webnovel

ตอนที่ 204

ตอนที่ 204 ล้อมโจมตี

“ใช่!” เสิ่นอี้พูดเสียงต่ำ “ปีนี้เป็นปีที่ผนึกอ่อนแรง ถ้าไม่มีคนเพิ่มพลังของผนึก คิดอยากทำลายมัน ก็ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอะไรเลย ยิ่งไปกว่านั้น คุณคงไม่ลืมนะว่ายังมีราชาผีดิบ ถึงแม้ว่าเขาจะถูกผนึก แต่พลังของเขายังคงมีอยู่ หากมีความช่วยเหลือจากภายนอก เขาอยากทำลายผนึกก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากลำบากอะไร"

เสิ่นอี้พูด แล้วหยุดเงียบไปสักพัก แล้วจึงพูดต่อว่า “ผมสงสัยว่าคนพวกนั้นก็คงจะแอบตามเฝิ่งเยี่ยนฮวายและเจิ้งชวนมาก่อนหน้านี้แล้ว เพราะพวกเขารู้ว่าหากตามเฝิ่งเยี่ยนฮวายและเจิ้งชวน จึงจะสามารถหาของวิเศษที่ใช้ผนึกราชาผีดิบเมื่อปีนั้นได้ และก่อนหน้านี้บางทีพวกเขาคงจะไม่รู้ว่าของวิเศษที่สำคัญที่สุดซุกซ่อนอยู่ภายในบ้านเก่าของตระกูลเย่ แต่ตอนนี้เห็นเฝิ่งเยี่ยนฮวายและเจิ้งชวนอยู่ที่นั้นเพื่อหาของอยู่หลายวัน ถ้าพวกเขาคิดไม่ออก ก็คงโง่เง่าเต็มทีแล้ว!” 

เย่หนิงอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ ถามว่า “ตอนนี้คนพวกนั้นลงมือหรือยัง"

“ลงมือแล้ว!" เสิ่นอี้พูดอย่างมั่นใจมาก “พวกเขาคงจะไม่รอจนถึงเวลานั้นอย่างแน่นอน!"

 

ดึกมากแล้ว แทบจะทั้งเมืองเงียบสงัด รถของพวกเขาขับผ่านถนนเล็กๆ อย่างรวดเร็ว แทบจะมองไม่เห็นผู้คนเลย

เห็นได้ชัดว่าเสิ่นอี้คุ้นเคยกับเส้นทางที่เมืองนี้เป็นอย่างมาก ไม่นานก็เจอทาง เลี้ยวเข้าไปใกล้บ้านเก่าของตระกูลเย่

เขาจอดรถ แล้วพูดกับเย่หนิงและจวงหมิงหานว่า “อย่าวิ่งมั่วซั่ว ห้ามเข้ามา ไม่ว่าข้างในนั้นจะเกิดอะไรขึ้นพวกคุณก็ห้ามเข้ามา เข้าใจไหม"

"เข้าใจแล้ว” เย่หนิงตอบรับอย่างไม่เต็มใจ

เสิ่นอี้จนปัญญา มีแค่จวงหมิงหานที่พูดว่า “ช่วยฉันดูเธอด้วย เรื่องเล็กน้อยแค่นี้คงจะไม่ผิดสัญญาหรอกนะ......"

เสิ่นอี้พูดยังไม่ทันจบ ก็ได้ยินเสียงครึกโครมดังแว่วมาจากข้างในบ้าน ไม่รอให้พวกเขาได้ตอบรับ ก็ได้ยินเสียงดังตึงที่หลังคารถ ทำให้พวกเขาทั้งสามคนสะดุ้งตกใจ หลังจากนั้นก็เห็นร่างของคนที่มีเลือดไหลอาบไหลลงมาจากหลังคารถ แล้วตกลงมาบนถนนใหญ่

หลังจากนั้น ในบ้านก็มีเสียงกรีดร้องอย่างต่อเนื่อง “ผี ผี...มีผี..."

พร้อมกับเสียงกรีดร้องนั้นมีคนทยอยวิ่งออกมาจากข้างในบ้าน ดูจากเครื่องแบบก็รู้ว่าเป็นคนที่ทางสถานีตำรวจส่งเข้ามา คาดว่าพอได้รับโทรศัพท์จึงอยากมาดู ตอนนี้ไม่รู้ว่าข้างในเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่คาดว่าพวกเขามาช้าไป ด้านในคงกำลังมีการปะทะกันเสียแล้ว

เย่หนิงกำลังจะลงจากรถตรวจดูอาการบาดเจ็บของคนคนนั้น จวงหมิงหานเองก็กำลังจะตามลงไป

"พวกคุณรอผมอยู่ในนี้" เสิ่นอี้พูด กำลังเตรียมเข้าไปดูว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ทว่ากลับเห็นคนสองคนพุ่งตัววิ่งออกมาพร้อมๆ กัน ทั่วทั้งร่างอาบด้วยเลือด ดูแล้วได้รับบาดเจ็บไม่น้อย

เย่หนิงตะโกนออกมาอย่างรวดเร็วว่า "เฝิ่งเยี่ยนฮวาย! เจิ้งชวน!"

