webnovel

ข่าวที่เร็วยิ่งกว่านกพิราบ

จู่ ๆ สาวใช้ก็น้ำตานองหน้าวิ่งออกจากห้องไป ทิ้งให้นางยืนอยู่ในห้องผู้เดียว เฮ่อซินหมิงเอียงหัวมองตามร่างนั้นไปอย่างงุนงง

แปลกจัง? เป็นอะไรไปเนี่ย?

สายตาเหลือบไปเห็นของบางสิ่งที่สะท้อนภาพเพดาน นางจึงเดินเข้าไปใกล้ก่อนจะชะโงกหน้าไปดู สิ่งที่เห็นคือใบหน้าสวยหวานนวลกระจ่างของสาวน้อยคนหนึ่ง ดวงตานั้นกลมโตหางเฉียงน้อย ๆ ดูไร้เดียงสาราวกับเด็กน้อย จมูกเล็กมีดั้งพอเหมาะและริมฝีปากเล็กบางสีลูกท้อ พูดได้โดยรวมว่าใบหน้านี้ช่างน่ารักน่าเอ็นดูแต่ก็แฝงไปด้วยความงดงามไร้ใครเทียมทาน

เดี๋ยวนะ...นางยังไม่เคยเห็นหน้าคนอื่นจะรู้ได้อย่างไรว่าไร้เทียมทาน?

เมื่อคิดได้ดังนั้นเฮ่อซินหมิงก็หัวเราะเอิ๊กอ๊ากดังลั่นอย่างชอบอกชอบใจอยู่คนเดียวในเรือน หากใครผ่านมาได้ยินเข้าคงคิดว่ามีคนบ้าอยู่ในเรือนซอมซ่อ ทั้งยังเป็นสตรีอีก ผู้คนคงจะประณามกันว่าเป็นสตรีวิปลาสแน่แท้

"ว้าว! นี่คือกระจกใช่ไหม? นี่คือหน้าของฉันเหรอ?" นางหยิบกระจกบานนั้นขึ้นมาส่องหน้าตัวเองใกล้ ๆ จนแทบจะเห็นไปถึงรูขุมขนที่เนียนละเอียด นางส่องไปพร้อมกับลูบคลำหน้าดู

"ไม่สิ หน้าของฉันไม่ได้เนียนขนาดนี้ แถมหน้าฉันก็ไม่เรียวขนาดนี้ด้วย อืม...จมูกนี้ก็มีดั้งสวยเชียว"

นางสะดุดขึ้นมาในใจ หน้านี้ไม่ใช่ของนางหรอกหรือ แล้วทำไมมาอยู่บนหน้าของนางได้กันเนี่ย หรือว่ามีใครแอบใส่หนังหน้าใหม่ให้ฉัน!? ยิ่งคิดก็ยิ่งงงงวยกันเข้าไปใหญ่

ในโรงครัว

จินอู๋เป็นแม่ครัวอยู่ในจวนเสนาบดีมามากกว่ายี่สิบปี นางมีบุตรอยู่สองคน คนเป็นพี่สาวชื่อจินหมิงซึ่งมีวัยใกล้เคียงกับคุณหนูฉีอันหนิงนางจึงให้บุตรสาวของตนไปติดตามรับใช้และเป็นเพื่อนเล่นให้กับคุณหนู สองคนนั้นก็รักและดูแลกันเป็นอย่างดี

ทุก ๆ วันจินหมิงจะเข้ามานำอาหารน้อยนิดที่เหลือก้นหม้อซึ่งไม่มีใครกินแล้วมานำไปให้คุณหนูที่เรือน คนอื่นที่อยู่ในโรงครัวต่างก็ไม่มีใครสนใจนางเท่าใดนักจึงไม่มีใครต่อว่าหรือห้ามปรามใด ๆ ซึ่งเป็นการดียิ่งนัก

จินอู๋กำลังตระเตรียมขนมใส่สำรับที่ให้บ่าวรับใช้จากเรือนต่าง ๆ นำไปส่งให้กับคุณหนู นางนั้นเมื่อมองขนมคราใดก็จะนึกถึงคุณหนูฉีอันหนิงทุกครั้ง

ถ้าคุณหนูได้กินขนมพวกนี้บ้างจะดีแค่ไหนกันหนอ

ขณะที่จินอู๋จมอยู่กับความคิด ก็มีเสียงฝีเท้าวิ่งมาอย่างร้อนรนจนสะเทือนไปทั่วทั้งโรงครัว

"ใครมาวิ่งเสียงดังแบบนี้! เดี๋ยวก็เฆี่ยนเสียเลย" เสียงแม่ครัวใหญ่ตะคอกออกมาจากด้านในครัว จนทุกคนตัวสั่นกันหมด รีบหันไปมองหาเจ้าคนเสียงดังทันที

พลันนั้นมีร่างหนึ่งวิ่งหิ้วชายกระโปรงมาหยุดหอบหายใจอยู่หน้าประตูมีหลายคนวิ่งเข้าไปถามไถ่ด้วยความสงสัยทันที

"เกิดอะไรขึ้น ฟ้าจะถล่มหรืออย่างไร?" เสียงหญิงวัยกลางคนเอ่ยอย่างตื่นตระหนก

สาวน้อยผู้นั้นละล่ำละลักเอ่ยด้วยใบหน้าซีดขาว "ไม่…ไม่ใช่…คุณหนู! คุณหนู!..."

