webnovel

ระบบตกหนอนหนังสือไปเปิดไฟท์ที่ต่างโลก

ตอนที่ 10

อากาศทะเลทรายแสนแห้งแล้งแค่สูดเข้าไปก็แสบคอแสบจมูกแล้วสำหรับคนธรรมดานะ ทว่าคนแถวนี้ชินแล้วมีแค่พวกมาจากที่อื่นนั่นแหละโผล่ออกมาจากทางเวทแล้วหายใจเฮือกแรกก็ไอจนหน้าแดง ครู่หนึ่งถึงปรับตัวได้และคนที่เป็นแบบนั้นคือสาวน้อยผมทอง ไอน้ำตาน้ำมูกไหลจนใครก็ไม่กล้าบอกว่านั่นคือคนรู้จัก ยิ่งยามนี้ออกมาแล้วไม่เห็นเผ่าบีสท์กับพระเอกผมขาวอยู่ตรงไหนในคลองสายตาด้วย เจ้าหล่อนยิ่งมีสีหน้าเหลอหลาเพิ่มสภาพดูไม่ได้มากขึ้นไปอีก

"ยายหนูเอ๊ย เอาผ้าไปเช็ดหน้าเช็ดตาสักหน่อยเถอะ ดูไม่ได้เลย" หญิงชราผู้ใจดีคนหนึ่งส่งผ้าเช็ดหน้าเนื้อนิ่มให้เธอ อิลิเลียรับมาพลางขอบคุณ

"ท่านยายท่านเห็นเผ่าบีสท์หน้าตาขี้ริ้วกับชายหนุ่มผมขาวหน้าตาหล่อมากผ่านมาทางนี้บ้างไหม?" โดดเด่นขนาดนั้นอย่างไรต้องจำได้แน่นอน

"ชายหนุ่มผมขาวงามราวเทพบุตรที่มาถึงก่อนเจ้าน่ะหรือ"

"ใช่แล้วท่านยายเห็นใช่ไหม?" อิลิเลียแทบพุ่งเข้าไปจับเขย่า

"เห็นเดินไปทางนั้นแน่ะ บอกตามตรงหนุ่มคนนั้นทำทุกคนมองเหลียวหลังเชียวแหละ" พูดพลางมีหน้าระเรื่อประกอบ ซึ่งอิลิเลียเข้าใจ หน้าตาพระเอกแม้แต่บุรุษแท้ยังใจสั่น ไม่ใช่สวยแต่หล่อเหลางดงามไร้ที่ติ

ก็ไม่รู้ทำไมแต่อิลิเลียคิดว่าพระเอกผมสีขาวดูดีที่สุดจริงๆ ดีกว่าต้นฉบับเดิมมากมาย

'ตัวละครผมขาวนี้ช่างขี้โกงตาใสชะมัด'

บอกขอบคุณท่านยายคนนั้นแล้วรีบเดินไปทางที่บอกอย่างรวดเร็ว ทว่าเดินวนหาไปมาจนผ่านไปหลายชั่วโมงฟ้ามืดไปครู่ใหญ่แล้วแต่เมืองไม่มืดมิดคบไฟเวทตามจุดต่างๆ ส่องสว่างมองเห็นได้ทุกซอกมุม สว่างจนตาพร่า

"ทำไมต้องให้มันสว่างขนาดนี้เนี่ย โอยแสบตา" สาวเจ้าเดินผ่านคบไหนต้องยกมือป้องตากันแสงเสียทุกครั้ง

พ่อค้าร้านแผงลอยได้ยินเธอบ่นขณะเธอเลือกผลไม้บนแผงของตน "สว่างขนาดนี้เพื่อป้องกันมอนสเตอร์ขนาดเล็กแอบลอบเข้ามาในเมืองไงล่ะ พวกตัวเล็กบ้างชนิดอันตรายร้ายแรงมากด้วย บางชนิดตัวเท่าแมลงมันสามารถมุดเข้าร่างกายแล้วกัดกินจากภายใน บางชนิดตัวเท่ากำปั้นดูดเลือดเหยื่อแห้งเป็นซากได้ในสองสามนาที พวกนี้มากันเป็นฝูง"

