webnovel

ตอนที่ 183

ตอนที่ 183 พลังทำร้ายล้างมหาศาล

"เอาน่าคุณ!" เสิ่นอี้ไม่รู้จะร้องไห้หรือว่าหัวเราะดี "เสียเวลากลับไปแค่หนึ่งวันเท่านั้นเอง คุณอยากให้เป็นแบบนี้ต่อไปเหรอ อีกอย่างคุณตอบรับอาสะใภ้ของคุณไปแล้วด้วย ขืนไม่กลับไปอีก อยากให้เธอบุกมาฆ่าคุณที่หน้าประตูด้วยตนเองหรือไง"

เหงื่อไหลอาบทั่วร่างของเย่หนิง

ใช่ เธอไม่อยาก!

ขืนรอให้อาสะใภ้บุกมาฆ่าถึงหน้าประตู คาดว่าจะเป็นความตายที่น่าสังเวชยิ่งกว่า

หลังจากที่เหงื่อท่วมร่างแล้ว เย่หนิงก็พูดอย่างอ่อนแรงว่า "หรือว่าต้องกลับไป"

เมื่อเห็นท่าทางอยากตายของเย่หนิงเช่นนี้ เสิ่นอี้ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกตลก "พอแล้ว อย่ากลุ้มใจไปเลยเลย! ไม่ใช่ว่ามีผมอยู่เหรอครับ ผมจะพาคุณกลับไปเอง จะมีอะไรจะยุ่งยากกันล่ะ คุณให้ผมเป็นคนรับมือเองก็พอแล้ว คุณไม่ต้องเป็นห่วงไป ป้าๆ อาๆ มีช่วงเวลาไหนบ้างที่ผมไม่เคยเผชิญ ทำไมต้องกลัวผู้หญิงไม่กี่คนด้วย"

เย่หนิงมองเสิ่นอี้อย่างลึกซึ้ง "คุณไม่รู้เหรอว่าพลังในการทำลายล้างของผู้หญิงวัยกลางคนมีมากขนาดไหน"

เสิ่นอี้ฉีกยิ้ม "แล้วปีศาจเฒ่าเก่งกาจที่มีอายุพันปีล่ะ"

"ปีศาจเฒ่าพันปีเหรอ ในที่สุดก็ยอมรับสักทีว่าคุณเป็นปีศาจเฒ่าพันปี"

เสิ่นอี้...

หลังจากที่นิ่งเงียบไปชั่วขณะ เขาลอบถอนหายใจ "ผมบอกเหรอว่าผมเป็นปีศาจเฒ่าพันปี ผมเป็นผีดิบ ผมกับปีศาจเฒ่ามีความเกี่ยวข้องอะไรกัน ผมบอกว่าเป็นปีศาจเฒ่าพันปีก็เป็นปีศาจเฒ่าพันปีจริงๆ งั้นเหรอ"

"เป็นไปไม่ได้" เดิมทีแล้วเย่หนิงไม่อยากเชื่อเลย! 

"เป็นไปไม่ได้ได้ยังไง" 

"เป็นปีศาจเฒ่าพันปีตรงไหน" 

"บำเพ็ญตบะไง!"

"ปีศาจยังมีอยู่จริงใช่ไหม"

เสิ่นอี้มองเย่หนิงแวบหนึ่ง "มีผีดิบ แล้วจะไม่มีปีศาจได้ยังไง" 

เย่หนิงไม่พูด...เรื่องนี้ ยังไม่ใช่เรื่องที่สมควรพูดจริงๆ 

ถ้าเปลี่ยนเป็นก่อนหน้านี้ มีคนมาพูดเรื่องเหล่านี้กับเธอ เธอต้องรู้สึกว่าคนคนนั้นป่วยอย่างแน่นอน และคงต้องพาไปตรวจที่โรงพยาบาลประสาท แต่ตอนนี้ผีดิบที่มีอายุพันปีคนนี้กลับอยู่ตรงหน้าเธอ แล้วจะให้เธอพูดอะไรล่ะ

ความจริงอยู่เหนือกว่าคำพูด! 

ความจริงที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า ทำไมถึงทำให้หมดแรงจะวิเคราะห์ 

เย่หนิงนิ่งเงียบไม่พูดอะไร แสดงท่าทางว่าไม่เคยพูดถึงผีดิบตนนี้

อีกอย่าง...ปีศาจเฒ่าพันปี...

เขามีชีวิตอยู่ตั้งพันกว่าปี แทบจะไม่เคยสนใจใยดีคนอื่น...

