"ท่านแม่"
"หืม…อ้าว! อาหมิงนั่นเอง มีอะไร" เสียงที่ขึงขังขั้นทำเอาใจอาหมิงหดเล็กลง
"คือ…เมื่อวานท่านแม่ได้ไปหาคุณหนูที่เรือนหรือไม่เจ้าคะ?" น้ำเสียงที่ค่อย ๆ แผ่วลงทำให้คิ้วหนาเลิกขึ้น จินอู๋ถามกลับด้วยเสียงต่ำดุดัน
"ทำไม!"
"ปะ…เปล่านะท่านแม่ ข้าก็แค่…คิดว่าท่านอาจเป็นห่วงคุณหนู..." จินหมิงหัวใจเต้นรัว โชคดีที่ท่านแม่ของนางไม่ได้ไปเยี่ยมคุณหนูเมื่อวานนี้ ไม่เช่นนั้นคงได้เจอกับเรือนที่ว่างเปล่าแน่ นางลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่ถึงอย่างไรนางก็ผิดอยู่ดีที่ทำให้คุณหนูต้องอาการกำเริบเช่นนั้น หากนางไม่ใจอ่อนยอมพาคุณหนูไปเดินเล่นคงไม่เกิดเหตุการณ์อันตรายเช่นนั้นเป็นแน่
"เอ่อ…อันที่จริงแล้ว…"
"แม่ก็ห่วงคุณหนูอันหนิงอยู่หรอก แต่เมื่อวานมีแขกคนสำคัญมาพักที่จวนน่ะสิ ในครัวจึงยุ่งกันตั้งแต่เมื่อวานแล้ว"
แขกคนสำคัญรึ?
"ใครหรือเจ้าคะ?"
จินอู๋วางผักที่ล้างแล้วใส่กะละมังไม้เพื่อเสด็จน้ำ จินหมิงรีบช่วยมารดาของตนทันที "ได้ยินว่าเป็นคุณชายรองแห่งตระกูลไป๋ เจ้าลองไปถามบ่าวที่เรือนรับรองหรือเรือนหลักดูสิ"
"คุณชายรองแห่งตระกูลไป๋รึ? ถ้าเช่นนั้นก็เป็นคุณชายไป๋เฟิงสิท่านแม่" จินหมิงเอ่ยถามด้วยสีหน้าครุ่นคิด
"แม่ก็ไม่รู้…ลองไปถามบ่าวคนอื่นดูสิ"
"ท่านแม่ คุณชายไป๋เฟิงที่มีข่าวร่ำลือว่ามีวรยุทธ์สูงส่ง แต่ไม่ชอบอยู่ในกฏเกณฑ์ ชอบเที่ยวเล่นไปตามหอคณิกาใช่ไหมเจ้าคะ" นางถามต่อด้วยความสงสัย
"อืมมม…" จินอู๋ครางเสียงต่ำเจือน้ำโห
"แต่ท่านแม่...แล้วคุณชายไป๋เฟิงจะมาทำอะไรที่นี่หรือเจ้าคะ?"
จินหมิงยังคงฉงนใจ แต่เมื่อเห็นมารดาของตนค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมาจากกองผักช้า ๆ ด้วยสายตาพิฆาต นางก็รู้ตัวทันทีว่ากำลังจะเกิดฟ้าผ่า
"สายป่านนี้แล้วหรือนี่! ข้าไปก่อนนะท่านแม่ คุณหนูคงหิวแย่แล้ว!!" เพียงพริบตาเจ้ากระต่ายน้อยที่กำลังจะโดนจับกินก็กระโจนหายลับไปจากสายตา จินอู๋คำรามลั่นครัวด้วยแรงโทสะ "อาหมิง!!!"