"ฝูงหนึ่งร้อยสองร้อยตัว แต่พวกมันกลัวแสงไงล่ะ" พ่อค้าอีกแผงช่วยเสริม

"และสว่างแบบนี้ทั้งคืนทำให้ร้านขายของอย่างพวกเรามีรายได้เพิ่มอีกด้วย เดี๋ยวพอฝ่ายขายกลางวันเก็บร้านไปขายกลางคืนก็มาเปิดร้านแทน รายได้หมุนเวียนตลอดเวลา" คนค้าขายทั้งหลายตรงนั้นต่างยิ้มกว้างอย่างยินดี อิลิเลียพยักหน้าเข้าใจ

"ว่าแต่พวกท่านเห็นชายหนุ่มผมสีขาวพกดาบยาวหนึ่งด้ามกับเผ่าบีสท์หน้าตาขี้เหร่บ้างไหม?" ไหนๆ พวกเขาใจดีช่วยไขข้อข้องใจเรื่องคบไฟแล้วถามอีกเรื่องเขาคงไม่ว่ากัน

"เห็นสิ คนอะไรหล่อไร้ที่ติทำมองตามคอแทบเคล็ดแน่ะ" พ่อค้าขายผลไม้ตรงหน้าอิลิเลียหลับตาทบทวนภาพแล้วมีสีหน้าเคลิ้มฝันแน่นอนว่าผู้ค้าขายแถวนั้นมีสีหน้าแบบเดียวกัน

"คนรู้จักของแม่หนูหรือ?" ลุงขายผลไม้ถาม

อิลิเลียพยักหน้ารัวๆ "ทั้งสองคนนั่นเป็นปาร์ตี้เดียวกับฉัน พวกเขาจะมากิลเมดัช เขาบอกว่าอันตรายเลยไม่เอาฉันมาด้วยฉันเลยแอบตามมานี่แหละค่ะ" มาทะเลทรายน้ำเงินมันก็มีแค่ที่เดียวที่เธอคาดเดา

"นี่แม่หนูเป็นนักผจญภัยหรอกหรือ" สีหน้าพ่อค้าแม่ค้าทึ่งจากใจ ไม่คิดว่าสาวน้อยน่ารักท่าทางบอบบางใจกล้าพูดถึงโบราณสถานกิลเมดัชออกมาแบบไม่มีหวั่นเกรงสักนิด

"แม่หนูควรรออยู่ที่นี่เถอะนะ มันอันตรายจริงๆ พวกฉันเข้าใจสองคนนั้นที่ไม่พาหนูไปด้วยนะ"

"ฉันเป็นจอมเวทระดับโกลด์มาสเตอร์ค่ะ" ยื่นเหรียญตราสีทองให้ดูชัดๆ ทำชาวบ้านชาวเมืองผงะไปตามๆ กันแล้วหันไปกระซิบกระซาบกันวุ่นวาย

"ไม่น่าเชื่อเด็กอย่างหนูเป็นจอมเวทระดับโกลด์"

"มินาเล่าถึงดูไม่กลัวกิลเมดัชเลย"

"แต่อย่าประมาทนะ พวกมั่นใจในตนเองเอาชีวิตไปทิ้งมานักต่อนักแล้ว อย่างไรฉันก็ยังยืนยันว่าควรรอสองคนนั้นกลับมาที่เมืองโลเลซนี่ดีกว่าอยู่ดีแหละ" ลุงพ่อค้ายังคงเป็นห่วง

"ขอบคุณที่เป็นห่วงนะคะ แต่อย่างไรฉันก็จะตามไปอยู่ดีค่ะ" สายตามั่นคงอย่างคนตัดสินใจเด็ดขาดแล้วทำลุงพ่อค้าถอนใจเฮือก

