"เยี่ยมไปเลย!!! กะมาแค่ฆ่ายัยเด็กนั้นคนเดียว แต่กลับได้จัดการกับผู้สืบทอดทั้งสองคน ในวันเดียว นี่มันจะโชคดีอะไรอย่างงี้ ฮ่ะฮ่ะฮ่าฮ่า~"
มือปืนปริศนาได้แสยะยิ้มออกมา และหมุนตัวไปทั่วอย่างดีอกดีใจ
"แล้วแกเป็นใครกัน?"
"ไหนๆแกก็กำลังจะตายอยู่แล้วจะบอกให้เป็นบุญก็แล้วกัน"
"ตัวข้าคือนักล่าผู้สืบทอดตั้งแต่ครั้งอดีตกาล หรือก็คือ ตัวข้านั้นเปรียบเสมือนนักล่าแม่มดนั้นแหละ แต่ต่างกันตรงที่"
นักล่าเล็งปืนลูกโม่ไปทางผู้สืบทอด ก่อนจะเหนี่ยวไกปืน พร้อมพูดว่า
"เราไม่ได้จับพวกมันมาเผาแต่ ช่วงชิงสกิลมันมาก่อเรื่องเท่านั้นเอง ฮ่ะฮ่าา~"
"ปัง!!!"
กระสุนมุ่งเข้ามาตามวิถี ซึ่งจุดที่นักล่านั้นเล็งไว้ก็คือ ไหล่ขวาของผู้สืบทอด และซึ่งแน่นอนระยะห่างของทั้งสองคนนั้น ห่างกัน 5 เมตร เป็นไปไม่ได้ที่ผู้สืบทอดหรือมนุษย์ทั่วไปจะหลบมันได้ แต่
"นายพลาดแล้วละ"
ผู้สืบทอดพูดอย่างช้าๆและนุ่มนวล จากทางด้านหลังของนักล่า
"ฮ่ะ!! จะดีหรอที่ใช้สกิลกับคนธรรมดาแบบนี้ พวกตัวประหลาดอย่างแกนะ ถ้าใช้พลังกับคนธรรดาละก็ เดียวก็ได้สูญเสียตัวตนหมดหรอก ฉันก็อุส่าเมตตาจะช่วยให้ไปสบายๆแท้ๆ"
"โฮ่ ไม่ยักกะรู้เลยว่า พวกนักล่าก็มีหัวจิตหัวใจกับเขาด้วย"
"ถ้าแกหายไปฉันก็สะสมคอลเลคชั่นไม่ครบนะสิ!!"
"ปัง!!!"
เสียงปืนดังขึ้นอีกครั้ง แต่
"เฮ้ย~ นายเป็นนักล่าจริงรึเปล่า? ทั้งที่ห่างกันแค่ 3 เมตรแท้ๆ แต่นายกับยิงไม่โดนเนี้ยนะ"
"ถ้านายอยากเล่นแบบนี้ ข้าก็จะจัดให้"
นักล่าถอดเสื้อคลุมยาวของตัวเองออก และเผยให้เห็นหลอดแก้วที่มีของเหลวเรืองแสงอยู่ และทันใดนั้นเองเขาก็ได้หยิบมาหลอดนึง และเทมันใส่ที่มือนิดหน่อย ก่อนที่เขาจะชูมือมาทางผู้สืบทอด
"เอาไปกินซ่ะ!!!"
"ตู๊ม!!!!!"
แรงระเบิดและไฟได้บังเกิดขึ้นต่อหน้าผู้สืบทอด แรงระเบิดนั้นได้ทำลายพื้นดาดฟ้าตรงที่ผู้สืบทอดยืนอยู่จนทะลุ แต่สิ่งที่อยู่ตรงหน้าของนักล่านั้นก็คือ
"ยังงี้นี่เอง ตระกูลแห่งการหลอกหลวง สกิลของแกก็คือการสร้างภาพลวงตาขึ้นมาสินะ"
ภาพที่นักล่าเห็นก็คือ ตัวของผู้สืบทอดนั้นลอยอยู่บนอากาศ ในขณะที่พื้นค่อยพังที่ละนิด และตกลงไปชั้นล่าง
"งั้นก็แปลว่า นัดแรกเข้าเป้าเต็มๆเลยสินะ!! ฮ่ะฮ่า!!! แปลว่าตอนนี้แกก็ กำลังนั่งคุกเข่ากดแผลที่ไหล่อยู่สินะ"
"ตู๊ม!!!!"
