webnovel

พยศนักรักซะเลย

Autor: Jbatwise
Fantasie
Laufend · 3.4K Ansichten
  • 3 Kaps
    Inhalt
  • Bewertungen
  • N/A
    UNTERSTÜTZEN
Zusammenfassung

“หยุดก่อน.. อย่าเพิ่งไป” “พี่คะ อย่าทิ้งนิดไว้ นิดกลัว” นิรดาร้องเรียกพลางสะอื้นไห้ ร้องเรียกอย่างสิ้นหวัง … “นิดครับ พี่อยู่นี่ นิดไม่ต้องกลัว มีพี่อยู่ ไม่มีอะไรต้องกลัว” น้ำเสียงตื่นตระหนกแต่แฝงไปด้วยความอบอุ่นของเดช ทำให้นิรดาพยายามลืมตาอันหนักอึ้งของตนขึ้น ภาพอันเลือนลางเหมือนความฝันปรากฎตรงหน้า นิรดายกมือขึ้นลูบไปที่แก้มสากอย่างอ่อนโยน แล้วก็หมดสติไปเพราะพิษไข้ ความหนาวเหน็บค่อยๆคืบคลานเข้ามา จนเธอพูดเพ้อไม่ได้สรรพ “หนาวเหลือเกิน พ่อค่ะ นิดหนาวเหลือเกิน แม่ข๋า ช่วยนิดด้วย” สิ้นเสียงนิรดา เดชสีหน้าแดงกล้ำ เป็นความผิดของเค้า ถ้าเค้ารู้ว่าร่างกายเธอไม่ได้แข็งแรงเหมือนทีืเธอชอบแสดงความอวดอ้าง เค้าคงไม่เผลอปล่อยให้เธอตกน้ำ จนล้มป่วยแบบนี้ เค้าต้องทำอะไรสักอย่าง ไม่งั้นเธอได้หนาวตายแน่ “นิดพี่ขอโทษนะ” ไม่พูดเปล่า เดชค่อยๆถอดเสื้อผ้าที่นิรดาใส่ออกทีละชิ้น จนเหลือแค่บราเซียตัวจิ๋ว ทั้งๆที่พยายามหักห้ามใจแล้ว แต่ผิวขาวอมชมพูราวกับไข่มุกที่ปรากฎตรงหน้า ที่ตอนนี้ซีดเซียวจากการเปียกน้ำเป็นเวลานาน ก็ทำให้เดชแอบกลืนน้ำลาย จากนั้นก็ค่อยๆถอดชุดของตัวเองออกเพื่อหวังว่า ไอความร้อนจากตัวเค้า จะช่วยให้นิรดาอุ่นขึ้น… เดชหลุบสายตาลงแล้วค่อยๆประคองกอดเนื้อแนบเนื้อ ทุกอนูที่ผิวสัมพัสกัน ช่างอุ่น จนนิรดาเผลอขยับเข้าหาร่างหนา นั่นยิ่งทำให้เดชต้องใช้ความอดทนขั้นสุด ซึ่งเค้าก็ไม่รู้ว่ามันจะทนได้สักเท่าไหร่กัน

Chapter 1บทที่ 2 ความรู้สึกประหลาด

..เอี๊ยด..ด .. ด นิรดาเบรกรถหรูคู่ใจเมื่อเห็นว่ามีกระรอกน้อยวิ่งตัดหน้ารถ พร้อมเสียงดังตุ๊บ!! "ใจหายใจคว่ำหมด เกิดอะไรขึ้นเนี่ยะ ไหนคุณแม่บอกว่าหนทางสะดวกสบาย ผ่านแยกมาหลายแยกไม่เจอป้ายบอกทางเลย" นิรดาพูดกับตัวเองเบาๆแบบใช้ความคิด เนื่องจากถนนเส้นหลักไปที่ไร่ปิดซ่อมทาง เพราะฝนตกหนัก แล้วเส้นที่เธอใช้เดินทางอยู่ตอนนี้ มันช่างดูไม่คุ้นเอาซะเลย

"ระบบนำทางทำไมต้องมาใช้การไม่ได้ตอนนี้นะ" นิรดาพยายามยกโทรศัพท์ขึ้นเพื่อหาสัญญาณแต่นี่มันกลางป่า

ถ้าจะโทษก็ต้องโทษเธอที่นัดเพื่อนรัก จูน และเกดสุดาเลี้ยงส่งเธอจนดึกดื่น ทำให้ตื่นสายไปมาก หนทางไกลต้องเผื่อเวลาเดินทาง ดังนั้นตอนนี้พระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า ทำไงดี เธอยังหาทางไปไร่ไม่ได้เลย ในเมื่อคุณพ่อบอกว่าเตรียมทุกอย่างไว้แล้ว นิรดาก็เอามาแค่ของใช้ส่วนตัวและงานออกแบบของเธอแค่นั้น ตอนนี้เธอหิวมากๆ บนรถมีแค่เศษขนมปังกับน้ำดื่ม นิรดาลงจากรถเพื่อเช็คที่มาของเสียง ภาพที่เห็นทำให้เธอต้องกุมขมับพร้อมถอนหายใจแรง …

