อาวุธทั้งสามโจมตีเข้าสู่เป้าหมายพร้อมกัน มิหนำซ้ำยังเป็นเป้านิ่ง ที่ตกอยู่ใต้วงแขนทรงพลังที่ผนึกขึ้นด้วยพลังระฆังทองขั้นที่ 7 ของหลวงจีนเสินหนง สภาวะเช่นนี้ยังมีผู้ใดสามารถหลบรอด !
หากแต่จอมภูตมิใช่ชนชั้นธรรมดา มันถือเป็นสุดยอดฝีมือที่เพียงเอ่ยนามก็สามารถสะท้านขวัญชาวยุทธทั้งฝ่ายธรรมะและอธรรมให้ระย่นย่อได้ แม้ถูกรุมจู่โจมพร้อมกันจาก 4 ยอดฝีมือสีหน้าของมันก็ยังไม่แปรเปลี่ยน สองเท้าแม้ลอยขึ้นไม่อาจหยิบยืมพลังจากพื้นดินเพื่อดิ้นสะบัดร่างให้หลุดพ้น แต่มันพลันกระแทกส้นเท้ากลับไปด้านหลัง พอดีปะทะเข้ากับหัวเข่าของหลวงจีนเสินหนง เสียงกระดูกแตกหักดังกร็อบ หลวงจีนเจ็บปวดสุดทนทานแต่ยังฝืนกัดฟันแน่นไม่ยอมคลายแรงกอดรัด จนใจที่กระดูกหัวเข่าแตกสลายร่างกายพลันทรุดย่อ สภาพการรุมจู่โจมย่อมมีผลต่างไป คมดาบแทนที่จะฟันเข้าใส่ลำคอกลับถูกฟันของจอมภูติงับเอาไว้กระบี่สนโบราณที่หมายแทงจุดหัวใจพลันแทงทะลุเข้าที่ไหล่ด้านซ้ายคลาดไปจากจุดชีวิตไป แต่ที่ผิดพลาดที่สุดคือ กระบี่อาบยาพิษแทนที่จะแทงเข้าสู่ร่างของจอมภูตกลับเสียบเข้าไปที่แขนของหลวงจีนเสินหนงแทน !
คมกระบี่จมเข้าไปได้เพียงส่วนปลายเล็กน้อยเนื่องจากมีพลังระฆังทองป้องกัน แต่นั่นคือจุดพลิกผัน หากเป็นกระบี่ทั่วไปโดนเพียงเท่านี้ย่อมไม่อาจทำอะไรผู้ฝึกพลังระฆังทองถึงขั้นที่ 7 ได้ แต่กระบี่นี้เป็นกระบี่อาบยาพิษ ! เพียงสะกิดถูกผิวพิษร้ายก็แทรกซึมเข้าสู่ร่าง !
เมื่อถูกพิษ กำลังแขนก็อ่อนลง อีกทั้งสองเท้าของจอมภูตหยั่งลงถึงพื้นพลันมันกระแทกพลังออกจากทั่วร่างส่งให้เหล่าผู้รุมล้อมกระเด็นกระดอนออกไปคนละทิศละทาง หนักที่สุดคือหลวงจีนเสินหนง ถึงกับแขนสองข้างขาดกระจุย กระเด็นล้มฟาดลงกับพื้นหลั่งเลือดไหลนองแน่นิ่งไป 3 ยอดฝีมือเซถลาออกไปหลายก้าว แต่รีบยืนหยัดตั้งท่าเพื่อตระเตรียมต่อสู้อีกครั้ง
บัดนี้อาวุธสองชิ้นหายจากกลุ่มผู้ไล่ล่า ไปติดคาอยู่ที่ร่างของจอมภูต หนึ่งคือดาบหัวตัดที่จนบัดนี้ยังถูกมันคาบคาไว้ในปากมัน กับกระบี่สนโบราณที่จมฝังเข้าไปในร่างกายสีดำหม่นนั้นจนทะลุออกด้านหลัง... พลันทั้งหมดพบเห็นเรื่องแปลกประหลาด นั้นคือร่างกายจอมภูตมิได้มีหยาดโลหิตไหลออกมา ! มีแต่ของเหลวสีเหลืองๆ เขียวๆ ส่งกลิ่นเหม็นราวซากศพเน่าผสานกลิ่นยาฉุนเฉียวไหลออกจากร่าง... ตัวจอมภูตยังนิ่งอยู่กับที่ สีหน้ายังคงเรียบเฉย ใบหน้าซีดขาวอันนั้นไม่มีแม้แต่หยาดเหงื่อไหลออกมาสักหยด แต่สามารถสังเกตได้ว่าร่างกายของมันมีอาการสั่นอยู่บ้าง
หัวหน้าองครักษ์จับจ้องเขม็งที่ร่างสีดำหม่น แต่ค่อยๆ ถอยเท้าออกมาช้าๆ สองก้าวใหญ่ โดยมีอี้จงบริวารของมันเคลื่อนมาอยู่เบื้องหน้า ยกมือขวางกระบี่พิษคุ้มครองร่างตนเองและผู้เป็นนาย ส่วนนักพรตลู่ยื่นสองนิ้วประกบกัน ตั้งท่าใช้พลังดัชนีกระบี่แทนอาวุธที่ยังติดคาอยู่ที่ร่างของจอมภูต
พลั่ก !!
