webnovel

ตอนที่ 156

ตอนที่ 156 ไม่มีหลักฐาน

เสิ่นอี้ไม่สนใจเลยสักนิดเดียว "คุณแน่ใจขนาดนั้นว่าเขาถูกใส่ร้าย แล้วคุณมีหลักฐานไหมล่ะ ยังจะมาพูดอีก คุณรู้ว่าฆาตกรเป็นใครงั้นเหรอ" 

"หลักฐานเหรอ" อ้ายหลุนสะดุ้งสุดตัว "หลักฐานทั้งหมดถูกตำรวจอย่างพวกคุณทำลายจนหมดแล้ว งั้นพวกเราจะเอาหลักฐานที่ไหนมาให้ได้ล่ะ ถ้ามีหลักฐาน! พวกเราจะต้องทำถึงขนาดนี้ไหม ถ้ามีหลักฐาน พวกเราคงฟ้องร้องไปตั้งนานแล้ว!"

"ไม่มีหลักฐานงั้นเหรอ" คำพูดของเสิ่นอี้แผ่วเบา "ไม่มีหลักฐาน...งั้นคุณเอาอะไรมาพูดว่าเขาถูกใส่ร้าย..."

จริงๆ แล้ว เสิ่นอี้ก็ผิดหวังมาก 

เขายังคิดว่าอ้ายหลุนจะเจอข้อมูลอะไรบ้าง ที่ไหนได้ ไม่มีเลย!

ไม่เจออะไรเลยสักนิด นั่นก็แค่การคาดเดาเท่านั้น! 

ถึงแม้พื้นฐานแล้วจะยืนยันได้ว่าอู๋เหวินคังถูกใส่ร้ายจริง แต่นั้นก็เป็นเรื่องที่ไม่มีหลักฐาน! 

ตอนนี้แฟ้มคดีที่เก็บเอาไว้ หลักฐานไม่พอ นี่คือจุดบกพร่องหนึ่ง และนั่นก็น่าเชื่อถือไม่พอ

เมื่อสิบห้าปีก่อน กลับกันเป็นตอนนี้ จุดบกพร่องเหล่านี้เพียงพอที่จะทำให้ถึงตายได้ หลักฐานไม่สมบูรณ์ ทนายความเองก็ยกประเด็นนี้มาพูด เดิมทีแล้วมันยากมากที่จะตัดสิน ถ้าปล่อยมาถึงตอนนี้ บางทีอู๋เหวินคังก็คงจะไม่ต้องตาย

แต่ตอนนี้คนก็ตายไปแล้ว หลักฐานก็ไม่มี อ้ายหลุนและพวกเขาคงจะไตร่ตรองถึงจุดๆ นี้ แล้วรู้ช่องโหว่ของคดี นี้ยังไม่เพียงพอที่จะเป็นประโยชน์ต่อพวกเขา พวกเขาจึงต้องใช้วิธีการที่รุนแรงยิ่งขึ้น

แต่ นั้นจะมีประโยชน์ได้ยังไงล่ะ

ในเมื่อยังไม่มีหลักฐาน! 

เสิ่นอี้หมดหวัง

"นี่มันโง่มากจริงๆ!" เสิ่นอี้ต่อว่าพวกเขาอย่างอดไม่ได้

อ้ายหลุนก้มศีรษะ ไม่พูดอะไร เขาก็อึดอัดใจพอๆ กัน!

คิดไม่ถึงว่าถึงจะเร่งลงมือ นอกจากจะพลิกคดีของอู๋เหวินคังไม่สำเร็จ ผลกลายเป็นว่าพวกเขาดันตกหลุมของตนเองเสียด้วย

"ไม่มีหลักฐาน แล้วพวกคุณจะยุ่งอะไรด้วย ก็แค่คิดกันไปเองเท่านั้น พวกคุณคิดว่าอู๋เหวินคังถูกใส่ร้าย โดยไม่มีหลักฐาน ก็ใช้วิธีการนี้มาพิสูจน์เหรอ พวกคุณเคยคิดบ้างไหม ถ้าอู๋เหวินคังจะรู้ เขาจะหวังให้พวกคุณใช้วิธีนี้มาเรียกร้องความเป็นธรรมให้เขางั้นเหรอ"

อ้ายหลุนเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว เขามองไปที่เสิ่นอี้ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า "อู๋เหวินคังถูกใส่ร้าย!" 

เสิ่นอี้จ้องอ้ายหลุนเขม็ง ในที่สุดก็พยักหน้า "ใช่ครับ เขาถูกใส่ร้าย!" 

