webnovel

ตอนที่ 186

ตอนที่ 186 ไฮคลาส

น่าโมโหชะมัดเลย!

คนคนนี้เป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่รู้จักคำว่าเจ็บปวด เย่หนิงรู้สึกว่าตนเองหมดอารมณ์แล้วล่ะ!

บนโลกใบนี้ ทำไมถึงได้มีสิ่งมีชีวิตแบบนี้นะ! 

แต่พอของขวัญสองสิ่งนี้วางอยู่ตรงนั้น เหลืองอร่าม มีประกายแวววาว ทำให้คนในห้องไม่รู้ว่าควรพูดยังไงดี นี่j้ทำให้พวกเธอตกใจจนพูดไม่ออก  

เมื่อกี้ตอนที่เอาชุดเครื่องประดับเพชรออกมาวาง ยังร้องว้าวอย่างตกใจ ตอนนี้พอมองเห็นแท่งทองเหลืองอร่าม เครื่องประดับทอง เลยอดไม่ได้ที่จะร้องว้าวออกมาอีกเช่นกัน ทุกคนล้วนมองของขวัญสองกล่อง มองตรงมา ขนาดอาสะใภ้ของเย่หนิงยังไม่พูดอะไรออกมา เบิกตามองของขวัญนั้นอย่างตกใจ ไม่มีการตอบสนองเลยสักนิดเดียว

เห็นเธออย่างนั้น ก็ไม่ได้น้ำลายไหลนะ

เธอกระแอมไอออกมาเล็กน้อย เสิ่นอี้ยิ้ม แล้วพูดว่า " อาครับ ของขวัญๆ น้อยๆ เท่านั้น ไม่ต้องไปสนใจหรอกครับ”

เย่หนิงกลรอกตาขาว อยากเตะเขาให้ตายจริง!  

แต่ได้แค่คิด เตะไปก็ไม่มีประโยชน์ ยิ่งไปกว่านั้นเจ้าหมอนี่้ไม่รู้จักเจ็บเลยด้วยซ้ำ!

อาสะใภ้ของเย่หนิงดึงสติกลับมาอย่างยากลำบาก ยังกุมอก หายใจไม่ออก คล้ายกับกำลังจะสิ้นสติไปแล้ว

โทษอาสะใภ้ของเธอไม่ได้ เย่หนิงคิดว่าทั้งหมดนี้ล้วนเป็นความผิดของเสิ่นอี้ คุณอยากส่งของขวัญให้ ให้ของที่ราคาแพงขนาดนี้ทำไมกัน......

และอีกอย่างนี่ก็ไม่ใช่ของแพงธรรมดาเท่านั้น นี่เป็นการอวดรวย ดูสิเมื่อครู่เขาเพิ่งพูดอะไรไป

เป็นของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ไม่ต้องสนใจงั้นเหรอ 

ของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่ต้องสนใจงั้นเหรอ 

ถ้าให้เธอพูด นี่้ก็คือของระดับไฮคลาสเลยนะ!

แต่ว่า เสิ่นอี้เตรียมของขวัญพวกนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมก่อนหน้านี้เธอไม่รู้มาก่อนเลยสักนิดเดียว แพ้แล้ว น่าเกลียดชะมัดเลย!

พอกลับไปเธอต้องให้บทเรียนเขาอย่างแน่นอน

เย่หนิงคิดเช่นนี้ แต่อาสะใภ้ของเธอ ยังใช้สายตามองไปที่เสิ่นอี้ ไม่เพียงแค่ชอบเท่านั้น ยังดูเทิดทูนเขาด้วย ขนาดคำพูดนั้นยังตะกุกตะกัก " นี่ นี่...เสี่ยวเสิ่น ทำไม...ทำไม...ต้องสิ้นเปลืองขนาดนี้...เสียเงินไปเท่าไหร่กัน..."

" ไม่สิ้นเปลืองครับ ไม่สิ้นเปลืองเลยสักนิดเดียว" เสิ่นอี้ยังคงฉีกยิ้มเล็กน้อย ยิ้มบาดใจที่ทำให้คนตายได้ " อาสะใภ้ คุณไม่ต้องพูดแล้ว ไม่นานพวกเราก็จะเป็นครอบครัวเดียวกัน เกรงใจทำไมครับ คุณเป็นอาสะใภ้ของเสี่ยวหนิง แล้วก็ยังเป็นอาสะใภ้ของผมด้วย ผมต้องกตัญญูกับคุณสิ! ผมยังกลัวอยู่เลยว่าของขวัญจะดีไม่พอ คุณไม่ชอบงั้นเหรอ! ใช่แล้ว ได้ยินมาว่าอาสะใภ้อยากซื้อห้องชุดในเมือง ไม่รู้ว่าถ้าอาสะใภ้อยากได้..."  

