webnovel

ตอนที่ 161

ตอนที่ 161 ฝูงผีดิบ 

เสียงนั้น ยิ่งอยู่ก็ยิ่งเข้ามาใกล้ 

ไม่ใช่ภาพลวงตา! 

มีอะไรเข้ามาใกล้จริงๆ! 

เย่หนิงขนลุก เธอกัดฟัน ในที่สุดก็ตัดสินใจเด็ดขาด หันกลับไปมองอย่างรวดเร็ว ไม่มองก็ดีอยู่แล้ว พอมองทำเอาเธอก็ตกใจจนเข่าแทบทรุด!

เงาดำมืดสนิท อันแล้วอันเล่า ที่กำลังเคลื่อนเข้าหาเธอคืออะไร

ของนั้น เคลื่อนไหวเชื่องช้า จังหวะการก้าวดูแล้วแข็งทื่อ!

แข็งทื่องั้นเหรอ 

ความคิดประหลาดแวบเข้ามาในหัวสมองของเย่หนิงอย่างรวดเร็ว! 

นี่คงไม่ใช่ผีดิบหรอกนะ 

ขณะที่เธอกำลังคิด ทันใดนั้นหลุมฝังศพที่อยู่ไม่ไกลปรากฏเสียงดังแว่วมา เย่หนิงสะดุ้งตกใจ หันไปมอง ขณะนั้นดวงตาก็เบิกโพรงอย่างตกใจ!

นี่......

มีอะไรปีนออกมาจากหลุมศพ......

วิ่ง! 

เย่หนิงไม่มีเวลามาคิดว่าเป็นอะไรกันแน่!

วิ่ง!

หันหลังแล้ววิ่ง! 

เธอตกใจจนขาอ่อนยวบจริงๆ! 

ฉากนี้ เหมือนกับเห็นในฉากหนังสยองขวัญเลยจริงๆ!

ทำไมน่ากลัวมากขนาดนี้! 

ถ้าให้เธอพูด ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสิ่งที่เธอพบเจอเร็วๆ นี้ทั้งนั้น!

นี่เป็นเทศกาลแห่งการฟื้นคืนชีพของผีดิบใช่ไหม 

ทำไมถึงมาเจอผีดิบได้นะ!

โชคร้ายชะมัดเลย! 

ถึงแม้ว่าเย่หนิงจะสบถมาตลอดทาง แต่นั่นก็เป็นเพียงการให้กำลังใจตนเอง คิดเรียกสติของตนเอง ไม่ให้กลัวจนเกินไป ไม่อย่างงั้นคงตกใจตายไปแล้วจริงๆ 

สิ่งนี้ ดูแล้วเคลื่อนไหวได้ช้ามาก แต่มีจำนวนมาก ด้านหลังมีตามมา หลุมศพหน้าหลังซ้ายขวาล้วนแต่ปีนขึ้นมาหลายตัว มีอยู่ตัวสองตัวกำลังไล่ตามเธอมา 

เย่หนิงทนไม่ไหว ตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ! 

ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าเหมือนจะไม่มีประโยชน์ ยิ่งส่งเสียงลำคอก็แทบจะทนรับไม่ไหว

เย่หนิงตะโกนขอความช่วยเหลือไปพลางแล้วก็วิ่งไปพลาง 

ข้างหลังของเธอยิ่งอยู่จำนวนผีดิบก็ยิ่งมีเพิ่มมากขึ้น

ทุกทุกนาทีพร้อมจะถูกทำให้ล้มลงได้ตลอดเวลา!

เย่หนิงคิดว่าตนเองใกล้จะวิ่งต่อไปไม่ไหวแล้ว

เกือบจะในเวลานี้ ด้านหน้ามีบางสิ่งปรากฏแวบเข้ามา คล้ายกับเงาสีขาว เส้นประสาทของเย่หนิงขดเกร็ง ทันใดนั้นของสิ่งนี้ก็ปรากฏออกมา ทั่วทั้งร่างสะดุ้งโหยง แหกปากร้องเสียงดัง ไม่ทันระวังไม่รู้ว่าของเธอไปสะดุดเข้ากับอะไร เกิดเสียงตุบ แล้วเธอก็ล้มลงไป เจ็บชะมัดเลย!

"โอ้ยๆ......" เย่หนิงรู้สึกว่าตนเองปีนขึ้นมาไม่ได้ อุตส่าห์วิ่งเหนื่อยแทบตาย แต่ผลที่ได้กลับล้ม รู้สึกเหมือนกับว่ากระดูกกำลังจะแตกหัก เจ็บชะมัด!