"งั้นก็รีบหน่อยเถอะ สองคนนั้นออกประตูเมืองฝั่งตะวันออกไปตั้งแต่ยังไม่ค่ำ" ชี้ไปทางประตูเมืองซึ่งยามนี้ยังเปิดอยู่ "อีกสามชั่วโมงประตูก็ปิดแล้ว"

"ขอบคุณมากค่ะ!" อิลิเลียไม่เสียเวลาสักวินาทีกระโจนออกไปด้วยทักษะนักรบของตน พริบตาก็ออกประตูเมืองไปแบบทหารยามมองไม่ทันด้วยซ้ำว่ามีคนผ่านไป ทางแผงขายของอ้าปากค้างที่อยู่ๆ สาวน้อยก็หายแวบราวผีหลอก

"จอมเวทระดับโกลด์นี่น่ากลัวจริงๆ"

ทะเลทรายน้ำเงินไม่ได้มีทรายสีน้ำเงินมันมีเม็ดทรายสีนวลตามปกติทว่ายามกลางคือเมื่อมีแสงจันทร์ส่องลงมากระทบพื้นทรายจะเรืองแสงสีน้ำเงินอ่อนจางทำให้เห็นเป็นทรายสีน้ำเงินทอดไปไกลสุดสายตา เกิดเป็นความงดงามอันเยือกเย็นแสนประหลาด

"สวยขนาดนี้เลยหรือ คนเขียนนี่จินตนาการสุดยอดไปเลย" อิลิเลียยืนมองอย่างชื่นชมสุดใจ แม้ในสายตาระยะไกลมีไฮยีน่าดำตัวใหญ่หลายตัวขยับใกล้เข้ามาอย่างมุ่งร้ายแต่สาวเจ้ายังคงชื่นชมทิวทัศน์ตรงหน้าแบบไม่สนใจสักนิด

พริบตาปากอ้ากว้างเขี้ยวแหลมคมเรียงเป็นตับก็มาถึงตรงหน้า ไฮยีน่าอ้าปากพร้อมขย้ำเหยื่อทว่าไม่รู้ว่าใครกันแน่ที่เป็นเหยื่อ เพียงดีดนิ้วพลังเวทสังหารพุ่งออกไประเบิดพวกมันทุกตัวได้ในครั้งเดียว

"อย่ามาขัดตอนฉันชื่นชมสิ่งสวยงามในนิยายได้ไหม โลกจริงหาแบบนี้ไม่ได้เสียด้วย" เธอปรายตามองซากไฮยีน่าดำอย่างเย็นชา

ดั่งที่จินตกชบอกไฮยีน่าดำกระจายตัวหากินอยู่ทั่วทะเลทรายน้ำเงินแล้วใต้ผืนทรายยังเป็นรังของเวิร์มดรากอน ซึ่งตามจริงแล้วเวิร์มที่ว่าก็ตรงตัว หนอนยักษ์ตัวเป็นขบวนรถด่วน ดุร้ายและพลังทำลายล้างสูงเลยมีคนเอามันไปเทียบกับมังกรหลังจากนั้นมันเลยได้ชื่อดรากอนพ่วงท้ายมาด้วย

พอบนพื้นทรายมีกลิ่นเลือดรุนแรงหนอนตัวยักษ์ที่นอนนิ่งใต้ผืนทรายราวถูกเชื้อเชิญให้โผล่ขึ้นมากินอาหารมื้อใหญ่ พวกมันพุ่งขึ้นมาจากพื้นทรายหลายตัวแล้วตรงเข้ากัดกินซากไฮยีน่าโดยรวบเอาอิลิเลียเข้าไปด้วย

"กินเจ้าพวกนั้นไปแบบไม่ต้องยุ่งกับฉันไม่ได้หรือไงยะ!" สองมือเธอเรืองด้วยแสงเวทจากนั้นก็ไม่ต้องพูดอะไรกันอีก

พายุพลังเวทกับพลังทำลายของเวิร์มดรากอนปะทะกันอยู่ไกลๆ แต่ไม่ไกลเกินการมองเห็นของนักดาบทั้งสองผู้ยืนอยู่กลางฝูงไฮยีน่าดำร้อยกว่าตัว