ฉับพลันเกิดเสียงปะทะดังสนั่นจากทางด้านหลัง ร่างจอมภูตสะท้านอย่างแรงจนดาบที่มันคาบไว้หลุดออกจากปาก ร่างถูกกระแทกกระเด็นออกไปถึงด้านนอกบริเวณลานด้านนอกของอาราม ที่แท้เป็นหลวงจีนเสินขู่ เกร็งพลังไว้ที่ศีรษะลอบโถมร่างพุ่งเข้ากระแทกบริเวณกลางหลังของจอมภูติหมายให้มันกระดูกสันหลังหัก การโจมตีนี้เชื่อมั่นว่าหากแม้นมันไม่ตกตายก็ต้องกระดูกแหลกหมดสภาพที่จะต่อสู้ แต่... ผิดคาด มันมิเพียงยังไม่ตาย ร่างมันของที่ถูกกระแทกออกไปภายนอกถึงกับยังไม่ล้มลง ! มันเพียงกระเด็นไปแล้วยืนตระหง่านนิ่งเฉยอยู่กลางลาน ที่ผิดจากเดิมไปบ้างคือร่างของมันค้อมไปด้านหน้าอยู่ในท่าคล้ายกับกำลังก้มมองพื้น ชั่วครู่กระบี่สนโบราณที่ปักคาที่ไหล่ด้านซ้ายพลันค่อยๆ ไหลเลื่อนหลุดออกมาจากร่างกายของมันพร้อมด้วยของเหลวสีคล้ำกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง ไม่มีเค้าอันใดให้เห็นว่ามันมีอาการบาดเจ็บ... ผิดกับหลวงจีนที่เมื่อพุ่งชนสำเร็จแล้วยังฟุบอยู่กับพื้น ชั่วครู่เงยหน้าขึ้นกระอักเลือดกองใหญ่ออกมา เนื่องจากบาดเจ็บภายในแต่ยังฝืนใช้พลังทำให้อาการยิ่งสาหัสกว่าเดิม
"มันไม่ใช่คนแล้ว !" จางหย่วนร้องขึ้นอย่างตระหนก
หลายปีมานี้ในฐานะข้าช่วงใช้ของเยียนอ๋อง จูตี้ เขาออกศึกมามากมาย ผ่านการต่อสู้เสี่ยงชีวิตนับครั้งไม่ถ้วน ทั้งในสงครามใหญ่และการประหัตประหารที่เปิดเผยหรือลอบเร้นประทุษ แต่ไม่เคยมีครั้งใดเป็นเหมือนครานี้... มันเหมือนพวกเขากำลังต่อสู้กับภูตผีปีศาจที่ไม่อาจโค่นทำลาย ฆ่าไม่ได้ ตายไม่เป็น ! อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวาดหวั่นขึ้นมา
"จะภูตหรือมารก็ต้องกำจัด !" นักพรตลู่จือชิงคำราม หยิบฉวยกระบี่ของศิษย์ที่ตายขึ้นมากระชับมั่นในมือ ขยับตามจอมภูตออกไปด้านนอก
จางหย่วนพยักหน้าให้อี้จงเข้าไปประคองร่างหลวงจีนเสินขู่ที่กำลังพยายามยันยืนขึ้นด้วยไม้พลองอาวุธประจำตัวที่เก็บขึ้นมาจากพื้น แล้วพากันติดตามออกไป ในใจจางหย่วนแม้อยากได้ผลงานในการกำจัดหรือคร่ากุมจอมภูตเพื่อลบล้างความผิดที่เป้าหมายจับกุมหลบรอด แต่อีกใจหนึ่งก็หวังให้จอมภูตทะยานร่างหนีหายไปเสียจากที่นั้น เขายังไม่ต้องการเผชิญหน้ากับสิ่งลึกลับอาถรรพ์เช่นนี้...