เย่หนิงมึนงง! เสิ่นอี้สมควรตาย ยังไม่จบอีกเหรอ 

ยังอยากซื้อห้อง คุณมีเงินก็เลยใช้จ่ายอย่างนี้งั้นเหรอ 

อาสะใภ้มองเสิ่นอี้อย่างตกตะลึง คาดว่าไม่เข้าใจในความหมายที่แฝงอยู่ในคำพูดของเสิ่นอี้ หรือว่าได้รับข้อมูลมากเกินไปหรือเปล่า ถึงได้ตกตะลึง จนรับไม่ไหวแล้ว 

" ไอหยา..." อาหลีคนนั้นคือคนแรกที่รับไม่ได้ " น้องเสี่ยว ลูกเขยคนนี้ของเธอร่ำรวยจริงๆ เลย อย่าบอกนะว่าเป็นพวกโกงกินชาติบ้านเมือง โกงกินจนมีเงินได้ขนาดนี้"

ความหมายในคำพูดของอาหลี่ชัดเจนมากๆ เธอก็อยากบอกหรอกนะว่าที่มาของเงินของเสิ่นอี้มันไม่แน่ชัด

เย่หนิงรู้สึกเห็นใจอาหลี่อย่างเงียบๆ อาหลี่คนนี้ไม่ทันไรก็ต้องถูกจับทรมานอีกแล้ว นี่ไม่ยุติธรรมต่อเธอเลยสักนิดเดียว ทำไมต้องมาเป็นคนคู่ต่อสู้ของเสิ่นอี้ด้วยนะ!  

จริงอย่างที่คิดเอาไว้ เสิ่นอี้ฉีกยิ้ม " คุณน้าท่านนี้ คุณคงไม่ได้พูดตลกอยู่ใช่ไหมครับ อ่าวา คงเป็นเพราะเสี่ยวหนิงไม่ได้บอกคุณให้ชัดเจน ว่าผมไม่ได้โกงกินประเทศ ผมเป็นศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัย ที่บ้านทำธุรกิจ เงินเล็กน้อย สำหรับผมแล้ว ไม่เป็นอะไรจริงๆ เดือนก่อน ผมลงทุนโครงการหนึ่งในเมืองตงไห่ ประมาณเจ็ดถึงแปดพันล้านได้"  

ขณะที่พูด เขาก็พูดกับเสี่ยวอิงอีกครั้งว่า " เมื่อเทียบกับการลงทุนดังกล่าว ของขวัญที่ผมให้กับอา ถือว่าน้อยไปเลยจริงๆ! แต่ผมไม่รู้ว่าคุณอาชอบห้องยังไง แล้วผมก็ไม่อยากทำตามใจตัวเอง ถ้าคุณอาสะดวก ผมจะให้คนมารับคุณเข้าไปในเมือง ให้คุณอาไปเลือกห้อง แล้วก็ห้ามเกรงใจผมด้วยนะครับ"  

เสี่ยวอิง... 

อาหลี่ และคนอื่นๆ...

เย่หนิง...

คาดไม่ถึงเลยว่าเจ้าหมอนี้จะมีเงินมากขนาดนี้! 

เย่หนิงเองก็ตกใจ! 

เจ็ดถึงแปดพันล้านงั้นเหรอ พูดออกมา โดยที่ไม่คิดเลยสักนิดเดียว!

นี่......

นี่มันเศรษฐีชัดๆ เลย 

ห้องห้องหนึ่งยังสามารถมอบให้ตามอำเภอใจได้! 

เสี่ยวอิงหยิกน่องของตนเอง " ไอหยา นี่ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหม!"  

เสิ่นอี้ฉีกยิ้มอย่างมีความสุขมากๆ " อา คุณนี้ตลกจริงๆ เลย!" 

เย่หนิงหมดแรงจะพูดแขวะแล้ว ยังจะมาล้อเล่นอีก อาของเธอตกใจจะตายแล้วนะ 

เสิ่นอี้คนนี้ก็เสแสร้งเก่งจริงๆ   พวกอาๆ ของเธอตกใจจนจะเป็นลมอยู่แล้วนะ

เจ็ดแปดพันล้านก็พูดออกมาได้ คนที่สามารถเอาเงินไปลงทุนพันๆ ล้าน ครอบครัวนี้จะมีเงินเท่าไหร่กัน

อย่าบอกนะว่าเป็นเงินฝากของหลายพันกว่าปีมานี้ 

คิดถึงตรงนี้เย่หนิงทั้งรู้สึกอารมณ์ดีและตลกขบขันบ้าง มักมีความรู้สึกว่าถูกทำให้พ่ายแพ้เล็กๆ

ดวงตาทั้งสองข้างของเสี่ยวอิงแพรวพราว จับมือลูกเขยของตนเอง ยิ่งไม่ยอมปล่อยมากขึ้น   นี่้อาจเป็นต้นไม้ใหญ่ นี่เป็นขุมทอง งั้นยิ่งต้องจับเอาไว้แน่นๆ น่ะสิ!  

