webnovel

ตอนที่ 173

ตอนที่ 173 ผมเป็นแค่ผีดิบตัวเล็กๆ

หลายพันปีของการเปลี่ยนแปลง!

โลกขับเคลื่อนไป 

และ้วก็ไม่รู้ด้วยว่ามีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายขนาดไหน อำนาจของรัฐบาลสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป 

โลก ก็ไม่ได้เป็นโลกในครั้งอดีต แต่สำหรับราชาผีดิบพันปีที่ถูกขังอยู่ในหลุมศพนานนับปี นี่้กลับเป็นแค่เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวาน มีแค่เรื่องที่เกิดขึ้นก่อนเขาตายเท่านั้น พันปีก่อน สำหรับเขาแล้ว เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นแค่วันเดียวเท่านั้น  

เขาคิดว่า โลกนี้ หรือโลกของเขา เขาอยากเอาคืนสิ่งที่เป็นของเขากลับมาทั้งหมด

คนของเขา แน่นอนว่าก็เคยพูดโน้มน้าวเขาเช่นกัน 

จริงอยู่ สำหรับพวกเขาหลายคน ตอนเริ่มต้น ต้องมีความคิดนี้อย่างแน่นอน  ลบล้างระบบการปกครองปัจจุบัน อุ้มชูท่านอ๋องของพวกเขาให้ขึ้นตำแหน่งฮ่องเต้ พวกเขาไม่ใช่ว่าจะไม่เคยมีความคิดนี้  

ฮ่องเต้ไม่พอใจท่านอ๋อง ตอนที่ถูกเนรเทศไปเขตชายแดน ก็มีคนไม่น้อยโน้มน้าวท่านอ๋องแล้ว โน้มน้าวให้ก่อกบฏ!

ครานั้นท่านอ๋องเองก็เป็นคนที่มีเกียรติภูมิในราชวงศ์เป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีชื่อเสียงที่ดีในหมู่ประชาชน ลูกน้องของเขาล้วนนับถือ พวกเขาไม่สามารถมองกษัตริย์ที่เขาเทิดทูบูชามาก ได้รับความไม่เป็นธรรมเช่นนี้ และหวังให้ท่านอ๋อง กลับมามีอำนาจอีกครั้ง

ครานั้นท่านอ๋องไม่ได้ทำเช่นนั้น เขาไม่ได้เป็นแค่องค์ชาย แต่เป็นบุตรชาย ดังนั้นเขาเลยไม่ฝ่าฝืนคำสั่งของเสด็จพ่อ เขาแค่หวังว่า สักวันท่านพ่อของเขาจะเข้าใจ เพียงแต่น่าเสียดาย รอจนสุดท้าย เมื่อฮ่องเต้องค์ก่อนสิ้นพระชนม์ ท่านอ๋องยังไม่ได้ราชโองการของเขา 

กระทั่งฮ่องเต้คนใหม่ ท่านอ๋องก็ยังถูกใส่ร้ายจนตาย ทั้งยังมีขุนนางเก่าแก่ และ ลูกน้องไม่น้อย ไม่อาจหลีกหนีความตายไปได้ ตอนนั้น พวกเขาเองก็เคยคิดอยากก่อกบฏ!  

รอจนหาท่านอ๋องเจอแล้ว...

ตอนนั้นคนส่วนใหญ่ต่างก็คิดกันเช่นนี้ พวกเขามักคิดกันอยู่เสมอว่าท่านอ๋องยังไม่ตาย รอให้หาท่านอ๋องเจอแล้ว พวกเขาก็จะต่อต้านฮ่องเต้ เอาตำแหน่งฮ่องเต้คืนมา เอาสิ่งที่เป็นของท่านอ๋องของพวกเขาคืนกลับมาทั้งหมด  

แต่ความคิดเหล่านี้  เมื่อผ่านไปนานวันเข้า ก็ค่อยๆ จางหายไป

องค์จักรพรรดิไม่ใช่องค์จักรพรรดิคนนี้อีกต่อไปแล้ว ยุคสมัยเองก็ไม่ใช่ยุคสมัยนี้แล้ว พวกเขาไม่สามารถย้อนกลับไปอีกได้แล้ว

ตอนนี้สิ่งที่พวกเขาคิด มีแค่ตามหาท่านอ๋องของพวกเขา ช่วยท่านอ๋องของพวกเขาออกมา แล้วก็ไม่ได้คิดถึงตำแหน่งฮ่องเต้ต่อไปแล้ว เรื่องทางโลก พวกเขาต่างก็ปล่อยวางได้แล้ว นั่้นเป็นเพราะพวกเขามีชีวิตมาพันกว่าปี เคยเห็นการเปลี่ยนแปลงมากมาย อำนาจรัฐบาลสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป ดังนั้นถึงได้เข้าใจว่าตอนนี้ไม่เหมือนในอดีต และพวกเขาย้อนกลับไปในอดีตไม่ได้แล้ว แต่ท่านอ๋องไม่เข้าใจ 