ผู้สืบทอดโดนแรงระเบิดเข้าไปเต็มๆ และได้ตกลงไปชั้นล่าง และกระแทกโต๊ะห้องเรียนเต็มๆ
"โอ้ย!! อะ อีกนิดเดียว~"
ผู้สืบทอดหมุนตัวลงจากโต๊ะ และลงไปคลานกับพื้นเพื่อไปอีกฝั่งที่เพดานดาดฟ้าถล่มลงมา
"อะ อีกนิดเดียวเท่านั้น~"
"จะหนีไปไหนเจ้าของสะสม ข้าผู้นี้นะจัดการกับพวกของสะสมอย่างพวกแกมาเป็นร้อยๆแล้ว และในที่สุดเลือดของแกก็เป็นของข้า!"
นักล่าได้เอาหลอดแก้วมาเก็บเลือดที่นองอยู่เต็มพื้น
"สกิลของแกจะเป็นประโยชน์ในการล่าของข้าในครั้งถัดไปแน่ ฮ่ะฮ่าฮ่า"
ผู้สืบทอดเอาหลังไปพิงไว้กับเศษศากของตึก ในขณะที่เอามือปิดแผลที่ไหล่ขวาอยู่ พร้อมกับแสยะยิ้มออกมาเล็กน้อย
"ฮ่ะ! ขอโทษที่นะ ที่ทำให้แกผิดหวัง แต่แกจะไม่ได้ทำร้ายใครอีกแล้วละ แต่ต้องขอบคุณแกนะ ถ้าแกไม่ทำลายดาดฟ้านั้น ฉันก็ไม่รู้ว่าจะเอาชนะแกยังไงดีเหมือนกัน"
ทันทีที่ผู้สืบทอดพูดจบ เพดานที่อยู่ตรงกลางห้องที่ยังไม่ถล่ม ก็ได้ถล่มลงมา และมันตรงกับนักล่าที่กำลังเก็บเลือดของผู้สืบทอดอยู่
"ตู้ม!!!"
"แผนตื้นๆแบบนี้ มันน่าผิดหวังอย่างที่แกบอกนั้นแหละ"
นักล่าได้ชูมือขวาของเขาขึ้น และระเบิดเพดานที่ร่วงลงมา จนทั้งหมดกลายเป็นผง
"รีคอล!!!"
"ไร้สาระจริงๆ!!!"
นักล่าพุ่งเข้าหมายที่จะปิดฉาก แต่ทันใดนั้นเอง
"ปัง!!!"
อยู่ๆเสียงปืนก็ดังขึ้น แล้วที่ไหล่ขวาของนักล่าก็เป็นรู และมีเลือดไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง
"อะ อะ อะไรกัน! นี่มันเกิดอะไรขึ้น"
นักล่าหันหลังกลับไปแต่ก็ไม่เห็นใคร หรืออะไรก็ตามที่จะสามารถทำร้ายเขาได้ แล้วทันใดนั้น
"ปัง!!!"
กระสุนอีกนัดพุ่งเขาใส่ไปที่ไหล่ซ้ายของเขา และในขณะเดียวกันนั้นเอง ผู้สืบทอดได้ยืนขึ้นแล้วกล่าวออกมาว่า
"รู้จักเดจาวูไหม? ไอ้นักล่า!"
"อะ อะ~ อะไรนะ เดจาวูอย่างงั้นหรอ?"
"เดจาวู หรือ ความรู้สึกว่าเคยหรือมีประสบการณ์กับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ตรงหน้ายังไงละ" "และความสามารถของรีคอลนั้นก็คือ เปลี่ยนอะไรก็ได้ให้เป็นเพียงความทรงจำและย้อนกลับมาตามเวลาที่สัมผัสได้ยังไงละ!!!"
ทันใดนั้นเองก็มีประกายไฟอยู่ตรงกลางหลังของนักล่า และผู้สืบทอดก็ได้กระโดดออกนอกอาคาร ในจังหวะเดียวกันที่ระเบิดได้ปะทุขึ้น
"ตู้ม!!!"
