webnovel

ตอนที่ 239

ตอนที่ 239 ผู้หญิงคนสนิท

"แน่นอนอยู่แล้วว่าไม่ได้ง่ายขนาดนี้ เพียงแต่พอพบจุดที่น่าสงสัยที่หนึ่ง ไม่นานก็เจอจุดที่น่าสงสัยที่สอง ที่สาม กระทั่งเจอมากขึ้น กระทั่งท้ายที่สุดก็พบกับความจริง"

เสิ่นอี้พูดต่อว่า "มันเป็นเพียงข้อสงสัยที่ไม่สามารถพูดออกมาได้ แต่พอคุณโพสต์อีกครั้ง ก็เลยรู้ว่าคุณทำเกินความจำเป็นอย่างเห็นได้ชัด โพสต์นี้แค่ดูก็รู้ว่าฆาตกรตัวจริงเป็นคนโพสต์ ไม่อย่างงั้นทำไมถึงได้รู้รายละเอียดของคดีได้อย่างชัดเจน เป็นการบอกว่าต้องเคยดูแฟ้มคดีเมื่อสิบปีก่อน แต่เร็วๆ นี้พอเกิดคดีนี้ขึ้น ขนาดเจ้าหน้าที่ในกรมตำรวจยังไม่เข้าใจรายละเอียดของคดีขนาดนี้เลย งั้นคนที่โพสต์รู้ได้ยังไงกัน นอกจากว่าเขาเป็นฆาตกรเสียเอง!"

"ถ้าคนที่โพสต์ก็คือฆาตกร เช่นนั้นก็ยิ่งยืนยันได้ว่าเขากับฆาตกรต่อเนื่องเมื่อปีนั้นมีความเกี่ยวโยงกัน เพราะโพสต์นี้เป็นการเรียกร้องความยุติธรรมให้อู๋เหวินคัง ฆาตกรตัวจริงจะเรียกร้องความยุติธรรมให้อู๋เหวินคังงั้นเหรอ ถ้าเขารู้สึกผิดจริงๆ รู้สึกว่าอู๋เหวินคังถูกตำรวจฆ่าตายอย่างไร้ความยุติธรรม งั้นทำไมเขาถึงไม่ออกมายอมรับผิดตั้งแต่ทีแรก กลับใช้วิธีที่ยุ่งยากขนาดนี้เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้อู๋เหวินคัง"

เซียะยุ่นผิงฉีกยิ้ม ยิ้มอย่างจนปัญญา และรู้สึกเจ็บปวดมาก "ผมใจร้อนเกินไป! ผมกลัวว่าคดีมันผ่านไปนานขนาดนี้แล้วอาจจะมีคนหลงลืมไปแล้ว ดังนั้นถึงได้ร้อนอกร้อนใจขนาดนี้ ผมรอคอยมานานขนาดนี้...สุดท้ายเมื่อไม่กี่วันก่อน ผมก็ทนไม่ไหว...กลับเผยจุดบกพร่องของตนเองออกมา"

"จุดบกพร่องที่ใหญ่ที่สุดของคุณ ไม่ได้อยู่ตรงนี้!" เสิ่นอี้ค่อยๆ พูดอย่างช้าๆ "จุดบกพร่องที่ใหญ่ที่สุด คือเครื่องหมายที่ทิ้งเอาไว้บนร่างกายของศพ" 

เซียะยุ่นผิงตกตะลึง "เครื่องหมาย" 

เสิ่นอี้พูดอธิบาย "ฆาตกรต่อเนื่องส่วนใหญ่ จุดประสงค์ในการเลือกของพวกเขาล้วนมีบางอย่างที่เหมือนกัน ดังนั้นหลังจากที่ลงมือฆ่าคนแล้ว พวกเขาจะชอบทิ้งเครื่องหมายที่บ่งบอกถึงตัวเองเอาไว้ บางทีอาจตั้งใจทิ้งเบาะแสให้ตำรวจ อยากเล่นซ่อนหากับตำรวจ หรือบางทีอยากบอกกับคนอื่น ถึงสาเหตุที่เลือกกระทำกับเหยื่อพวกนี้ เครื่องหมายเหล่านี้ น้อยครั้งที่เครื่องหมายจะไม่มีความหมาย ตรงกันข้าม พวกมันทั้งหมดล้วนมีความหมายเฉพาะ"

เซียะยุ่นผิงพูดเสียงเบาว่า "ผมไม่ได้ทิ้งเครื่องหมายอะไรเอาไว้" 

