webnovel

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

เมื่อจู่ๆ โชคชะตาก็ทำให้ เยี่ยหวันหวั่น ฟื้นขึ้นมาในคืนแห่งความทรงจำอันเลวร้ายเมื่อ 7 ปีก่อน เธอย้อนเวลากลับมาเกิดใหม่ในบ้านหลังเดิม ที่ยังมีปีศาจแสนเย็นชา ซือเยี่ยหาน คอยอยู่ข้างกาย เขา... คนที่เธอเคยพยายามหนีไปให้พ้น ยอมแม้แต่ทำให้ตัวเองอัปลักษณ์ น่าอับอาย และรักกับชายคนอื่น! แต่ชาติก่อนสมองของเธอคงมีปัญหา ถึงได้ปล่อยสามีสุดหล่อคนนี้เอาไว้ไม่เหลียวแล จึงได้ถูกหญิงร้ายชายชั่วทำร้าย เธอถูก เฉินเมิ่งฉี เพื่อนสนิทที่ไว้ใจที่สุดล้างสมองและหาทางเข้าใกล้ซือเยี่ยหาน จนในที่สุดความสัมพันธ์ระหว่างเธอและสามีก็ถึงคราวแตกร้าว และตัวเธอต้องมีจุดจบอันน่าเวทนา ชาตินี้ในเมื่อมีโอกาสกลับมาอีกครั้ง เธอจะยึดตำแหน่งคนข้างกายซือเยี่ยหานไว้ คอยอาศัยความรักและบารมีของเขา ใช้ชีวิตใหม่ให้คุ้มค่าที่สุดเพื่อเอาคืนคนชั่วพวกนั้น และที่สำคัญคือมีชีวิตที่ดียิ่งกว่าเดิม! ...คิดจะตีหน้าซื่อหลอกใช้ สรรหาวิธีให้เธอยอมถอยเหรอ? ‘ขอโทษที สติปัญญาของฉันอัปเกรดมาแล้ว!’

จ่งจ่งโหย่วเยา · Urban
Zu wenig Bewertungen
570 Chs

บทที่ 8 คุ้นหูจังคำนี้

บทที่ 8 คุ้นหูจังคำนี้

ซือเยี่ยหานเหมือนจะอารมณ์ดีอยู่ไม่น้อย เจอคำพูดโวยวายของหลินเชวียก็ไม่เห็นทำหน้าขุ่นเคือง

หลินเชวียพินิจมองใบหน้าหล่อระเบิดของเพื่อนตัวเอง ทำสีหน้าเคียดแค้น อิจฉาริษยา “พี่เก้านะพี่เก้า ด้วยฐานะตำแหน่งและรูปร่างหน้าตาของพี่แล้ว มีผู้หญิงแบบไหนที่อยากได้แล้วจะไม่ได้บ้าง? ทำไมต้องลำบากลดตัวลงไปด้วย?”

เยี่ยหวันหวั่นที่เพิ่งเปลี่ยนชุดเรียบร้อยเดินลงมา ก็ได้ยินคำพูดประโยคนี้ของหลินเชวีย

ทำไมคำพูดของหลินเชวียถึงได้ฟังดูคุ้นหูแบบนี้?

“พี่อยากลองของแปลกชั่วครั้งคราวก็ช่างเถอะ แต่นี่ไม่ได้แค่เล่นๆ แล้ว มันสองปีแล้วนะ เพื่อนอย่างฉันทนดูต่อไปไม่ได้แล้ว...”

หลินเชวียยังคงบ่น ซือเยี่ยหานที่ทำหน้าเกียจคร้านและเมินเฉยเขาอยู่ตรงข้ามพลันเบี่ยงศีรษะเล็กน้อย สายตามองตรงไปยังทิศทางข้างบน

หลินเชวียหันมองตามสายตาของซือเยี่ยหานไปตามจิตใต้สำนึก

วินาทีต่อมา ทันใดนั้นตรงหน้าสว่างวาบ แววตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ

เห็นเพียงสาวน้อยคนหนึ่งยืนอยู่ด้านบน เธอสวมชุดกระโปรงสีขาวบริสุทธิ์ รูปร่างเพรียวบาง ผมสลวยยาวถึงเอว ดวงตาสว่างสุกใส ริมฝีปากดั่งผลพีช ผิวพรรณขาวใสดั่งหยก งดงามดั่งเทพธิดา

สาวน้อยคนนี้...สวยสุดๆ ไปเลย...

ถึงอยู่ต่อหน้าปีศาจหล่อเหลาอย่างซือเยี่ยหาน ก็ยังไม่ถูกกลบรัศมี

ออร่าอ่อนละมุนดั่งปุยเมฆนั้นทำให้คนใจหวั่นไหวเป็นที่สุด แทบทำให้ความปรารถนาที่เก็บซ่อนไว้ระเบิดออกมา!

