webnovel

ตอนที่ 189

ตอนที่ 189 ตัวตนเปิดเผย

เย่หนิงตกใจอยู่ครู่หนึ่ง สติจึงค่อยๆ กลับมา เธอมองสองคนนี้ คำพูดยังแฝงความสงสัยเอาไว้เล็กน้อย บนใบหน้าที่เต็มไปด้วยความไม่เชื่อขณะที่มองเฝิ่งเยี่ยนฮวายและเจิ้งชวน " พวกนายสองคน...อยู่ที่นี่ได้ยังไง" 

" พวกเรา..." เฝิ่งเยี่ยนฮวายมองไปที่เจิ้งชวน คล้ายกับอยากให้เจิ้งชวนไปอธิบาย 

หลังจากที่เงียบไปอยู่พักหนึ่ง เจิ้งชวนก็พูดขึ้นมาว่า " พวกเรามาหาของ" 

" หาของ หาของอะไร!" เย่หนิงสวนกลับอย่างรวดเร็ว " พวกนายสองคนหมายความว่าอะไร ถามก็ไม่ถามสักคำ อยู่ๆ ก็เข้ามาหาของในของคนอื่นเนี่ยเนี๊ยะนะ ที่นี่เป็นบ้านของพวกนายเหรอไงรึไง ใครอนุญาตให้นายเข้ามา!" 

เฝิ่งเยี่ยนฮวายรีบพูดขึ้นมาว่า " เสี่ยวหนิง เดิมทีพวกเราก็อยากบอกคุณ..." 

" ผมบอกให้เขาทำเอง!" เจิ้งชวนตัดบทคำพูดของเฝิ่งเยี่ยนฮวาย  แล้วพูดเสียงเย็นว่า " เพราะเกรงว่าเธอจะไม่ตอบตกลง!"

เย่หนิงอารมณ์เสียขึ้นมา " นี่มัน ความคิดบ้าบออะไรของนายน่ะ นี่มันเรียกว่าบุกรุกบ้านคนอื่น! เข้าใจไหม! ฉันไม่ยอมพวกนายก็จะดันทุรังเข้ามาหาใช่ไหม เจิ้งชวน นายนี่มันมีเหตุผลมากเลยนะ นายต้องถามคนอื่นก่อน   คนอื่นไม่ให้ นายก็เข้าไปขโมยงั้นเหรอ ฉันมองพวกนายผิดไปจริงๆ! คิดไม่ถึงเลยว่าพวกนายจะเป็นคนแบบนี้ ไม่ต้องพูดแล้ว ไปที่สถานีตำรวจกับฉันเลย!" 

" อาหนิง!" เฝิ่งเยี่ยนฮวายรีบพูดขึ้นมา " คุณอย่าโกรธสิ ฟังผมก่อนนะ! เรื่องไม่ใช่อย่างที่คุณคิด พวกเราเอาก็ไม่ได้อยากขโมยอะไร แต่มันสำคัญมาก ความจริงแล้วพวกเราไม่อยากทำอย่างนี้เลย! คุณฟังผมก็จะเข้าใจเอง! ครั้งก่อนเจิ้งชวนและผมไม่ได้เคยบอกคุณ..."

" เหอะ! เหคอะ!" เจิ้งชวนกระแอมออกมาอย่างรวดเร็ว ตัดบทคำพูดของเฝิ่งเยี่ยนฮวาย มองเสิ่นอี้ แล้วใช้สายตาส่งซิกผ่านให้เฝิ่งเยี่ยนฮวาย 

เฝิ่งเยี่ยนฮวายหยุดพูด แล้วไม่พูดอะไรอีก พร้อมทั้งฉีกยิ้มอย่างอึดอัด   " ขอโทษนะ อาหนิง ครั้งนี้เป็นความผิดของพวกเราเอง คุณก็อย่าโกรธไปเลยนะ! ครั้งหน้าไม่มีแล้ว! ถ้าไม่ใช่ว่าเรื่องนี้สำคัญมากๆ พวกเราก็คงไม่ทำเช่นนี้หรอก ! คุณอย่าโกรธเลยนะ! ขอโทษจริงๆ!" 

เย่หนิงลากพวกเขาทั้งสองไปอีกทาง แล้วพูดเสียงเย็นว่า " ฉันไม่สนใจหรอกว่าพวกนายเอาอะไรไป เอาออกมาให้ฉัน! ไม่อย่างงั้นก็อย่าคิดว่าจะออกไปจากที่นี่เลย! ได้ยินหรือเปล่า!"

" พวกเราไม่ได้เอาอะไรไป!" คนพูดคือเจิ้งชวน เขาไม่แสดงสีหน้ายามมองไปที่เย่หนิง แล้วพูดว่า " ทีนี้่พวกเราไปได้หรือยัง!"