"แน่นอนว่าคุณไม่ได้ทิ้งเอาไว้ เพราะคุณไม่รู้ตั้งแต่แรกว่าฆาตกรได้ทิ้งเครื่องหมายเอาไว้! ถ้าเป็นฆาตกรคนเดียวกัน เป้าหมายของฆาตกรคือการเลือกคนประเภทเดียวกัน เขาถึงได้ทิ้งเครื่องหมายที่ร่างของคนที่ถูกฆ่า แน่นอนว่าเหมือนกัน ถ้าไม่มี งั้นก็มีความเป็นไปได้มากว่าฆาตกรไม่ใช่คนเดียวกัน"

เสิ่นอี้ชะงักงัน แล้วพูดอีกครั้งว่า "ผมบอกคุณได้เลยว่าเครื่องหมายนี้มีความพิเศษมาก"

เซียะยุ่นผิงเงยหน้ามองเสิ่นอี้ 

เสิ่นอี้พูดว่า "ก็เป็นเพราะเครื่องหมายนี้ ถึงทำให้พวกเรารู้ว่าอู๋เหวินคังไม่ใช่ฆาตกรตัวจริง!" 

ร่างกายของเซียะยุ่นผิงสั่นไหวอย่างรุนแรง "อะไร! คุณจะพูดอะไร"

เสิ่นอี้ค่อยๆ พูดอย่างช้าๆ ว่า "ฆาตกรทิ้งเครื่องหมายเอาว่าไว้ที่เหยื่อ กลับเป็นหลักฐานที่แน่ชัด ที่เป็นตัวพิสูจน์ว่าอู๋เหวินคังไม่ใช่ฆาตกร!"

"หลักฐานที่แน่ชัด!" เซียะยุ่นผิงใกล้จะคลั่งเต็มที "พวกคุณ...พวกคุณหาหลักฐานจริงๆ เจอ! พวกคุณเจอหลักฐานจริงๆ ที่พิสูจน์ได้ว่าอู๋เหวินคังเป็นผู้บริสุทธิ์!"

"ใช่ครับ!" เสิ่นอี้พยักหน้า "เป็นความจริงที่พวกเราหาหลักฐานเจอแล้ว ถึงแม้ว่าจะมีแค่เครื่องหมายบนตัวเหยื่อ แต่ก็เพียงพอที่จะยื่นเรื่องสอบสวนคดีของอู๋เหวินคังใหม่ได้!"

เซียะยุ่นผิงตื่นเต้นจนพูดไม่ออก "ดีมาก...ในที่สุดก็หาหลักฐานเจอแล้ว! ในที่สุดก็หาหลักฐานเจอแล้ว! ในที่สุดก็หาหลักฐานจริงๆ ที่สามารถสืบคดีใหม่ได้แล้ว!" 

ถ้าไม่ได้ถูกใส่กุญแจมืออยู่บนเก้าอี้ เขาที่ตื่นเต้นขนาดนี้ คาดว่าคงจะได้กระโดดโลดเต้นขึ้นมา "ศาสตราจารย์เสิ่น ขอบคุณคุณ! คุณ ไม่ว่ายังไง พวกคุณต้องสืบคดีนี้ให้กระจ่างนะครับ! อู๋เหวินคัง เขาเป็นผู้บริสุทธิ์ เขาไม่ได้ทำความผิด แค่พวกคุณช่วยพลิกคดีของอู๋เหวินคัง อยากให้ผมทำอะไร ผมจะทำให้ทั้งหมดเลย!"

"ง่ายมากๆ! พวกเราอยากให้คุณเป็นพยาน!" เสิ่นอี้มองเซียะยุ่นผิง แล้วพูดออกมาทีละคำ "ผมหวังว่าคุณจะสามารถเป็นพยานในการดำเนินคดีให้พวกเราได้!"

แน่นอนอยู่แล้วว่าเซียะยุ่นผิงรู้ว่าเสิ่นอี้หมายความว่าอะไร จึงรีบพยักหน้าตอบรับทันที "ได้! ผมตกลง!" 

เสิ่นอี้และเย่หนิงถอนหายใจเบาๆ 

มีเซียะยุ่นผิงเป็นพยานบุคคล พวกเขาอยากยื่นฟ้องเทียนเหิงกรุ๊ป ยื่นฟ้องฉินเฉาฮุ้ยก็มีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น อย่างน้อยที่สุดนี่เป็นผู้รู้เห็น ถึงแม้ว่าจะรู้ไม่มาก แต่ตัวตนที่พิเศษเช่นนี้ของเซียะยุ่นผิง มีเขาเป็นพยานบุคคล องค์ประกอบก็ต่างกันโดยสิ้นเชิงแล้ว

พอออกมาจากห้องเรือนจำ เย่หนิงอดพูดขึ้นมาไม่ได้ว่า "การเกลี้ยกล่อมเซี่ยะยุ่นผิง ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆ"

