webnovel

เกิดใหม่มาเป็นเหยื่อของท่านประธานจอมรัท

คำโปรย ได้เกิดใหม่เป็นหนุ่มหน้าใส วัยยี่สิบทายาทไฮโซทั้งที แต่ไหงต้องมาอยู่ในกำมือของประธานหนุ่มศัตรูคู่อาฆาตด้วย ยัง..เรื่องซวยยังไม่จบ เพราะหนุ่มสุดแซบที่ว่าดันเกิดอาการรัท มีแต่ฮีทของเขาเท่านั้นจะบำบัดได้ เรื่องย่อ คำมร ไฮโซหนุ่มหน้าสวยแต่พฤติกรรมเหลวแหลก เขาคือศัตรูเบอร์หนึ่งของเดวิสประธานหนุ่มรูปหล่อของลาโฮมกรุป คำมรคือคนที่ทำให้ชีวิตของท่านประธานพังจนสิ้นไร้ความสุข เพราะหลายปีก่อนคำมรขับรถโดยประมาท จนทำให้พ่อของเดวิสเสียชีวิต การินคือชายวัยกลางคนผู้มีบาดแผลในใจ จากการสูญเสียลูกและเมียเพราะอุบัติเหตุ เขาทำงานที่ลาโฮมกรุปไปวัน ๆ อย่างไร้เป้าหมาย มีแต่เหล้าเป็นเพื่อน วันหนึ่งมีเหตุอะไรสักอย่างทำให้การินตกตกน้ำเสียชีวิต ปาฏิหาริย์มีจริง การินได้รับโอกาสของชีวิตที่สอง แต่มีคนตั้งเยอะแยะ ดันมาเกิดใหม่ในร่างของคำมรที่นอนเป็นโคม่าเพราะเสพยาเกินขนาด ซึ่งก่อนหน้านี้ เดวิดลักพาตัวคำมรที่นอนหลับใหล มาเก็บไว้ในที่ซ่อนเพราะจะรอให้ฟื้นแล้วแก้แค้น เรื่องยุ่งเริ่มเกิด การินในร่างคำมรอยู่ ๆ ก็ฟื้นขึ้นมาท่ามกลางความฉงนของคนรอบตัว แต่ที่วายป่วงยิ่งกว่าคือเดวิสดันรู้สึกแปลก ๆ ที่ดูยังไงก็เหมือนอาการรัท มันเกิดขึ้นทันทีที่ฟีโรโมนจากตัวของคำมรสัมผัสตัวของเดวิส แล้วมันเป็นแบบนี้ได้ยังไง เอาเป็นว่า ตอนนี้เดวิสหักห้ามตัวเองไม่ไหวแล้ว กลิ่นของคำมรช่างยั่วยวนจนยั้งใจไม่อยู่ และเขาจะต้องทำอะไรบางอย่าง แค่แก้แค้นอย่างเดียวคงไม่พอ... คำแนะนำในการอ่าน 1. ตัวละคร พฤติกรรม สถานที่ หน่วยงาน วิชาชีพ และเหตุการณ์ต่าง ๆ ในนิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องสมมุติที่สร้างขึ้นมาเพื่อความบันเทิงทั้งสิ้น 2. บางตัวละครในนิยายอาจแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน 3. ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ใดๆ ในเรื่องนี้ไม่ถูกต้อง 4. นิยายเรื่องนี้ยืมบางคอนเซปต์ในธีม Omegaverse มาใช้ คือ การรัท การฮีท การกัดคอเพื่อผูกพันธะ แต่ไม่ใช่นิยายธีม Omegaverse เต็ม ๆ 5. พฤติกรรมมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้เครื่องป้องกันของตัวละครในเรื่อง ไม่ใช่สิ่งที่ควรทำตาม

telltopia · LGBT+
Zu wenig Bewertungen
17 Chs

16 ท่านประธานเปลี่ยนไป

โชคยังดีที่การถูกต่อต่อยไม่ได้ทำให้การินเป็นอะไรมากนัก เขาแค่ปวดตุบ ๆ ตรงแผล แต่ก็กินยาแก้ปวดเผื่อไว้แล้ว โชคดีที่ร่างกายนี้ไม่แพ้พิษตัวต่อ