เย่หนิงโกรธมาก " นายบอกว่าไม่มีก็ไม่มีงั้นเหรอ!"

เสิ่นอี้ตบไหล่ของเธอเบาๆ แล้วพูดเสียงเบาว่า " เสี่ยวหนิง เอาอย่างนี้คุณเข้าไปดูก่อน ว่ามีอะไรหายไหม!"

" ผมบอกแล้วไง ว่าพวกเราไม่ได้เอาอะไรไปทั้งนั้น!" เจิ้งชวนรู้สึกโกรธเล็กน้อย " พวกคุณหมายความว่าอะไร ไม่เชื่อพวกผมหรือไง" 

“เชื่อพวกคุณ" น้ำเสียงของเสิ่นอี้เปรียบกับเจิ้งชวนแล้วไม่มีความเกรงใจเสียยิ่งกว่า " พวกคุณไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของ ก็เข้าไปหาของในบ้านของคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต ยังไม่ละอายใจหาว่าคนอื่นไม่เชื่อพวกคุณอีกเหรอ สถานะของพวกคุณเป็นอะไร ถึงได้พูดคำพูดเหล่านี้ หรือว่าถ้าไปสถานีตำรวจ พวกคุณก็จะพูดแบบนี้ พูดว่าพวกคุณไม่เอาอะไรไป อาศัยแค่คำพูดพวกนี้ แล้วจะทำให้ตำรวจปล่อยคุณไปงั้นเหรอ"  

เจิ้งชวนโกรธจัด ยังอยากจะพูดอะไร เฝิ่งเยี่ยนฮวายก็รีบดึงเขาไป ทั้งยังโกรธและพูดเสียงสูงดังว่า " เจิ้งชวน นายพอได้แล้ว! ยังจะหาเรื่องทะเลาะอีกเหรอ เรื่องนี้ เดิมทีแล้วก็เป็นความผิดของพวกเรา! ฉันก็บอกนายแล้ว ว่าให้ถามเย่หนิงก่อน นายก็ไม่ยอมท่าเดียว! แล้วตอนนี้ล่ะ เห็นได้ชัดเลยว่าพวกเราไม่เคยขออนุญาต ก็บุกรุกเข้าบ้านส่วนตัวของคนอื่น แล้วนี่้นายจะยังไม่ละอายใจทะเลาะกับเจ้าของบ้านอีกงั้นเหรอ"  

ใบหน้าของเจิ้งชวนไม่น่าดูเล็กน้อย สุดท้ายยังไม่พูดอะไร เพียงแค่ส่งเสียง " เหอะ" ออกมา

" ขอโทษจริงๆ อาหนิง!" เฝิงเยี่ยนฮวายขอโทษเย่หนิงอย่างรู้สึกผิด แล้วพูดว่า " แต่ พวกเราไม่ได้เอาอะไรไปจริงๆ นะ! คุณเข้าไปดูก่อนก็ได้! พวกเราเข้าไปหาของจริงๆ แต่หาไม่เจอ! ถึงได้ออกมาไง!"  

เย่หนิงหันไปมองเสิ่นอี้ เสิ่นอี้ก็เลยพูดว่า " ถ้าไม่วางใจ ก็เขาไปดูก่อนสิ" 

เย่หนิงครุ่นคิด แล้วถามเฝิ่งเยี่ยนฮวายตรงๆ ว่า " พวกนายหาอะไรอยู่กันแน่!" 

" นี่..." เฝิ่งเยี่ยนฮวายลังเล คล้ายกับไม่รู้ว่าควรหรือไม่ควรพูดดี 

เย่หนิงอารมณ์ไม่ดี " หมายความว่ายังไง พูดไม่ได้งั้นเหรอ นี่้เป็นของของบ้านฉันนะ" 

" ไม่ใช่ อาหนิง ไม่ใช่ว่าบอกคุณไม่ได้ เพียงแต่..." สายตาของเฝิ่งเยี่ยนฮวายมองไปที่เสิ่นอี้

เย่หนิงพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า " เขาเป็นแฟนของฉัน! มีอะไรที่พูดไม่ได้!" 

เฝิ่งเยี่ยนฮวายส่ายหน้า " อาหนิง เรื่องนี้สำคัญมาก คนยิ่งรู้น้อยก็ยิ่งดี!"

" ได้ งั้นนายก็ไม่ต้องพูดแล้ว! พวกนายไปได้แล้ว!" เย่หยิงพยายามควบคุมอารมณ์ตัวเอง " หลังจากนี้ถ้าพวกนายกล้ามาอีก ฉันแจ้งจับพวกนายแน่!" 

