webnovel

ซีนที่ 10

เมื่อกลับไปถึงเพนต์เฮาส์ ซัทก็พุ่งตรงไปยังห้องอาบน้ำด้วยความร้อนรนทันที เขามองไปยังกองเสื้อผ้าใช้แล้ว ก่อนจะพบว่ามันว่างเปล่า จึงรีบหันไปคุยกับพลูโต

"นายจืดเสื้อผ้าฉันหายไปไหนหมด"

"ส่งซักไปหมดแล้วครับ"

"ที่ไหน นายส่งไปที่ไหน"

ซัทขึ้นเสียงใส่พลูโต

"อะไรกันครับพี่ซัท ใจเย็น ๆ ก่อน พี่ต้องการอะไร"

ได้ยินแบบนั้นซัทก็รู้ตัวว่าตนทำไม่ถูก จึงพยายามกำหนดลมหายใจเข้าออก เพื่อรวบรวมสติ

"เสื้อตัวที่ฉันใส่เมื่อวานน่ะ มันมี..."

"อ๋อ นี่ครับ"

จู่ ๆ พลูโตก็อุทานแทรกขึ้นมาเสียงดัง

"นี่ครับ ผมก็ลืมไปเลย"

พลูโตพูด แล้วเดินเข้าไปใกล้ ๆ ซัท ก่อนจะยื่นบางอย่างให้

เมื่อซัทเห็นว่ามันเป็นอะไรจึงรีบคว้ามันไว้ทันที

"นี่แหละฉันก็หาอยู่ ขอบใจมากนะนายจืด นายกลับไปได้แล้วไป"

ได้ยินซัทขอบคุณพลูโตก็ดีใจอยู่หรอก แต่พอโดนไล่กลับมันก็หงุดหงิดอยู่นะ

"แต่พรุ่งนี้มี..."

"ฉันรู้"

คราวนี้เป็นพลูโตที่ถูกพูดแทรกบ้าง

"พรุ่งนี้มีงานในเมือง นายก็ไปพักเถอะ ค่อยมาอีกทีก่อนวันบวงสรวงแล้วกัน"

"แต่..."

"ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น ฉันอยากอยู่คนเดียว เพื่อทบทวนบทสักหน่อย นายคงเข้าใจใช่ไหม"

เมื่อซัทยืนกรานแบบนั้น พลูโตก็เถียงอะไรไม่ได้ จึงยอมกลับบ้านไปแต่โดยดี

ทันทีที่ซัทส่งพลูโตลงลิฟต์สำเร็จ เมื่อประตูลิฟต์ปิดสนิทลงไป ซัทยืนรออยู่ครู่หนึ่ง จึงรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออก แล้วแนบมันวันกับหู ก่อนยืนรอสายอยู่ครู่หนึ่ง จนปลายสายกดรับ

"ไอ้ตาณ เจอกันได้เร็วสุดเมื่อไหร่...โอเค มะรืนนี้ ได้ แล้วก็ขอถามให้ชัวร์อีกครั้ง การตายของพี่กบไม่มีอะไรผิดปรกติใช่ไหม...งั้นก็ดีแล้ว แต่ช่วยอะไรอย่างสิ.....ตรวจสอบทุกอย่างเกี่ยวกับพี่กบ แบบละเอียดให้ที...โอเค ขอบคุณมาก"

พูดจบซัทก็กดวางสายลง แล้วจ้องมองไปยังสิ่งของชิ้นเล็ก ๆ ที่อยู่บนมือของเขา มันคือ กระดุมรูปปลาดาว ที่ได้มาจากการไปบ้านพี่กบมาเมื่อวานนี้

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------

วันที่ 25 เมษา ณ ห้องอาหารในสนามยิงปืน ซัทเดินตรงเข้ามาหาตาณที่นั่งรออยู่ แล้วนั่งลงฝั่งตรงข้ามอย่างรวดเร็ว โดยที่ตาณกำลังจะกล่าวทักทาย แต่ซัทรีบตัดเข้าประเด็นทันที

"เรื่องพี่กบได้ความว่าไงบ้าง"