จอมภูตยืนนิ่งที่กลางลาน หันหลังให้กับศัตรู เหล่าผู้ไล่ล่าตามติดออกมาจากภายใน กระจายกำลังเป็นครึ่งวงกลมโอบด้านหลังของมันเอาไว้ ประกอบด้วย นักพรตลู่จือชิง หลวงจีนเสินขู่ อี้จง จางหย่วน และยังมี อู๋ซาง ที่ขาขาดกำลังพยายามเกาะกำแพงพยุงกายลุกขึ้น ยกแขนชี้ดาบหันหาจอมภูต ในใจครุกรุ่นด้วยความอาฆาตหมายล้างแค้นให้ประมุขของมัน นักพรตลู่ในฐานะผู้นำขบวนแสดงสัญญาณมือรหัสลับที่ใช้ในการเคลื่อนไหวครั้งนี้อ เป็นการนัดแนะแผนจู่โจมโดยไม่ออกเสียง เมื่อทั้งหมดทำสัญญาณว่ารับทราบ นักพรตก็ตะโกนให้สัญญาณ
"ทั้งหมดลงมือพร้อมกัน !"
เสียงพอดัง หลวงจีนเสินขู่ก็กระโดดเข้าใส่ใช้ไม้พลองอันเป็นอาวุธยาวกราดฟาดจากบนลงล่างหมายกระแทกทำลายศีรษะของจอมภูตให้แหลกราญ ในเวลาเดียวกันนักพรตกับอี้จงก็แทงกระบี่จากด้านซ้ายและขวา ส่วน จางหย่วน แฉลบร่างเลียดพื้นฟันดาบหัวตัดที่แคบยาวเล่มนั้นใส่ขาท่อนล่างของมัน ทันใดนั้นจอมภูตพลันขยับเคลื่อนไหว มันพลิกหันกลับทันทีทันใดการเคลื่อนไหวราวตุ๊กตากลที่ขับเคลื่อนด้วยขดลวดแข็งมิใช่กล้ามเนื้อของมนุษย์ มันกางฝ่ามือออกวาดเป็นวงแล้วกระแทกออกด้วยความเร็วเกินบรรยายบัดเดี๋ยวยืดบัดเดี๋ยวยุบ ปรากฏเป็นคลื่นฝ่ามือครอบคลุมรอบกายถี่ยิบจนแทบมองไม่เห็นร่าง
"หัตถ์ยมภพ !"
จางหย่วนและนักพรตลู่ร้องขึ้นพร้อมกัน วกอาวุธกลับคุ้มครองกายแล้วล่าถอย แต่ช้าไปแล้วเงาฝ่ามือเกลื่อนกล่นถึงเบื้องหน้าพลังฝ่ามือชักพาอาวุธของทั้งหมดหมุนวนปะทะกันเองจนอย่างไม่สามารถควบคุมนักพรตลู่พยายามควงกระบี่ต้านทานแต่ยิ่งมายิ่งกินแรงจำเป็นต้องทิ้งอาวุธอาศัยแรงปะทะกระแทกดันตัวเองถอยหลังไปหลบพ้นจากฝ่ามืออย่างหวุดหวิด แต่จางหย่วนเห็นท่าว่าตนเองไม่สามารถหลบรอดได้พลันกระทำเรื่องไม่คาดฝัน ถึงกับใช้มือกระชากดึงอี้จงบริวารคนสนิทเข้ารับแรงกระแทกฝ่ามือแทนตนเองอาศัยจังหวะนั้นล่าถอยปล่อยให้อี้จงถูกพลังฝ่ามืออันหมุนวนกระแทกซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนร่างแทบแหลกสลาย แต่ดวงตาของมันยังเบิกโพลงมองมายังนายเหนือ คล้ายไม่เชื่อว่าจะกระทำเยี่ยงนี้กับตน ! ส่วนหลวงจีนเสินขู่ตอนนี้แยกไม่ออกว่าอันไหนแขนอันไหนไม่พลอง ทั้งหมดถูกบิดม้วนพันกันจนกระดูกแตกเนื้อและเลือกกระจัดกระจายสภาพศพแหลกเละ !