เสิ่นอี้ฉีกยิ้ม พูดว่า "เป็นเรื่องง่ายอยู่ เขามีช่วงที่อ่อนแอมากที่สุด เพียงแค่ต้องกุมมือตอนที่เขาอ่อนแอ จึงจะง่ายต่อการเกลี้ยกล่อมให้เขายินยอมเป็นพยานให้พวกเรา! เพียงแต่น่าเสียดาย เรื่องที่เขารู้ไม่มากนัก" 

เย่หนิงเอ่ยเสียงเบา "ต้องเป็นตัวแปรสำคัญที่อยู่ภายในจึงจะรู้สิ่งสำคัญ เซียะยุ่นผิงเป็นตัวหมากที่ถูกใช้งาน รู้มากขนาดนี้ก็เกินความคาดหมายแล้ว"

"ใช่ครับ!" รอยยิ้มของเสิ่นอี้แฝงความหมายลึกซึ้ง "เพราะเขาเป็นคนที่ฉลาดมาก ไม่อย่างงั้นเดิมทีเขาคงไม่มีโอกาสได้เข้าไปสัมผัสบุคคลที่สำคัญมากมายขนาดนี้หรอก แล้วก็ไม่มีทางรู้เนื้อหาของการทดลองเลยด้วย เพียงแต่ว่ามีบางครั้ง ฉลาดมาก แต่ฉลาดแบบผิดๆ" 

"หืม" เย่หนิงไม่เข้าใจ "หมายความว่ายังไงคะ" 

เสิ่นอี้พูดว่า "คนแบบเซียะยุ่นผิง ทำไมถึงได้เต็มใจเป็นแค่หมากตัวหนึ่งที่ถูกใช้ด้วย ดังนั้นเขาถึงได้คิดหาทาง อยากเข้าร่วมเป็นแกนหลักของกลุ่ม เพียงแต่เรื่องนี้ยากกว่าที่เขาคิดเอาไว้มาก! คาดว่าก็คงเป็นเพราะแบบนี้ เซียะยุ่นผิงจึงรู้สึกระแวงสงสัย คิดว่าเทียนเหิงกรุ๊ปกำลังทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ และยังเป็นเรื่องที่บอกใครไม่ได้"

เมื่อเทียบกับเซียะยุ่นผิงแล้ว เย่หนิงกลับกังวลเรื่องของอีกคน "เสิ่นอี้ ซีซาน่าคนนั้นคือใคร"

เสิ่นอี้ส่ายหน้า "ไม่รู้ครับ ผมเองก็รู้สึกสงสัย ว่ากันตามเหตุผล คนคนนี้เป็นคนสำคัญ คงจะเป็นผู้ต้องสงสัยที่พวกเราคาดเดากันเอาไว้ก่อนหน้านี้ คนคนนั้นคิดอยากใช้อิทธิพลของเทียนเหิงกรุ๊ป ช่วยราชาผีดิบออกมา แต่ที่ผมคิดไม่ออก ข้างกายของราชาผีดิบมีผู้หญิงตั้งแต่เมื่อไหร่"

เย่หนิงครุ่นคิด แล้วก็พูดว่า "เซียะยุ่นผิงบอกว่าผู้หญิงคนนั้นอายุน้อย แต่ก็เก่งกาจมากๆ! เหมือนกับว่าเข้าใจทุกอย่าง ขนาดฉินเฉาฮุ้ยยังต้องเคารพเมื่ออยู่ต่อหน้าเธอ"

"ใช่! ดังนั้น ผมถึงได้รู้สึกแปลกมาก!"

เย่หนิงถามอีกครั้งว่า "เธอเป็นผีดิบใช่ไหม"

"ไม่รู้!" เสิ่นอี้ส่ายหน้า "ถ้าใช่ ทำไมผมถึงไม่รู้ล่ะ คนที่จงรักภักดีต่อราชาผีดิบมากที่สุด มีเพียงไม่กี่คน แต่ไม่ใช่พวกเขา!"

เย่หนิงแปลกใจ "ไม่ใช่เหรอ หรือว่าเธอไม่ใช่ผีดิบ ก่อนหน้านี้คุณคาดเดาผิดไปหรือเปล่า" 

"ผมเองก็หวังให้การตัดสินของผมผิด แต่ก่อนหน้านี้พวกเราก็มั่นใจว่าภายในเทียนเหิงกรุ๊ปต้องมีผีดิบแฝงอยู่อย่างแน่นอน และอีกอย่าง คนคนนั้นต้องมีตำแหน่งสูงอยู่ในเทียนเหิงกรุ๊ป มีบทบาทในการตัดสิน แต่...คนคนนี้...หรือว่า เธอจะใช้วิธีอะไร เปลี่ยนโฉมหน้างั้นเหรอ"

เย่หนิงหัวเราะ "ถ้าให้ฉันพูด ก่อนหน้านี้ผู้หญิงคนนี้ คงไม่ใช่คนสนิทของท่านอ่องหรอกนะ"