพุ่งออกมาจากอากาศว่างเปล่าลายท้องฟ้า ตกลงพื้นราวห่าฝนไร้ช่องทางหลบหนีในเมื่อพื้นทรายกว้างไร้ที่กำบังทว่าทั้งสามคนปลอดภัยดีแบบไม่ได้ออกแรงเพิ่มจากการวิ่งสักนิด ในเมื่อพริบตาที่กับดักทำงานจินตกชหันกลับมาคว้ายูเกรนกับอิลิเลียพุ่งมาหลบใต้ท้องเจ้าตัวยักษ์ที่กำลังตะลึงว่าตนดันเผลอไล่กวดจนล่วงเข้ามาในเขตอันตรายร้ายแรง

หนังหนาไม่ต่างจากใส่เกราะหนาสุดแข็งแกร่งต้านทานพลังเวทของนักเวทระดับซิลเวอร์ได้สบายกลับไม่สามารถทานทนต่ออาวุธแสงเหล่านั้นได้ อึดใจเดียวเจ้าตัวยักษ์ทั้งสองกลายสภาพเป็นหมอนปักเข็ม พวกมันคำรามอย่างเจ็บปวด ครั้นเค้นแรงถอยหนี หอกแสงอีกละรอกพุ่งตามมา คราวนี้มันมีขนาดใหญ่เท่าตัวคนแทงทะลุลงมาปักข้างตัวคนที่หลบอยู่ใต้ท้องมอนสเตอร์ยักษ์แบบอีกแค่นิ้วเดียวได้ปาดจมูกเจ้าตัวไปด้วยแน่นอน

"แสดงออกว่าไม่ต้อนรับแบบตรงๆ เลยแฮะ" จินตกชรู้ว่าตนไม่เป็นที่ต้อนรับของโบราณสถานทั้งหลายแต่ไม่นึกว่าแม้แต่กิลเมดัชก็รังเกียจเขาด้วย

ความเสียหายทางใจแบบนี้เรียกค่าเสียหายได้จากใครบ้าง