"คุณหนูอะไร? ทำไม? รีบเล่ามาเร็วเข้า!!" ทุกคนใจเต้นรัวหันมามองสาวน้อยกันเป็นตาเดียว

"คุณหนูสิบเอ็ด...คุณหนูสิบเอ็ดเสียสติไปแล้ว!!" ใบหน้านั้นเมื่อเอ่ยดูหวาดหวั่นและตื่นตระหนกยิ่ง คนที่เหลือเหงื่อตกไปตาม ๆ กัน สาวรับใช้ที่กำลังจะนำสำรับขนมไปให้เจ้านายตนก็แตกตื่นรีบวิ่งไปคนละทิศคนละทาง

"คุณหนูสิบเอ็ดเสียสติหรือ? เป็นไปได้อย่างไรกัน!!" ทุกคนถกเถียงกันจนใบหน้าแดงก่ำ ไม่มีใครหันมาสนใจสาวน้อยอีก นางจึงนึกขึ้นมาได้ว่าไม่ใช่การเลยที่จะนำความมาป่าวประกาศเช่นนี้จึงหลีกเร้นกลุ่มแม่ครัวที่พูดคุยถกกันแล้วค่อย ๆ ก้าวเท้ารวดเร็วไปหลังครัว

"ท่านแม่ ๆ !! แย่แล้ว" จินหมิงพยายามกดเสียงให้เบาที่สุด

จินอู๋ที่ล้างมือเสร็จก็หันกลับมาด้วยใบหน้าฉงน "มีอะไร?" สาวน้อยก้าวเข้าไปใกล้แล้วเอ่ยเสียงร้อนรน "ท่านแม่ คุณหนูฉีอันหนิงเสียสติไปแล้ว ท่านรีบไปดูเร็วเข้า!!"

ใจจินอู๋กระตุกวาบ "เสียสติ? คุณหนูจะเสียสติไปได้อย่างไร! เจ้าเสียสติไปเองหรือเปล่า"

"โธ่!…ท่านแม่ก็ไปดูด้วยตาตนเองเถิด ไปเร็ว!" เอ่ยจบนางก็ลากมารดาตนแล้วออกวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต

"โอ๊ย! ลูกบ้า ปล่อยแม่นะ!!"

......…

วิ่งมาได้สักพักคนเป็นแม่ก็สะบัดมือลูกออกสุดแรงทำให้คนที่ลากอยู่เบื้องหน้าถลาล้มลงกับพื้น ทั้งสองต่างคนต่างยังไม่ทันหันมาตะคอกเสียงใส่กันสายตาก็เห็นกลุ่มคนที่ก้าวเท้ารวดเร็วใบหน้าตื่นตระหนกมุ่งตรงมาที่พวกนางขวางทางอยู่ คนทั้งกลุ่มนั้นเป็นสตรีกันทั้งหมดทั้งวัยแรกรุ่นไปจนถึงวัยกลางคนรวมไม่ต่ำกว่ายี่สิบชีวิต ในกลุ่มนั้นแบ่งออกเป็นสองระดับอย่างชัดเจนจากอาภรณ์ที่สวมใส่ มีอาภรณ์สีสันฉูดฉาดหลากสีราวกับดอกไม้นานาพรรณและอาภรณ์บ่าวรับใช้

"หลีกไป!" ผู้ที่กึ่งวิ่งกึ่งเดินอยู่หน้าสุดแผดเสียงใส่อย่างหัวเสีย ตอนนี้ยังไม่มีเวลาไปจัดการใครทั้งนั้น

ทั้งสองรีบถอยหลบไปด้านข้างอย่างว่องไว ก่อนจะก้าวเดินตามหลังกลุ่มคนพวกนั้น สาวน้อยรีบเร่งฝีเท้าเข้าไปหาบ่าวคนหนึ่งที่ยืนอยู่ด้านหลัง

"ฮูหยินทั้งสี่และคุณหนูทั้งหมดจะไปไหนกันหรือ?"

บ่าวรับใช้อายุมากกว่าสองสามปีหันมาเอ่ยด้วยใบหน้าร้อนรนไม่แพ้กัน "ไปเรือนคุณหนูสิบเอ็ดน่ะสิ ได้ยินข่าวมาว่าคุณหนูสิบเอ็ดเสียสติ ฮูหยินและคุณหนูทุกท่านจึงร้อนใจนัก"

อาหมิงชะงักชะงัน ข่าวไปเร็วปานนั้นเชียว? แล้วเหล่าฮูหยินยังคงนึกถึงคุณหนูของนางอยู่หรือนี่ คิดไม่ถึงเลยจริง ๆ

สองแม่ลูกได้ยินดังนั้นจึงรีบเร่งฝีเท้าตามกลุ่มนั้นต่อไป กระทั่งมาถึงทางแยกทั้งสองทางสองแม่ลูกก็ต้องงงงวยกันอย่างยิ่งเมื่อคนทั้งกลุ่มเบื้องหน้าเลี้ยวกันไปทางซ้ายเสียหมด

"ท่านแม่! เหตุใด?…" นางงุนงงจนพูดไม่ออก ผู้เป็นแม่ก็ชะงักไป แต่ก็มีบางอย่างแวบเข้ามาในหัวราวกับฟ้าผ่า

"แย่แล้วเจ้าลูกคนนี้!!!" นางหันไปตีใส่หลังของบุตรสาวอย่างแรงจนนางร้องด้วยความเจ็บ ยังไม่ทันได้เอ่ยปากผู้เป็นแม่ก็เอ่ยขัดขึ้นเสียก่อน

"ไม่ต้องถามรีบตามไปเร็ว ถ้าเจ้าไม่อยากโดนกุดหัว" ครานี้ผู้เป็นแม่ลากบุตรสาวตนวิ่งตามกลุ่มคนข้างหน้าไปด้วยความร้อนใจยิ่ง

"ท่านแม่!! ปล่อยข้านะ!!!"

.............

Have some idea about my story? Comment it and let me know.

Creation is hard, cheer me up!

SaonoiTrakunHancreators' thoughts