"ตรงโน้นน่าจะเป็นยายเจ้าหญิงนะ" ท่าทางจินตกชสนุกมากมายที่เห็นการปะทะเดือดในจุดนั้น

"นายให้ความสนใจเจ้าหญิงนั่นน่าไม่น้อยเลยนี่" ยูเกรนขมวดคิ้ว ตรงหน้ามีสัตว์ร้ายอันตรายเป็นร้อยตัวทว่าเจ้าบีสท์ขี้ริ้วยังมีแก่ใจมองคนไกลอีก

"หงุดหงิดอะไรนั่น" ทางนี้พร้อมเชือดแล้วเช่นกัน ดาบผลึกแดงชักออกจากฝักมากระชับเข้ามือ "ถ้าเชือดเจ้าพวกนี้แล้วได้เหรียญได้ไอเทมก็ดีหรอกนะ" ว่าแล้วกระโจนออกไปเป็นฝ่ายล่าทันที

"นายยังงกอะไรอีกเล่า" นึกถึงถุงมิติป่องใกล้แตกร้อยกว่าลูกที่หมู่บ้านเทลซินแล้ว คิดไม่ออกเลยว่าใส่อะไรไว้มากแค่ไหน

"ไม่รู้อะไรซะแล้วพ่อนักบุญ คนเราต้องกินต้องใช้มีเยอะไว้มันไม่ขอข้าวกินหรอก" เพราะระหว่างเดินทางคนเดียวเก็บเหรียญจนติดเป็นนิสัยไปแล้วนะสิถ้ามีระบบล่าแล้วได้เหรียญแบบในเกมจินตกชอาจบ้าบอไล่บุกไปทั่วมากกว่านี้ก็ได้ เก็บประสบการณ์พร้อมเก็บเงิน ฉันจะเป็นนักผจญภัยที่ล่ำรวยที่สุดในโลกให้ดู

พูดกันไปแต่ละคนก็ตวัดดาบฟาดฟันมอนสเตอร์โชคร้ายฝูงใหญ่ ทำให้พวกมันเข้าใจเสียใหม่ว่าผู้ล่าใช่ว่าต้องตัวโตกว่าพวกมันและใช่ว่าต้องมีเขี้ยวเล็บแหลมยาวไว้ข่มขวัญ มอนสเตอร์ร้อยกว่าตัวกับนักดาบระดับยูนิตสองคนใช้เวลาไม่เกินสองอึดใจทั้งฝูงก็กลายเป็นซากแต่ทางระดับโกลด์สิยังมีแสงสีเสียงตระการตาไม่เลิกรา

"ทางโน้นคงอีกพักใหญ่... ปล่อยไว้ตรงนั้นละกันเนอะ" จินตกชหันไปยิ้มกว้างให้ยูเกรน แสดงออกว่าสนุกมากมายที่ยายเจ้าหญิงนั่นกำลังลำบาก ทำเอาหนุ่มผมขาวอึ้งไปเลย

"นึกว่าเป็นห่วง กลับสะใจมากเสียอย่างนั้น นายมั่นใจว่าเจ้าหญิงนั่นสู้ไหวหรือดีใจถ้าเจ้าหญิงนั่นโดนเล่นงานจนเละกันแน่" ความรู้สึกที่อ่านได้มันแปลกพิกล

"ทั้งสองอย่าง" ตอบได้แบบไม่ใช้เวลาคิดสักวินาที "เพียงแต่ยายนั่นสู้ไม่ไหวก็จะแบบนั้นน่ะ" ชี้นิ้วหัวแม่มือกลับไปด้านหลังที่ยามนี้สนามต่อสู้เคลื่อนที่ใกล้ทางนี้เข้ามาทุกขณะ