"ใจร้อนจังนะวันนี้"

"ใช่ ฉันอยากจะจบเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด ก่อนที่หลานฉันจะออกมาลืมตาดูโลก"

ได้ยินซัทพูดแบบนั้น ตาณก็ตกใจหน้าตาตื่นเลย เขาอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ เหมือนอยากจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ก็เหมือนเมื่อกี้ ซัทรีบพูดตัดบทเขาทันที

"เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน ขอเรื่องพี่กบก่อน"

"โอเค โอเค ใจเย็นก่อนเพื่อน"

ตาณรีบปรามซัท ก่อนที่คุณตำรวจตาณจะเริ่มเล่า

อย่างแรกที่ตาณบอกซัทก็คือ การตายของพี่กบ ไม่มีปริศนาอะไรเลย มันเป็นอุบัติเหตุจริง ๆ แต่เมื่อขุดลงไปลึก ๆ แล้ว เขากลับพบว่า ตัวพี่กบนั่นแหละที่เป็นปริศนา

ตัวพี่กบไม่ได้อยู่ในสังกัดเฟท เขามีบริษัทของตัวเอง มีสตูเป็นของตัวเอง แต่เฟทกลับป้อนงานให้พี่กบเยอะมาก ทั้ง ๆ ที่ช่างภาพเก่ง ๆ ในสังกัดของเฟทก็มีถมไป ซึ่งมันก็ไม่น่าแปลกใจอะไรหรอก ก็อย่างที่ทุกคนรู้ ครอบครัวของนาย กับพี่กบนั้นสนิทกันมาก

แต่ช่วงหลัง ๆ มานี้ พี่กบไปเจอรองประธาน บ่อยกว่านายกับพี่สาวอีก ทว่ามันก็แค่นั้นแหละ ไม่แปลกหรอกที่คนใหญ่คนโตในวงการจะแอบคุยกันลับ ๆ ยิ่งเมื่อวันก่อนพึ่งประกาศซีรีส์เรื่องใหม่ ที่จริง ๆ แล้วพี่กบควรจะมาเป็นโปรดิวเซอร์อีก มันก็ดูเหมือนไม่มีอะไรจริง ๆ นั่นแหละ

อย่างไรก็ดี เมื่อมาประกอบกับข้อมูลหนึ่ง ที่ฉันรู้มาจากนาย ว่าพี่กบเป็นคนแนะนำให้พี่สาวของนายรู้จักกับรองประธานรุจ ที่ก่อนหน้านี้ ไม่ได้มีชื่อเสียง หรือมีหน้ามีตาในวงการบันเทิงเลยแม้แต่น้อย เพราะครอบครัวเขาทำธุรกิจขนส่ง มันก็ยิ่งน่าสงสัยอีกว่าพี่กบ ไปรู้จักกับรองประธานได้ยังไง

เมื่อเราหมุนจิ๊กซอว์ชิ้นเดิม ๆ วนไป วนมา อีกรอบ ก็ดูเหมือนว่าทุกอย่างมันจะลงล็อกพอดี ซึ่งพอฉันทำแบบนั้น ฉันก็ไปเจอคดีหนึ่งเข้า มันเป็นคดีเก่าเก็บ และสิ้นสุดไปแล้ว มันเป็นคดีอุบัติเหตุ รถขนส่งเจ้าหนึ่ง พุ่งเข้าชนชายคนหนึ่งเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ทางบริษัทต้นสังกัดยอมรับผิด และชดใช้ค่าเสียหายให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตไปจำนวนมหาศาลเลยทีเดียว ภรรยาของผู้เสียชีวิตเองก็ไม่ติดใจเอาความอะไร แล้วคดีนั้นมัน...