เสียงดังพลึบ ! หนักๆ หลายครา ก่อนสภาวะฝ่ามือของหัตถ์ยมภพจะหยุดลง ปรากฏเศษซากของศพอี้จงกับหลวงจีนเสินขู่ที่ถูกกระแทกบดบี้ของกระเด็นกระจัดกระจายออกไปคนละทิศคนละทาง นับเป็นพลังฝ่ามือที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นฝีมือของมนุษย์ อย่างไรก็ตามจอมภูตแม้ยังคงมีสีหน้าเรียบเฉยไม่เปลี่ยนแปลง แต่ร่างกายของมันมีอาการสั่นอย่างต่อเนื่อง มิหนำซ้ำยังมีควันไอที่ส่งกลิ่นเหม็นเน่าผสานกลิ่นยาสมุนไพรเหม็นฉุนเฉียวฟุ้งออกมา ชั่วครู่ร่างกายของมันค่อยๆ ค้อมลงดวงตาก็หรี่ปรือคล้ายกำลังจะปิด
"มันอ่อนแรงแล้ว... จังหวะอันดี !" จางหย่วนร้องขึ้นหมายยุส่งให้นักพรตลู่เข้าไปต่อสู้อีกครา แต่ไม่สำเร็จ นักพรตตอนนี้ดุจนกหวาดเกาทัณฑ์ทำได้เพียงถอยร่าง มือซ้ายยกฝ่ามือดาบมือขวายกดัชนีกระบี่เสมอคิ้วคลุมครองตนเองก้าวห่างออกไปช้าๆ จางหย่วนเห็นดังนั้นจึงเปลี่ยนเป้าหมายถลันกายเข้าไปหาอู๋ซาง ป้องปากกระซิบข้างหู
"ท่านผู้กล้า ปีศาจร้ายใกล้หมดอิทธิฤทธิ์ มันสังหารประมุขท่านอย่างโหดเหี้ยม ท่านพร้อมเสี่ยงชีวิตร่วมกับเราหรือไม่ !?"
"ย่อมพร้อม !" อู๋ซางขบเขี้ยวเคี้ยวฟันดวงตาถลึงโพลงจับจ้องร่างจอมภูตที่ยืนงองุ้มอยู่กลางลาน
"ดี !" จางหย่วนร้องเสียงดัง สอดแขนเข้าประคองร่างอู๋ซางหันไปเรียกนักพรต
"ท่านนักพรต รุกเข้าพร้อมกัน !"
นักพรตลู่พยักหน้า ดวงตาแม้หวาดหวั่นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนในชีวิต แต่ยังฝืนปลุกปลอบใจ เนื่องจากเห็นจอมภูตในยามนี้มีสภาพคล้ายใกล้แหลกสลาย เชื่อว่ามันใช้กำลังออกจนสุดล้าแล้วเช่นกัน หากไม่ลงมือตอนนี้ถ้ามันฟื้นฟูพลังขึ้นย่อมไม่อาจหลุดรอดจากความร้ายกาจของมันได้ จำต้องลองเสี่ยงดวงสักครา
"ข้าจะดันส่งท่านเข้าหามันพร้อมกัน ท่านพร้อมแล้วหรือไม่" จางหย่วนกระซิบข้างหูอู๋ซาง พยัคฆ์ดุร้ายพยักหน้า แม้หวาดหวั่น แต่ความแค้นเหนือกว่า การตายของประมุขเป็นเรื่องที่มันยอมรับไม่ได้ ยินดีตกตายตาม แต่ไม่ยอมให้จอมภูตรอดหนีไป
สามคนห้าเท้าขยับเข้าใกล้ในระยะ 3 วา แต่ร่างของจอมภูตยังไม่เคลื่อนไหวแขนตกห้อยเอนกายค้อมไปด้านหน้าร่างสั่นต่อเนื่องบางครามีอาการกระตุกเป็นระยะๆ แต่ถึงกระนั้นทั้งสามยังไม่มั่นใจ ความร้ายกาจตั้งแต่มันปรากฏตัวนับว่าเกินกว่าคำที่เล่าลือกันในยุทธภพเสียด้วยซ้ำ เมื่อเข้าระยะ 2 วา เศษจางหย่วนพลันให้สัญญาณ
"ฆ่า !"