"พามาทางนี้งั้นหรือ" ยูเกรนเขม็งตาใส่พร้อมตวัดดาบออกไปทุกเวลา

บีสท์ขีริ้วกดมือยูเกรนไว้ "ไม่เอาน่า เผ่นเถอะ ให้ยายนั่นได้หมดสภาพเสียมั่งก่อน" หัวเราะอย่างชั่วร้ายแล้วออกวิ่งรวดเร็ว ยูเกรนเก็บดาบแล้ววิ่งตามไป

การแกล้งทิ้งในครั้งนี้ทำอิลิเลียลำบากจริง ทั้งเวิร์มดรากอนทั้งไฮยีน่าดำทั้งกับดักเวทโบราณที่ซุกซ่อนอยู่ใต้ผืนทราย ทุกสิ่งในทะเลทรายแสนสวยนี้ล้วนเอาชีวิตคุณได้ทุกเวลา ทักษะต่อสู้ระดับสูงของตนรวมเข้ากับพลังเวทยังไม่อาจพาตนเองรอดพ้นไปจนถึงเขตโบราณสถานกิลเมดัชได้ หลังจากปะทะกับมอนสเตอร์หลายร้อยตัวอิลิเลียก็มาจนมุมหน้าดงพืชพิษไร้ยาแก้ หากโดนหนามแหลมคมของพวกมันขีดข่วนเพียงเล็กน้อยเธอได้โดนดีดออกจากนิยายเรื่องนี้และภารกิจที่รับมาย่อมล้มเหลว บทลงโทษไม่ทำให้ตายก็จริงแต่ก็เป็นอะไรที่ไม่น่าจดจำสักน้อย อิลิเลียจึงเค้นพลังของทักษะทั้งหมดออกมาใช้ต้านศัตรูรอบทิศ

'บีสท์นั่นคือพี่จินต์หรือเปล่าก็ยังไม่แน่ใจ ภารกิจก็กำลังล้มเหลว ฉันมันอวดดีจริงๆ ที่คิดว่าระดับตนเองทำอะไรในนิยายเรื่องนี้ก็ได้ นิยายเรื่องนี้ปรับไปสู่ระดับสูงสุดแล้วหรือเปล่านะตามที่เคยอ่านมามันไม่น่ากลัวขนาดนี้นี่นา'

ตามที่อิลิเลียสงสัย ทุกเรื่องที่จินตกชถูกส่งเข้ามาระดับจะปรับสูงขึ้นสู่ขีดสุด ฉะนั้นลืมต้นฉบับเก่าไปได้เลย ตรงนี้คือเรื่องคู่ขนานนั่นแหละ และผู้เดินเล่นคนไหนก็ตามบังเอิญเลือกเรื่องที่จินตกชเข้ามาไม่ว่าก่อนหรือหลังล้วนรับความซวยนี้ไปด้วยทันที รวมทั้งภารกิจก็เพิ่มระดับความยากขึ้นโดยอัตโนมัติเช่นกัน ซ้ำบทลงโทษยังเพิ่มระดับร้ายแรงตามไปอีกอย่างด้วย และรายละเอียดตรงนี้ระบบของแต่ละคนจะไปบอกให้รู้หลังออกจากโลกที่มีจินตกชเดินเล่นแล้วเกิดภารกิจล้มเหลว

"แงพี่จินต์!" เอาเข้าจริงอิลิเลียก็ร้องเรียกสนั่นอยู่ดี ยามนี้สภาพเจ้าหล่อนไม่ต่างจากลูกหมาตัวน้อยคลุกฝุ่น มอมแมมไปทั้งตัวหัวกระเชิงเป็นพงหญ้า รอยฟกช้ำดำเขียวพราวทั้งตัว "พี่จินต์ช่วยด้วยค่ะ!!" เจ้าหล่อนฟูฟายโวยวายไม่มีอายทำคนได้ยินยกมือกดหน้าผาก

เผ่าบีสท์หูดีอยู่แล้วเสริมด้วยพลังจิตระดับแม็กซ์ทำเอาได้ยินเหมือนงอแงอยู่ตรงหน้าเลย "ให้ตายสิ ทำไงยายนั่นยึดติดกับฉันจังฟะ"

"จะกลับไปช่วยงั้นหรือ?"