"เป็นคดีของพ่อฉัน"

ซัทพูดแทรก

"ใช่แล้วเพื่อน แล้วรถขนส่งคันนั้นก็เป็นของบริษัท B-Leave อย่างที่บอก จิ๊กซอว์ชิ้นเดิม ๆ พอหมุนไปหมุนมามันก็ลงล็อกเองอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะไม่กี่เดือนก่อนพ่อนายเสีย พี่กบพึ่งได้รับงานเป็นผู้กำกับภาพ ในหนังโฆษณาเรื่องหนึ่ง ของบริษัท B-Leave นั่นแหละ มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ ๆ"

คุณตำรวจตาณหยุดพูด พร้อมกับจ้องหน้าของซัท ซึ่งเขาผิดคาด เพราะซัทมีสีหน้าที่เรียบเฉยมาก

"แล้วทำไมนายถึงพึ่งรู้เรื่องนี้"

ซัทเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยเช่นกัน

"มันเป็นคดีเก่าเพื่อน คดีมันไม่ได้ยืดเยื้อ พูดตรง ๆ นะเพื่อน อุบัติเหตุมันเกิดขึ้นทุกวัน ยิ่งถ้าผู้ก่อเหตุเป็นคนของบริษัทยักษ์ใหญ่แบบนั้น แค่จ่ายหนักก็จบได้แล้ว ยิ่งยุคนั้นไม่มีอินเทอร์เน็ตด้วย เรื่องมันจึงจบลงง่าย ๆ อย่างรวดเร็ว แล้วก็ถูกหลงลืมไปตามกาลเวลา"

สีหน้าของซัท แม้จะได้ฟังตาณพูดจนจบประโยคแล้ว มันยังคงเรียบเฉย ไม่สะทกสะท้านเหมือนเดิม

ซัทสูดลมหายใจเข้าไปเต็มปอด ก่อนถอนหายใจออกมาหนึ่งเฮือก เขาเอามือขวาล้วงกระเป๋า หยิบบางอย่างมาไว้ในกำมือ เข้ายื่นมือไปข้างหน้าตาณ แบมือออกก่อนจะชักมือกลับ ตาณก้มลงมองไปยังสิ่งของที่ซัทนำมาวางไว้ข้างหน้าตน แล้วเงยหน้าขึ้นมาพูดกับซัทว่า

"นี่มันอะไรกันเพื่อน กระดุมรูปปลาดาวใช่ไหม หรือมันเป็นเข็มกลัด ดูไม่ออกเลยจริง ๆ"

"ฉันไปเจอมันในบ้านพี่กบ นี่แหละเบาะแสที่นายต้องการ"

"เบาะแส?"

ตำรวจตาณพูดย้ำด้วยความไม่มั่นใจ

"จำได้ไหมวันที่ฉันโทรนัดนายน่ะ วันนั้นฉันเจอบางอย่างที่คล้าย ๆ กันนี้ แต่มันเป็นของพี่เขยฉัน"

เมื่อฟังซัทพูดจนจบ ตำรวจตาณก็มองเจ้าปลาดาวตาลุกวาวเลยทีเดียว

"ในที่สุด"

ตำรวจตาณยิ้มเยาะ

"งั้นฉันจะรีบตรวจสอบมันให้อย่างเร็วที่สุดเลย"

"ใช่นายควรจะรีบ เพราะฉันต้องการมันคืนพรุ่งนี้"

"พรุ่งนี้เลยเหรอ เร็วเกินไปไหมเพื่อน"

"ฉันรู้ว่ามันเร็ว แต่ฉันอยากจะพกมันไว้ เผื่อฉันเจอคนที่พกมันเหมือนกัน ฉันจะได้แสดงสิ่งนี้ให้เขาดู"

"อย่างนี้นี่เอง ถ้ามันเป็นสัญลักษณ์เฉพาะกลุ่มอย่างที่เราคิดจริง ๆ สิ่งนี้ก็สามารถพานายไปยังพื้นที่ลับหลังม่านของวงการบันเทิงได้งั้นสินะ"

พูดจบคุณตำรวจตาณก็รีบลุกขึ้นยื่น

"งั้นฉันกลับก่อนล่ะ จะรีบไปตรวจสอบมาให้ เจอกันพรุ่งนี้เพื่อน เราเข้าใกล้ความจริงไปอีกก้าวแล้ว"