จนกระทั่งเยี่ยหวันหวั่นเดินมาตรงหน้าโต๊ะอาหารแล้ว หลินเชวียยังมีสีหน้าเคลิบเคลิ้มราวกับฝันไปอยู่เช่นเดิม

เยี่ยหวันหวั่นกวาดมองโต๊ะอาหาร ปกติเธอจะนั่งห่างซือเยี่ยหานไกลมาก ครั้งนี้เธอลองคิดดูแล้ว จึงเลือกนั่งลงตำแหน่งข้างซือเยี่ยหาน

เมื่อเห็นว่าหญิงสาวนั่งลงข้างตนเอง แววตาที่ซือเยี่ยหานจดจ้องเธอมีประกายวาบไหวเล็กน้อย

ว่ากันว่าพูดน้อยความผิดพลาดก็น้อย เยี่ยหวันหวั่นนั่งลงเรียบร้อยแล้วก็เริ่มทานอาหารเช้าเงียบๆ

ตั้งแต่เมื่อครู่ สายตาน่ากลัวนั้นจดจ้องเธอตลอดเหมือนมีรูปร่างจับต้องได้

กลับสู่สภาพเดิมอย่างกะทันหัน ความจริงเธอก็เก้อเขินอยู่บ้าง ไม่รู้ว่าซือเยี่ยหานจะมีท่าทีอะไร

เพียงแต่ ขนาดสภาพราวกับผีซือเยี่ยหานยังกินไม่เลือกได้ สู้เป็นตัวเองที่งดงามเห็นแล้วสบายตาไม่ดีกว่าเหรอ

เยี่ยหวันหวั่นคิดเช่นนี้ ก็เริ่มก้มหน้ากินโจ๊กอย่างสบายใจ

เวลานี้เอง พลันมีนิ้วมือเรียวยาวนิ้วหนึ่งยื่นมาที่แก้มของเธอ

เยี่ยหวันหวั่นสีหน้าเครียด ร่างกายพลันแข็งทื่ออยู่ตรงนั้น

จากนั้นก็เห็นว่านิ้วข้างนั้นปัดเส้นผมยาวที่เกือบจะตกลงถ้วยโจ๊ก แล้วทัดมันไปไว้หลังใบหู

เวลานี้ ซือเยี่ยหานนั่งหลังพิงเก้าอี้อย่างเกียจคร้าน เมื่อช่วยทัดเส้นผมให้หญิงสาวเรียบร้อยก็เก็บมือกลับไปอย่างไม่รีบร้อน ทว่าไม่ลดละสายตาที่จ้องมองเธอ เป็นสายตามองพิจารณาแฝงด้วยความอบอุ่นที่สังเกตได้ยาก ค่อยๆ กวาดมองผิวพรรณของหญิงสาวทุกตารางนิ้ว ตลอดจนทุกสีหน้าท่าทางเล็กน้อยของเธอ

เยี่ยหวันหวั่นถอนใจโล่งอก รีบใช้มือกำเส้นผมไว้ เพื่อไม่ให้มันร่วงลงมาอีก

นาทีนี้ ในที่สุดหลินเชวียก็เรียกสติกลับมาได้ ลดเสียงต่ำเอ่ยซุบซิบนินทาอย่างตื่นเต้น “พี่เก้า! ในที่สุดก็คิดได้แล้วสินะ ควรเลือกแบบนี้ตั้งแต่แรกแล้วไหมล่ะ ทั้งสวยทั้งมีความเป็นผู้หญิง แค่เห็นก็อยากทะนุถนอมปกป้อง! ทำไมต้องไปเลือกผู้หญิงที่ทำให้เสื่อมเกียรติอย่างเยี่ยหวันหวั่นด้วย”

เยี่ยหวันหวั่นนิ่งไป ทำให้เสื่อมเกียรติ...

หลินเชวียพูดต่อ “จริงสิ ผู้หญิงอัปลักษณ์คนนั้นล่ะ? ไล่ไปแล้วใช่ไหม?”

เยี่ยหวันหวั่นอึ้งงัน ผู้หญิงอัปลักษณ์...

หลินเชวียเอ่ย “ถึงเมื่อสองปีก่อนเยี่ยหวันหวั่นนั่นจะเพิ่งมาอยู่กับพี่ หน้าตายังไม่จัดจ้านอะไรมาก แต่ว่าตอนนั้นเธอมีน้ำหนักมากทีเดียว! อย่างน้อยๆ ต้องหนักเจ็ดสิบห้ากิโลฯ ล่ะมั้ง!”

เยี่ยหวันหวั่น “...!” เหลวไหล เห็นชัดๆ ว่าแค่หกสิบ! แม้ว่าช่วงวัยรุ่นเธอกินเก่ง จึงอ้วนขั้นร้ายแรง แต่ว่าน้ำหนักตัวเธอก็ไม่เคยแตะเจ็ดสิบห้าไหมล่ะ?

หลินเชวียพูดอีก “พี่เก้า ตอนนั้นฉันไม่เข้าใจรสนิยมของพี่เลยรู้ไหม ไปชอบคนอ้วนได้ยังไง?”

เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก คนอ้วน...

ไม่มีผู้หญิงคนไหนทนการที่มีคนมาพูดต่อหน้าว่าตัวเองอ้วนได้หรอก!

“ปัง!”

เยี่ยหวันหวั่นวางตะเกียบลงอย่างแรง สายตาดั่งคมมีดมองจ้องไปยังหลินเชวียที่นั่งอยู่ตรงข้าม...

“หลิน! เชวีย! ฉันหนักเจ็ดสิบห้าแล้วจะทำไม ฉันอ้วนแล้วจะทำไม ฉันไปกินข้าวบ้านนายเหรอ!”

……….…………………………………………………………..