ร่างของอ้ายหลุนสั่นไหวอย่างรุนแรง "คุณ...คุณเชื่องั้นเหรอ" 

เสิ่นอี้พูดอย่างไม่พอใจ "คุณคิดว่า พวกเราตรวจสอบอะไรไม่ได้เลยจริงๆ งั้นเหรอ"

อ้ายหลุนตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เขาเดินเข้าไปจับมือของเสิ่นอี้อย่างรวดเร็ว แล้วพูดว่า "คุณบอกว่า พวกคุณรู้แล้วใช่ไหม รู้แล้วใช่ไหมว่าคุณลุงอู๋ถูกใส่ร้าย พวกคุณมีหลักฐานงั้นเหรอ พวกคุณหาหลักฐานเจอแล้วใช่ไหม" 

เสิ่นอี้ดึงมือของอ้ายหลุนออกช้าๆ เขาส่ายหน้า "ไม่พบ!" 

ร่างของอ้ายหลุนแข็งทื่อ อยู่ตรงนั้นชั่วขณะหนึ่ง ใบหน้าบิดเบี้ยวเล็กน้อย "ไม่พบงั้นเหรอ" 

“ถูกต้อง! ไม่พบ!" เสิ่นอี้พยักหน้า 

"งั้น งั้นนี้มันเรื่องอะไรกัน!" น้ำเสียงของอ้ายหลุนเปลี่ยนไป "อะไรที่เรียกว่าไม่พบ หมายความว่าอะไร!"

“ก็คือตัวอักษรบนนั้น!” เสิ่นอี้มองอ้ายหลุน แล้วกล่าวเสียงเรียบว่า “แฟ้มคดีไม่ได้มีแค่ผมที่เคยเห็น พวกคุณเองก็เคยเห็น ถึงแม้ว่าจะมีปัญหาอยู่บ้าง แต่นี่ก็เป็นแค่หนึ่งในหลักฐาน ไม่ใช่พึ่งแค่คำสารภาพเท่านั้น ก็บอกว่าอู๋เหวินคังถูกใส่ร้ายได้แล้ว นอกจากคำสารภาพยังมีหลักฐานอื่นๆ จำนวนมาก ยกตัวอย่างเช่น เวลาที่ลงมือก่อคดี และการพบหลักฐานวัตถุในบ้านของเขา สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นหลักฐาน! ดังนั้นการจะพึ่งคำสารภาพ แล้วเอามายืนยันว่าอู๋เหวินคังถูกใส่ร้าย ไม่มีทางเป็นไปได้เลย!”

"งั้น...งั้น.." อ้ายหลุนไม่เข้าใจเล็กน้อย "งั้น เมื่อกี้คุณไม่ได้บอกเหรอว่าลุงอู๋ถูกใส่ร้าย" 

"พึ่งคำพูดพวกนี้ของพวกคุณแล้วจะมีประโยชน์อะไร ถ้ามีประโยชน์ พวกเราตำรวจจะต้องทนลำบากหาหลักฐานขนาดนี้เหรอ" 

"งั้น งั้นทำไม" อ้ายหลุนไม่ยอม! เขาไม่ยอมจริงๆ! พวกเขารอและวางแผนมานานถึงขนาดนี้ ผลลัพธ์ สุดท้าย ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้

ไม่ได้ทำอะไร ก็แพ้เสียแล้วล่ะ 

ความอยุติธรรมของอู๋เหวินคังยังไม่ได้ซะล้าง พวกเขาก็ถลำลึกเข้าไปเสียแล้ว นี่เป็นผลลัพธ์ที่พวกเขาไม่คิดอยากจะได้เลย!

"เป็นไง หาหลักฐาน หาฆาตกรตัวจริง! นอกจากหาหลักฐานที่อู๋เหวินคังถูกใส่ร้ายแล้ว ไม่ใช่ว่าควรหาฆาตกรตัวจริงต่อไปงั้นเหรอ" 

อ้ายหลุนงุนงง "พวกเราอยากรู้ว่าฆาตกรตัวจริงเป็นใครนั้นก็พอแล้ว!" เขาพูด ทันใดนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนไป เห็นได้ชัดว่าเขาพูดน้ำเสียงดุดันว่า "ไม่ว่าจะพูดยังไง ต้องเป็นคนที่อยู่ข้างกายเขา ต้องเป็นคนที่เขาค่อนข้างสนิทด้วยอย่างแน่นอน!"