ตำรวจตาณเดินมาตบบ่าของซัทเบา ๆ ก่อนจะเดินผ่านไป ทิ้งซัทให้นั่งรออยู่ตรงนั้น

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ซัทนั่งรออยู่ที่โต๊ะตัวเดิม ในสนามยิงปืนแห่งนั้น พร้อมกับเสื้อผ้าที่เปลี่ยนไป เพราะนี่มันคนละวันกันกับเมื่อวานแล้ว

ตำรวจตาณเดินผ่านตัวซัท แล้วไปนั่งลงตรงฝั่งตรงข้าม พร้อมกับสีหน้าแววตาที่ไม่สู้ดีนัก

"ทำหน้าแบบนั้น แสดงว่าไม่ได้อะไรมาสินะ"

ซัทเอ่ยทัก

"ก็ไม่เชิงหรอกเพื่อน อย่างแรกเลยคือ ไอ้เจ้าเครื่องประดับปลาดาวอันนี้..."

ว่าแล้วตำรวจตาณก็หยิบมันออกมาวางบนโต๊ะข้างหน้าของซัท ก่อนจะพูดต่อ

"ไอ้ตัวอัญมณีที่ประดับประดาอยู่น่ะ เป็นของจริง เพราะงั้นนี่ไม่ใช่ของที่หาได้ตามท้องตลาดทั่วไปแน่นอน อย่างที่สอง แกลองมองเข้าไปตรงใจกลางของไอ้ปลาดาวนั่นดูสิ"

ซัทฟังแล้วก้มลงไปมองตามที่ตาณบอก ก่อนจะค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมา แล้วพูดว่า

"มองไม่เห็นอะไรเลยเพื่อน"

"ใช่ไหมล่ะ มองด้วยตาเปล่าไม่เห็นแน่ ๆ งานนี้มันประณีตสุด ๆ"

"โอเค แล้วไง จะให้ฉันดูอะไร ถ้าใช้ตาเปล่าแล้วมองไม่เห็น"

"ที่อยู่ตรงกลางของไอ้เจ้าปลาดาวนั่นคือ QR Code"

"QR Code ถามจริง"

"ตอบจริง ฉันถึงได้บอกไงว่ามันประณีตมาก"

พูดจบตำรวจก็ตาณก็ยื่นโทรศัพท์ ที่มีรูป QR Code ที่อยู่ตรงกลางของปลาดาวให้ซัทดู

"มีจริง ๆ ด้วยวุ้ย แล้วไง QR Code นี่มันพาเราไปที่ไหน"

ซัทพูดแล้วคืนโทรศัพท์ให้ตาณ

"นั่นแหละเพื่อนไม่มี"

"ไม่มีเหรอ นายใช้ไม่เป็นรึไงวะ"

"ใช้เป็นสิวะของแค่นี้ แล้วเอาไปให้ทีมไซเบอร์ตรวจสอบแล้วด้วย ผลเหมือนเดิม แล้วเขาบอกว่า มันอาจจะต้องใช้กับเครื่องมือเฉพาะน่ะ ไอ้โทรศัพท์ที่เรา ๆ มีใช้ไม่ได้หรอก"

"นั่นสินะ ของที่สร้างมาโดยเฉพาะ ก็ต้องใช้กับเครื่องมือเฉพาะ"

พูดจบซัทก็ถอนหายใจออกมาเสียงดัง

"อย่าพึ่งเซ็งสิเพื่อน พวกฉันมาถึงทางตันแล้วก็จริง แต่นายยังไปต่อได้นะ"

"ตำรวจอย่างนายยังตัน แล้วฉันจะไปต่อได้ยังไงกันวะ"

"ได้สิวะเพื่อน นายเป็นโคตรซุปตาร์เลยนะ"

"แล้วไงวะ"

"แล้วนายก็มีเส้นสาย ในสังคมชั้นสูง..."