" เสี่ยวเสิ่น เธอนี่้มันจริง...ทำไมต้องให้ของอะไรตั้งเยอะแยะด้วย เธอดูสิ เธอมาครั้งนี้ อายังไม่มีอะไรให้เธอเลย" 

เสิ่นอี้ฉีกยิ้ม " ผมมาเยี่ยมครอบครัวของอา ให้ของขวัญก็เป็นสิ่งที่สมควรแล้ว มามือเปล่าไม่ได้หรอกครับ"

เสี่ยวอิงรีบถามอีกครั้ง " เสิ่นอี้ ที่บ้านของเธอทำธุรกิจอะไร เปิดบริษัทหรอ ต้องเป็นบริษัทที่ใหญ่มากๆ แน่" 

" ใช่ครับ!" เสิ่นอี้พยักหน้า 

เสี่ยวอิงรีบพูดอีกครั้ง   " ฉันว่านะเสี่ยวเสิ่น ถ้าอย่างงั้น เธอสะดวกจัดหางานให้อาสะใภ้หน่อยได้ไหม"

เสิ่นอี้ยิ้ม " ไม่มีอะไรที่ไม่สะดวกครับ แต่คุณอาครับ คุณยังอยากจะทำอะไร อยู่ในบ้านไม่สบาย ขาดอะไร ก็บอกผมได้เลย เงินไม่พอจ่าย ก็พูดได้เลย จะทนลำบากทำไมครับ!"

เสี่ยวอิงมีความสุข เธอฉีกยิ้มไม่หุบ ทำให้อาหลี่และอาคนอื่นๆ ที่มอง ต่างรู้สึกอิจฉาริษยากันจริงๆ !

ก่อนหน้านี้ยังพูดอยู่เลย ว่าอาชีพของเย่หนิงนั้นมันแย่มาก ไม่มีทางหาแฟนหนุ่มได้หรอก ผลลัพธ์เป็นว่าเธอคนนี้ไม่เพียงพาแฟนหนุ่มกลับมา ฐานะของเขายังดีถึงขนาดนี้ ดีจนทำให้คนอิจฉาริษยา และอีกอย่างยังมือเปิบนำของขวัญมาให้มากมายขนาดนี้ แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องโกหก ยิ่งเป็นเช่นนี้  พวกเธอก็ยิ่งรู้สึกอิจฉาริษยาจริงๆ ดูจากสายตาของเสี่ยวอิง อารมณ์เช่นนี้ แม้แต่พวกเองก็ยังพูดได้ไม่ชัดเจนนักว่าในใจรู้สึกอย่างไร

ก็คือเห็นคนอื่นประสบเรื่องแย่ พวกเธอก็จะเอาหัวข้อนี้มาคุยกัน แต่ถ้าเห็นคนอื่นประสบกับเรื่องดี และยิ่งมีชีวิตดีกว่าพันหมื่นเท่า พวกเธอก็ยิ่งเอามาพูด

ภายในใจของเย่หนิงอดทนต่อเสิ่นอี้เป็นที่สุด! 

อวดรวยชะมัดเลย!

แต่เป็นเหมือนที่เขาพูดจริงๆ ป้าๆ อาๆ พวกนี้ สามารถแพ้ทางเขาได้จริงๆ เขาเองไม่ต้องทำอะไร ใช้เงิน พวกเธอก็ไม่พูดอะไรแล้ว

เรื่องเช่นนี้ คนปกติคงทำไม่ได้จริงๆ 

เสี่ยวอิงมีความสุข " ไอหยา ไม่ต้องทำอะไรให้ฉันหรอก ลุงของเธอ อาชีพของเขา ไม่ดีนัก ทั้งเหนื่อยและลำบาก เงินก็ยังได้น้อย ฉันอยากให้เขาเปลี่ยนงาน แล้วยังมีน้องชายของเธอ...เขาเองก็ใกล้จะเรียนจบแล้ว กำลังกังวลเรื่องหางานทำอยู่"

เย่หนิงล่ะเสื่อมใสศรัทธาอาสะใภ้ของเธอชะมัดเลย ‘ นี่้ยังจะลากคุณลุง กับน้องชายมาอีก...’