เฝิ่งเยี่ยนฮวายและเจิ้งชวนได้ยินเสียงนี้ พอมองจึงได้เห็นเย่หนึงที่ยืนช็อคอยู่ เฝิ่งเยี่ยนฮวายมีปฏิกิริยาโดยทันที ทั้งตะโกนเสียงดังว่า "อาหนิง เร็ว! วิ่งหนีเร็ว!"

ภายในซอย ปรากฏเสียงขบฟันกึกๆ และเสียงฝีเท้าหนัก จวงหมิงหานที่อยู่ใกล้ซอยที่สุดหันกลับไปมอง เห็นคนสองคนที่ทั่วทั้งร่างมีกลิ่นเน่าเหม็นโชย พุ่งตรงมาทาเขา

"ศาสตราจารย์จวง ระวัง!” กรงเล็บของทั้งสองคนนั้นก็จับเข้าที่ร่างของจวงหมิงหาน 

เสิ่นอี้พุ่งเข้าไป แต่เขายังไม่ลงมือ การเคลื่อนไหวของจวงหมินหานเร็วกว่าเขามาก ไม่มีใครเห็นว่าจวงหมิงหานเอากระดาษยันต์สองแผ่นออกมาตอนไหน ป้าบๆ เสียงตบดังขึ้นที่บริเวณหน้าผากของสองคนนั้น สองคนนั้นพริบตาเดียวก็นิ่งสนิทเสียแล้ว

ทุกๆ ฉากทำให้ทุกๆ คนล้วนเบิกตามองอย่างตกตะลึง 

ไกลออกไป คนที่เห็นจวงหมิงหานถูกพุ่งเข้าใส่ยังคงตกตะลึง 

สองคนนั้นทั่วทั้งร่างอาบโชกไปด้วยกลิ่นเน่าเหม็น เห็นได้ชัดเลยว่าเป็นผีดิบ นี่เป็นเรื่องที่ไม่น่าสงสัยเลยสักนิดเดียว แต่เกิดอะไรขึ้นกับจวงหมิงหาน

ทำไมเขาถึงมีแผ่นยันต์ สิ่งที่ยิ่งน่าเหลือเชื่อคือคาดไม่ถึงว่าเขาจะรับมือกับผีดิบพวกนั้นได้ 

แต่ไม่ใช่เวลาที่พวกเขาจะต้องมาขบคิดปัญหานี้ เพราะมีผีดิบจำนวนมากกำลังวิ่งออกมาจากข้างในบ้าน ขู่คำราม แล้วพุ่งตรงเข้ามาหาพวกเขา 

"พวกคุณรีบขึ้นรถไปก่อน!" เสิ่นอี้พูดพลางรีบวิ่งเข้าไปที่ผีดิบกลุ่มนั้น ขวางข้างหน้ากลุ่มนั้น ทว่ายังไม่ถึงวินาทีเดียว ผีดิบทุกตัวแทบจะหยุดฝีเท้า ไม่กล้าขยับไปข้างหน้าอีก เปลี่ยนเป็น "ผีดิบ" จริงๆ แล้ว เพราะทั้งหมดต่างนิ่งค้าง

จางหมิงหานตกตะลึงอยู่ชั่วขณะ แล้วจึงรีบลากเย่หนิงขึ้นไปบนรถ ทั้งตะโกนใส่เฝิ่งเยี่ยนฮวายและเจิ้งชวนว่า “ยังไม่รีบขึ้นรถอีก ยืนอยู่ตรงนั้นเรียกมันหรือไง!"

สถานการณ์เคร่งเครียด เฝิ่งเยี่ยนฮวายยังไม่ทันได้พูดอะไรก็ลากเจิ้งชวนขึ้นไปบนรถ จวงหมิงหานเองก็ยัดเย่หนิงเข้าไปที่เบาะหลัง ส่วนตนเองก็นั่งอยู่ฝั่งคนขับ เคลื่อนรถออกไป ทั้งตะโกนเสียงดังว่า “เสิ่นอี้! ทางซ้าย!" 