พอกินยาแล้วก็อาบน้ำ ต่อมาก็ล้มตัวนอนพักบนเตียง ในอีกชั่วโมงต่อมาขณะกำลังจะเคลิ้มหลับ ก็มีแขกไม่ได้รับเชิญแวะมาที่ห้อง

"คุณคำมร ผมเข้าไปได้ไหม"

เสียงพลผู้ช่วยประจำตัวของเดวิสนั่นเอง

หนุ่มหน้าสวยเลยบอกว่า "เข้ามาได้ครับ"

"คุณเดวิสแวะให้ผมมาดูคุณ เอ้อ ว่าแต่คุณลงไปนอนแต่หัววันเป็นอะไรหรือเปล่าครับ"

"แวะมาดูผม? ผมไม่ได้เป็นไร เวียนหัวนิดหน่อย เลยนอนพัก"

"อ้อครับ แล้วคุณกินยาหรือยัง"

"กินยาแก้ไข้แล้วครับ"

"ถ้าไม่เป็นไรก็ดีแล้วครับ เดี๋ยวผมจะได้กลับไปเรียนคุณท่าน" ผู้ช่วยส่วนตัวพูดจบแล้วก็ทำท่าหันหลังกลับ

การินนึกอะไรได้ เขาคิดว่าคนตรงหน้าน่าจะช่วยเขาได้ "เอ้อ คุณพล เป็นไปได้ไหมถ้าผมอยากได้สมาร์ตโฟนสักเครื่องน่ะ"

พลชายสูงวัยทำหน้าสงสัย

"แค่โทรศัพท์ ไม่ต้องเอาซิมก็ได้ ผมจะมาต่อไวไฟบนแท่น เพราะมีบางเรื่องที่ผมอยากค้นข้อมูลในอินเทอร์เน็ต ผมไม่ได้จะติดต่อหา..เอ้อ คนที่บ้าน"

ผู้ช่วยพลกระแอมหนึ่งครั้ง "ผมเกรงว่าจะไม่ได้ เพราะคุณเดวิสเคยกำชับไว้"

"อ้าวงั้นเหรอครับ"

"แต่ยังไงผมจะเรียนคุณเดวิสให้นะครับ เผื่อท่านจะอนุญาต" พอพูดจบเขาก็เดินออกจากห้องไป

+++++

ตอนหนึ่งทุ่ม การินเพิ่งกินอาหารเย็นที่แม่บ้านยกมาให้เสร็จ เขารู้สึกปวดนิด ๆ ตรงแผลถูกต่อย กำลังคิดว่าจะกินยาแก้ปวดอีกดีไหม

สุดท้ายเขาก็คว้าไทลินอลมากลืนลงไปแล้วตามด้วยน้ำ ตอนแรกว่าจะเอนหลังอ่านหนังสือสักหน่อย แต่ก็ยังไม่ได้ทำอย่างที่คิด เพราะถูกรบกวนด้วยเสียงคนเคาะประตูห้อง แต่ไม่มีเสียงคนพูด

ใครแวะมาอีกล่ะ ผู้ช่วยพลอีกงั้นหรือ

การินส่งเสียงออกไป "นั่นใครครับ"

ยังเงียบ ไม่มีเสียงตอบ แต่ผ่านไปประมาณครึ่งนาที สุดท้ายก็มีเสียงต่ำ ๆ ดังมาจากประตู การินจำได้ทันที

"ผมเอง"

นั่นเสียงของเดวิสนี่นา

"คุณเดวิสงั้นเหรอ"

"ใช่... เอ่อ ขอผมเข้าไปนะ"

"อ๊ะ ชะ...เชิญครับ"

ชายหนุ่มตัวสูงใส่เชิ้ตขาวพับแขนดูหล่อเหลา ผมเผ้าจัดแต่งอย่างเรียบร้อย เขาแต่งตัวเหมือนไปทำงาน อาจมีประชุมที่แท่นแห่งนี้หรือมีประชุมออนไลน์กับที่กรุงเทพฯ

เดวิสเดินเข้ามาที่เตียงแล้วทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้ข้างเตียงอย่างไม่มีพิธีรีตอง

"ผมแวะมาดูว่าเป็นอะไรหรือเปล่า พลบอกว่ามาดูตอนเย็นแล้วเห็นนอนอยู่ บอกว่าเวียนหัว"

