"อีก 1 เดือนนับจากนี้สถาบันฝึกฝนผู้พิชิตวิชาชีพจะเปิดภาคเรียนใหม่แล้ว ทางเราได้ข่าวจากวงในมาว่าปีนี้ทางรัฐบาลได้ทำการเพิ่มมาตรการฝึกฝนที่เข้มงวดขึ้นเพราะของรางวัลในการจบหลักสูตรที่พิเศษของปีนี้"รายงานข่าวจากทีวีติดผนังในร้านกาแฟแห่งหนึ่งยังคงฉายเพื่อสร้างความครึกครื้นให้ลูกค้า
"ฉันบอกแล้วไงว่าจะยุ่งเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้อีก เรื่องเมื่อคราวก่อนเป็นเพียงเรื่องบังเอิญ"แจ็กเกอร์ นั่งที่ฝั่งนึงในของโต๊ะตัวในสุดของร้านกำลังคุยกับชายคนนึงอยู่
"แต่หัวหน้าครับ หัวหน้าก็น่าจะเห็นแล้วนี้ครับว่าตอนนี้พวกอสูรกำลังเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่ประตูมิติที่หัวหน้าจัดการไปยังปล่อยอสูรระดับ 4 ออกมาเลยด้วยซ้ำ"ชายร่างกายกำยำที่เรียกแจ็กเกอร์ว่า'หัวหน้า'พยายามโน้มน้าวแจ็กเกอร์ ด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน
"เหอะ ค็อกคาทริซ ทั้งขนาดพละกำลังและพลังทำลายร้างของเจ้าไก่นั้นแทบจะใกล้เคียงกับระดับ 3 มีเพียงแค่ความสามารถพิเศษของมันเท่านั้นแหละที่ทำให้มันอยู่ในระดับ 4"
"แต่มันก็ระดับ 4 นะครับหัวหน้า มันไม่เคยมีกรณีที่ประตูมิติปล่อยระดับมากกว่า 3 ออกมาเลยนะครับ แถมเมื่อวันก่อนถ้าไม่ใช่ราชสีห์เพลิงครามคนนั้นอยู่แถวนั้น มีหวังกำลังจุดC73ต้องพังเพราะฝูงอสูรที่นำโดย มัลติคอร์ 3 ตัวแน่ๆ"
"หืม อาเซน่อน นิมโพทาร์ งั้นหรอ" เมื่อได้ยินอีกฝ่ายเอ่ยถึงเหตุการณ์เมื่อวันก่อน ทำให้แจ็กเกอร์รู้สึกว่าหมู่นี้ได้ยินชื่อคนตระกูลนิมโพทาร์บ่อยแปลกๆ
"มีอะไรกับราชสีห์เพลิงครามคนนี้รึเปล่าครับหัวหน้า"เมื่อเห็นถ้าทีที่กำลังครุ่นคิดของแจ็กเกอร์ ชายร่างกำยำก็คิดว่าบางทีราชสีห์เพลิงครามอาจเป็นกุญแจให้แจ็กเกอร์ตอบรับคำขอของตน
"ป่าวไม่มีอะไร"
"จริงสิหัวหน้า ที่สถาบันเรามีนักเรียนคนนึงค่อนข้างมีพรสวรรค์ อายุแค่ 24 แต่มาถึงระดับ 4 แล้ว แถมความสามารถในการต่อสู้ค่อนข้างดีด้วย รู้สึกจะชื่อ ดูจัส นิมโพทาร์ เป็นลูกชายของราชสีห์เพลิงคราม" ชายร่างกำยำคิดลองใช้ชื่อของราชสีห์เพลิงครามมาชักจูงแจ็กเกอร์ดู
"หยุดสิ่งที่แกคิด ฉันกับตาลุงคนนั้นไม่เคยเจอกันมาก่อน แค่พักนี้ได้ยินชื่อคนตระกูลนี้บ่อย"แจ็กเกอร์สามารถรู้แผนของชายร่างกำยำจึงตัดไฟตั้งแต่ต้นลม
" สมกับเป็นอ่านความคิดผมออกอีกจนได้้ ฮะฮะฮ่า"
"เอาเป็นว่าเรื่องนี้เอาไว้คุยกันต่อทีหลังฉันต้องไปเปิดร้านแล้ว"แจ็กเกอร์จัดบทสนทนาและกำลังจะลุกขึ้นยืน
"เดียวก่อนสิครับหัวหน้าต่อให้หัวหน้าไม่เป็นอาจารย์สอนสถาบันฝึกฝนแต่หัวหน้าก็ไม่ต้องไปทำงานแบบนั้นก็ได้หนิครับ"ชายร่างกำยำร้องเรียกก่อนแจ็กเกอร์จะเดินออกไป เมื่อหวนรำลึกถึงอดีตที่เคยใช้ร่วมกัน ชายที่กำลังจะจากไปนั้นแตกต่างไปจากเดิมมาก