"ลาก่อนนะเจ้านักล่า"
ผู้สืบทอดได้อาศัยแรงระเบิดพลักเขาให้ไปเกาะต้นไม้ข้างหน้าคณะได้พอดิบพอดี
และหลังจากที่เรื่องวุ่นวายทั้งหมดจบลง ผมจึงรีบเข้าไปดูอาการของรูบี้ในทันที เลือดเธอไหลออกมาเยอะมาก
"ไม่มีทางเลือกสินะ คงต้องย้อนกลับไปสู้กับไอ้เจ้านักล่านั้นใหม่" "รีคอ-"
"เดียวก่อนคะ!!! ไม่ต้องทำขนาดนั้นเพื่อหนูหรอกคะ"
ทันทีที่รูบี้พูดจบ เธอก็ได้ยืดผมของเธอออกมาให้ยาวขึ้นกว่าที่เป็นสองเท่า และบอกให้ผมตัดผมของเธอออกบางส่วน ผมก็ได้ทุบกระจกให้แตก และนำเศษกระจกมาตัดผมตามที่เธอบอก
"ช่วยนำผมที่ตัดแล้วมาวางไว้ที่แผลให้หน่อยได้ไหมคะ"
รูบี้พูดด้วยน้ำเสียงอันแผวเบา ราวกับเธอกำลังจะจากไปในไม่ช้า ผมได้ทำตามที่เธอบอก และทันใดนั้นเอง ผมของเธอก็ได้เข้าไปในแผลด้วยความรวดเร็ว แล้วแผลของเธอก็ค่อยๆสมานเข้าด้วยกันจนหายสนิท ราวกับว่า ไม่เคยมีแผลมาก่อน
"หะ หะ หายแล้ว!? แผลเป็นก็ไม่มี"
"พี่ชายคะ เรากลับบ้านกันได้รึยังคะ"
ถึงแม้แผลเธอจะหายแล้วก็ตาม แต่เสียงของเธอก็ยังไม่เปลี่ยน
'แสดงว่า สกิลการรักษาบาดแผลของเธอ คงรักษาได้แค่ผิวเผินสินะ ถึงแม้จะไม่เจ็บปวด แต่ก็ไม่ได้บรรเทาอาการให้ดีขึ้นได้'
"ได้สิกลับกันเถอะ"
"เดียวก่อนคะพี่ชาย!!"
"อะไรหรอรูบี้? หรือว่ายังเจ็บอยู่?"
"ปะ ป่ะ ป่าวคะ แต่ว่า มีเรื่องอยากขอเรื่องนึง"
สายตาเธอลนลานอย่างเห็นได้ชัด และหน้าก็เริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆ
"ว่ามาเลย"
"คะ คือ~คือว่า ช่วยอุ้มหนูท่าเจ้าหญิงได้ไหมค่ะ?"
ผมตกใจไปพักนึง ก่อนที่จะตอบกลับเธอไปแบบเขินๆ
"ดะ~ได้สิ แต่แค่ในสถานการณ์แบบนี้นะ"
ผมช้อนตัวเธอขึ้นมา และทันทีที่ออกมานอกอาคาร ในยามที่แสงจันทราตกกระทบที่ใบหน้าของเธอ ทุกอย่างก็เหมือนจะหยุดนิ่งไป ทั้งดวงตาสีชาตินั้น ที่แววาวราวกับดวงดาวนับพัน ผมที่สั้นลงทำให้ใบหน้าของเธอดูงดงามจนแปลกตา ใบหน้าที่งดงามขนาดนี้ อยากจะหยุดแล้วดูมันให้เต็มตาซ่ะเหลือเกิน
"พี่ชายค่ะ?"
"เอ๊ะ!! วะ ว่าไง"
"ที่หน้าหนูมีอะไรติดรึเปล่าค่ะ?"
"ปะ ป่ะ~เปล่า!! แค่ ยังไม่เคยเห็นหน้าเธอชัดๆแบบนี้มาก่อนนะ เลยจ้องนานไปหน่อย"
ขณะที่รูบี้ก้มหน้ายิ้มเล็กน้อยอยู่นั้น ก็ได้พูดว่า
"ขอบคุณนะคะ ที่ปกป้องหนู"
"ไม่เป็นไรหรอกเรื่องแค่นี้เอง"
"ขอบคุณนะคะ ที่ปกป้องหนูอีกครั้ง"
รูบี้ได้พูดประโยคสุดท้ายด้วยน้ำเสียงอันแผวเบา
"เมื่อกี้พูดอะไรนะ"
"ความลับคะ"
ขณะเดียวกันนั้น ณ ห้องล่างดาดฟ้าของตึกคณะสถาปัตย์ หินที่กองกันอยู่ก็มีการขยับ และมือของนักล่าก็พุ่งออกมาจากกองนั้น มือที่พุ่งออกมานั้นกำหลอดแก้วที่ใส่เลือดของผู้สืบทอดสกิลรีคอลอยู่ และทันใดนั้นเขาก็บีบมันจนแตก แล้วทันใดนั้น กองเศษสากก็ได้ประสานกับเพดานที่ที่โดนระเบิดพังลงมา สิ่งที่ยังอยู่ในห้องนั้นก็เป็นเพียงเศษแก้วแตกๆ กับกองเลือด และนักล่าที่มีบาดแผลเต็มตัว พร้อมกับ แววตาที่เต็มไปด้วยความแค้น
ตอนนี้เป็นการต่อสู้ที่มันส์ที่สุด เท่าที่เคยเขียนมาเลยครับ ทุกคนคิดเห็นอย่างไรก็ แสดงความคิดเห็นกันได้นะครับ พร้อมรับทุกคำติดชมครับ ขอบคุณครับ