เสิ่นอี้มองเขาเงียบๆ หลังจากนั้นครู่หนึ่ง จึงถามว่า "พวกคุณเป็นอะไรกับอู๋เหวินคังกันแน่ ทำไมถึงต้องพยายามเรียกร้องความเป็นธรรมให้เขาถึงขนาดนั้นด้วย" 

อ้ายหลุนเงียบไป เขาก้มศีรษะ อ้ายหลุนเงียบอยู่นานมาก โดยที่ไม่พูดอะไรเลย 

เสิ่นอี้เองก็ไม่เร่งรัด เขายืนรออยู่ตรงนั้น

เวลาผ่านไปเกือบสิบนาที อ้ายหลุนจึงค่อยๆ เงยหน้าช้าๆ มองเสิ่นอี้ แล้วถามว่า "ถ้าผมบอกทุกอย่างกับคุณ คุณจะช่วยพวกเราเรื่องหนึ่งได้ไหม"

เสิ่นอี้เองก็คงจะเดาออกว่าอ้ายหลุนจะพูดอะไร เขาก็เลยไม่ปฏิเสธ แล้วพูดว่า "ถ้าทำให้ได้ ผมจะต้องทำให้อย่างแน่นอน!" 

"ไม่!" อ้ายหลุนส่ายหน้า " คุณต้องสัญญาว่าจะทำให้ได้!"

เสิ่นอี้ไม่ได้ตอบตกลง แค่ถามว่า "สืบสวนคดีของอู๋เหวินคังใหม่งั้นเหรอ"

"ใช่!" อ้ายหลุนพยักหน้าอย่างแรง "พลิกคดีของลุงอู๋! แค่คุณบอกว่าจะทำ ผมถึงจะบอกคุณทั้งหมด!"

เสิ่นอี้กล่าวเสียงเรียบ "ถึงคุณไม่บอกผม! แต่คดีนี้ของอู๋เหวินคัง ยังไงพวกเราก็ต้องสืบใหม่อยู่แล้ว!"

ดวงตาของอ้ายหลุนเป็นประกาย "พวกคุณหาอะไรเจอไหม"

สีหน้าของเสิ่นอี้ยังคงเรียบนิ่ง "นี่เป็นความลับ แพร่งพรายออกไปไม่ได้!"

อ้ายหลุนยังไม่ตายใจ เขาถามอีกครั้งว่า "จริงใช่ไหม" 

"อะไร" 

"เครื่องหมายกระทำผิด!" อ้ายหลุนถาม "ฆาตกรตัวจริงทิ้งเครื่องหมายกระทำผิดเอาไว้งั้นเหรอ"

"แน่นอน! นี่ไม่แปลกเหรอ" เสิ่นอิ้พูดเสริม "ฆาตกรต่อเนื่องทั่วไป ล้วนชอบทิ้งเครื่องหมายกระทำผิดเอาไว้ในที่เกิดเหตุ! คดีฆาตกรรมต่อเนื่องเมื่อสิบห้าปีก่อนก็ไม่มีข้อยกเว้น! เขาก็ทิ้งเครื่องหมายกระทำผิดเอาไว้ในสถานที่เกิดเหตุด้วยเช่นกัน!” 

อ้ายหลุนรีบถาม "อะไรนะ ชื่อน้ำหอมอะไรบ้าง แล้วบริเวณหลังของผู้ตายมีอะไรกันแน่"

เสิ่นอี้ส่ายหน้า "ขอโทษ บอกไม่ได้จริงๆ แต่ผมมีสิ่งที่ยืนยันได้นั้นก็คือ ฆาตกรได้ทิ้งเครื่องหมายกระทำผิดเอาไว้อย่างแน่นอน นี่คือของที่พวกคุณทำตกหล่น และเป็นสิ่งสำคัญที่สุด!"

สำหรับรายละเอียดของคดีนี้ แน่นอนเขาไม่สามารถเผยแพร่ตามใจชอบได้! 

แต่เพื่อทำให้อ้ายหลุนตายใจ เขาก็เลยยกจุดพร่องของพวกเขาขึ้นมาพูด ทำให้อ้ายหลุนรู้ว่าการละเล่นตบตาของพวกเขา เดิมแล้วไม่สามารถปิดบังสายตาของตำรวจได้เลย

เสิ่นอี้ไม่มีข้อมูลที่เป็นรูปธรรมบอกเขา อ้ายหลุนรู้สึกผิดหวังมาก! 

แม้ว่าจะเป็นในสิ่งคาดหวัง แต่ยังรู้สึกผิดหวังอยู่เล็กน้อย

“ครับ!" เขาถอนหายใจ 

เสิ่นอี้พูดโน้มน้าวอีกครั้ง "คราวนี้คุณก็รู้แล้วว่าจุดประสงค์ของพวกเรานั้นเหมือนกัน ตามหาฆาตกร!" 

อ้ายหลุนเงียบอีกครั้ง 

จุดประสงค์ของพวกเราเหมือนกันงั้นเหรอ เพื่อตามหาฆาตกร

เสิ่นอี้พูดต่อ "ถ้าพวกคุณอยากพลิกคดีของอู๋เหวินคังจริงๆ ก็เอาเรื่องที่พวกคุณรู้ พูดออกมาทั้งหมดเถอะ!"