การินรู้สึกแปลก ๆ กับวิธีการพูดของอีกฝ่าย ที่เขาละสรรพนามที่ใช้เรียกคำมรในประโยค แต่อย่างน้อยนี่ก็คือความเปลี่ยนแปลงที่ดีกว่าแต่ก่อนที่เขาใช้คำว่า แก กู มึง

วันนี้เดวิสมาแปลก

และที่แปลกยิ่งกว่าคือเขาทำท่าขัดเขินไม่มั่นใจตอนพูดกับคำมรด้วย "เอ้อ แล้วที่เวียนหัว เป็นเพราะ..เมื่อคืน...หรือเปล่า"

ฮะ? นี่เขาอุตส่าห์แวะมาเพื่อมาถามเรื่องนี้หรือนี่

"อ้อ เมื่อคืน ผมไม่ได้เป็นอะไรมาก แต่ที่นอนเพราะตอนบ่ายไปเดินเล่น สงสัยจะเพลียแดดเลยเวียนหัว"

"ไม่เป็นอะไรจริง ๆ ใช่ไหม" น้ำเสียงของเดวิสยามพูดแบบปกตินั้นนุ่มนวลน่าฟังทีเดียว

พอได้ยินอีกฝ่ายพูดด้วยท่าทีแบบนั้นเลยทำให้การินตัดสินใจพูดความจริงออกไปบางส่วน

"จะบอกว่าไม่เป็นอะไรเลย...ก็คงไม่ได้" อย่างน้อยเขาก็เจ็บบั้นท้าย เนื้อตัวมีรอยแดงเต็มไปหมด แถมแขนขาก็มีจุดฟกช้ำเล็กน้อย

เดวิสเอียงคอ เขาทำหน้าสงสัยกับวิธีการใช้คำพูดแบบให้คนถามกลับไปคิดเองของอีกฝ่าย

ประธานหนุ่มเลยเอนตัวมาข้างหน้า ศอกข้างหนึ่งวางไว้บนเข่า อีกข้างถือวิสาสะใช้หลังมือทาบที่หน้าผากของอีกฝ่าย

"ตัวร้อนนิด ๆ เหมือนกันนะ"

การินเกือบสะดุ้งจนผงะไปข้างหลัง "ผมกินยาแก้ไข้ไปแล้ว เดี๋ยวก็ดีขึ้น"

สุดท้ายเดวิสก็ตัดสินใจถามสิ่งที่อยากรู้ออกไป เขากัดริมฝีปากล่างก่อนพูด

"แล้วเจ็บ..เอ้อ เจ็บไหม"

การินกะพริบตาปริบ ๆ รู้สึกร้อนวูบที่หน้า "จะบอกว่าไม่เจ็บเลยก็คงไม่ได้"

เดวิสทำท่าแปลกใจที่ได้ยินคำตอบแบบนี้เป็นครั้งที่สองติด ๆ กัน

การินขยับตัวบนที่นอน การทำแบบนั้นทำให้เขานิ่วหน้าเล็กน้อย บั้นท้ายของเขาทำพิษต่อหน้าคนที่ทำให้เขาเจ็บตัว แต่นี่ไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนี้นะ

เดวิสทำเสียงกระตือรือร้น "เจ็บมากเลยเหรอ" เขาทำท่าราวกับจะยื่นมือไม้ยาว ๆ มาทำอะไรสักอย่างกับร่างกายของคนเจ็บ

อีกฝ่ายรีบยกมือห้าม "ไม่มากเท่าไรครับ ทนไหว"

เดวิสหุบปากฉับ แต่เขาก็รักษาฟอร์มด้วยการเปลี่ยนเรื่อง "เห็นพลบอกว่าอยากได้มือถือ จะเอาไปทำอะไร"

"เอ้อ ผมอยากหาข้อมูลเรื่องที่อยากรู้น่ะ"

"อย่างเช่น..." เดวิสชูนิ้วชี้ขึ้นมาทำท่าวน ๆ เป็นวงกลมตรงหน้า

"ก็หลายเรื่องที่ผมสงสัย อย่างเช่น คนฟื้นจากโคม่าจะมีอาการเป็นยังไงบ้าง อะไรแบบนี้"

"ไม่ได้จะบอกพ่อแม่พี่น้องว่าตัวเองอยู่ไหนใช่รึเปล่า หรือจะให้คนมาช่วย หรือแจ้งความอะไรประมาณนั้น"

"ถ้าผมบอกว่าไม่ คุณก็คงไม่เชื่อ"