"ไม่ได้หรือ?" แม้ตอนนี้เขาเป็นหัวหน้าปาร์ตี้ตัดสินใจทำอะไรลูกทีมต้องไปด้วย เพียงแต่ลูกทีมเขาคือพระเอกนะสิ ใครสั่งได้ล่ะ

ยูเกรนไม่พูดอะไรแค่พยักหน้าไปทางที่กำลังซัดกันเละอยู่เป็นการบอกว่าก็ไปสิ

การวิ่งหนีไม่ทำให้รอดไปจากเขี้ยวของเวิร์ดรากอนได้แน่นอน แต่อิลิเลียทำได้แค่วิ่งเลาะไปตามกำแพงพืชพิษ อยากใช้เวททะลวงกำแพงอยู่หรอกทว่าตอนนี้พลังไม่พอแม้แต่ทำให้เกิดบาดแผลบนผิวหนอนยักษ์พวกนั้นยังทำไม่ได้เลย แล้วอยู่ๆ พื้นเกิดสะเทือนทำให้เธอล้มกลิ้ง เวิร์ดรากอนสามหัวพุ่งขึ้นมาดักหน้าทางวิ่งของเธอ

"บ้าน่ามีตัวแบบนี้ในเรื่องด้วยหรือ ตอนอ่านไม่เห็นเจอเลย"

เสียงคำรามของมันดังสนั่นจนอิลิเลียต้องยกมือปิดหูกันแก้วหูแตกก่อนกลิ้งตัวหลบการจู่โจมของเจ้าสามหัว ตัวใหญ่กว่าเวิร์มปกติสามเท่าแต่ว่องไวกว่าหลายเท่า ถ้าเธอไม่ใช่นักรบเวทมนต์คงลงท้องมันไปแล้ว เขี้ยวของมันแค่เฉี่ยวยังทำเอาอิลิเลียกระเด็นไปไกลได้แผลรอยใหญ่ ปากใหญ่โตทั้งสามดิ่งเข้าใส่ทั้งที่สาวเจ้าตัวนิดเดียวแค่ปากเดียวยังไม่พอเลยพุ่งเข้ามาทีสามปากแบบนี้เธอนึกอยากมีเครื่องยิงจรวดแบบทีเดียวสี่ลูกเหลือเกิน แม่จะป้อนให้อิ่มเลยเชียว

คิดเพ้อไปนิดแล้วเค้นพลังออกมาสร้างโล่โปร่งแสงป้องกัน มันกลับเปล่าประโยชน์โดนกระแทกครั้งเดียวโล่แตกกระจาย พร้อมเวิร์มดรากอนสามหัวกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยแบบนับจำนวนไม่ถ้วนตกโครมครามข้างกายอิลิเลียเสียอย่างนั้น

"ไง คุณเจ้าหญิงสภาพดูไม่ได้เลยนี่" บิสท์ขี้ริ้วยืนก้มมองเธอจากบนกองซากเวิร์มดรากอนตัวยักษ์ และมีหนุ่มผมขาวยืนตรงข้ามกันก้มมองเธอนิ่งๆ

ไม่ว่าบีสท์คนนั้นใช่จินตกชหรือไม่ทว่าหนุ่มผมขาวคือพระเอกซึ่งทรงฝีมือของจริง ถ้าเธอหาทางเกาะขาได้อย่างไรต้องรอดแน่นอน ทั้งที่คิดแบบนั้นแต่สองตาสีน้ำเงินมีน้ำตาคลอกลับจ้องเป๋งยังเผ่าบีสท์

"พี่จินต์ พี่ใจร้ายที่สุดไหนบอกว่าเจอกันอีกครั้งจะเลี้ยงหมูกระทะฉันไงล่ะ" อิลิเลียตัดพ้อสองมือยกปิดหน้าสะอึกสะอื้น