ตำรวจตาณพูดจบประโยคไว้แค่นั้นอย่างมีนัยแอบแฝง แล้วเงียบไป ทำให้ผู้ฟังอย่างซัทต้องค่อย ๆ คิดตามไป ทบทวนไปเรื่อย ๆ แล้วจู่ ๆ ดวงตาของซัทก็เบิกโพลงออกมา

"ใช่แล้วเพื่อน อย่างที่ฉันบอก งานมันประณีตมาก มีแต่ต้องสั่งทำเท่านั้น"

"ฉันเข้าใจที่นายจะสื่อแล้ว"

ซัทพูดแล้วคว้าปลาดาวใส่กระเป๋าเสื้อ ก่อนจะลุกขึ้นยืน

"ถ้ายังไงจะคอยแจ้งข่าวนะ"

พูดจบซัทก็กลับหลังหันแล้วเดินจากไป ระหว่างนั้นก็เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาใครบางคน

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ในคืนนั้น ซัทนั่งอยู่ในร้านอาหารหรูบนดาดฟ้า แล้วจ้องมองไปยังเก้าอี้ที่อยู่เบื้องหน้า ใช่แล้วเขากำลังรอใครบางคนอยู่ และบนนิ้วกลางข้างขวา เขาใส่แหวนที่มีหัวเป็นรูปปลาดาวด้วย แล้วสักพัก คนที่ซัทกำลังรอก็มาถึง เขาค่อย ๆ ทิ้งตัวนั่งลงฝั่งตรงข้ามกับซัทนั่นแหละ

"ต้องขอโทษคุณพีทด้วยนะครับ ที่นัดมากะทันหัน"

ซัทเอ่ยทักด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

"ไม่เป็นไรหรอกครับผมเข้าใจ"

พีทตอบรับอย่างเป็นมิตร

"คือผม..."

ซัทพูดด้วยท่าทางประหม่า พร้อมกับยกมือขวาขึ้นมาลูบหน้ารูปตา ในขณะที่สายตาของซัทก็สังเกตท่าทีของพีทไปด้วย ซึ่งน่าเสียดายที่พีท ไม่ตอบสนองอะไรเลยแม้แต่น้อย เมื่อได้เห็นหัวแหวนปลาดาว

"คือผมอยากได้เครื่องประดับน่ะครับ มันเป็นอะไรที่พิเศษหน่อย เลยต้องรบกวนคุณพีทในวันนี้"

"เรื่องแค่นั้นเอง จริง ๆ คุณซัทไปที่ร้านผม หรือแค่โทรบอกก็ได้ครับ ไม่เห็นต้องนัดมาที่นี่เลย"

"ก็จริงครับแต่..."

ซัทหยุดพูดไปครู่หนึ่ง แล้วทำท่าทางเขินอาย

"ผมไม่อยากเป็นข่าวน่ะครับ อย่างเพจคุณชายสายเผือกนี่ หูตาไวมากเลยนะครับ"

"อ๋อ พอจะเข้าใจแล้วครับ แล้วคุณซัทอยากได้อะไรแบบไหนเหรอครับ"

"อยากได้อะไรที่มันพิเศษหน่อยนะครับ สั่งทำ แบบที่มีชิ้นเดียวในโลก อะไรทำนองนั้น แน่นอนว่าตัวอัญมณีทั้งหลาย ผมต้องอุดหนุนคุณพีทอยู่แล้ว"

"ถ้างั้นผมพอจะแนะนำให้คุณซัทได้อยู่นะครับ ว่าแต่คุณซัทต้องการประมาณไหนเหรอครับ"

คำพูดนั้นเข้าทางซัทเลย ว่าแล้วเขาก็ถอดแหวนออกแล้วส่งมันให้พีท

"ประมาณนี้ครับ"

ซัทพูด ในขณะที่พีทก็รับแหวนไว้ แล้วพิจารณามันด้วยตาเปล่า อย่างถี่ถ้วนอยู่พักหนึ่ง ก่อนส่งมันคืนให้ซัท แล้วพูดว่า

"งานละเอียดมากเลยนะครับ ว่าแต่คุณซัทไปได้มาจากไหนเหรอครับ ทำไมไม่ติดต่อเขาโดยตรงเลยล่ะ"

"เอ่อ...จริง ๆ แล้วมัน...เป็นของพี่กบน่ะครับ"