สิ้นเสียงดันส่งร่างของอู๋ซางเข้าใส่จอมภูต พร้อมกันนั้นนักพรตลู่ก็บุกเข้าหาทำท่าจะทิ่มดัชนีกระบี่ แต่นั่นเป็นท่าหลอก นักพรตพลันบิดกายแล้วเตะออกด้วยท่า "ดาวใหญ่เตะดารา" ท่าเท้าของสำนักฉวนเจิน เตะสาดมุ่งเข้าใส่ศีรษะลำคอและหว่างเอว ส่วนอู๋ซางฟาดดาบประจำกายลงอย่างหักโหม ดาบนี้แฝงพลังทั้งหมดที่มันมีฟาดลงอย่างตรงๆ ทั้งสองลงมือพร้อมกัน แต่จางหย่วนผู้ชักชวนกลับชะงักร่างอยู่ด้านหลัง !
เพลงเตะและพลังดาบใกล้ถูกเป้าหมาย ร่างจอมภูตพลันขยับกาย จู่ๆ มันดีดกายลอยขึ้นหมุนร่างในแนวขวางหลบรอดดาบใหญ่ไปอย่างเฉียดฉิว ปลายเท้ามันหมุนเตะจิกเข้าตรงขมับของอู๋ซาง ถึงกับกระโหลกแตกลูกตาหลุดออกจากเบ้า ร่างกระเด็นออกไปสี่ห้าวาจึงตกกระแทกพื้นขาดใจตายทันที แต่ร่างของจอภูตมิได้หยุดเพียงแค่นั้น มันยังหมุนในแนวขวางไม่หยุดถึงกับม้วนเคลื่อนคลุกไปกับแข้งขาที่เตะออกมาแล้วหมุนไต่ขึ้นไปตามร่างกายของนักพรตอย่างน่าอัศจรรย์และแสนทุเรศทุรัง หากดูให้ดีจะเห็นว่าแขนของมันหลังจากผ่านใช้พลังหัตถ์ยมภพออกก็เหมือนไม่สามารถขยับใช้งานได้อีก สุดท้ายมันถึงกับอ้าปากงับเข้าที่คอบริเวณลูกกระเดือกของนักพรตเฒ่าเต็มแรง นักพรตลู่สะดุ้งสุดตัวฟาดฝ่ามือใส่ศีรษะของมันอย่างสุดกำลัง หมายจะฟาดให้ศีรษะมันแตกสลาย แต่ผิดคาดกลายเป็นการเสริมแรงกัดกระชาก ! ลำคอส่วนหน้าของนักพรตถูกกัดฉีกออกไปก้อนใหญ่อย่างน่าสยดสยอง เลือดฉีดพุ่งออกมาฟุ้งกระจายส่งกลิ่นคาวทั่วบริเวณนักพรตลู่เอื้อมมือกุมลำคอส่งเสียงครืดคราดไม่กี่คำก็ล้มลงขาดใจตาย ส่วนร่างของจอมภูตปลิวตามแรงฝ่ามือไปราวว่าวหลุดจากสายป่าน จังหวะนั้น จางหย่วนที่รออยู่เบื้องนอกวงต่อสู้ก็ถีบเท้าโถมเข้ามา ที่แท้มันวกไปเก็บดาบประจำตัวที่หล่นบนพื้นขึ้นมารออยู่ก่อนแล้ว พลันได้จังหวะก็พุ่งร่างแทงดาบหัวตัดที่แคบผิดปกตินั้นเข้าใส่จุดหัวใจของจอมภูตจากทางด้านหลัง !
แรงโถมเข้าแทงทำให้ดาบหัวตัดที่ทื่อด้านถึงกับสามารถทิ่มแทงทะลุร่างกายของจอมภูต ส่งดันร่างสีดำหม่นของมันพุ่งไปกระแทกติดคาอยู่ที่กำแพงด้านหนึ่งของอารามแล้วห้อยคาแน่นิ่งอยู่ตรงนั้น
"จบสิ้น จอมภูตตายแล้ว !"
จางหย่วนร้องโพล่งขึ้นพลางถลาร่างถอยออกห่าง จากนั้นทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นอย่างหมดเรี่ยวแรง...
..................................................