จินตกช์ยกยิ้มมุมปาก "พอเลยฝีมือแสดงติดลบขนาดนั้น เอาความมั่นใจไหนมาเชื่อว่าท่านกำลังร้องไห้หรือเจ้าหญิง" น้ำเสียงนั้นช่างบ่งบอกถึงความไร้น้ำใจที่สุด

ในเมื่อคนตรงหน้าไม่ตกหลุมพรางอิลิเลียจึงเปลี่ยนสีหน้าฉับพลัน "พี่จินต์จริงๆด้วย การแสดงของฉันมีพลังเวทช่วยเสริมไม่ว่าใครก็ดูไม่ออก มีแค่ทักษะวิสัยทัศน์ระยะไกลเท่านั้นที่มองทะลุได้" เธอพูดอย่างมั่นใจก่อนความมั่นใจนั่นจะโดนทำลายย่อยยับ

"นายดูไม่ออกหรือ?" หันไปถามยูเกรน

"ห่วยเสียขนาดนั้นทำไมคิดว่าดูไม่ออกล่ะ" พระเอกขมวดคิ้วสายตาเย็นเฉียบ หากเจ้าหล่อนยังแสดงมากกว่านี้อาจมีมือกระตุก เพราะตอนนี้มันกุมด้ามแน่นแบบพร้อมชักออกมาฝากแผลให้เจ้าหล่อนสักแผลแล้วนี่นา

"กรี๊ด ไม่รวมพระเอกสิคะ นั่นลูกรักนักเขียนอะไรก็หลอกไม่ได้อยู่แล้ว" สาวเจ้าผงะห่างออกไปจนหลังแทบติดกำแพงพืชพิษ

"ไม่ถูกหลอกอะไรเล่า เห็นเชื่อตัวร้ายทุกอย่าง หูเบาไร้เหตุผล นางเอกนายเอกพูดอะไรไม่มีเชื่อ กว่าจะรู้ว่าโง่ก็กลายเป็นพันธุ์ทางโฮ่งๆ ทั้งนั้น" ใช่ว่าไม่รู้ว่าตนผสมโรงแบบนี้ย่อมเป็นการยอมรับว่าตนคือจินตกชจริงๆ แต่ก็อยากด่าพระเอกพวกนั้นนี่นา สมองมีไว้เพื่อหาเรื่องยัดเยียดความชั่วเลวใส่นางเอกนายเอก พอกลายเป็นโฮ่งเต็มขั้นก็มาตามง้อขอคืนดี บางทีอ่านแล้วก็อยากเอาเท้าลูบหน้าให้สักทีสองทีแล้วบอกว่าฉันไม่ยก นางเอก นายเอกให้หรอกเว้ย!

พอได้ยินจินตกชวิจารณ์พระเอกดวงตาอิลิเลียเป็นประกายทันที "พี่จินต์จริงด้วย!"

พริบตาเจ้าหญิงผมทองก็พุ่งมากางสองมือกว้างแบบจะกอดบีสท์ขี้ริ้วแต่ก็ต้องเบรกตัวโก่งกับคมดาบคั่นกลางไม่รู้ว่าถูกชักออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่

"คิดอะไรอยู่กันแน่เจ้าหญิงอิลิเลีย" น้ำเสียงเจ้าของดาบเย็นเฉียบ "ไม่ใช่ว่าตามมาเพื่อแก้แค้นที่โดนพวกฉันเล่นงานเรื่องมังกรหรือไง"

"เปล่านะคะ... จริงๆไม่เกี่ยวเลย... เชื่อหน่อยเถอะค่ะ" สบตาพระเอกแล้วอิลิเลียจะร้องไห้ เสียงสั่นตอนนี้ไม่ได้แสดงเลยสักนิด กลัวจนแทบหมอบกราบขอขมาพ่อคุณเสียเดี๋ยวนี้แล้ว

สภาพอิลิเลียตอนนี้ทำบีสท์ขี้ริ้วกลั้นขำจนตัวสั่น

เยี่ยมมากค่ะ พระเอก