หลังจากนั้น ก็เห็นเงาสีขาวนั้น ปรากฏตรงหน้าของเธอ

นั่นเป็นชุดสีขาว ที่ขาวเหมือนหิมะ

ในค่ำคืนที่มืดสนิทเช่นนี้ จึงมองเห็นชุดสีขาวนั้นได้ชัดเจน เธอยังคงตกตะลึง คนนั้นๆ ประคองตัวเธอขึ้นมา เขาไม่ได้พูดอะไร ก็ประคองเธอขึ้นมาแล้ว หลังจากนั้นก็โอบร่างเธอให้มายืนข้างเขา

แสงสว่างเลือนราง บวกกับที่รู้สึกมึนหัวจนตาลาย เย่หนิงก็เลยมองเห็นหน้าของคนคนนั้นไม่ชัด แค่ได้กลิ่นหอมบางเบา กลิ่นนั่นเหมือนกับของกลิ่นต้นไม้หลังฝนตก กลิ่นหอมจางๆ ที่ทำให้รู้สึกสบายเป็นอย่างมาก

เธอลูบมือที่เจ็บของเธอ เหลือบมองคนคนนั้น แล้วอดที่จะตกใจไม่ได้ 

......ดูจากสัดส่วนแล้ว คงจะเป็นผู้ชาย 

ร่างสูงโปร่ง ผมตรงยาวถึงเอวที่ปลิวไสวไปตามสายลมยามค่ำคืน พูดไม่ออกเลยว่าช่างดูสง่าผ่าเผยมากขนาดไหน

ดูดีมากจริงๆ 

เวลานี้ สิ่งแรกที่ปรากฏเข้ามาในหัวสมองของเธอ คาดไม่ถึงว่าจะเป็นความคิดนี้

และแล้ว ความคิดที่สองก็ปรากฏออกมา ทำไมเธอเหมือนจะรู้สึกว่า...รู้สึกว่าคนคนนี้ เป็นคนที่เธอรู้จัก......

ความคิดนี้ปรากฏออกมา เธอรู้สึกแปลกๆ ทำไมเธอถึงได้รู้จักคนคนนี้ได้นะ 

ไม่ถูกสิ! 

คนคนนี้ออกมาจากที่ไหนกัน! 

เธอร้องขอความช่วยเหลือไปมั่วซั่วเท่านั้น ทั้งหมดเป็นแค่ปฏิกิริยาตอบโต้ เดิมทีแล้วไม่คิดว่าจะมีคนออกมาช่วยจริงๆ เสียด้วยซ้ำ

ผีดิบพวกนั้นยิ่งอยู่ก็ยิ่งวิ่งเข้ามาใกล้ และยังล้อมรอบไปทั่วสารทิศ

เธอหวาดกลัวเล็กน้อย เลยหลบเข้าด้านข้างโดยไม่รู้ตัว เขาเองก็เหมือนจะรู้สึกได้ ก็เลยใช้มือบังร่างของเธอเอาไว้

เมื่อมือของเขาโดนที่ไหล่ของเธอ ปรากฏว่าผิวนั่น เย็นเยียบ จนเธอต้องสะดุ้งโหยง 

เย็นชะมัด!

มือของเขาเย็นมากเลย!

กระทั่งตอนที่เข้าใกล้ ก็รู้สึกได้ถึงไอเย็นที่แผ่ซ่านออกมาจากร่างของเขา

คล้ายกับว่าคนที่อยู่ข้างๆ เธอไม่ใช่คน แต่เป็นน้ำแข็งแกะสลักขนาดใหญ่ 

น้ำแข็งแกะสลักงั้นเหรอ

เสียงนั้นดังก้องอยู่ในหัวของเย่หนิง ทันใดนั้นจู่ๆ เธอก็เข้าใจว่าทำไมถึงได้รู้สึกคุ้นเคยกับคนคนนี้มากๆ 

ใช่แล้ว เมื่อหลายเดือนก่อน ตอนที่เธอและลู่เว่ยขับรถกลับมาที่เมืองตงไห่ ตอนที่ผ่านไปที่สุสาน เธอไม่ได้บังเอิญชนใครเข้าใช่ไหม