ดูเหมือนเดวิสจะเริ่มขำแกมรำคาญกับการตอบแบบให้คนถามไปคิดเองของคนตรงหน้า แต่ค่ำนี้เขาดูใจเย็นและใจดีอย่างประหลาดกับคำมร หากจะเทียบกับพฤติกรรมในวันเก่า ๆ ที่เคยแสดงออก

เขาก้มหน้าลงนิดหน่อย ราวกับจะซ่อนรอยยิ้ม เสียงหายใจของเขาเป่าออกจมูกดังฟู่เบา ๆ

"จะให้เชื่อใจศัตรูหมายเลขหนึ่งก็คงไม่ดี เอาเป็นว่าคำขอนี้ให้ไม่ได้ แต่ถ้าอยากรู้อะไร ให้บอกมา เดี๋ยวจะไปหาคำตอบให้"

"ให้บอกใครครับ"

"ก็บอกคนที่นี่ เดี๋ยวจะจัดคนมาดูแลให้โดยเฉพาะ"

"ถ้าคุณเดวิสอยากให้เป็นอย่างนั้น ผมก็คงขัดอะไรไม่ได้"

แววตาของเดวิสมองอีกฝ่ายอย่างคาดไม่ถึง ว่าคำมรจะมีวิธีพูดที่ทำให้คนฟังรู้สึกผิดไปเอง

แล้วเดวิสก็หลุบตาลง ศอกสองข้างวางบนเข่า นิ้วมือยาว ๆ ของสองมือเขี่ยกันเล่น ราวกับเขามีเรื่องอยากชวนคุยต่อ เขายังไม่อยากรีบออกจากห้องนี้

"ว่าแต่..."

"ครับ"

"ทำไมถึงรู้เรื่องกันดั้ม"

การินตัดสินใจแล้วว่าการพยายามบอกว่าตัวเองกลับมาเกิดในร่างนี้ในตอนนี้คงไม่ใช่จังหวะที่เหมาะ

"ไม่รู้หรอกครับ อยู่ ๆ มันก็แวบมาเองในหัวเลยพูดออกไป"

เดวิสเป่าลมออกจมูก สีหน้าของเขาคล้ายจะบอกว่ากะไว้แล้ว

"สรุปก็คือพูดอะไรออกมาเรื่อยเปื่อยแล้วบังเอิญถูกสินะ"

พูดจบประธานหนุ่มก็ถอนหายใจ แต่สีหน้าไม่ได้ผิดหวังอะไรนัก เขาคงคิดในใจว่า 'ไม่ผิดจากที่คิดไว้เลย'

"ว่าแต่ที่คุณเดวิสมาหา คือจะถามผมแค่นี้เหรอครับ"

"อือ ใช่ ว่าแต่ตกลงไม่เจ็บจริง ๆ ใช่ไหม"

"ไม่ครับ ไม่เป็นไรมากแล้วตอนนี้"

"เอ้อ ถ้างั้น...คือ...ขอดูหน่อยได้ไหม

การินอ้าปากค้าง วันนี้มีแต่คนถามเขาด้วยคำถามที่คาดไม่ถึงเลยจริง ๆ นี่เป็นครั้งที่สองแล้ว

"ฮะ? ดูเพื่ออะไรครับ"

"ก็ดูว่าระบมมากไหมแค่นั้นเอง"

"นี่คุณล้อผมเล่นหรือเปล่า"

"เปล่า"

เดวิสเอียงคอ แววตาของเขาสงสัยว่าอีกฝ่ายมีความลับใดที่ให้ดูไม่ได้

"แผลที่หลังคอเป็นยังไงบ้าง ระบมไหม เจ็บไหม"

"อ๋อ" การินทำสีหน้าคล้ายโล่งใจ เขาเอามือลูบที่แผลอย่างลืมตัวก่อนจะตอบว่า "ไม่เป็นไรแล้วครับ พยาบาลช่วยทำแผลกับติดปลาสเตอร์กันน้ำให้ด้วย"

ท่าทีกับคำตอบของอีกฝ่ายทำให้ประธานหนุ่มก้มหน้าแล้วหลุดขำเบา ๆ ออกมาอย่างไม่ปิดบัง เขาทำเสียงฮุก ๆ ในคออย่างคนกลั้นหัวเราะ นิ้วมือกำเข้าหากันเป็นรูปถ้วยปิดไว้ที่ริมฝีปาก จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นแล้วค่อยโน้มตัวเข้ามาหา

"มีตรงอื่นที่ระบมนอกจากแผลตรงหลังคอด้วยเหรอ"

การินไม่แน่ใจว่าการที่คำมรผิวขาวน่ะ จะให้อีกฝ่ายรู้หรือเปล่าว่าเขาหน้าแดงอยู่ แล้วเขาหน้าแดงจริงหรือเปล่าล่ะ การินเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน

"แต่ถ้าอยากให้ผมดูจุดอื่นที่ระบมด้วยก็ได้ ผมไม่ติดนะ"

"คุณเดวิส!"