เสิ่นอี้เคลื่อนไหวได้เร็วมาก ยังไม่หันกลับมา กระทั่งว่าไม่ต้องรอให้รถหยุด เขาเปิดประตูรถและกระโดดขึ้นรถเสียแล้ว รถปรากฏเสียงฮึมต่ำ แล้วผละออกมาอยู่ที่ด้านข้างกลุ่มผีดิบ ผีดิบเหล่านั้นส่งเสียงโหวโหวไล่ตามอยู่ข้างหลังมาตลอด

จวงหมิงหานเหงื่อแตกพลัก "คุณหมอเย่ บ้านเก่าของพวกคุณเลี้ยงผีดิบเอาไว้งั้นเหรอ"

เสิ่นอี้กล่าวเสียงต่ำ “เลี้ยวทางซ้าย!"

“ซ้ายเหรอ" จวงหมิงหานพูดอย่างสงสัย “กลับเข้าเมืองไม่ใช่ทางขวางั้นเหรอ" 

เสิ่นอี้ยิ้มเย็น “ต้องหาสถานที่เก็บพวกมันก่อน"

"อ๋อ! เข้าใจแล้ว!" จวงหมิงหานตอบรับ แล้วหันหัวรถเลี้ยวทันที

เสิ่นอี้โทรศัพท์หาหยางปิน "มาหรือยัง พวกเขาเริ่มลงมือแล้ว...ไม่ใช่ ผีดิบ! ถูกต้อง อยู่ที่บ้านเก่าของตระกูลเย่! ได้ ระวังตัวด้วย!"

เย่หนิงถามอย่างเป็นห่วงเล็กน้อยว่า "เสิ่นอี้ หัวหน้าหยางต้องมาด้วยเหรอ"

"วางใจได้ เขาไม่เป็นอะไร!" เสิ่นอี้พูดเสียงเรียบ "ผีดิบพวกนั้น ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา" 

เย่หนิงประหลาดใจ แต่ไม่เข้าใจทั้งหมด คำพูดนี้ของเสิ่นอี้หมายความว่าอะไรกันแน่

จวงหมิงหานขับรถพลางถามว่า "เสิ่นอี้ มีความมั่นใจไหม พึ่งแค่พวกเรา จะเก็บของกองนั้นได้งั้นเหรอ"

เสิ่นอี้พูดอย่างไม่สนใจเลยสักนิดว่า "วางใจได้ มีฉันแค่คนเดียวก็เก็บพวกเขาได้หมดแล้ว!"

"เก่งกาจชะมัด!" จวงหมิงหานพูดกระซิบ รถยิ่งขับเร็วขึ้น ความกังวลหลักคือคนเดินเท้าที่อยู่บนท้องถนน การโจมตีของผีดิบพวกนั้นไม่มีเป้าหมาย เห็นใครก็โจมตีเลย

เจิ้งชวนคิดอยากลงจากรถอยู่หลายครั้ง แล้วอยากลากเฝิ่งเยี่ยนฮวายออกไปใจจะขาด

ข้างหลังมีผีดิบตามมามากขนาดนี้ ลงจากรถเวลานี้ รนหาที่ตายชัดๆ

จวงหมิงหานมองกระจกหลังเล็กน้อยแล้วพูดอีกครั้งว่า "หาผีดิบได้เยอะขนาดนี้ พวกเขาเก่งกาจชะมัดยาด!"

เสิ่นอี้ยิ้มเย็น "นายลืมไปแล้วเหรอ พวกเขามีใครแอบแฝงอยู่ข้างใน ด้วยฝีมือของเขา อยากควบคุมผีดิบพวกนี้ ง่ายจะตาย"

จวงหมิงหานประหลาดใจ "ความหมายของนายคือ เจ้าหมอนี่เก่งกาจมาก แล้วก็อาจจะอยู่ใกล้ๆ นี้"

"แน่นอนว่าอยู่ไม่ไกล! ไม่อย่างงั้นเขาก็คงควบคุมผีดิบเหล่านั้นไม่ได้หรอก"

จวงหมิงหานครุ่นคิด แล้วพูดอีกครั้งว่า "เสิ่นอี้ ถามนายหน่อยสิ ถ้าจะต้องปะทะกันจริงๆ นายมีความมั่นใจกี่เปอร์เซนต์"

"อะไร" 

"ฉันบอกว่านายกับคนคนนั้น...นายไม่ได้บอกหรอว่าเจ้าหมอนี่มีความเป็นไปได้มากว่าจะเป็นคนที่อยู่ข้างกายราชาผีดิบ ถ้าพวกนายต้องต่อสู้กันจริง นายมั่นใจกี่เปอร์เซ็นต์ จะชนะไหม"