ซัทพูดด้วยท่าทางกระอักกระอ่วน

"ขอโทษด้วยครับ ที่ผมพูดอะไรเสียมารยาทออกไป"

"ไม่เป็นไรหรอกครับ ว่าแต่คุณพีท พอจะรู้อะไรบ้างไหมครับ"

"ก็พอจะรู้อยู่นะครับ ช่างฝีมือดีขนาดนี้ ในประเทศเรา มีอยู่ไม่กี่คนหรอกครับ"

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สิ่งแรกที่บุ๊กทำตอนตื่นนอน ไม่ใช่การเข้าไปในห้องเพื่อล้างหน้าแปรงฟัน เพราะเธอมีภาระหน้าที่ ในฐานะแอดมินเพจคุณชายสายเผือกค้ำคอเธออยู่ แล้วเช้าวันนี้ มีข้อความหนึ่งจากลูกเพจ ที่ทักมาหลังไมค์ ทำให้เธออารมณ์ดีเป็นพิเศษ

"พ่อจอมมาร พักหลังนี่มีแต่ข่าวกับหนุ่ม ๆ นะ วันนี้มีบวงสรวงด้วยสิ เรียกนักข่าวไปช่วยโปรโมทให้สักหน่อยดีกว่า"

บุ๊กบ่นพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะนั่งพิมพ์อะไรบางอย่างไปด้วย

หลังเสร็จการบวงสรวง ก็มาถึงช่วงสัมภาษณ์ และเหล่านักข่าวก็มารุมทึ้งซัทกันทันที

"คุณซัทคะ พอจะบอกเรื่องความสัมพันธ์ของคุณซัทกับไฮโซพีทได้ไหมคะ"

"ก็แค่เพื่อนไปนั่งกินข้าวกัน ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้นครับ"

ซัทตอบด้วยสีหน้าและน้ำเสียงเรียบเฉย

"แล้วเรื่องไชน่าทาวน์ล่ะครับ ใช่คุณพีทรึเปล่า"

"ผมว่าผมเคยตอบไปแล้วนะครับว่านั่นเป็นผู้จัดการของผม"

นักข่าวยังคงถามจี้จุดซัทต่อไปอย่างไม่ลดละ ในขณะที่ซัทปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และในมุมหนึ่งไม่ใกล้ไม่ไกลจากวงสัมภาษณ์ ชีคกับรองประธานยืนกระซิบกระซาบกันอยู่

"ไอ้หมอนั่น มันไปนัดเจอคุณพีททำไม"

"ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันชีค ฉันไม่รู้ ซึ่งฉันไม่ชอบแบบนี้เลย"

บทสนทนาของทั้งคู่มีแค่สั้น ๆ มันฟังดูเรียบง่ายแล้วก็อึดอัดไปในเวลาเดียวกัน ทั้งสองจ้องมองไปยังซัทที่กำลังให้สัมภาษณ์อยู่ด้วยความแคลงใจ

"นายลองไปตีสนิทคุณพีทหน่อยสิ เผื่อเราจะรู้อะไร"

"ยาก ผมเคยแล้ว ประวัติเขาใสสะอาด และรักมั่นคงมาก"

"ไม่ชีค นายเข้าใจผิดแล้ว นี่ไม่ใช่การร้องขอหรือแนะนำ นี่เป็นคำสั่ง"

"ครับท่านรอง"

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------

"ไม่ได้อะไรเลยเหรอวะ"

ซัทพูดพร้อมกับลุกขึ้นเอามือทุบโต๊ะ ด้วยความหัวร้อน

"ใจเย็นก่อนเพื่อน ฉันเข้าใจนายนะที่หัวเสีย แต่หัวร้อนไปก็ไม่ได้อะไรเพิ่มเติมหรอก"

"เออรู้ว่ามันไม่ได้อะไรเพิ่มเติมหรอก"

ซัทพูดพร้อมกับกำหนดลมหายใจให้เป็นจังหวะ เพื่อทำให้หัวเย็นลง ตาณเองก็ยินดีที่จะรอให้ซัทมีสติมากกว่านี้ จนเวลาผ่านไม่สักพัก ซัทที่ใจเย็นลงแล้ว ก็กลับมานั่ง เพื่อเริ่มการสนทนาต่อ