จินหมิงสะดุ้งรีบคว้าตะกร้าสำรับอาหารแล้วโกยอ้าวออกจากครัวไปอย่างว่องไว
นางหอบแฮกวิ่งโซเซข้ามสะพานผ่านสระบัวอันกว้างใหญ่ก่อนจะไปหลบอยู่หลังต้นสนใหญ่ของอีกฝั่งหนึ่ง นางหอบหายใจเหนื่อยยิ่งกว่าตอนขาไปเสียอีก
"คุณชายขอรับ นี่คือสระบัวใหญ่ของจวนมหาเสนาบดี มีดอกบัวกว่าร้อยสายพันธุ์ ทั้งยังมีศาลานั่งเล่นตรงกลางสระด้วย ในเวลาแดดร้อนเมื่อมาพักที่ศาลานี้จะสดชื่นมากเลยขอรับ"
จินหมิงหัวใจกระตุกวาบรีบยกมือปิดปากที่กำลังหอบเสียงดัง นางนั่งนิ่งหลังต้นไม้ด้วยท่าทางแข็งทื่อ สะพานนั่นอยู่ห่างจากนางไม่ใกล้ไม่ไกล ดังนั้นนางจึงได้ยินเสียงนั้นชัดทุกคำ
"จริงรึ ดูท่าข้าคงต้องมาเยี่ยมจวนมหาเสนาบดีบ่อย ๆ เสียแล้ว" น้ำเสียงที่ไม่ค่อยชัดเจนทว่านางคาดว่าคงจะเป็นเสียงของคุณชายไป๋เฟิง
"ที่นี่ทิวทัศน์ก็สวย ดอกไม้ก็งามนัก" สายตาดอกท้อเบนไปมองสตรีมากมายในอาภรณ์สีสันสดใสดูราวกับดอกไม้นานาพรรณ เหล่าคุณหนูที่อุตส่าห์ลงทุนเดินผ่านไปมายิ้มด้วยท่าทางเอียงอาย
จินหมิงฉวยโอกาสที่คนกลุ่มนั้นกำลังสนใจไปทางเหล่าคุณหนูรีบลุกออกจากที่ซ่อนวิ่งตรงเข้าไปในป่าไผ่ทันทีโดยไม่เหลียวหลังกลับ
สายลมพัดผ่านทำให้ไผ่เสียดสีกันช่วยกลบเสียงฝีเท้าของคนผู้หนึ่งไปได้มาก แต่ทว่ายังไม่รอดพ้นหูของผู้มีวรยุทธ์ไม่น้อยหน้าใครเช่นเขา
ชายหนุ่มโบกมือเบา ๆ ให้กับสตรีที่อยู่ทั่วสวนแห่งนี้ก่อนจะหันมามองฝั่งตรงข้ามที่เป็นป่าไผ่รกทึบต่างจากฝั่งนี้มากนัก
"ที่นั่นเป็นป่าไผ่ของจวนมหาเสนาบดีหรือ?"
พ่อบ้านหันมองตามก่อนจะตอบรับ "ขอรับ ทว่าถูกทิ้งรกร้างมานานแล้ว ท่านลองไปที่ศาลานั้นก่อนเถิดขอรับ"
ชายวัยกลางคนเดินนำทางไปตามสะพานที่มีหลากหลายเส้นทางตรงไปยังศาลาหลังใหญ่กลางสระ ชายหนุ่มมีสีหน้าฉาบรอยยิ้มเอ่ยเบา ๆ
"ป่านั่นช่างน่าสนใจเสียจริง"
ในที่สุดนางก็มาถึงเรือนของคุณหนูเสียที เหตุใดวันนี้นางรู้สึกอารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ ตั้งแต่เช้า ขืนเป็นเช่นนี้ทุกวันนางคงหัวใจวายแน่
"คุณหนูเจ้าคะ สำรับอาหารมาแล้วเจ้าค่ะ" ร่างบอบบางเดินตรงเข้าไปในห้องส่วนตัวที่มีโต๊ะกลมตั้งอยู่กลางห้องกำลังจะเปิดฝาตะกร้าสำรับทว่ากลับรับรู้ได้ถึงสิ่งผิดปกติ
เหตุใดจึงเงียบนัก?
หากปกติเงียบเช่นนี้นางคงจะคิดว่าคุณหนูอาจจะยืนชมวิวอยู่ที่หน้าต่างไหนสักที่ แต่ไม่รู้เหตุใดครั้งนี้จึงรู้สึกผิดปกตินัก
หรือคุณหนูจะแอบหนีออกไป!
จินหมิงตื่นตระหนกวิ่งไปตามหาทั่วทั้งเรือนทว่าก็ไร้ร่องรอยของคุณหนูที่กำลังตามหา
คุณหนูหายไปไหนแล้ว!!