webnovel

ตอนที่ 238

ตอนที่ 238 จุดบกพร่องอยู่ที่ไหน

เซียะยุ่นผิงพูด "ในสถาบันวิจัย มีศาสตราจารย์ที่มีอำนาจและเก่งมาก ทั้งยังคิดไม่ถึงว่าจะเป็นผู้หญิงอายุน้อยที่สวยมากๆ เธอชื่อว่าซีซาน่า ผมจำเธอได้แม่นเลยล่ะ! ครั้งแรกที่เข้าไปที่สถาบันวิจัยก็รู้สึกว่าคนคนนั้นเก่งมาก แล้วก็เป็นผู้หญิงที่น่ากลัวมากๆ อีกด้วย! ขนาดฉินเฉาฮุ้ยยังเคารพ นอบน้อมต่อเธอ ถ้าไม่รู้ คงคิดว่าเธอเป็นแม่แท้ๆ ของฉินเฉาฮุ้ย! สำหรับผมแล้ว ถึงจะเป็นแม่แท้ๆ ก็ไม่ถึงกับต้องเคารพนอบน้อมขนาดนี้หรอก"

เย่หนิงพูดอย่างประหลาดใจ "คุณไม่ได้พูดหรอว่าผู้หญิงคนนั้นอายุน้อยมากๆ"

"อายุน้อยมากจริงๆ คงพอๆ กับคุณ ดูแล้ว ไม่น่าจะเกิน 25 ปีแน่นอน อายุน้อยมากๆ แล้วอีกอย่างก็สวยมากๆ หน้าตารูปร่างมีเสน่ห์ที่ทำให้ผู้คนสนใจเป็นพิเศษ คนปกติถ้าเห็นเธอเข้าต่างต้องลืมเธอไม่ลงอย่างแน่นอน"

"ซีซาน่า..." เสิ่นอี้ครุ่นคิด "คนคนนี้คือใคร" 

"คุณแน่ใจนะ ว่าเธอเป็นผู้หญิง" เสิ่นอี้ถามเซียะยุ่นผิง 

เซียะยุ่นผิงประหลาดใจ "ห๊ะ" 

เสิ่นอี้ถามอีกครั้ง "ผมถามคุณว่า คุณแน่ใจนะว่า ซีซาน่าเป็นผู้หญิง" 

"ใช่ครับ ใช่...เธอเป็นผู้หญิง..." เซียะยุ่นผิงงงงัน "มีปัญหาอะไรงั้นเหรอ" 

เย่หนิงหยิกเสิ่นอี้อย่างอดไม่ได้ ทั้งพูดกระซิบว่า "เรื่องแบบนี้จะแน่ใจได้ยังไง ถึงจะมั่นใจแน่นอนว่าเป็นผู้หญิง แต่ความจริงล่ะ เซียะยุ่นผิงเองก็ไม่รู้ เซียะยุ่นผิง คุณว่าใช่ไหมล่ะ"

เซียะยุ่นผิงหัวเราะเล็กน้อย "ฮ่าๆ คนคนนี้...อาจจะ...เป็นปีศาจ...ใครจะไปรู้ล่ะ..." 

เสิ่นอี้ไม่ซักไซ้ถามต่อ แล้วถามอีกครั้งว่า "แล้วยังมีใครที่ค่อนข้างดูน่าสนใจอีกบ้างไหม" 

"คนที่ค่อนข้างน่าสนใจ...ทุกคนที่อยู่ในสถาบันวิจัยก็ดูแปลกๆ ทั้งนั้น...คนที่ค่อนข้างน่าสนใจ...น่าสงสัยมาก ก็คือฉินเฉาฮุ้ยและศาสตราจารย์อะไรนั่น ผู้หญิงคนนั้นเก่งกาจมากจริงๆ ขนาดฉินเฉาฮุ้ยยังต้องฟังเธอเลย" 

เสิ่นอี้พยักหน้าแล้วถามอีกครั้ง "คุณรู้ไหมว่าสถานที่ทดลองของพวกเขาอยู่ที่ไหน ที่คล้ายกับสุสานอะไรทำนองนี้"

เซียะยุ่นผิงยิ้มขื่น "สถานที่สำคัญหลายที่ พวกคุณก็พบหมดแล้ว! หมู่บ้านว่างยาชุน โรงพยาบาลถงคัง ทั้งหมดนี้พวกคุณก็ไปสืบหมดแล้วไม่ใช่หรอ ทั้งยังมีสุสาน...ที่เหลือก็มีอีกหนึ่งที่ ก็คือสถานทดลองที่ใหญ่ที่สุดที่อยู่ในอาณาจักรของเทียนเหิง ไม่มีเหตุผล พวกคุณก็คงเข้าไปสืบไม่ได้ ถ้าพวกคุณจะเข้าไปค้น ก็ต้องมีเหตุผลอยู่บ้าง......" 