ตอนนี้แววตาของประธานหนุ่มเป็นประกาย จะเรียกว่าอะไรดี การินคิดว่ามันดูแพรวพราย ราวกับเขาอยู่ในห้วงอารมณ์ที่รื่นรมย์อะไรสักอย่าง

"ถ้าแผลไม่เป็นไรก็ดีแล้วล่ะ งั้นถามได้ไหมว่า..."

"ครับ"

"ใส่น้ำหอมอะไรมา"

"หือ เปล่าใส่นะ"

"แล้วทำไมตัวหอม แบบว่าหอมมาก กลิ่นแบบว่าน่า...เอ่อ น่าอยู่ใกล้ ๆ"

"ผมก็แค่ใช้สบู่กับแชมพูกลิ่นซิกเนเจอร์ของลาโฮมที่แม่บ้านเอามาวางไว้ในห้องน้ำไง"

ท่านประธานส่ายหัวดิก "ไม่ใช่กลิ่นของลาโฮม กลิ่นแบบอื่น"

คราวนี้เขาไม่พูดเปล่า แต่ขยับเก้าอี้เข้ามา แล้วเขาก็จับไหล่ของคนตัวเล็กกว่าเข้าไปชิด

จากนั้นใบหน้าของคนตัวใหญ่กว่าก็สอดเข้ามาระหว่างหัวไหล่กับลำคอของอีกฝ่าย การินถึงกับนั่งตัวเกร็งเลยทีเดียว

"เนี่ย กลิ่นมาจากตรงนี้" เดวิสใช้จมูกสูดฟุดฟิดที่ซอกคอ "แล้วก็ตรงนี้ด้วย" นิ้วยาว ๆ ของเขาสัมผัสผ่าน ๆ ตรงเสื้อผ้าแถวหน้าอก

หัวใจของการินเต้นแรง ทำไมถึงรู้สึกประหลาดตอนอยู่ใกล้อีกฝ่าย นี่เขาคือตาลุงวัยห้าสิบห้า จะเกษียณอยู่รอมร่อ ไม่อยากเชื่อว่าเนื้อตัวของคนรูปหล่อตรงหน้าจะกระตุ้นความรู้สึกให้กระเจิดกระเจิงได้ขนาดนี้ ราวกับเขาอยู่ในวัยที่ยังมีฮอร์โมนเพศแล่นพล่าน

อีกอย่างคนตรงหน้าก็เป็นผู้ชายแท้ ๆ ด้วยเนี่ยนะ

ตอนนี้การินสับสนเต็มที่แล้ว เขาเป็นอะไรกันแน่ อยากได้เดวิสอย่างนั้นหรือ หนูเดวี่คนที่เขาเคยทำพายุหมุนจำลองให้ดู กับสอนให้ประกอบเครื่องบินเมื่อยี่สิบปีที่แล้วน่ะนะ

มือของการินเลยผลักอีกฝ่ายเบา ๆ ที่หน้าอก เป็นการทำไปโดยไม่รู้ตัว แต่เดวิสกลับคว้าที่หัวไหล่ผอมบางของอีกฝ่ายไว้อีกครั้ง นิ้วมือทั้งสองข้างยึดไว้แน่น

ทั้งคู่สบตากัน จริง ๆ เวลาผ่านไปแค่ไม่กี่วินาที แต่กลับให้ความรู้สึกยาวนานกว่านั้น

บรรยากาศรอบข้างราวกับอบอวลไปด้วยบางสิ่งที่หนาหนักและเข้มข้น รอบตัวมีแต่ความเงียบราวกับความสงบก่อนเกิดพายุใหญ่

แต่แล้วการินกลับเป็นฝ่ายเริ่ม เขายื่นหน้าไปจูบปากคนตรงหน้า