เขาไม่มีประสบการณ์อะไรเลย แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าโลกนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปมากขนาดไหน เขาจำได้แค่ว่าฮ่องเต้ประทานเหล้าอาบยาพิษให้กับเขา จำได้แค่ค่ายกลอำมหิต แค่จำได้ว่าถูกผนึกเอาไว้ กระทั่งตายไปแล้วก็ไม่ปล่อยให้ไปผุดไปเกิด ติดอยู่เช่นนี้ชั่วกาลนาน ถ้าไม่ใช่เพราะลูกน้องเหล่านั้นของเขาออกตามหาเขา แล้วช่วยเขาออกมา ยังไม่รู้ว่าเขาจะต้องติดไปอีกนานแค่ไหน!

เขาเต็มไปด้วยความเกลียดชังและความโกรธแค้น คิดอยากแก้แค้น ถึงแม้ว่าลูกน้องของเขาจะพูดโน้มน้าวเขาแล้ว แต่ก็เปลี่ยนการตัดสินใจของเขาไม่ได้ ยังอยากจะแก้แค้น 

คนของท่านอ๋อง ชีวิตก่อนหน้านี้ก็ติดตามเขาอยู่แล้ว หลังจากตายก็เหมือนกันเฝ้าตามหาราชาของพวกเขา ถึงแม้ว่าคนจำนวนมากจะไม่เห็นด้วยกับการแก้แค้นของท่านอ๋อง แต่ท้ายที่สุดก็ไม่พูดอะไร และร่วมคิดแผนแก้แค้นกับท่านอ๋องของเขา

เย่หนิงได้ยินพลางขมวดคิ้ว " ถึงแม้ ฉันจะเห็นด้วย กับท่านอ๋องคนนั้น แต่ผ่านมาตั้งพันปีแล้ว ทำไมเขายังคิดที่จะแก้แค้นอีก เขาจะแก้แค้นใคร ปีนั้นฮ่องเต้ที่ใส่ร้ายเขาตาย ขุนนางกังฉิน*[footnoteRef:1] คนเหล่านั้นก็ตายกันไปหมดแล้ว เขายังไม่คิดจะปล่อยวางอีกเหรอ "   [1: ขุนนางที่โกงกินบ้านเมือง]

" ใช่ครับ!" เสิ่นอี้กล่าวเสียงเรียบ " ถ้าเขาปล่อยวางได้ก็ดี ไม่อย่างงั้นหลังจากนั้นคงไม่เกิดเรื่องมากมายขนาดนี้หรอก!"

ปีนั้นสี่ขุนศึกที่อยู่ข้างกายของท่านอ๋อง ล้วนไม่อยู่แล้ว ก่อนหน้านี้มีสองคนเสียในสนามรบ บุตรชายของพวกเขาถูกเลี้ยงดูฟูมฟักโดยท่านอ๋อง โดยธรรมชาติแล้วเลยมีความจงรักถักดีต่อท่านอ๋องเป็นอย่างมาก เต็มใจออกตามหาท่านอ๋อง ส่วนอีกสองคน...

อีกสองคนติดตามท่านอ๋องมานานมาก ตอนนั้นตอนที่ท่านอ๋องกลับมาที่เมืองหลวง ฮ่องเต้รับสั่งให้ท่านอ๋องเข้าไปที่พระราชวังเพียงคนเดียว พวกเขารู้ว่าไม่ดีแน่ จึงบุกไปช่วยท่านอ๋องออกมา สุดท้ายก็ถูกลูกศรปลิดชีพ

ทั้งสี่คนเป็นคนที่จงรักภักดีกับท่านอ๋องที่สุด สี่ขุนศึกนั้นอยู่กับท่านอ๋องมานานมาก และทั้งหมดล้วนตายหมดแล้ว ความจริงหลังจากที่บุคคลรุ่นหลังกล่าวถึงสี่ขุนศึก แท้จริงแล้วยังมีอีกสี่คน ซึ่งก็คือลูกหลานของสี่ขุนศึก สองคนแรก ท่านอ๋องเป็นผู้เลี้ยงดูจนเติบใหญ่ แล้วเป็นขุนนางในวังมาโดยตลอด ส่วนอีกสองคนหลังจากที่บิดาของเขาถูกฆ่า พวกเขาถูกไล่ตามฆ่าอยู่สิบกว่าปี ฮ่องเต้ก็ไม่ยอมปล่อยเขา กล่าวว่าพวกเขาเป็นกากเดน ยิ่งต้องตามฆ่าให้หมด 20 กว่าปีที่ฮ่องเต้ขึ้นครองราชย์ เอาแต่ตามฆ่าคนของท่านอ๋องไม่หยุด หลังจากที่ฮ่องเต้คนนี้สิ้นพระชนม์ และฮ่องเต้คนใหม่ได้ขึ้นครองราชย์ ผ่านไปตั้งหลายปี พวกเขาก็ได้รับความสงบเสียที