"วันนี้ฉันก้าวเท้าข้างไหนออกจากบ้านกัน ทำยังไงละทีนี้" ตอนที่นิรดาเบรกรถเพราะเจ้ากระรอกตัดหน้า ทำให้รถเสียหลักลงข้างทางเนื่องจากถนนลื่น และมันก็ค่อนข้างสูงสำหรับรถหรูของเธอที่จะขับปีนขึ้นมาด้วยกำลังตัวเองขณะที่เดินไปมารอบๆรถ ก็ยังไม่มีวี่แววสัญญาณนำทางจะกลับมาใช้ได้ "ยัยนิดเอ้ย เอาไงละทีนี้ หิวก็หิว ฝนก็กำลังจะตก มือถือก็ใช้ไม่ได้ แกจะร่ำรวยไปทำไม แค่ชีวิตนี้ยังเอาไปให้รอดไม่ได้เลย" นิรดาพร่ำบ่นไปเรื่อย

ตอนนี้พระจันทร์เข้ามาแทนที มองเห็นลิบหลี่เพราะท่าทางพายุฝนตั้งเคล้ามา นั่งในรถรอคนผ่านมา 1 ชั่วโมง ไม่มีวี่แววใครสักคน เป็นเพราะถนนเส้นนี้ไม่ใช่เส้นสัญจรปกติของคนนอกพื้นที่ และสภาพอากาศแบบนี้เห็นทีคนพื้นที่ก็ไม่ได้ออกจากบ้านกัน นิรดานั่งคิดโน่นนี่ไปเรื่อยๆ ก็เห็นแสงไฟหน้ารถสะท้อนกระจกมองข้างของเธอ แทนที่นิรดาจะรีบลงไปโบกขอความช่วยเหลือ เธอกลับหลบอยู่ในรถแล้วดูท่าทีก่อน อย่าลืมนะว่ามีข่าวเยอะแยะ ที่ถูกจี้ปล้นกลางป่าแบบนี้ กระทั่งรถคันดังกล่าวมาจอดเทียบข้างๆ เดินวนรอบรถ แล้วเคาะกระจกรถหรู นั่นก็ทำให้นิรดาถึงกับสะดุ้งสุดตัว

"นี่คุณ เป็นอะไรไหมครับ มีอะไรให้ผมช่วยไหม"

ระหว่างที่คนนี้เดินรอบรถเธอ นิรดาก็คอยสังเกตท่าทาง การแต่งตัว และรถที่เค้าขับ น่าจะเป็นคนในพื้นที่นะ เนื่องจากรอบข้างค่อนข้างมืดเธอจึงมองหน้าเค้าไม่ชัดเจน แต่ก็ดูออกแหละว่าหล่อเหลาเลยทีเดียว เผลอติดอยู่ในความคิดของตัวเอง จนทำให้คนที่ยืนนอกตัวรถ ต้องเคาะกระจกอีกครั้ง

"คุณ คุณ โอเคไหม บาดเจ็บตรงไหนไหมครับ"

นิรดาค่อยๆแง้มกระจกรถลงเล็กน้อย แค่พอเสียงลอดออกไปได้ แล้วตอบเสียงเบา "คือรถชั้นตกไปข้างทางค่ะ แถวนี้พอจะมีรถลากไหมค่ะ โทรศัพท์ชั้นไม่มีสัญญาณเลยรออยู่ตรงนี้ประมาณ 1 ชั่วโมงแล้ว"

ในระหว่างที่คุยกันอยู่ก็มีรถหน้าตาคล้ายกันอีก 2 คัน ขับมาจอดต่อท้าย และมีชายฉกรรจ์ 3-4 คนวิ่งลงมา เล่นเอานิรดาตกใจมากจนเลื่อนปิดกระจกรถ นั่นทำให้คนที่ยืนคุยด้วยก่อนหน้านี้ เลิกคิ้วขึ้นด้วยความแปลกใจผสมทึ่งในการระแวดระวังตัวของหญิงสาวตรงหน้า

"นายครับ นาย เกิดอะไรขึ้นครับ" บุญชุ่มวิ่งหอบมาพร้อมส่องไฟฉายไปยังผู้เป็นนายเพื่อสำรวจว่านายเกิดเรื่องอะไร "ไม่มีอะไรพอดีเจอคุณคนนี้เค้ารถตกถนน เดี๋ยววอเรียกคนของเรามาลากรถให้คุณผู้หญิงเค้าหน่อย" ระหว่างสั่งงานก็หันไปเคาะกระจกรถอีกครั้ง