เย่หนิงไม่พูดอะไรอีก 

ทว่าโครงการพรุ่งนี้ดูแล้วไม่มีวิธีที่จะเปลี่ยนได้เลยจริงๆ เธอหนีมาตั้งนานขนาดนี้ ไม่กลับไปอีก อาจเป็นไปได้อาสะใภ้ของเธออาจบุกมาฆ่าเธอจริงๆ ถ้าเธอถูกอาสะใภ้รัดคอที่สถานีตำรวจ จะเกิดความวุ่นวายขนาดไหนนะ เช่นนั้นเธอคงต้องหลบอยู่ในหอพัก แล้วไม่ออกไปเจอคนอื่นๆ อีกเลย! อับอายขายขี้หน้า จนต้องหลบอยู่แต่ในบ้านนั่นเอง 

เช้าวันที่สองของวันถัดมา เสิ่นอี้ขับรถพาเธอกลับไปด้วยตนเอง

ถึงแม้ว่าเสิ่นอี้จะพากลับไป แต่พอคิดถึงว่าพอกลับถึงบ้านแล้วต้องไปเจอป้าๆ อาๆ เหล่านั้นแล้ว เย่หนิงยังคงเซื่องซึมและไม่กระตือรือร้น เห็นเย่หนิงเป็นอย่างนี้ เสิ่นอี้รู้สึกปวดใจจริงๆ เขายิ้มแล้วพูดว่า "ลำบากใจขนาดนั้นเลยเหรอ"

"ใช่สิ! พวกเธอบ่นฉันมาตั้งแต่เล็กจนโต ก็เหมือนกับสวดมนต์นั่นแหละ ลำบากชะมัดเลย!" คิดถึงจุดนี้ ศีรษะของเย่หนิงรู้สึกปวดขึ้นมา 

"วางใจเถอะ ครั้งนี้ไม่ใช่ว่ามีผมเหรอครับ" เสิ่นอี้พูดปลอบ "ผมบอกแล้วไงว่าจะช่วยคุณรับมือ กลัวอะไร เรื่องง่ายขนาดนี้ ผมจะรับมือไม่ได้เลยหรือไงครับ" 

"อือ อือ ค่ะ ค่ะ..." เย่หนิงไม่ยกมาพูดให้กลัดกลุ้มใจมากกว่าเดิม

"ใช่ เลิกเศร้าได้แล้วครับ กลับไปแต่ละครั้งยากแสนยาก ไม่มีความสุขหน่อยล่ะครับ"

"ได้ค่ะ ได้..." ประโยคนี้ ยังไม่สามารถทำให้เธอมีความสุขได้

ไม่ไกลจากเมืองมากนัก ถึงแม้ว่าถนนนี้จะขรุขระ แต่ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงก็ถึงแล้ว เมื่อมองเห็นสถานที่คุ้นเคยนี้ เย่หนิงก็หน้าซีดอีกครั้ง 'ทำไมเธอถึงได้กลัวอาสะใภ้ขนาดนี้นะ' 

เหมือนกับชนเข้ากับกระจกเลย 

"ถึงแล้วยังครับ" เสิ่นอี้ถามเย่หนิง 

ความจริงเย่หนิงอยู่ที่ไหนนั้น เขาเองก็รู้มาก่อนหน้านี้แล้ว

คาดไม่ถึงว่าครั้งนี้เย่หนิงจะไม่เลอะเลือน เธอส่งเสียงเหอะ "คุณไม่รู้หรือไง" 

เสิ่นอี้ฉีกยิ้มอย่างอึดอัด "ได้ครับ พอถึงปากทาง ผมจะหยุดให้คุณลงไปก่อน ส่วนผมจะไปหาที่จอดรถข้างหน้า" 

ข้างหน้าเป็นถนนเก่า ถนนแคบมากๆ แล้วสองข้างทางต่างก็มีคนตั้งแผงขายของขนาดเล็ก รถคันนี้ของเขาคงขับเข้าไปไม่ได้จริงๆ 

ที่นี่เป็นเมืองเล็กๆ ทุกคนต่างรู้จักมักจีกันไปหมด ยิ่งอยู่ใกล้ก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย เย่หนิงแค่เดินเข้าไป ผู้คนรอบๆ ต่างทักทายเธออย่างพร้อมเพรียง "เสี่ยวเย่กลับมาแล้วเหรอ" 

"เสี่ยวเย่ลาพักเหรอ" 

"เสี่ยวเย่ ได้ยินมาว่าอาสะใภ้ของเธอหาด็อกเตอร์ให้เธอ ไม่เลวเลยนะ!"

"ใช่ ใช่ หรือว่าเป็นไฮ่กุ่ย ก็ไม่เลวเลย!"

เย่หนิงหน้าดำคร่ำเคร่ง จะไม่พ้นเรื่องนี้เลยใช่ไหม อาสะใภ้ของเธอคงพูดมั่วซั่วไปทั่วเลยสินะ อย่างนี้คนทั้งเมืองคนไม่ได้รู้กันหมดแล้วหรอกนะว่าเธอกลับมาดูตัว!

เพราะอย่างนี้ไง! เธอถึงไม่อยากกลับมา! 

รู้สึกเหมือนให้คนอื่นมองเธอเล่นละครลิงเลย ทั้งสองฝั่งเอาแต่ถามเรื่องดูตัวของเธอ

อึดอัดจริงๆ เลย ยังจะเต่าตนุ (ไฮ่กุ่ยแปลว่า เต่าตนุ) หรือว่าดอกเตอร์อะไรนั่นอีก ดอกเตอร์เต่านั้นมีอะไรไปสู้ผีดิบได้ ในเมื่อมีผีดิบที่เก่งกาจขนาดนั้นอยู่แล้ว

เย่หนิงอยากพูดสบถออกมาจริงๆ แต่ยังฝืนยิ้ม และพูดอย่างฝืนใจมากๆ ว่า "ใช่ ใช่ ใช่..." 