เซียะยุ่นผิงพูดยังไม่ทันจบ เสิ่นอี้ก็พูดตัดบทเสียก่อน "ข้างในนั้นมีคนเป็นถูกทดลองบ้างไหม" 

"ทดลองคนเป็น...มี..." เซียะยุ่นผิงก้มหัวลง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้งว่า "ผมเห็นกับตา" 

เสิ่นอี้ยิ้มเย็น "เรื่องที่คุณรู้ไม่น้อยเลย ดูแล้วพวกเขาคงจะดูแลคุณเป็นพิเศษ"

เซียะยุ่นผิงยิ้มเย้ยหยัน "พวกเขาต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมากถึงจะส่งผมเข้าไปที่ศาลสูงได้ ดังนั้นต้องมีวัตถุประสงค์อยู่แล้ว"

"น่าเสียดายจริงๆ" เสิ่นอี้พูดอย่างช้าๆ "ภายหลัง บางทีถ้าคุณได้เข้าไปเข้าร่วมกับพวกเขา อาจเป็นหนึ่งในตัวแปรที่สำคัญก็เป็นได้"

"ไม่มีทางหรอก!" เซียะยุ่นผิงส่ายหน้า "ตัวแปรสำคัญ ล้วนต้องเป็นคนสนิทของฉินเฉาฮุ้ย ตัวผมสำหรับเขาแล้ว เป็นแค่คนถูกใช้ที่มีค่ามากๆ เท่านั้น และอีกอย่าง ที่เขาให้ผมรู้เรื่องพวกนี้ พูดไปแล้ว ก็แค่เป็นการทดสอบความภักดีของผมเท่านั้น"

เสิ่นอี้ยิ้ม "คุณมองออกงั้นหรอ"

เซียะยุ่นผิงยิ้มอีกครั้ง "ถ้าทั้งหมดนี้ผมยังมองไม่ออก ก็คงตายด้วยน้ำมือของพวกเขาไปตั้งนานแล้ว" 

เสิ่นอี้มองเขาครั้งหนึ่ง "แต่ครั้งนี้เรื่องที่คุณทำ มันยังบุ่มบ่ามเกินไป! คุณไม่รู้สึกใช่ไหม ทั้งแผนของตนเองที่มั่นใจเต็มที่ว่าจะไม่ทีทางผิดพลาด และตอนนี้ที่คุณกำลังเปิดเผยมันออกมา ทว่าพวกเขากลับไม่ทำอะไรเลย ดูคล้ายกับว่ากำลังละทิ้งเบี้ยอย่างคุณ!"

ครั้งนี้เซียะยุ่นผิงกลับไม่แสดงท่าทีอะไรออกมา พูดเสียงเรียบว่า "หมาก ถูกลิขิตให้ถูกทิ้งอยู่แล้ว! และอีกอย่าง ในกระดานของพวกเขามีหมากมากมายขนาดนี้ ขาดผมไปตัวหนึ่งก็คงไม่เกิดผลกระทบที่หนักหนาหรอก"

เขาพูดพลาง ฉีกยิ้มให้เสิ่นอี้ "บางทีขนาดคุณศาสตราจารย์เสิ่น คุณก็อาจเป็นหมากตัวหนึ่งของพวกเขาด้วย"

เย่หนิงสะดุ้งตกใจ "เซียะยุ่นผิง คุณอย่ามาพูดจาเหลวไหลนะ!" 

เซียะยุ่นผิงฉีกยิ้ม แล้วไม่พูดอะไรอีก 

เสิ่นอี้กลับพูดอย่างไม่สนใจสักนิดว่า "เรื่องแบบนี้ ใครจะไปรู้! แต่ตามที่คุณบอก ระหว่างหมากก็ไม่รู้กับดำรงอยู่ของกันและกันใช่ไหม"

"ไม่รู้!" เซียะยุ่นผิงส่ายหน้า "พวกเขาไม่ให้ผมรู้แน่นอนอยู่แล้ว! พวกเรายิ่งรู้น้อย สำหรับพวกเขาก็จะยิ่งปลอดภัย เช่นนี้เมื่อมีหมากตัวหนึ่งเกิดเรื่องก็จะไม่แพร่งพรายเรื่องของหมากตัวอื่น...ดังนั้น นอกจากหน้าที่อะไรที่ต้องติดต่อพบเจอกับหมากตัวอื่น มิเช่นนั้นพวกเราก็ไม่มีทางรู้การมีอยู่ของหมากตัวอื่นอย่างแน่นอน"