" ขอโทษ อาหนิง!" ตอนที่เฝิ่งเยี่ยนฮวายเดินมาที่เย่หนิง พูดเสียงเบาว่า " เรื่องนี้  ครั้งหน้าผมจะอธิบายให้คุณเข้าใจเองครับ"

" ไม่ต้อง!" เย่หนิงตัดบทคำพูดของเฝิ่งเยี่ยนฮวายโดยที่ไม่เกรงใจเลยสักนิด 

" อาหนิง..." เฝิ่งเยี่ยนฮวายพูดยังไม่ทันจบ ทันใดนั้นสีหน้าพลันแปรเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เขากุมหน้าอก แล้วมองเย่หนิงอย่างตกตะลึง

เย่หนิงอารมณ์เสีย " ทำไมอีก! พวกนายจะไปหรือไม่ไป!"

" ไป! เฝิ่งเยี่ยนฮวาย!" เจิ้งชวนเดินมา คว้าเฝิ่งเยี่ยนฮวายให้เดินไป ผลลัพธ์กลับเป็นจู่ๆ ก็ชะงักฝีเท้า แล้วหันกลับมาอย่างรวดเร็ว มองเย่หนิงและเสิ่นอี้ด้วยสีหน้าไม่เชื่อ

" มีอะไร!" เย่หนิงที่ถูกสองคนนี้มองด้วยสายตาประหลาดทำเอาเธอขนลุกตั้ง " พวกนายมองอะไรกัน!" 

เจิ้งชวนมองเธอไม่กะพริบ เย่หนิงเลยมองเขาที่กำลังดึงเส้นด้ายสีแดงออกมาจากลำคออย่างช้าๆ เส้นด้ายสีแดงผูกติดกับจี้ จี้ไม้ท้อ

เจิ้งชวนมองเย่หนิง แล้วถามว่า " เย่หนิง ของสิ่งนี้ เธอรู้จักใช่ไหม" 

สีหน้าของเย่หนิงเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย 

รู้สิ ทำไมเธอจะไม่รู้ จี้ไม้ท้อชิ้นนี้ ก่อนหน้านี้เฝิ่งเยี่ยนฮวายก็เคยให้เธออันหนึ่ง  แล้วยังบอกเธอว่า แค่ผีดิบเข้ามาใกล้ จี้นี้ก็จะร้อนขึ้นมา ตอนนั้นตอนเขากลับไปเธอเคยเอามาใส่ แล้วตอนที่เข้าใกล้เสิ่นอี้ จี้นี้ก็จะร้อนอย่างรุนแรง เหมือนกับว่าจะเผาผิวของเธอยังไงยังงั้น  

ตอนนั้นเธอก็ยังตกใจไม่น้อย แต่หลังจากที่เสิ่นอี้สัมผัส จี้นั้นก็ไม่ร้อนอีก ตอนนั้นเธอก็เองไม่ได้คิดอะไรมาก บวกกับคำพูดของเฝิ่งเยี่ยนฮวายและเจิ้งชวนที่กึ่งน่าเชื่อกึ่งน่าสงสัยด้วย ก็เลยไม่ได้สนใจจี้นั้นอีกเลย

หลังจากนั้นพอรู้ว่าเสิ่นอี้เป็นผีดิบจริงๆ เธอถึงได้รู้ ว่าจี้นั้นมันขลังมาก พอโดนยผีดิบ ก็จะร้อนขึ้นมาจริงๆ !

แต่ตอนนี้ ที่เจิ้งชวนหยิบจี้นี้ออกมาหมายความอะไร จะพูดอะไรงั้นเหรอ 

ทั้งเฝิ่งเยี่ยนฮวายและเจิ้งชวน ต่างก็ใส่จี้นี้ ตอนที่พวกเขาเข้าใกล้เสิ่นอี้ จี้นี้ก็คงจะร้อนขึ้นมา 

ในที่สุดเย่หนิงก็เข้าใจ ว่าทำไมสองคนนี้ จู่ๆ ถึงได้มีปฏิกิริยาแปลกๆ เช่นนี้

ทันใดนั้นความคิดเหล่านั้นก็ออกไปจากสมองของเย่หนิงอย่างฉับพลัน เดิมทีแล้วเธอคิดไม่ถึงเลยว่าจะเจอกับสถานการณ์เช่นนี้ ไม่มีคำเตือนสักนิด จู่ๆ ก็เกิดขึ้น เฝิ่งเยี่ยนฮวายและเจิ้งชวนรู้ตัวตนของเสิ่นอี้แล้ว ในใจรีบเร่ง ผลักเสิ่นอี้ “" รีบไปกันเถอะ!"