กำจัดเพื่อนบ้านพวกนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆ กลับบ้าน ได้ เอาให้จบเห่กันไปเลย!

เพิ่งเดินเข้ามาถึงประตูหน้าบ้านก็ได้ยินเสียงดังมาจากข้างใน ไม่ต้องมีเสียงพูดดังของอาสะใภ้ เสียงพูดดังของคนอื่น ทำให้เธอต้องพ่ายแพ้ต่ออาสะใภ้ไปเลย......

เย่หนิงลูบหน้าผาก!

ต้องทำถึงขนาดนี้เลยเหรอ 

หาคนกลุ่มใหญ่มาพูดเหตุผลอะไรกับเธองั้นเหรอ

คิดแล้วก็ปวดหัว จนอยากไสหัวออกไปเลยจริงๆ!

น่าเสียดายเธอยังช้าไปหนึ่งก้าว อาใหญ่ที่อยู่บ้านหลังถัดไป มองเห็นเธอจากทางหน้าต่าง

พออาใหญ่เห็นเธอ ก็รีบทักทายอย่างอบอุ่นว่า "อาหนิง! อ๊าย อาห้า พวกเราอาหนิงกลับมาแล้ว!" 

พอกันที ครั้งนี้จะวิ่งหนีก็คงไม่ทันแล้วล่ะ เย่หนิงอยากร้องไห้แต่ก็ไม่มีน้ำตา ได้แค่ขนลุกเท่านั้น เธอฉีกยิ้ม แล้วพูดทักทายกับ อาๆ น้าๆ เหล่านั้น "ค่ะ หนูกลับมาแล้ว! ฮาฮา..." 

"เด็กน้อย เธอกลับมาจริงๆ ด้วย!" เมื่ออาสะใภ้เห็นเธอ แน่นอนว่าก็ยังต้องให้โอวาทต่อไป "ครั้งนี้อาต้องพูดกับเธอกี่ครั้งกันถึงจะยอมกลับมา! วันๆ ก็รู้แค่เรื่องงาน อาบอกแล้วไงว่างานของเธอ ทั้งลำบากและไม่ได้เงิน จะทำอีกทำไม! เด็กสาวของตระกูลต้องทำเรื่องที่ควรทำ! เธอกลับไปครั้งนี้ ก็ลาออกจากงานไปเลยสิ!" 

มันมาอีกแล้ว! รู้หรอกน่า! 

เย่หนิงปวดหัวยิ่งกว่าเดิม "อาคะ อาไม่ต้องพูดแล้ว หนูไม่มีทางเปลี่ยนงานหรอกค่ะ" 

"ไม่เปลี่ยนก็ต้องเปลี่ยน!" อาสะใภ้หงุดหงิด "ไม่ได้ หลังจากที่แต่งงานไปแล้ว ยังจะทำงานนี้อีกเหรอ ใครจะรับเธอได้! เธอบอกว่าวันๆ ได้คุยแต่กับศพพวกนั้น ไม่กลับบ้านสามวันสามคืน โทรศัพท์ไป ดึกๆ ดื่นๆ ก็ออกไปข้างนอก ผู้ชายที่ไหนบ้างจะรับได้ เป็นเธอ เธอรับได้ไหมล่ะ" 

"ใช่ๆ!" คุณผู้หญิงทั้งหลายที่อยู่ข้างๆ ต่างก็พูดโน้มน้าว" เสี่ยวเย่ งานของเธอ ความจริงก็ไม่ได้ดีเด่อะไร ถือโอกาสตอนที่ยังสาวรีบลาออก เปลี่ยนหางานที่ดีขึ้นมาหน่อย ไม่อย่างงั้นถ้าเธอยังทำอาชีพนี้จะหาแฟนได้ยากนา อยากจะแนะนำเธอ ทุกคนพอได้ยินอาชีพของเธอต่างตกใจกันทั้งนั้น! เธอบอกว่าเธอทำงานราชการไม่ใช่หรอ งานที่ทำอยู่นี้ทั้งลำบากและสกปรก ผู้หญิงตัวเล็กๆ ทำงานอย่างนี้ได้ยังไงกันล่ะ"

เย่หนิงรับไม่ได้แล้วจริงๆ เธอรีบพูดสวนขึ้นมาว่า "อาสะใภ้ค่ะ พวกอาไม่ต้องมากระวนกระวายใจแทนหนูหรอกค่ะ หนูมีแฟนแล้ว!" 

อาสะใภ้จ้องเธอ "ตอนบอกเธอว่าจะนัดวันดูตัว เธอก็บอกว่ามีแฟนแล้ว แฟน ไหนล่ะ ถ้ามีก็พากลับมาให้พวกฉันดูสิ!"