"เจสันเอ๋ย บางครั้งเวลาที่ได้มองพวกมนุษย์ใช้ชีวิตอย่างปกติไม่ทุกข์ร้อนอะไร มันก็ช่วยย้ำเตือนบางอย่างได้ดีนะ แล้วก็เลิกเรียกฉันว่าหัวหน้าสักที หัวหน้าของนายตายไปในเหตุการณ์นั้นแล้ว"แจ็กเกอร์หันมาตอบคำถามของชายร่างกำยำก่อนจะเดินออกไป
"หัวหน้า..." ชายร่างกำยำนามเจสันได้มองชายหนุ่มเดินออกไปด้วยแววตาที่เศร้าสร้อย
กลางดึกของคืนนั้น
" เห้ย ตาแก่ไหนแกบอกว่าจัดการแล้วไง แล้วไหงไอเจสันมันยังมาโผล่ที่นี้ได้"แจ็กเกอร์ที่จู่ๆก็ต้องไปพบกับเจสันในวันนี้รู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมาก ชีวิตที่น่าเบื่อหน่ายใน 3 ปีที่ผ่านมาต้องมาวุ่นวายในช่วงหลายวันนี้ัถึงโทรไปหาคนๆนึง
"ฉันก็พยายามห้ามแล้วนะแต่ดูเหมือนพวกรัฐบาลบัดซบนั้นจะไม่คอ่ยฟังคำตาแก่คนนี้คนนี้แล้วหละ สงสัยเพราะอายุมากล้วมั้ง ฮะฮ่า"ปลายสายเป็นเสียงของชราคนนึงที่ฟังดูร่าเริง
"ชิ อย่านึกว่าฉันไม่รู้นะตาแก่เจ้าเล่ห์แก่นั้นแหละเป็นคนบอกให้มันมาใช่ไหม"
"ไอหยา สมกับเป็นศิษย์รักของตาแก่คนนี้ เดาคีวามคิดฉัันได้แม่นจริงๆ"
เมื่อได้ยินอีกฝ่ายเรียกตนว่า"ศิษย์"แจ็กเกอร์ก็ใจเย็นลง"แล้วสรุปจะให้เอายังไงกันแน่"
หลังจากที่ได้ยินน้ำเสียงของแจ็กเกอร์เย็นลงปลายสายก็เงียบไปพักนึงก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง"ตอนนี้สถานการณ์ทั่วโลกกำลังแย่ลงเรื่อยๆพวกอสูรระดับกลางเริ่มออกมามากขึ้นส่วนระดับสูงบางตัวก็เริ่มเคลื่อนไหว เพราะฉะนั้นเจ้าหนะ ช่วยออกมาปลูกเหล่าเมล็ดพันธุ์ชั้นดีให้กลายเป็นป่าที่คอยคุ้มครองมนุษยชาติด้วยเถอะ"
"แต่คุณก็รู้หรอถ้าฉันคนนี้ลงมือทำอะไรสถานการณ์ก็มีแต่จะเลวร้ายลง แค่ฉันลงมือไปสันก่อนก็อาจทำมีระดับ4โผล่มาจากประตูมิตอีกก็ได้"
"แค่ช่วยสอน ไม่จำเป็นต้องลงมือใช้พลัง ตัวควบคุมพลังงานที่เจ้าสั่งไปก็ทำเสร็จแล้วเจ้าใส่มันไว้ก็ได้"
"หืม? เสร็จแล้วหรอ ผ่านมานานมากจนลืมไปแล้วนะเนี้ย เดียวฉันจะรีบไปรับมันเลยบอกคนพวกนั้นไว้ให้ด้วย"
"โอเค แล้วเรื่อง การสอนหละ"
"เดียวค่อยว่ากันอีกทีหลังลองใช้ตัวควบคุมระดับพลังงานก็แล้วกัน"หลังจากพูดจบแจ็กเกอร์ก็วางสายไปทันที
ณ ยอดเขาแห่งนึงที่สูงเหนือก้อนเมฆ
"ศิษย์เอย ไม่มีใครโทษเจ้าจากเรื่องในครั้งนั้นหรอก ทั้งหมดเป็นเพียงโชคชะตาที่บิดเบี้ยวก็เท่านั้น"ชายชราผมขาวกำลังจ้องมองสายโทรศัพท์ที่ถูกตัดไป มองภายนอกอาจจะดูเหมือนชายชราธรรมดาตามท้องถนน แต่ทว่าสิ่งที่เท้าของเค้ายืนอยู่นั้นกลับไม่ใช่พื้นผิวของโลก แต่เป็นกระบี่เล่มนึงที่ลอยอยู่กลางอากาศ
"พวกฝูงไวเวิร์น กำลังบินมาทางนี้จริงๆด้วยสินะ ต้องใช้คนแก่ออกเรี่ยวออกแรงอีกแล้ว"ชายชราเงยหน้าขึ้นมองขอบฟ้าที่ห่างไกลออกไปพร้อมเอยขึ้น จากนั้นกระบี่ที่ชายชรายืนอยู่ก็พุ่งไปทางนั้นด้วยความเร็วสูงจนนำพาชายชราหายไปภายในพริบตา