เสิ่นอี้ยิ้มเย็น "ต้องใช้ความระมัดระวังและรอบคอบจริงๆ งั้นคุณรู้จักหมากตัวอื่นบ้างไหม" 

เซียะยุ่นผิงยิ้มขื่น "ศาสตราจารย์เสิ่น ที่ผมรู้จักก็คือผู้อำนวยการโรงพยาบาลถงคัง จากนั้นก็อ้ายหลุน ผมไม่ได้รับผิดชอบงานอะไร แน่นอนอยู่แล้วที่จะไม่มีโอกาสได้ยุ่งเกี่ยวกับคนอื่น ความจริงแล้วขนาดผมเองยังไม่รู้เลย ที่พวกเขาให้ผมเข้าไปแทรกแซงตัวอยู่ในศาลสูง มีจุดประสงค์อะไรกันแน่"

เย่หนิงและเสิ่นอี้หันมาสบตากันเล็กน้อย หลังจากนั้นจึงพูดขึ้นว่า " แม้ว่าจะไม่มีประโยชน์อะไรในตอนนี้ บางทีหลังจากนี้อาจจะมีประโยชน์ คุณบอกเองว่าเรื่องที่พวกเขาทำมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น ต้องมีแผนซ่อนอยู่ข้างในแน่นอน ถ้าเป็นอย่างนี้ งั้นพวกเขาก็ต้องวางเบี้ยเอาไว้หลายที่อย่างแน่นอน บางทีอาจมีงานมากมายที่อาจทำไม่เสร็จตลอดชีวิตนี้ จึงมีหลายครั้งที่ต้องเตรียมตัวเอาไว้ก่อนหน้า" 

เซียะยุ่นผิงพยักหน้า "ดูแล้วคงเป็นอย่างนี้จริง! หมาก กำลังรอเวลาที่มีประโยชน์ ถึงจะลงมือ ขณะที่รอ ก็วางเอาไว้ตรงนั้นอยู่ตลอด!"

เสิ่นอี้ถามเย่หนิง "คุณยังมีอะไรที่อยากจะถามไหม" 

เย่หนิงส่ายหน้า เธออยากถามเสียที่ไหน ครั้งนี้จุดประสงค์ที่มาคือให้เสิ่นอี้ได้สอบถามเซียะยุ่นผิง 

"ถามเสร็จแล้วเหรอ" เซียะยุ่นผิงมองพวกเขาทั้งสองคนที่ไม่พูดอะไร แล้วถามอีกว่า "งั้นผมมีคำถามหนึ่งอยากถามพวกคุณบ้างจะได้ไหม" 

"ได้ คุณถามมาเลย" เสิ่นอี้พูด 

"จุดบกพร่องของคดีอยู่ตรงไหน" เซียะยุ่นผิงยังไม่ตายใจ ถามอีกว่า "ผมศึกษารายละเอียดของคดีอย่างชัดเจน ศึกษารายละเอียดถึงขนาดนี้แล้ว ทไมถึงไม่พบจุดบกพร่องใดๆ เลย หรือว่ามีอะไรที่ไม่ได้บันทึกลงไปในแฟ้มคดีจริงๆ"

เสิ่นอี้พูดเสียงเรียบว่า "จุดบกพร่องชิ้นใหญ่ที่สุดคือ คดีมันผ่านมาตั้งหลายปีขนาดนี้แล้ว ฆาตกรเมื่อปีนั้นก็ถูกพิพากษาไปแล้ว ทำไมเวลานี้ถึงยังออกมาก่อคดีได้ ถ้าฆาตกรตัวจริงออกมาก่อคดี ไม่เท่ากับบอกคนอื่นว่าเขาก็คือฆาตกร ไม่เท่ากับบอกตำรวจว่าเขายังลอยนวลอยู่ กำลังท้าทายตำรวจอยู่ บอกตำรวจว่าพวกคุณจับคนผิดแล้ว ฉันต่างหากล่ะที่เป็นฆาตกรตัวจริง รีบมาจับฉันสิ นี่หมายความว่าอะไร"

"ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง" เซียะยุ่นผิงรู้สึกคาดไม่ถึงเป็นอย่างมาก "พึ่งแค่เรื่องนี้ พวกคุณก็รู้แล้วหรอว่าฆาตกรที่ลงมือไม่ได้เป็นคนคนเดียวกัน"