"คุณ ไม่ต้องกลัว เด๋วอาสาสมัครจะมาช่วยลากรถ คุณกำลังจะไปไหน"

ได้ยินดังนั้น นิรดาก็ค่อยๆลดกระจกลง ทำให้อีกฝ่ายมองเห็นดวงหน้ารูปไข่ แก้มใสอมชมพู และแววตาสุกใสราวกับดวงดาวนั้นชัดเจน คือเธอ! เดช นึกออกทันที ถึงแม้เค้าและเธอจะยังไม่เคยเจอกันมาก่อน นิด นิรดา โชติกุล ว่าที่คู่หมั่นของเขา ข้อมูลทั้งหมดของเธอ ถูกส่งมาให้เดชตั้งแต่วันแรกที่พ่อแม่สองฝ่ายต่างตกลงเรื่องหมั่นหมาย แต่นิรดาก็หนีการนัดพบกันไปทุกครั้ง เธอหารู้ไม่ สัญญาการมั่นหมายได้ลงนาม ดำเนินการโดยผู้หลักผู้ใหญ่เรียบร้อยแล้ว

ส่วนตัวเดชนั่น หลักจากเค้าได้เห็นเพียงแค่รูปถ่ายนิรดา เค้าก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องปฎิเสธ และรอคอยจะเจอเธอมาตลอด ดวงตาของนิรดานั้น ส่องประกายอ่อนหวาน แต่ไม่วายมีความดื้อรั้นซ่อนอยู่ นั่นทำให้เค้าอยากรู้จริงๆ ผู้หญิงที่ปฎิเสธ และหนีนัดจากเค้าครั้งแล้วครั้งเล่า จะมีฤทธิ์เดชเท่าไหร่กันเชียว

เดชหลุบเปลือกตาลงครึ่งนึ่งเพื่อหลบซ่อนความรู้สึก .. ถูกใจ.. จริงๆแล้ว เดชได้รับข่าวการมาเยือนของน้องนิด ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของเจ้าสัวนิวัฒน์ เพื่อนรักของพ่อตนมาก่อนหน้านี้แล้ว เจ้าสัวนิวัฒน์ถึงกับต่อสายตรงถึงเค้าที่กำลังเจรจาธุรกิจอยู่สิงค์โปร รีบบินกลับไทยและเคลียรตารางงานเพื่อเดินทางมาที่ไร่ภูเคียงฟ้า แค่คำว่า ลุงฝากน้องด้วยนะเดช!! และเค้าก็ให้คำตอบกับตัวเองว่าเค้าไม่มีวันปล่อยนิรดาไปอีกแน่นอน

เดชมาถึงไร่ภูเคียงฟ้าเมื่อ2 วันก่อน เพราะเค้าก็ถือโอกาสตรวจตราเยี่ยมเยียนคนงานไปด้วยเลย ปกติที่นี่จะมีลูกน้องคนสนิท บุญชุ่มเป็นผู้จัดการอยู่แล้ว พวกเค้าโตมาด้วยกัน รักและไว้ใจกันดังพี่น้อง ส่วนใหญ่เค้าจึงอยู่กรุงเทพ และเดินทางต่างประเทศ ครั้งนี้พิเศษจริงๆ เพราะเค้าต้องมาดูแลน้องนิด…เดชยกยิ้มในใจ จ้องมองไปยังนิรดา ไม่วางตา จนเสียงของนิดปลุกให้เค้าออกมาจากความคิด "เอ่อ.. ขอบคุณมากนะคะ" นิรดากล่าวขอบคุณ หลังรถถูกลากขึ้นมา แต่ก็ไม่สามารถขับต่อไปได้ เพราะรถตกลงไปกระแทกอย่างแรงจนล้อมีปัญหา "เด๋วอาสากู้ภัยจะลากรถคุณไปที่อู่ในเมือง แล้วผมจะไปส่งคุณที่ไร่ทอตะวัน" นิรดาอึ้งไปแล้วถามนายหัวเดชาทันที คุณรู้ได้ยังไงว่าชั้นพักที่นั่น?" เดชยักไหล่ แล้วพูดว่า เส้นทางนี้เป็นถนนส่วนบุคคลของไร่ภูเคียงฟ้า ผมมั่นใจว่าคุณไม่ใช่คนงานในไร่ และคิดว่าคุณน่าจะกำลังไปที่ไร่ทอตะวันเพราะ ก่อนที่ถนนจะตัดมาเส้นนี้ มันมีแยกซ้ายไปไร่ทอตะวัน ผมเดาถูกมั้ย?" พอเดชเล่ามาจนถึงจุดนี้ นิรดาถึงกับอ้าปากค้าง

Das könnte Ihnen auch gefallen