ชายหนุ่มสวมชุดคลุมสีขาวยาว ผมยาวถึงเอว จากนั้นเกิดอะไรขึ้นอีก เธอจำได้แม่นเลยล่ะ แต่น่าแปลก เรื่องพวกนี้คาดไม่ถึงว่าจะมีแค่เธอเท่านั้นที่จำได้ ตอนนั้นเธออยู่กับลู่เว่ย แต่เขากลับจำอะไรไม่ได้เลย หลังจากนั้นมา เธอเลยสงสัยว่าตนเองนั้นฝันไปหรือเปล่า

แต่ตอนนี้ ชายหนุ่มในชุดขาวผู้นี้ กลับมาปรากฏตัวตรงหน้าเธออีกครั้ง...

นี่...นี่หรือว่าจะฝันไปอีกแล้ว

เสียงวิ้งวิ้งดังอยู่ภายในสมองของเย่หนิง เดิมทีแล้วตรงหน้าเกิดเรื่องอะไรขึ้น เธอนั้นไม่ได้สนใจเลย ภายในหัวสมองเต็มไปด้วยเรื่องที่เกิดเมื่อวันนั้น ชายหนุ่มชุดขาวคนนี้ เป็นใครกันแน่ 

เขาออกมาจากที่ไหนกัน

จู่ๆ ก็ปรากฏตัว แล้วจู่ๆ ก็หายไป 

สถานการณ์เช่นนี้คืออะไรกันแน่ 

เธออยากถามให้แน่ใจ อยากรีบถามเจ้าหมอนี้ให้แน่ชัด แต่ตอนนี้...เหมือนกับว่าจะไม่ใช่เวลาพูดคุยกัน......

คนคนนี้จัดการกับฝูงผีดิบอย่างครื้นเครง

แต่จำนวนของฝูงผีดิบมีมากขนาดนี้ เกินกำลังเหลือเกิน

เย่หนิงกังวลที่ไม่สามารถช่วยเหลือคนคนนั้นได้ แต่นอกจากกังวลแล้ว เธอเหมือนจะทำอะไรไม่ได้เลย เธอช่วยอะไรไม่ได้เลยสักนิดเดียว

จะทำยังไงดี 

ภายในใจของเย่หนิงทั้งร้อนรนและเป็นห่วง ทันใดนั้นคนคนนั้นก็หันศีรษะและช้อนร่างเธอพร้อมกับวิ่ง "ไป!"

ขาของเย่หนิงอ่อนแรง จวนจะล้มลงเต็มที คนคนนั้นไม่ทันเอ่ยอะไรต่อก็มัดมือชก ออกวิ่งไปอย่างรวดเร็ว 

ถ้าให้เย่หนิงพูด เร็วมากจริงๆ ! 

เหมือนกับบินเลย ต้นไม้เหล่านั้น ดังซวบซาบอยู่ข้างหลังของคนทั้งคู่ ระดับความเร็วเช่นนี้ทำให้เธออกสั่นขวัญแขวน กลัวว่าคนคนนั้นจะชนเข้ากับต้นไม้ แต่ปรากฏว่าไม่เลย ถึงแม้ว่าเขาจะวิ่งเร็ว แต่ความมืดที่โอบล้อมตัวเขาดูเหมือนจะไม่มีผลต่อสายตาของเขาเลย ไม่ใช่แค่ชนต้นไม้ กระทั่งเกี่ยวก็ไม่มีหวังจะได้เกี่ยวเสื้อผ้าของเขา

เย่หนิงตกใจจนพูดอะไรไม่ออก มองเขาอย่างโง่เขลาอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งเขาหยุด เย่หนิงจึงพบว่าพวกเขามาถึงถนนแล้ว

เขายังอุ้มเธอไม่ปล่อย

เย่หนิงเองก็ไม่คิดอยากให้เขาปล่อย เธอยังตกใจอยู่! 

พ้นออกมาจากป่ามืด ข้างถนนปรากฏแสงไฟเล็กน้อย เพราะปรับตัวกับความมืดนี้แล้ว เธอจึงมองเห็นได้ชัด เห็นใบหน้าของเขาได้อย่างชัดเจน

แต่ก็เป็นเพราะแบบนี้ ตรงกันข้ามเธอยิ่งตกใจมากขึ้น

นี่...นี่คือ...เสิ่นอี้ชัดๆ! 

พริบตานั้น ใบหน้าที่เหมือนกันอย่างกับแกะ ซ้อนทับกันอีกครั้ง