"ถ้างั้นเราจะทำไงกันดี ฉันนึกว่าเรามีโอกาสจะเข้าใกล้มันแล้วแท้ ๆ เชียว"

"ไม่หรอก โอกาสยังพอมี แต่มันยากมาก นายกับฉันทำไม่ได้หรอก"

ได้ยินตาณพูดแบบนั้น แววตาแห่งความสงสัยของซัทก็แสดงออกมาทันที

"คืองี้ซัท ข้อมูลที่นายให้มาน่ะ มันทำให้ฉันพอจะตีกรอบได้ว่า บางทีช่างที่ทำปลาดาวนี่ขึ้นมา อาจจะไม่ใช่ช่างที่อยู่ในโลกสว่าง มันอาจจะเป็นโลกมืด"

"เข้าใจแล้ว เพราะนายเป็นตำรวจ แล้วพวกมันก็สงสัยฉัน พวกเราเลยไม่สามารถเข้าไปในโลกฝั่งนั้นได้อย่างนั้นสินะ"

"ถูกต้องแล้ว แต่มีอยู่คนหนึ่งที่ฉันว่าเหมาะสมกับงานนี้ ฉันตรวจสอบมาแล้ว ใสสะอาดมาก"

ตาณหยุดพูดลง แล้วจ้องมองมายังซัทแบบมีเลศนัย ซึ่งซัทก็รู้ได้ในทันทีว่าตาณหมายถึงใคร

"ไม่เขายังเด็กเกินไป เราจะเอาชีวิตเขามาเสี่ยงไม่ได้"

"ฟังนะเพื่อน"

ตาณพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

"ถ้าไม่ลองเสี่ยงดูบ้าง เราไม่มีวันชนะหรอก เพราะพวกนั้นมันไม่เลือกวิธีการ"

ได้ยินตาณพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังแบบนั้น ซัทก็หัวเราะลั่นออกมา

"หัวเราะอะไรวะ"

ตาณพูดด้วยความหงุดหงิดและสงสัย

"เปล่าหรอก โทษที"

ซัทพูดในขณะที่พยายามกลั้นขำ ส่วนตาณก็มองค้อนอย่างไม่สบอารมณ์ รอซัทหัวเราะให้เสร็จก่อน

"คืองี้นะ คำพูดของนายเมื่อกี้ มันเหมือนที่นายจืดเคยพูดกับฉันเลย"

ซัทหยุดพูดแล้วทำสีหน้าแววตาจริงจัง

"คนชั่วไม่เลือกวิธีการ"

ซัททำท่าทางล้อเลียนก่อนจะหลุดขำอีกรอบ ตาณเห็นแบบนั้นก็กัดฟันกรอด กำหมัดแน่น แล้วก็พยายามกำหนดลมหายใจ เพื่อสงบสติอารมณ์แบบที่ซัทชอบทำ

"หยุดหัวเราะแล้วเข้าเรื่องก่อน สรุปนายจะว่ายังไง"

ได้ยินตาณพูดแบบนั้น ซัทก็พยายามค่อย ๆ กลั้นขำ แล้วก็ทำสมาธิอยู่สักพัก ก่อนที่เขาจะตอบกลับไปว่า

"มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับฉันหรอก ต้องถามเจ้าตัวเขาโน่น เอาเป็นว่าถ้าสมมุตินะ สมมุติว่านายจืดเอาด้วย ฉันขอให้นายรับประกันความปลอดภัยให้กับตัวเขาแล้วก็ครอบครัวด้วย นายทำได้ใช่ไหมล่ะ"

"ได้อยู่แล้ว สำหรับพลเมืองดีที่ให้การช่วยเหลือตำรวจ ฉันจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้พวกเขาปลอดภัย"

ตาณกล่าวด้วยความจริงจัง

"ฉันเชื่อใจนายนะ แล้วเจอกันพรุ่งนี้ คุณตำรวจ"

.......โปรดติดตามซีนต่อไป.......