พวกเขากลับมาเป็นผู้บริสุทธิ์อีกครั้ง กลับมามีอิสระ ไม่ต้องคอยหลบๆ ซ่อนๆ ไปทั่วทุกหนแห่งอีกต่อไป แต่ ยี่สิบกว่าปีมานี้ มีคนจำนวนมากไม่สามารถหลบหนีการตามฆ่าได้ ยิ่งถูกตามฆ่า ความตายเปลี่ยนพวกเขาเป็นผีดิบ ที่นับวันยิ่งมีมากขึ้น

เพราะพวกเขาถูกใส่ร้ายจนต้องตาย ต้องกลั้นใจตายอย่างไม่สมัครใจ! 

หลังจากที่ตายไม่นานก็กลับมามีชีวิต ผ่านไปหลายสิบปี กระทั่้งพันปี และนานยิ่งกว่านั้น

แต่หลังจากที่ผ่านมาหลายพันปีแล้ว พวกเขาเดินทางไปทั่วประเทศ ถึงอย่างไรก็ได้พบกันบ้าง รู้ว่าเป็นข้าราชบริพารเก่าของท่านอ๋อง จึงค่อยๆ รวมกลุ่ม ออกตามหาท่านอ๋องของพวกเขาด้วยกัน

ทว่าตอนนี้...

เสิ่นอี้ลอบถอนหายใจ กระทั่งตอนนี้ เขาเองก็ยังไม่รู้ ว่าตอนแรกที่พยายามปล่อยคนคนนั้นออกมา มันถูกหรือผิดกันแน่!

ยังมีครั้งนี้...

ครั้งนี้ บางทีพวกเขาหาโอกาสที่ดีที่สุด! เร็วที่สุด แล้วก็พบโอกาสนี้! 

พวกเขาจะช่วยคนคนนั้นออกมาอีกครั้ง แล้วหลังจากนั้นล่ะ

เขาจะละทิ้งปณิธานของเขางั้นเหรอ

เขาจะยอมวางมือเหรอ

เขาจะยอมหยุดเหรอ

กลัวว่า...นั้นจะไม่ง่ายเลย

คิดถึงตรงนี้ เสิ่นอี้ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกจนปัญญา

ทว่าเรื่องนี้ เขาต้องทำมัน ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นลูกน้องดั้งเดิมของคนคนนั้น ทว่าเป็นเพราะติดค้างหนี้น้ำใจของมนุษย์มหาศาล แล้วก็ไม่อยากทำเรื่องที่เขาไม่อยากทำอีกแล้ว  

ใจของเขาไม่อยู่กับเนื้อกับตัว มือเล่นเส้นผมของเย่หนิง

เย่หนิงไม่สังเกตเห็นสีหน้าแปลกๆ ของเขาเลยสักนิด เธอก็จับเส้นผมยาวของเขาเช่นเดียวกันบ เส้นผมเย็นสนุกมือชะมัดเลย เธอพลางถามขึ้นว่า " ราชาผีดิบคนนี้ เก่งกาจมากขนาดไหนเหรอ"

" เก่งกาจสิครับ! แน่นอนว่าต้องเก่งกาจมากอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นคงเป็นราชาผีดิบไม่ได้หรอก"

" เขาเก่งกว่าคุณอีกเหรอ" 

" ผมเก่งตรงไหน ผมเป็นแค่ผีดิบตัวเล็กๆ เท่านั้น..." เสิ่นอี้เจียมเนื้อเจียมตัวมากๆ เจียมเนื้อเจียมตัวมากจนทำให้เธอหมั่นไส้

" อืม...พวกเฝิ่งเยี่ยนฮวายบอกว่า ทีแรกเพื่อจะปราบราชาผีดิบ ตระกูลนักล่าผีดิบ ก็ต้องจ่ายอย่างมหาศาล ! อืม...พวกเขาเองก็ยังกังวลมากๆ เพราะพวกเขาบอกว่า ตอนนั้นเพื่อผนึกราชาผีดิบ ทั้งสี่ตระกูลใหญ่ต้องร่วมมือกันถึงจะทำสำเร็จ แต่กำลังของผนึก นานวันก็ยิ่งอ่อนแรง คิดจะเพิ่มพลังของผนึก ก็ต้องเกิดจากการร่วมมือกันของสี่ตระกูลใหญ่อีก แต่ตอนนี้ คนจากสี่ตระกูลใหญ่หายสาบสูญกันไปหมดแล้ว !"  

เย่หนิงอดเป็นกังวลขึ้นมาไม่ได้